26 เมษายน 2011, 09:00:AM |
หมากสีสุก
|
|
« เมื่อ: 26 เมษายน 2011, 09:00:AM » |
ชุมชน
|
ทั้งรู้ดี..มีสิทธ์..เพียงคิดถึง ยังคงซึ้ง..ตรึงใน..หทัยมั่น หวังรอยหนุน..บุญสร้าง..ครั้งปางบรรพ์ มาคล้องขวัญ..หนึ่งนาง..ไว้ข้างกาย
แม้นบุญนี้..มีบ้าง..แต่ปางก่อน บุญจงย้อน..คืนเยือน..อย่าเลือนหาย ปักดวงแด..แน่นอน..มิคลอนคลาย จวบวันตาย..หมายซึ้ง..ด้วยหนึ่งนาง
เธอคือยูง..สูงกว่า..จะคว้าได้ เพียงชื่นใจ..ในฝัน..ยังหวั่นหมาง แค่สัมพันธ์..ฉันเพื่อน..ยังเลือนลาง ยังคงวาง..นางแอบ..ไว้แนบทรวง
ตราบสิ้นหล้า..ฟ้าสวรรค์..มหรรณพ ตราบสิ้นภพ..จบแถน..สิ้นแดนสรวง ตราบสุริยัน..จันทรา..ลับลาดวง ผูกพันพ่วง..ห่วงหา..หนึ่งนารี
โปรดจงจำ..ใส่ใจ..ไว้เสมอ มอบให้เธอ..ทุกอย่าง..แม้ร่างนี้ ยินดีน้อม..ยอมตัด..เพื่อบัดพลี ใช้ชีวี..ถมทาง..ให้นางเดิน....
|
ก็เขียนกลอนอ้อนบ้างถ้าว่างนัก กลอนอกหักรักจรกลอนอ่อนไหว กลอน นู่น-นี่-นั่น-นั้น-หนา ลั่นล้าไป จารนัยใจรักของนักกลอน
|
|
|
26 เมษายน 2011, 09:25:AM |
อัศจรรย์จิต
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
คะแนนกลอนของผู้นี้ 118
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 222
พี่ชายมาเองจำ รหัสเข้าตัวเองไม่ได้555
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 26 เมษายน 2011, 09:25:AM » |
ชุมชน
|
พบช่องทางวางยาวอยากก้าวข้าม กลัวถูกห้ามถามหาค่าคงเขิน ทางเฉพาะเจาะจงคงไม่เพลิน จึงได้เกริ่นเมินไหมหลบไหล่ทาง
วาสนาค่าเราเพียงเถ้าถ่าน มิอาจหาญผ่านไปที่ใครถาง มิใช่ธิดาแถนบนแดนกลาง จึงไม่สร้างทางรอหนอน้อยใจ
เขาคงถมทางเดินเพราะเพลินฟ้า สกุลกาค่ารักคงผลักไส จึงทนย่ำหนามรกยกเท้าไว เพราะทางใหม่ให้นางเพียงข้างเดียว
|
|
|
|
26 เมษายน 2011, 10:19:AM |
...สียะตรา..
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 26 เมษายน 2011, 10:19:AM » |
ชุมชน
|
......สูงเกินใจอาจเอื้อม...........อรชร
...นวลเปรียบดวงศศิธร.........ก่องฟ้า
...เพีบงสบเนตรสุดถอน.........แลอื่น
...จำข่มจวบวันกล้า.................ไขว่คว้ามาครอง
|
|
|
|
26 เมษายน 2011, 10:44:AM |
อัศจรรย์จิต
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
คะแนนกลอนของผู้นี้ 118
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 222
พี่ชายมาเองจำ รหัสเข้าตัวเองไม่ได้555
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 26 เมษายน 2011, 10:44:AM » |
ชุมชน
|
นงลักษณ์ลองไขว่คว้า.............คะนึงชาย บุรุษเทพมิวาย......................อ่อนล้า หลงรอยเหลี่ยมบรรยาย.............ลืมเกียรติ ตนนา ถมรักสลักหน้า.......................เรียกร้องรำพันฯ
|
|
|
|
|
|
27 เมษายน 2011, 10:01:AM |
อัศจรรย์จิต
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
คะแนนกลอนของผู้นี้ 118
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 222
พี่ชายมาเองจำ รหัสเข้าตัวเองไม่ได้555
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 27 เมษายน 2011, 10:01:AM » |
ชุมชน
|
คลองคดเคี้ยวเหลียวหาคนมาถม ให้เอวกลมและกว้างรัศมี ได้เดินดอนฟ้อนรำประดามี กับชาตรีชายชาญโปรยหวานริน
จะถมไหวไหมนั่นฉันตัวใหญ่ หุ่นผีเสื้อสมุทรไซร้ให้ถวิล จะนวยนาดหยาดย้อยฝากรอยดิน เด็ดกระถินกินพลางช่างสุขใจ
|
|
|
|
|
27 เมษายน 2011, 06:06:PM |
หมากสีสุก
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 27 เมษายน 2011, 06:06:PM » |
ชุมชน
|
คลองคดเคี้ยวเหลียวหาคนมาถม ให้เอวกลมและกว้างรัศมี ได้เดินดอนฟ้อนรำประดามี กับชาตรีชายชาญโปรยหวานริน
จะถมไหวไหมนั่นฉันตัวใหญ่ หุ่นผีเสื้อสมุทรไซร้ให้ถวิล จะนวยนาดหยาดย้อยฝากรอยดิน เด็ดกระถินกินพลางช่างสุขใจ กระเด้งดึ๋งตะลึงแลโอ้แม่จ้าว สะพร่างพราวราวดั่งนางพังใหญ่ แม่เนื้อนวลอ้วนพีนี่กระไร เสื้อชั้นใน คัพ D ต้องมีตอง (DDD หรือ triple D)
จะรูปร่างอย่างไรยังใหลหลง นาถอนงค์จงหายคลายเศร้าหมอง พี่นั้นจะระดมทุกกรมกอง รำข้าวผสมถมคลองให้น้องคลาน
|
ก็เขียนกลอนอ้อนบ้างถ้าว่างนัก กลอนอกหักรักจรกลอนอ่อนไหว กลอน นู่น-นี่-นั่น-นั้น-หนา ลั่นล้าไป จารนัยใจรักของนักกลอน
|
|
|
27 เมษายน 2011, 07:04:PM |
คนเผาถ่าน
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 27 เมษายน 2011, 07:04:PM » |
ชุมชน
|
คลองคดเคี้ยวเหลียวหาคนมาถม ให้เอวกลมและกว้างรัศมี ได้เดินดอนฟ้อนรำประดามี กับชาตรีชายชาญโปรยหวานริน
จะถมไหวไหมนั่นฉันตัวใหญ่ หุ่นผีเสื้อสมุทรไซร้ให้ถวิล จะนวยนาดหยาดย้อยฝากรอยดิน เด็ดกระถินกินพลางช่างสุขใจ อัศจรรย์จิต แม้หุ่นเธอเหมือนอย่างนางผีเสื้อ แต่ในเมื่อรักน้องต้องทนไหว เปรียบดั่งพี่นี้เช่นพระอภัย ทะเลใหญ่พี่พร้อมยอมถมทาง
จะนวยนาดหยาดย้อยกี่ร้อยหน ก็จะทนจมจัดมิขัดขวาง แต่ถามนิดเถิดหนาว่าน้องนาง หุ่นกลมกว้างอย่างนี้มีใครแล
ถึงเป็นทางให้นางเดินไปนั่น จุดหมายนั้นนางมีใครแยแส คนที่เธอเหยียบนี้สิคอยแคร์ เป็นได้แค่ฝุ่นทรายใต้เท้าเธอ....
งงมั๊ย....กัลปาวสาน
|
ด้วยฤทธิ์แรงแห่งรักสลักจิต จึงลิขิตบทกลอนอักษรศิลป์
|
|
|
28 เมษายน 2011, 12:15:AM |
hathaichanok
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 28 เมษายน 2011, 12:15:AM » |
ชุมชน
|
ทั้งรู้ดี..มีสิทธ์..เพียงคิดถึง ยังคงซึ้ง..ตรึงใน..หทัยมั่น หวังรอยหนุน..บุญสร้าง..ครั้งปางบรรพ์ มาคล้องขวัญ..หนึ่งนาง..ไว้ข้างกาย
แม้นบุญนี้..มีบ้าง..แต่ปางก่อน บุญจงย้อน..คืนเยือน..อย่าเลือนหาย ปักดวงแด..แน่นอน..มิคลอนคลาย จวบวันตาย..หมายซึ้ง..ด้วยหนึ่งนาง
เธอคือยูง..สูงกว่า..จะคว้าได้ เพียงชื่นใจ..ในฝัน..ยังหวั่นหมาง แค่สัมพันธ์..ฉันเพื่อน..ยังเลือนลาง ยังคงวาง..นางแอบ..ไว้แนบทรวง
ตราบสิ้นหล้า..ฟ้าสวรรค์..มหรรณพ ตราบสิ้นภพ..จบแถน..สิ้นแดนสรวง ตราบสุริยัน..จันทรา..ลับลาดวง ผูกพันพ่วง..ห่วงหา..หนึ่งนารี
โปรดจงจำ..ใส่ใจ..ไว้เสมอ มอบให้เธอ..ทุกอย่าง..แม้ร่างนี้ ยินดีน้อม..ยอมตัด..เพื่อบัดพลี ใช้ชีวี..ถมทาง..ให้นางเดิน....(หมากสีสุก)
๐ คำกรองมอบปลอบขวัญในวันโศก วันที่โลกร้าวร้างเพราะห่างเหิน คนเคยรู้ใจกันมาผันเมิน เศร้านั้นเกินเสกสรรถ้อยบรรยาย
๐ จึงค่อยคลายเหน็บหนาวเมื่อคราวร้าง ความหมองหมางมัวหม่นก็พ้นหาย กลางลมหนาวพัดโหมเข้าโลมกาย คำพี่ชายเอื้ออุ่นละมุนทรวง
๐ แม้ล่วงวันผันผ่านความหวานซึ้ง กลับยิ่งตรึงรั้งให้หัวใจหวง ด้วยพจีร้อยงามเนื้อความปวง นั้นคล้ายหน่วงเหนี่ยวสิ้นทั้งวิญญาณ
๐ หากเพรงบุญพี่สร้างเอาวางไว้ วอนเทพไท้ขีดวงรอบสงสาร เอาอุบัติวัฏฏะเป็นสะพาน เพื่อข้ามผ่านคั่นขวางร่วมทางเดียว
๐ ขอมือใครกุมกักพิทักษ์นุช คอยยื้อยุดพ้นวิบากอันกรากเกรี้ยว เอาความรักสมัครสมานเข้าสานเกลียว แล้วยึดเหนี่ยวผูกพันนิรันดร์ไป
๐ แม้ลิขิตเพรงกรรมกระหน่ำท้น ให้ชีวิตปลิดป่นจนดับขัย จะเคียงพี่แนบข้างไม่ห่างไกล ยอมสิ้นใจทอดร่างกลางมรรคา
๐ รอเพรงบุญหนุนภพให้สบพ้อง ผูกพันสองสายสวาทปรารถนา ด้วยดวงจิตยึดมั่นในสัญญา ตราบชั่วฟ้าดินสลายไม่คลายคลอน..ฯลฯ
รับฝากไว้ร่วมแจมค่ะ คริ..คริ..
|
|
|
|
28 เมษายน 2011, 04:21:AM |
หมากสีสุก
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 28 เมษายน 2011, 04:21:AM » |
ชุมชน
|
พบช่องทางวางยาวอยากก้าวข้าม กลัวถูกห้ามถามหาค่าคงเขิน ทางเฉพาะเจาะจงคงไม่เพลิน จึงได้เกริ่นเมินไหมหลบไหล่ทาง
วาสนาค่าเราเพียงเถ้าถ่าน มิอาจหาญผ่านไปที่ใครถาง มิใช่ธิดาแถนบนแดนกลาง จึงไม่สร้างทางรอหนอน้อยใจ
เขาคงถมทางเดินเพราะเพลินฟ้า สกุลกาค่ารักคงผลักไส จึงทนย่ำหนามรกยกเท้าไว เพราะทางใหม่ให้นางเพียงข้างเดียว...(อัศจรรย์จิต) จะสูงล้ำ..ต่ำค่า..กาหรือหงส์ จากนครา..ป่าดง..ในพงเปลี่ยว จะผูกพัน..มั่นหมาย..มิคลายเกลียว จะยึดเหนี่ยว..เกี่ยวพัน..นิรันดร์กาล
แม้บุญญา..พาฝัน..ให้บรรจบ ทุกชาติภพ..ครองรัก..สมัครสมาน แม้จนยาก..บากบั่น..แดนกันดาร ขอพบพาน..ยุพิน..ตราบสิ้นลม
แม้ขอบน้ำ..ขวางหน้า..ยากฝ่าข้าม ไม่ครั้นคร้าม..บากบั่น..ฝ่าวันขม ยอมทุกข์ยาก..ตรากตรำ..กรำแดดลม เพื่อกอบตม..ถมทาง..ให้นางเดิน...
|
ก็เขียนกลอนอ้อนบ้างถ้าว่างนัก กลอนอกหักรักจรกลอนอ่อนไหว กลอน นู่น-นี่-นั่น-นั้น-หนา ลั่นล้าไป จารนัยใจรักของนักกลอน
|
|
|
|
28 เมษายน 2011, 05:56:PM |
หมากสีสุก
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 28 เมษายน 2011, 05:56:PM » |
ชุมชน
|
|
ก็เขียนกลอนอ้อนบ้างถ้าว่างนัก กลอนอกหักรักจรกลอนอ่อนไหว กลอน นู่น-นี่-นั่น-นั้น-หนา ลั่นล้าไป จารนัยใจรักของนักกลอน
|
|
|
28 เมษายน 2011, 11:54:PM |
หมากสีสุก
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 28 เมษายน 2011, 11:54:PM » |
ชุมชน
|
ทั้งรู้ดี..มีสิทธ์..เพียงคิดถึง ยังคงซึ้ง..ตรึงใน..หทัยมั่น หวังรอยหนุน..บุญสร้าง..ครั้งปางบรรพ์ มาคล้องขวัญ..หนึ่งนาง..ไว้ข้างกาย
แม้นบุญนี้..มีบ้าง..แต่ปางก่อน บุญจงย้อน..คืนเยือน..อย่าเลือนหาย ปักดวงแด..แน่นอน..มิคลอนคลาย จวบวันตาย..หมายซึ้ง..ด้วยหนึ่งนาง
เธอคือยูง..สูงกว่า..จะคว้าได้ เพียงชื่นใจ..ในฝัน..ยังหวั่นหมาง แค่สัมพันธ์..ฉันเพื่อน..ยังเลือนลาง ยังคงวาง..นางแอบ..ไว้แนบทรวง
ตราบสิ้นหล้า..ฟ้าสวรรค์..มหรรณพ ตราบสิ้นภพ..จบแถน..สิ้นแดนสรวง ตราบสุริยัน..จันทรา..ลับลาดวง ผูกพันพ่วง..ห่วงหา..หนึ่งนารี
โปรดจงจำ..ใส่ใจ..ไว้เสมอ มอบให้เธอ..ทุกอย่าง..แม้ร่างนี้ ยินดีน้อม..ยอมตัด..เพื่อบัดพลี ใช้ชีวี..ถมทาง..ให้นางเดิน....(หมากสีสุก)
๐ คำกรองมอบปลอบขวัญในวันโศก วันที่โลกร้าวร้างเพราะห่างเหิน คนเคยรู้ใจกันมาผันเมิน เศร้านั้นเกินเสกสรรถ้อยบรรยาย
๐ จึงค่อยคลายเหน็บหนาวเมื่อคราวร้าง ความหมองหมางมัวหม่นก็พ้นหาย กลางลมหนาวพัดโหมเข้าโลมกาย คำพี่ชายเอื้ออุ่นละมุนทรวง
๐ แม้ล่วงวันผันผ่านความหวานซึ้ง กลับยิ่งตรึงรั้งให้หัวใจหวง ด้วยพจีร้อยงามเนื้อความปวง นั้นคล้ายหน่วงเหนี่ยวสิ้นทั้งวิญญาณ
๐ หากเพรงบุญพี่สร้างเอาวางไว้ วอนเทพไท้ขีดวงรอบสงสาร เอาอุบัติวัฏฏะเป็นสะพาน เพื่อข้ามผ่านคั่นขวางร่วมทางเดียว
๐ ขอมือใครกุมกักพิทักษ์นุช คอยยื้อยุดพ้นวิบากอันกรากเกรี้ยว เอาความรักสมัครสมานเข้าสานเกลียว แล้วยึดเหนี่ยวผูกพันนิรันดร์ไป
๐ แม้ลิขิตเพรงกรรมกระหน่ำท้น ให้ชีวิตปลิดป่นจนดับขัย จะเคียงพี่แนบข้างไม่ห่างไกล ยอมสิ้นใจทอดร่างกลางมรรคา
๐ รอเพรงบุญหนุนภพให้สบพ้อง ผูกพันสองสายสวาทปรารถนา ด้วยดวงจิตยึดมั่นในสัญญา ตราบชั่วฟ้าดินสลายไม่คลายคลอน..ฯลฯ
รับฝากไว้ร่วมแจมค่ะ คริ..คริ.. ยินเพรงกาลหวานล้ำในคำพจน์ เพียงมธุรสปลอบใจที่ไหวอ่อน ปลอบขวัญห้วง-อุรา-คราร้าวรอน และลดทอนความเศร้าให้เบาบาง
ความรวดร้าวคราวจากก็พรากสิ้น รอยถวิลตรึงอยู่มิรู้สร่าง ที่ลำบากยากเข็ญพอเห็นทาง ประกายแห่งแสงสว่างนำทางเดิน
จากที่เคยท้อแท้กลับแน่แน่ว เสียงกระซิบวิบแว่วเพียงแผ่วเผิน ก็เพียงพอชักนำให้ดำเนิน แม้เผชิญพลัดพรากวิบากกรรม
หากบุญญาพารักสลักให้ สมดั่งใจใฝ่เฝ้าในเช้าค่ำ ความรวดร้าวคราวเจ็บเคยเก็บ-จำ ที่ครอบงำกลางมานก็รานไป
หมายนวลเรียงเคียงขวัญประหวั่นจิต ด้วยรู้แจ้งแห่งฤทธิ์พิสมัย ยามรักจากพรากพลัดยากตัดใจ ต้องคร่ำครวญหวลไห้อาลัยนุช
เพราะเพรงกาลขานสู่จึงรู้ว่า ปรารถนาในจินต์มิสิ้นสุด ยังหมายปองสองมือยังยื้อยุด หมายรั้งฉุดรักไว้มิให้กลาย
คำกรองมอบปลอบขวัญในวันนี้ ทุกทุกถ้อยร้อยวลีมีความหมาย ปลุกปลอบห้วงดวงฤดีของพี่ชาย ผ่อนความเศร้าเหงากายให้คลายลง... วันหลังฝากมาน้อยๆหน่อยก็ได้นะจ้ะ...
|
ก็เขียนกลอนอ้อนบ้างถ้าว่างนัก กลอนอกหักรักจรกลอนอ่อนไหว กลอน นู่น-นี่-นั่น-นั้น-หนา ลั่นล้าไป จารนัยใจรักของนักกลอน
|
|
|
29 เมษายน 2011, 10:24:PM |
ปุถุชน ฅนธรรมดา
Special Class LV3.9 นักกลอนรอบรู้กวี
คะแนนกลอนของผู้นี้ 102
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 120
~** กวีจร กลอนร่าย มั่นรัก อักษรา **~
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 29 เมษายน 2011, 10:24:PM » |
ชุมชน
|
ทั้งรู้ดี..มีสิทธ์..เพียงคิดถึง ยังคงซึ้ง..ตรึงใน..หทัยมั่น หวังรอยหนุน..บุญสร้าง..ครั้งปางบรรพ์ มาคล้องขวัญ..หนึ่งนาง..ไว้ข้างกาย
แม้นบุญนี้..มีบ้าง..แต่ปางก่อน บุญจงย้อน..คืนเยือน..อย่าเลือนหาย ปักดวงแด..แน่นอน..มิคลอนคลาย จวบวันตาย..หมายซึ้ง..ด้วยหนึ่งนาง
เธอคือยูง..สูงกว่า..จะคว้าได้ เพียงชื่นใจ..ในฝัน..ยังหวั่นหมาง แค่สัมพันธ์..ฉันเพื่อน..ยังเลือนลาง ยังคงวาง..นางแอบ..ไว้แนบทรวง
ตราบสิ้นหล้า..ฟ้าสวรรค์..มหรรณพ ตราบสิ้นภพ..จบแถน..สิ้นแดนสรวง ตราบสุริยัน..จันทรา..ลับลาดวง ผูกพันพ่วง..ห่วงหา..หนึ่งนารี
โปรดจงจำ..ใส่ใจ..ไว้เสมอ มอบให้เธอ..ทุกอย่าง..แม้ร่างนี้ ยินดีน้อม..ยอมตัด..เพื่อบัดพลี ใช้ชีวี..ถมทาง..ให้นางเดิน.... ************************************ เพราะใจหมาย มุ่งเพียง อยู่เคียงนง คนึงส่ง ดวงใจ ไม่ห่างเหิน มิหนีหาย ไกลห่าง ในทางเดิน ขอเผชิญ ร่วมอยู่ สู้ฝ่าฟัน
ด้วยดวงใจ ใฝ่รัก สลักเจ้า หากแม้นเรา มีบุพเพ อย่าเหหัน ขอเคียงอยู่ อย่าร้าง ห่างไกลกัน ตราบสวรรค์ สิ้นภพ มิจบคลาย
จะโน้มนำ ตามเจ้า มาเข้ากอด หมายจะสอด สื่อรัก ปักความหมาย นภากว้าง สมุทรหล้า สุดท้าทาย แทนความหมาย แห่งรัก ที่ภักดิ์ดี
ขอเก็บกอด ยอดใจ ด้วยใฝ่จิต คนึงนิจ ชิดเชย เผยพจน์นี้ มาอ้อนเอื้อน เอ่ยออก บอกพจี ขอคนดี เคียงแอบ แนบกมล
ที่มุ่งหมาย หากแม้น ได้เหมือนมาด ขอยอมตาย แทบบาท ประกาศผล ทบชีวี พลีร่าง ให้นางยล แทนถนน ถมทาง ให้นางเดิน ๚ะ
~ ปุถุชน ฅนธรรมดา ~
|
|
|
|
|