..**ถมทาง ให้นางเดิน**..
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 พฤศจิกายน 2024, 01:04:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ..**ถมทาง ให้นางเดิน**..  (อ่าน 13542 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
26 เมษายน 2011, 09:00:AM
หมากสีสุก
LV4 นักเลงประจำหมู่บ้าน
****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 34
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 51



« เมื่อ: 26 เมษายน 2011, 09:00:AM »
ชุมชนชุมชน

ทั้งรู้ดี..มีสิทธ์..เพียงคิดถึง
ยังคงซึ้ง..ตรึงใน..หทัยมั่น
หวังรอยหนุน..บุญสร้าง..ครั้งปางบรรพ์
มาคล้องขวัญ..หนึ่งนาง..ไว้ข้างกาย


แม้นบุญนี้..มีบ้าง..แต่ปางก่อน
บุญจงย้อน..คืนเยือน..อย่าเลือนหาย
ปักดวงแด..แน่นอน..มิคลอนคลาย
จวบวันตาย..หมายซึ้ง..ด้วยหนึ่งนาง


เธอคือยูง..สูงกว่า..จะคว้าได้
เพียงชื่นใจ..ในฝัน..ยังหวั่นหมาง
แค่สัมพันธ์..ฉันเพื่อน..ยังเลือนลาง
ยังคงวาง..นางแอบ..ไว้แนบทรวง


ตราบสิ้นหล้า..ฟ้าสวรรค์..มหรรณพ
ตราบสิ้นภพ..จบแถน..สิ้นแดนสรวง
ตราบสุริยัน..จันทรา..ลับลาดวง
ผูกพันพ่วง..ห่วงหา..หนึ่งนารี


โปรดจงจำ..ใส่ใจ..ไว้เสมอ
มอบให้เธอ..ทุกอย่าง..แม้ร่างนี้
ยินดีน้อม..ยอมตัด..เพื่อบัดพลี
ใช้ชีวี..ถมทาง..ให้นางเดิน....
ข้อความนี้ มี 22 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ก็เขียนกลอนอ้อนบ้างถ้าว่างนัก
กลอนอกหักรักจรกลอนอ่อนไหว
กลอน นู่น-นี่-นั่น-นั้น-หนา ลั่นล้าไป
จารนัยใจรักของนักกลอน
26 เมษายน 2011, 09:25:AM
อัศจรรย์จิต
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 118
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 222


พี่ชายมาเองจำ รหัสเข้าตัวเองไม่ได้555


« ตอบ #1 เมื่อ: 26 เมษายน 2011, 09:25:AM »
ชุมชนชุมชน



พบช่องทางวางยาวอยากก้าวข้าม
กลัวถูกห้ามถามหาค่าคงเขิน
ทางเฉพาะเจาะจงคงไม่เพลิน
จึงได้เกริ่นเมินไหมหลบไหล่ทาง

วาสนาค่าเราเพียงเถ้าถ่าน
มิอาจหาญผ่านไปที่ใครถาง
มิใช่ธิดาแถนบนแดนกลาง
จึงไม่สร้างทางรอหนอน้อยใจ

เขาคงถมทางเดินเพราะเพลินฟ้า
สกุลกาค่ารักคงผลักไส
จึงทนย่ำหนามรกยกเท้าไว
เพราะทางใหม่ให้นางเพียงข้างเดียว
ข้อความนี้ มี 21 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
26 เมษายน 2011, 10:19:AM
...สียะตรา..
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 396
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,049


.


« ตอบ #2 เมื่อ: 26 เมษายน 2011, 10:19:AM »
ชุมชนชุมชน





      ......สูงเกินใจอาจเอื้อม...........อรชร

       ...นวลเปรียบดวงศศิธร.........ก่องฟ้า

       ...เพีบงสบเนตรสุดถอน.........แลอื่น

       ...จำข่มจวบวันกล้า.................ไขว่คว้ามาครอง



ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
26 เมษายน 2011, 10:44:AM
อัศจรรย์จิต
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 118
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 222


พี่ชายมาเองจำ รหัสเข้าตัวเองไม่ได้555


« ตอบ #3 เมื่อ: 26 เมษายน 2011, 10:44:AM »
ชุมชนชุมชน

นงลักษณ์ลองไขว่คว้า.............คะนึงชาย
บุรุษเทพมิวาย......................อ่อนล้า
หลงรอยเหลี่ยมบรรยาย.............ลืมเกียรติ  ตนนา
ถมรักสลักหน้า.......................เรียกร้องรำพันฯ
ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
26 เมษายน 2011, 11:42:AM
เมฆา...
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 698
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 624


..............


« ตอบ #4 เมื่อ: 26 เมษายน 2011, 11:42:AM »
ชุมชนชุมชน



 ไม่ชอบเลย


๐ แม้นหากร่างร้างร้าวหนาวสะบั้น
หัวอกสั่นโศกสร้อยสุดหงอยเหงา
จืดจำจางทางทอดแลยอดเงา
เห็นเพียงเศร้าเท่านั้นที่หันคอย

๐ รจนาอักษรหวังกลอนศิลป์
กระทบจินต์จิตปรุงเป็นฝุ้งฝอย
ขจรจายหมายปองคราล่องลอย
ถึงเนื้อกลอยร้อยชั่งสักครั้งที

๐ เสนอมานหาญกล้ามากล่อมขวัญ
สมานมั่นประคบมิหลบหนี
อยู่เคียงข้างกลางฟ้าจวบราตรี
เพียงแค่นี้นฤมลที่ทนรอ

๐ ถึงต้องทุกข์โทษทัณฑ์ชีวันวาตย์
ศักดิ์พิฆาตขาดค่าราคาหนอ
แค่มีเจ้าให้จิตแอบชิดคลอ
ก็เพียงพอต่อชะตาฐานันดร

๐ แม้ใฝ่สูงเกินศักดิ์จักคว้าเอื้อม
ทาสเทียบเชื่อมเหลื่อมฟ้าอุทาหรณ์
ก็เพียงแค่ในทรวงห้วงอาทร
ของคนจร..ยาจกอกจาบัลย์

๐  ถึงแม้นร่างไร้ลมประโลมเล้า
หัวอกเศร้าสิ้นค่าเจียนอาสัญ
ก็จะขอหลงลมชมแจ่มจันทร์
แค่ในฝันก็พอ...ต่อจำนงค์ ฯ


 ร้องไห้งอแง





***เมฆา...***


ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..สัมผัสทิพย์ปรารถนาอารมณ์แล้ว..
26 เมษายน 2011, 11:52:AM
คนเผาถ่าน
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 129
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 297


FROM HERE TO ETERNITY


profile.php?id=10000208
« ตอบ #5 เมื่อ: 26 เมษายน 2011, 11:52:AM »
ชุมชนชุมชน


หลงรักนางท่วมท้น..........ดวงใจ
แม้เธอนั้นมีใคร..........รับรู้
ถึงต้องถูกย่ำไป.........ยอมได้ นั่นแล
เพราะรักสลักมั่น..........ตรงต่อ นางเดียว

เพียงเธอหันมองบ้าง..........บางคราว
ยามที่ฉันเหน็บหนาว..........โปรดเอื้อ
หนึ่งคำพจน์จากสาว..........คงชื่น ชีวัน
คำรักจากเธอนั้น............ฝันเพ้อ รำพึง ฯฯ

กัลปาวสาน


ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ด้วยฤทธิ์แรงแห่งรักสลักจิต   จึงลิขิตบทกลอนอักษรศิลป์
27 เมษายน 2011, 10:01:AM
อัศจรรย์จิต
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 118
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 222


พี่ชายมาเองจำ รหัสเข้าตัวเองไม่ได้555


« ตอบ #6 เมื่อ: 27 เมษายน 2011, 10:01:AM »
ชุมชนชุมชน

คลองคดเคี้ยวเหลียวหาคนมาถม
ให้เอวกลมและกว้างรัศมี
ได้เดินดอนฟ้อนรำประดามี
กับชาตรีชายชาญโปรยหวานริน

จะถมไหวไหมนั่นฉันตัวใหญ่
หุ่นผีเสื้อสมุทรไซร้ให้ถวิล
จะนวยนาดหยาดย้อยฝากรอยดิน
เด็ดกระถินกินพลางช่างสุขใจ
ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
27 เมษายน 2011, 05:38:PM
สะเลเต
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1101
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,335


ขอขอบคุณ..ภาพจากอินเตอร์เน็ต


« ตอบ #7 เมื่อ: 27 เมษายน 2011, 05:38:PM »
ชุมชนชุมชน

ฉันใช่สูงสุดฟ้าเกินคว้าสอย
เธอใช่ด้อยต้อยต่ำใจล้ำค่า
หัวใจรักภักดิ์ดีที่ให้มา
ขอบคุณโชคชะตาพาเจอกัน

ทางที่เธอถมไว้ฉันได้ข้าม
พบสิ่งงามยามก้าวราวสวรรค์
ใช้ความรักทักร้อยรอยสัมพันธ์
ผูกกระสันขันมัดรัดสองใจ

เส้นทางรักเราสองครองเคียงคู่
เปิดประตูสู่ทางสว่างใส
แม้หนทางทอดยาวมุ่งก้าวไป
มีเธอใกล้ไม่ท้อต่อเส้นทาง

--- สะเรเต ---


ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
27 เมษายน 2011, 06:06:PM
หมากสีสุก
LV4 นักเลงประจำหมู่บ้าน
****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 34
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 51



« ตอบ #8 เมื่อ: 27 เมษายน 2011, 06:06:PM »
ชุมชนชุมชน

คลองคดเคี้ยวเหลียวหาคนมาถม
ให้เอวกลมและกว้างรัศมี
ได้เดินดอนฟ้อนรำประดามี
กับชาตรีชายชาญโปรยหวานริน

จะถมไหวไหมนั่นฉันตัวใหญ่
หุ่นผีเสื้อสมุทรไซร้ให้ถวิล
จะนวยนาดหยาดย้อยฝากรอยดิน
เด็ดกระถินกินพลางช่างสุขใจ

กระเด้งดึ๋งตะลึงแลโอ้แม่จ้าว
สะพร่างพราวราวดั่งนางพังใหญ่
แม่เนื้อนวลอ้วนพีนี่กระไร
เสื้อชั้นใน คัพ D ต้องมีตอง (DDD หรือ triple D)

จะรูปร่างอย่างไรยังใหลหลง
นาถอนงค์จงหายคลายเศร้าหมอง
พี่นั้นจะระดมทุกกรมกอง
รำข้าวผสมถมคลองให้น้องคลาน
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ก็เขียนกลอนอ้อนบ้างถ้าว่างนัก
กลอนอกหักรักจรกลอนอ่อนไหว
กลอน นู่น-นี่-นั่น-นั้น-หนา ลั่นล้าไป
จารนัยใจรักของนักกลอน
27 เมษายน 2011, 07:04:PM
คนเผาถ่าน
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 129
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 297


FROM HERE TO ETERNITY


profile.php?id=10000208
« ตอบ #9 เมื่อ: 27 เมษายน 2011, 07:04:PM »
ชุมชนชุมชน

คลองคดเคี้ยวเหลียวหาคนมาถม
ให้เอวกลมและกว้างรัศมี
ได้เดินดอนฟ้อนรำประดามี
กับชาตรีชายชาญโปรยหวานริน

จะถมไหวไหมนั่นฉันตัวใหญ่
หุ่นผีเสื้อสมุทรไซร้ให้ถวิล
จะนวยนาดหยาดย้อยฝากรอยดิน
เด็ดกระถินกินพลางช่างสุขใจ
อัศจรรย์จิต

แม้หุ่นเธอเหมือนอย่างนางผีเสื้อ
แต่ในเมื่อรักน้องต้องทนไหว
เปรียบดั่งพี่นี้เช่นพระอภัย
ทะเลใหญ่พี่พร้อมยอมถมทาง

จะนวยนาดหยาดย้อยกี่ร้อยหน
ก็จะทนจมจัดมิขัดขวาง
แต่ถามนิดเถิดหนาว่าน้องนาง
หุ่นกลมกว้างอย่างนี้มีใครแล

ถึงเป็นทางให้นางเดินไปนั่น
จุดหมายนั้นนางมีใครแยแส
คนที่เธอเหยียบนี้สิคอยแคร์
เป็นได้แค่ฝุ่นทรายใต้เท้าเธอ....

งงมั๊ย....กัลปาวสาน


ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ด้วยฤทธิ์แรงแห่งรักสลักจิต   จึงลิขิตบทกลอนอักษรศิลป์
28 เมษายน 2011, 12:15:AM
hathaichanok
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 136
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 22



« ตอบ #10 เมื่อ: 28 เมษายน 2011, 12:15:AM »
ชุมชนชุมชน

ทั้งรู้ดี..มีสิทธ์..เพียงคิดถึง
ยังคงซึ้ง..ตรึงใน..หทัยมั่น
หวังรอยหนุน..บุญสร้าง..ครั้งปางบรรพ์
มาคล้องขวัญ..หนึ่งนาง..ไว้ข้างกาย


แม้นบุญนี้..มีบ้าง..แต่ปางก่อน
บุญจงย้อน..คืนเยือน..อย่าเลือนหาย
ปักดวงแด..แน่นอน..มิคลอนคลาย
จวบวันตาย..หมายซึ้ง..ด้วยหนึ่งนาง


เธอคือยูง..สูงกว่า..จะคว้าได้
เพียงชื่นใจ..ในฝัน..ยังหวั่นหมาง
แค่สัมพันธ์..ฉันเพื่อน..ยังเลือนลาง
ยังคงวาง..นางแอบ..ไว้แนบทรวง


ตราบสิ้นหล้า..ฟ้าสวรรค์..มหรรณพ
ตราบสิ้นภพ..จบแถน..สิ้นแดนสรวง
ตราบสุริยัน..จันทรา..ลับลาดวง
ผูกพันพ่วง..ห่วงหา..หนึ่งนารี


โปรดจงจำ..ใส่ใจ..ไว้เสมอ
มอบให้เธอ..ทุกอย่าง..แม้ร่างนี้
ยินดีน้อม..ยอมตัด..เพื่อบัดพลี
ใช้ชีวี..ถมทาง..ให้นางเดิน....
(หมากสีสุก)

๐ คำกรองมอบปลอบขวัญในวันโศก
วันที่โลกร้าวร้างเพราะห่างเหิน
คนเคยรู้ใจกันมาผันเมิน
เศร้านั้นเกินเสกสรรถ้อยบรรยาย

๐ จึงค่อยคลายเหน็บหนาวเมื่อคราวร้าง
ความหมองหมางมัวหม่นก็พ้นหาย
กลางลมหนาวพัดโหมเข้าโลมกาย
คำพี่ชายเอื้ออุ่นละมุนทรวง

๐ แม้ล่วงวันผันผ่านความหวานซึ้ง
กลับยิ่งตรึงรั้งให้หัวใจหวง
ด้วยพจีร้อยงามเนื้อความปวง
นั้นคล้ายหน่วงเหนี่ยวสิ้นทั้งวิญญาณ

๐ หากเพรงบุญพี่สร้างเอาวางไว้
วอนเทพไท้ขีดวงรอบสงสาร
เอาอุบัติวัฏฏะเป็นสะพาน
เพื่อข้ามผ่านคั่นขวางร่วมทางเดียว

๐ ขอมือใครกุมกักพิทักษ์นุช
คอยยื้อยุดพ้นวิบากอันกรากเกรี้ยว
เอาความรักสมัครสมานเข้าสานเกลียว
แล้วยึดเหนี่ยวผูกพันนิรันดร์ไป

๐ แม้ลิขิตเพรงกรรมกระหน่ำท้น
ให้ชีวิตปลิดป่นจนดับขัย
จะเคียงพี่แนบข้างไม่ห่างไกล
ยอมสิ้นใจทอดร่างกลางมรรคา

๐ รอเพรงบุญหนุนภพให้สบพ้อง
ผูกพันสองสายสวาทปรารถนา
ด้วยดวงจิตยึดมั่นในสัญญา
ตราบชั่วฟ้าดินสลายไม่คลายคลอน..ฯลฯ


รับฝากไว้ร่วมแจมค่ะ คริ..คริ..
ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
28 เมษายน 2011, 04:21:AM
หมากสีสุก
LV4 นักเลงประจำหมู่บ้าน
****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 34
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 51



« ตอบ #11 เมื่อ: 28 เมษายน 2011, 04:21:AM »
ชุมชนชุมชน

พบช่องทางวางยาวอยากก้าวข้าม
กลัวถูกห้ามถามหาค่าคงเขิน
ทางเฉพาะเจาะจงคงไม่เพลิน
จึงได้เกริ่นเมินไหมหลบไหล่ทาง

วาสนาค่าเราเพียงเถ้าถ่าน
มิอาจหาญผ่านไปที่ใครถาง
มิใช่ธิดาแถนบนแดนกลาง
จึงไม่สร้างทางรอหนอน้อยใจ

เขาคงถมทางเดินเพราะเพลินฟ้า
สกุลกาค่ารักคงผลักไส
จึงทนย่ำหนามรกยกเท้าไว
เพราะทางใหม่ให้นางเพียงข้างเดียว...(อัศจรรย์จิต)


จะสูงล้ำ..ต่ำค่า..กาหรือหงส์
จากนครา..ป่าดง..ในพงเปลี่ยว
จะผูกพัน..มั่นหมาย..มิคลายเกลียว
จะยึดเหนี่ยว..เกี่ยวพัน..นิรันดร์กาล

แม้บุญญา..พาฝัน..ให้บรรจบ
ทุกชาติภพ..ครองรัก..สมัครสมาน
แม้จนยาก..บากบั่น..แดนกันดาร
ขอพบพาน..ยุพิน..ตราบสิ้นลม

แม้ขอบน้ำ..ขวางหน้า..ยากฝ่าข้าม
ไม่ครั้นคร้าม..บากบั่น..ฝ่าวันขม
ยอมทุกข์ยาก..ตรากตรำ..กรำแดดลม
เพื่อกอบตม..ถมทาง..ให้นางเดิน...

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : hathaichanok

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ก็เขียนกลอนอ้อนบ้างถ้าว่างนัก
กลอนอกหักรักจรกลอนอ่อนไหว
กลอน นู่น-นี่-นั่น-นั้น-หนา ลั่นล้าไป
จารนัยใจรักของนักกลอน
28 เมษายน 2011, 05:41:AM
บอม ซอง ดุ๊ก
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 589


เสกสรรกลั่นอักษร พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์


« ตอบ #12 เมื่อ: 28 เมษายน 2011, 05:41:AM »
ชุมชนชุมชน




~ฉันยอม~

ใต้ฟ้าผ่องสองร่างวางความฝัน
หนึ่งรำพันมั่นมาดปรารถนา
หนึ่งรำพึงซึ้งสวยด้วยปรีดา
สองสัญญาสาบานผ่านสายลม

ใต้ฟ้าฝันบรรเจิดบังเกิดรัก
หนึ่งแน่นหนักภักดีไม่มีขม
หนึ่งพร้อมพลีชีวาทุกอารมณ์
สองเกี่ยวกลมห่มเนื้อเอื้อสัมพันธ์

ใต้ฟ้ารักชักชี้นาทีสู้
หนึ่งยังอยู่คู่สร้างทุกทางฝัน
หนึ่งยังอยู่คู่สุขทุกคืนวัน
สองยังมั่นบั่นบุกทุกบทใจ

ใต้ฟ้าสู้สู่หมายคล้ายหม่นหมอง
หนึ่งร่ำร้องเหนื่อยเกินเดินไม่ไหว
หนึ่งคร่ำครวญหวนท้อเกินถ่อไป
สองหลับไหลไร้แรงสิ้นแสงดล

ใต้ฟ้าหมองสองเราเฝ้ายื้อยุด
หนึ่งยื้อฉุดรักล้มกลางลมฝน
หนึ่งยื้อปลอบมอบอุ่นทุ่นกมล
สองร่างทนโอบเอื้อเกื้อกูลกัน

Oo..ใต้ฟ้าฉุดหยุดคิดผิดหรือเปล่า
ถ้าหนึ่งเงาลับไปใต้ฟ้าฝัน
ถ้าหนึ่งเงามีหมายคลายจาบัลย์
ถ้าเช่นนั้นฉันนี้..ขอคลี่คลาย

ใต้ฟ้าเหงาเราสองอาจร้องไห้
แม้นหนึ่งใจล้มทรุดสิ้นจุดหมาย
แม้นหนึ่งใจโดดเดี่ยวเปลี่ยวข้างกาย
ดีกว่าว่ายเคียงสู้อยู่เลือนลาง

ใต้ฟ้าฝันวันนี้มีดอกไม้
พร้อมแสงไฟส่องงามยามเธอย่าง
มีเสียงเพลงกล่อมสุขทุกเส้นทาง
ฉันพลีสร้างวางไว้..ให้คนดี


 ขอจุ๊บ..หน่อย จบ


บอม ซอง ดุ๊ก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : hathaichanok

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสกสรรกลั่นอักษร....พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์
28 เมษายน 2011, 05:56:PM
หมากสีสุก
LV4 นักเลงประจำหมู่บ้าน
****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 34
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 51



« ตอบ #13 เมื่อ: 28 เมษายน 2011, 05:56:PM »
ชุมชนชุมชน



 ไม่ชอบเลย

๐ แม้นหากร่างร้างร้าวหนาวสะบั้น
หัวอกสั่นโศกสร้อยสุดหงอยเหงา
จืดจำจางทางทอดแลยอดเงา
เห็นเพียงเศร้าเท่านั้นที่หันคอย

๐ รจนาอักษรหวังกลอนศิลป์
กระทบจินต์จิตปรุงเป็นฝุ้งฝอย
ขจรจายหมายปองคราล่องลอย
ถึงเนื้อกลอยร้อยชั่งสักครั้งที

๐ เสนอมานหาญกล้ามากล่อมขวัญ
สมานมั่นประคบมิหลบหนี
อยู่เคียงข้างกลางฟ้าจวบราตรี
เพียงแค่นี้นฤมลที่ทนรอ

๐ ถึงต้องทุกข์โทษทัณฑ์ชีวันวาตย์
ศักดิ์พิฆาตขาดค่าราคาหนอ
แค่มีเจ้าให้จิตแอบชิดคลอ
ก็เพียงพอต่อชะตาฐานันดร

๐ แม้ใฝ่สูงเกินศักดิ์จักคว้าเอื้อม
ทาสเทียบเชื่อมเหลื่อมฟ้าอุทาหรณ์
ก็เพียงแค่ในทรวงห้วงอาทร
ของคนจร..ยาจกอกจาบัลย์

๐  ถึงแม้นร่างไร้ลมประโลมเล้า
หัวอกเศร้าสิ้นค่าเจียนอาสัญ
ก็จะขอหลงลมชมแจ่มจันทร์
แค่ในฝันก็พอ...ต่อจำนงค์ ฯ......(เมฆา)

 ร้องไห้งอแง



***เมฆา...***

๐ ยังหมายใจ..ในหวัง..รักครั้งแรก
จึงว่ายแหวก..วังวน..ของคนหลง
เมื่อตระหนัก..รักแท้..ได้แค่ปลง
สิ้นสุดลง..ตรงทาง..แรมร้างกัน

๐ แต่แม้รัก..หักอก..จนหมกไหม้
จะมีใคร..ไหนบ้าง..ยอมร้างฝัน
รู้ทั้งรู้..ว่ารัก..มักจาบัลย์
ยังหมายปั้น..ฝันรัก..เพื่อพักใจ

๐ เจ็บกี่ครั้ง..พลั้งพลาด..ฤา อาจฉุด
มิยอมหยุด..รักนั้น..ที่ฝันใฝ่
รักกี่ที..ที่หวัง..แล้วพลั้งไป
มิหวั่นไหว..ใคร่รัก..อีกสักคราว

๐ ถึงทุกข์ยาก..ขวากหนาม..ไม่คร้ามหวั่น
ไม่มีวัน..ท้อแท้..แม้เหน็บหนาว
คงถึงครา..ฟ้าพร่าง..สว่างพราว
ความรวดร้าว..คราวนั้น..คงบรรเทา

๐ ทิ้งอดีต..ขีดเส้น..แล้วเน้นวาด
บางทีอาจ..พบใคร..คราใจเหงา
แม้นเวียนวน..หนทาง..ที่ร้างเงา
ดีกว่าเรา..เขาเห็น..เป็นส่วนเกิน

๐ ถึงไร้ใคร..ในทาง..ที่ย่างเหยียบ
ถึงเย็นเยียบ..คงแต่..แค่ผิวเผิน
ถึงเจ็บปวด..รวดร้าว..ทุกคราวเดิน
ดีกว่าเพลิน..เดินล่วง..สู่บ่วงตรม.

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : hathaichanok

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ก็เขียนกลอนอ้อนบ้างถ้าว่างนัก
กลอนอกหักรักจรกลอนอ่อนไหว
กลอน นู่น-นี่-นั่น-นั้น-หนา ลั่นล้าไป
จารนัยใจรักของนักกลอน
28 เมษายน 2011, 11:54:PM
หมากสีสุก
LV4 นักเลงประจำหมู่บ้าน
****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 34
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 51



« ตอบ #14 เมื่อ: 28 เมษายน 2011, 11:54:PM »
ชุมชนชุมชน

ทั้งรู้ดี..มีสิทธ์..เพียงคิดถึง
ยังคงซึ้ง..ตรึงใน..หทัยมั่น
หวังรอยหนุน..บุญสร้าง..ครั้งปางบรรพ์
มาคล้องขวัญ..หนึ่งนาง..ไว้ข้างกาย


แม้นบุญนี้..มีบ้าง..แต่ปางก่อน
บุญจงย้อน..คืนเยือน..อย่าเลือนหาย
ปักดวงแด..แน่นอน..มิคลอนคลาย
จวบวันตาย..หมายซึ้ง..ด้วยหนึ่งนาง


เธอคือยูง..สูงกว่า..จะคว้าได้
เพียงชื่นใจ..ในฝัน..ยังหวั่นหมาง
แค่สัมพันธ์..ฉันเพื่อน..ยังเลือนลาง
ยังคงวาง..นางแอบ..ไว้แนบทรวง


ตราบสิ้นหล้า..ฟ้าสวรรค์..มหรรณพ
ตราบสิ้นภพ..จบแถน..สิ้นแดนสรวง
ตราบสุริยัน..จันทรา..ลับลาดวง
ผูกพันพ่วง..ห่วงหา..หนึ่งนารี


โปรดจงจำ..ใส่ใจ..ไว้เสมอ
มอบให้เธอ..ทุกอย่าง..แม้ร่างนี้
ยินดีน้อม..ยอมตัด..เพื่อบัดพลี
ใช้ชีวี..ถมทาง..ให้นางเดิน....
(หมากสีสุก)

๐ คำกรองมอบปลอบขวัญในวันโศก
วันที่โลกร้าวร้างเพราะห่างเหิน
คนเคยรู้ใจกันมาผันเมิน
เศร้านั้นเกินเสกสรรถ้อยบรรยาย

๐ จึงค่อยคลายเหน็บหนาวเมื่อคราวร้าง
ความหมองหมางมัวหม่นก็พ้นหาย
กลางลมหนาวพัดโหมเข้าโลมกาย
คำพี่ชายเอื้ออุ่นละมุนทรวง

๐ แม้ล่วงวันผันผ่านความหวานซึ้ง
กลับยิ่งตรึงรั้งให้หัวใจหวง
ด้วยพจีร้อยงามเนื้อความปวง
นั้นคล้ายหน่วงเหนี่ยวสิ้นทั้งวิญญาณ

๐ หากเพรงบุญพี่สร้างเอาวางไว้
วอนเทพไท้ขีดวงรอบสงสาร
เอาอุบัติวัฏฏะเป็นสะพาน
เพื่อข้ามผ่านคั่นขวางร่วมทางเดียว

๐ ขอมือใครกุมกักพิทักษ์นุช
คอยยื้อยุดพ้นวิบากอันกรากเกรี้ยว
เอาความรักสมัครสมานเข้าสานเกลียว
แล้วยึดเหนี่ยวผูกพันนิรันดร์ไป

๐ แม้ลิขิตเพรงกรรมกระหน่ำท้น
ให้ชีวิตปลิดป่นจนดับขัย
จะเคียงพี่แนบข้างไม่ห่างไกล
ยอมสิ้นใจทอดร่างกลางมรรคา

๐ รอเพรงบุญหนุนภพให้สบพ้อง
ผูกพันสองสายสวาทปรารถนา
ด้วยดวงจิตยึดมั่นในสัญญา
ตราบชั่วฟ้าดินสลายไม่คลายคลอน..ฯลฯ


รับฝากไว้ร่วมแจมค่ะ คริ..คริ..

ยินเพรงกาลหวานล้ำในคำพจน์
เพียงมธุรสปลอบใจที่ไหวอ่อน
ปลอบขวัญห้วง-อุรา-คราร้าวรอน
และลดทอนความเศร้าให้เบาบาง

ความรวดร้าวคราวจากก็พรากสิ้น
รอยถวิลตรึงอยู่มิรู้สร่าง
ที่ลำบากยากเข็ญพอเห็นทาง
ประกายแห่งแสงสว่างนำทางเดิน

จากที่เคยท้อแท้กลับแน่แน่ว
เสียงกระซิบวิบแว่วเพียงแผ่วเผิน
ก็เพียงพอชักนำให้ดำเนิน
แม้เผชิญพลัดพรากวิบากกรรม

หากบุญญาพารักสลักให้
สมดั่งใจใฝ่เฝ้าในเช้าค่ำ
ความรวดร้าวคราวเจ็บเคยเก็บ-จำ
ที่ครอบงำกลางมานก็รานไป

หมายนวลเรียงเคียงขวัญประหวั่นจิต
ด้วยรู้แจ้งแห่งฤทธิ์พิสมัย
ยามรักจากพรากพลัดยากตัดใจ
ต้องคร่ำครวญหวลไห้อาลัยนุช

เพราะเพรงกาลขานสู่จึงรู้ว่า
ปรารถนาในจินต์มิสิ้นสุด
ยังหมายปองสองมือยังยื้อยุด
หมายรั้งฉุดรักไว้มิให้กลาย

คำกรองมอบปลอบขวัญในวันนี้
ทุกทุกถ้อยร้อยวลีมีความหมาย
ปลุกปลอบห้วงดวงฤดีของพี่ชาย
ผ่อนความเศร้าเหงากายให้คลายลง...

วันหลังฝากมาน้อยๆหน่อยก็ได้นะจ้ะ...

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : hathaichanok

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ก็เขียนกลอนอ้อนบ้างถ้าว่างนัก
กลอนอกหักรักจรกลอนอ่อนไหว
กลอน นู่น-นี่-นั่น-นั้น-หนา ลั่นล้าไป
จารนัยใจรักของนักกลอน
29 เมษายน 2011, 10:24:PM
ปุถุชน ฅนธรรมดา
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 102
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 120


~** กวีจร กลอนร่าย มั่นรัก อักษรา **~


เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 29 เมษายน 2011, 10:24:PM »
ชุมชนชุมชน

ทั้งรู้ดี..มีสิทธ์..เพียงคิดถึง
ยังคงซึ้ง..ตรึงใน..หทัยมั่น
หวังรอยหนุน..บุญสร้าง..ครั้งปางบรรพ์
มาคล้องขวัญ..หนึ่งนาง..ไว้ข้างกาย


แม้นบุญนี้..มีบ้าง..แต่ปางก่อน
บุญจงย้อน..คืนเยือน..อย่าเลือนหาย
ปักดวงแด..แน่นอน..มิคลอนคลาย
จวบวันตาย..หมายซึ้ง..ด้วยหนึ่งนาง


เธอคือยูง..สูงกว่า..จะคว้าได้
เพียงชื่นใจ..ในฝัน..ยังหวั่นหมาง
แค่สัมพันธ์..ฉันเพื่อน..ยังเลือนลาง
ยังคงวาง..นางแอบ..ไว้แนบทรวง


ตราบสิ้นหล้า..ฟ้าสวรรค์..มหรรณพ
ตราบสิ้นภพ..จบแถน..สิ้นแดนสรวง
ตราบสุริยัน..จันทรา..ลับลาดวง
ผูกพันพ่วง..ห่วงหา..หนึ่งนารี


โปรดจงจำ..ใส่ใจ..ไว้เสมอ
มอบให้เธอ..ทุกอย่าง..แม้ร่างนี้
ยินดีน้อม..ยอมตัด..เพื่อบัดพลี
ใช้ชีวี..ถมทาง..ให้นางเดิน....

************************************

เพราะใจหมาย มุ่งเพียง อยู่เคียงนง
คนึงส่ง ดวงใจ ไม่ห่างเหิน
มิหนีหาย ไกลห่าง ในทางเดิน
ขอเผชิญ ร่วมอยู่ สู้ฝ่าฟัน

ด้วยดวงใจ ใฝ่รัก สลักเจ้า
หากแม้นเรา มีบุพเพ อย่าเหหัน
ขอเคียงอยู่ อย่าร้าง ห่างไกลกัน
ตราบสวรรค์ สิ้นภพ มิจบคลาย

จะโน้มนำ ตามเจ้า มาเข้ากอด
หมายจะสอด สื่อรัก ปักความหมาย
นภากว้าง สมุทรหล้า สุดท้าทาย
แทนความหมาย แห่งรัก ที่ภักดิ์ดี

ขอเก็บกอด ยอดใจ ด้วยใฝ่จิต
คนึงนิจ ชิดเชย เผยพจน์นี้
มาอ้อนเอื้อน เอ่ยออก บอกพจี
ขอคนดี เคียงแอบ แนบกมล

ที่มุ่งหมาย หากแม้น ได้เหมือนมาด
ขอยอมตาย แทบบาท ประกาศผล
ทบชีวี พลีร่าง ให้นางยล
แทนถนน ถมทาง ให้นางเดิน ๚ะ

~ ปุถุชน ฅนธรรมดา ~

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : hathaichanok

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s