เสียงร่ำไห้จากไพรพฤกษ์
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 พฤศจิกายน 2024, 12:33:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เสียงร่ำไห้จากไพรพฤกษ์  (อ่าน 5099 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
27 เมษายน 2011, 10:56:AM
อัศจรรย์จิต
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 118
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 222


พี่ชายมาเองจำ รหัสเข้าตัวเองไม่ได้555


« เมื่อ: 27 เมษายน 2011, 10:56:AM »
ชุมชนชุมชน

ยินเสียงแปลกแตกตื่นทั่วผืนป่า
เสียงใดหนากล้าบุกรุกไพรสัณฑ์
เสียงขู่ข่มลมหอบให้รู้กัน
ลิงร้องลั่นพรั่นพรึงแทบถึงฟ้า

เสียงเถาวัลย์ร่ำไห้เหมือนใครเหยียบ
เกินจะเปรียบเทียบใดไม่มีหนา
ชะนีไพรใจเสียเลียน้ำตา
พลางร้องหาคนช่วยเอื้ออวยตน

โพระดกตกใจใครหนอนั่น
มาขับไล่ไพรสัณฑ์เหมือนปันผล
มารุกล้ำทำลายคล้ายหน้าคน
ช่างชอบกลล้อเหล็กไม่เล็กเลย

บุกถางดงพงพฤกษ์รับศึกหนัก
เกินจะรักษ์ยักษ์ใหญ่เป็นภัยเอ๋ย
เหมือนหวังข่มป่าตายหมดลายเอย
เพราะป่าเฉยเอ่ยไปก็ไม่ฟัง

เสียงร่ำไห้ไพรเขตนิเวศน์เสีย
ตกเป็นเบี้ยยักษีผู้มีหวัง
จะก่อเรื่องเคืองขุ่นด้วยทุนคลัง
หากใครยังฟังอยู่ให้ดูเอา
ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
27 เมษายน 2011, 12:19:PM
เมฆา...
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 698
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 624


..............


« ตอบ #1 เมื่อ: 27 เมษายน 2011, 12:19:PM »
ชุมชนชุมชน







๐ ..ไม่ถึงการณ์ ๐

 ไม่ชอบเลย

๐ วิเวกวังเวงแว่วแผ่วกระพุ่ม
ผกากลุ่มขยุ้มขยำระส่ำระสาย
นกสกุนต์สกุณาปักษากาย
ตื่นกระวายสาละวนพิกลกาล

๐ พฤกษ์พนาอาเพศเหตุวิสัย
ฤาเพลิงไพรแผลงผลิตฤทธิ์ประหาร
ต่างตะเกียกเพรียกพรูกู่กังวาน
หมายทะยานเหยียบยื้อกระพือบิน

๐ เสียงกระเพื่อมเหลื่อมล้ำคำรามเร้า
ไอเขมาเคล้าคลุ้งทุ่งกระถิน
มัจจุราชชาติวุฒิขุดถางดิน
แปลงกระสินธุ์เป็นกระแสแปรนิยม

๐ หาได้สนกลฉ้อห้อกลบเกลี่ย
หวังแค่เบี้ยเรี่ยไรให้สนม
พื้นนิเวศน์เขตป่าโศกาตรม
ทิศทางลม ถมป่วนชนวนภัย

๐ พสุธาคราไร้ใบต้นปก
เหมือนดั่งอกไร้ฮึดยึดไฉน
วายุซัดพัดฝนหล่นวันใด
ย่อมสิ้นไร้แรงกักดักวารี

๐ จำต้องปล่อยลอยล่ามตามกระแส
สู้เมืองแปรแพ้ภัยไล่หลบหนี
ท่วมท้องคุ้งทุ่งแควแลปฐพี
ร้อนฤดีท่วมท้นอลเวง

๐ เหลือเพียงนกสกุณาถลาร่อน
ที่บินรอนก่อนภัยไล่ข่มเหง
มองน้ำมือ..ของมนุษย์..สุดหวั่นเกรง
ฆ่ากันเองด้วยอนึ่ง...ไม่ถึงการณ์..ฯ





***เมฆา...***
ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..สัมผัสทิพย์ปรารถนาอารมณ์แล้ว..
27 เมษายน 2011, 12:39:PM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #2 เมื่อ: 27 เมษายน 2011, 12:39:PM »
ชุมชนชุมชน


เสียงร่ำไห้จากไพรใครยินบ้าง
สองหูต่างอึงอนบนป่าเขา
เสียงเครื่องจักรคำรามตามใหญ่เบา
ก้องลำเนากลบเสียงสำเนียงไพร

เสียงหัวเราะเย้ยหยันดังลั่นฟ้า
กล่าววาจากดดันให้หวั่นไหว
ข่มสะอื้นจากป่าพาเศร้าใจ
เสียงผู้ใหญ่ดังก้องต้องฟังคำ

นับประสาสรรพสิ่งที่อิงป่า
ไม่คณาอารมณ์ของคมขำ
อ้างชีวิตไร้ค่าอย่าห้ามทำ
เจ้าจงจำ...ข้าจะเอาเจ้าต้องยอม

มันเป็นเสียงเผด็จการมารขานรับ
มันมาขับมาถางสร้างไฟหลอม
มันขู่ฆ่าถ้าหือคือตรมตรอม
มันมาพร้อมอำมหิต..ผิดจากคน.

"บ้านริมโขง"

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

27 เมษายน 2011, 01:44:PM
กาญจนธโร
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 307
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 427


...ก็แค่คนเรียงคำ


/profile.php?id=100002947136120&ref=tn_tnmn
เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 27 เมษายน 2011, 01:44:PM »
ชุมชนชุมชน

น้ำตาไหล พรากๆ ร้องไห้งอแง

สัตว์ป่าเนา เขาพฤกษ์ รับศึกใหญ่
แตกตื่นไกล ใจสั่น อกขวัญแขวน
บ้างผกโผน โจนถลา หาดงแดน
ที่ห่างแคว้น เขตคน แล้วจนใจ

ลัดเลาะล้า พนาสณฑ์ ล้วนคนรุก
ซอกซอนบุก บั่นมา น้ำตาไหล
โอ้!ป่าเอ๋ย เคยขจี นี่อะไร
ทั้งต้นใบ ไร้แม้ตอ พ้ออาดูร

ระงมก่น คนเหวย ช่วยเผยถ้อย
จักรุกร้อย พงไพร ให้แหลกสูญ
จวบย่อยยับ ดับสิ้น ถิ่นจำรูญ
เจ้าพอกพูน พิบัติภัย ให้ใครกัน

____________
 ลาตายดีกว่าตู ลาตายดีกว่าตู ลาตายดีกว่าตู ลาตายดีกว่าตู


ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

27 เมษายน 2011, 03:45:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #4 เมื่อ: 27 เมษายน 2011, 03:45:PM »
ชุมชนชุมชน



ต้นมะค่าสักใหญ่ให้ซึมเศร้า
ลำต้นเราเขาบากรอบขอบโคนนั่น
ตัดอาหารลำเลียงเลี้ยงทุกวัน
คงเปลี่ยนผันจำฝืนยืนต้นตาย

เคยพุ่มใหญ่ใบเขียวเริ่มเหี่ยวแห้ง
หงิกกรอบแดงร่วงปลิวเป็นทิวสาย
กองเต็มพื้นนั่นหนากระจัดจาย
คงจะกลายเชื้อไฟได้อย่างดี

กิ่งที่แห้งเรียงชิดติดลมโบก
เกิดไหวโยกเริ่มผ่านการเสียดสี
อุณหภูมิร้อนรุ่มสุมอัคคี
เปลวไฟมีลุกไหม้ขยายแนว

ที่ต้นเล็กล้มหายกลายเป็นเถ้า
ต้นใหญ่เล่าชัดเด่นเป็นทิวแถว
นายทุนใหญ่เห็นมาตาวาวแวว
สมหวังแล้วป่าเสื่อมโทรมโถมกันมา

ยื่นจำนงพันผูกปลูกทดแทน
ว่าหวงแหนป่าดงพงพฤกษา
ส่วนต้นใหญ่โค่นไปไม่นานนา
นำต้นหญ้าปลูกไว้หมายอำพราง

เวลาผ่านเวียนรู้ฤดูฝน
น้ำไหลท้นไร้สิ่งทิ้งกั้นขวาง
ดินภูเขาพังทลายลงหลายทาง
เป็นแอ่งกว้างเจิ่งนองครองดินตม

เสียงร่ำไห้จากไพรพฤกษ์ให้นึกย้อน
ใครก่อก่อนตอนนี้ที่ขื่นขม
ใครกันหนามาเศร้าเฝ้าโศกตรม
ใครกันหนอโง่งมน้ำจมเรือน.

นพ
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
28 เมษายน 2011, 01:48:PM
บัณฑิตเมืองสิงห์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 378
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 608



« ตอบ #5 เมื่อ: 28 เมษายน 2011, 01:48:PM »
ชุมชนชุมชน

พนาสัณฑ์สั่นคลอนหลากขอนไม้
พฤกษาใบ้ใจช้ำน้ำตาร่วง
เคยยืนหยัดถัดพื้นผืนดินทวง
คนตักตวงหวงเขตเจตจำนง

หวังใช้หล้าทำดินถิ่นอาศัย
พนาไพรใกล้สูญอาดูรหลง
ต้นไม้ใหญ่ใช่ยันพื้นมั่นคง
ถูกโค่นลงดงดอยทยอยเตียน

ขอนไม้ร้างกลางป่าประดาเพิ่ม
ตามดงเดิมเสริมรอยหลายร้อยเสี้ยน
บนซุงใหญ่ใกล้เขาคนเข้าเยียน
โค่นตัดเวียนเตียนหมดสลดใจ

ซุงกองสุมทุมทับนับไม่ถ้วน
ทั้งหมดล้วนชวนเศร้าเป็นเป้าใหญ่
สำนึกคนบนภพประสบใด
มีแต่ภัยไหลวนจนมึนเมา

อีกหน่อยดิน,สินธุ์,ไพร,สัตว์ไหนอยู่
บนแหล่งภูคู่ดอยรอยภูเขา
คงจะเห็นเป็นเหล็กลวงทำเอา
แทนภาพเงาเหล่าผาพนาพี


บัณฑิตเมืองสิงห์
ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s