ลวงผึ้ง
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 03:04:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ลวงผึ้ง  (อ่าน 6177 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
18 เมษายน 2011, 04:57:AM
เพื่อเธอ
LV3 นักเลงกลอนประจำซอย.
***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 30



« เมื่อ: 18 เมษายน 2011, 04:57:AM »
ชุมชนชุมชน


ภุมริน โผผิน บินถลา
เกาะลงจีบ กลีบผกา พร่าเกสร
เราะซอกหลืบ คืบคลาน หมายราญรอน
อรชร ซอนไซ้ ไร้ปรานี
บุษบา บานสะพรั่ง ช่างยั่วเย้า
โชยรวยริน กลิ่นเร้า ให้เข้าหา
ผึ้งตัวน้อย มิคอยที ปรี่เข้ามา
ฉ่ำน้ำหวาน บานอุรา สาสมใจ
แล้ววันหนึ่ง ผึ้งกระทำ ประจำกิจ
ทำเช่นเคย เลยมิคิด จิตสังหรณ์
ภุมริน บินล้ำ ทิฆัมพร
เข้าสู่ป่า วนาดร แล้วจรไกล
ผึ้งผกผิน บินเสาะ เราะเลี้ยวหลบ
มาประสบ ช่อสลวย เป็นกรวยเขียว
ดอกอันใด ใหลหลง ทรวดทรงเพรียว
ช่อยาวเรียว เปรียวสวย ระทวยใจ
มิครั่นคร้าม ย่ามใจ ใคร่ลองนิด
เข้าประชิด ติดตอม ดอมเสน่หา
เราะซอกหลืบ คืบคลาน กาลเคยมา
พลันมาลา ฝาปิด สนิทลง
แสงสว่าง รางริบหรี่ เหมือนชีวิต
น้ำใยเหนียว เกี่ยวชิด ติดเป็นสาย
ภุมริน สิ้นที ชีวาวาย
ต้องมาตาย เพราะแม่ดอก หลอกแมลง

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
18 เมษายน 2011, 11:19:AM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #1 เมื่อ: 18 เมษายน 2011, 11:19:AM »
ชุมชนชุมชน


ใช่แต่ผึ้งซึ่งหลงดงความหวาน
มากต้องการหวานลิ้มชิมสีแสง
ลงทุนล่อต่อแต้มแถมแสดง
หรือเสแสร้งอยากลองของอื่นชม

แต่..มากมายหลายล้นบนโลกนี้
ชีพยังมีล้วนอยากฝากสุขสม
สรรพสัตว์น้อยใหญ่ใคร่ภิรมย์
ต่างซานซมเพราะปากมากพอดี

มองให้ซึ้งตรึงใจเพื่อได้รู้
ทุกเหล่าหมู่กลัวภัยไร้สุขศรี
ต่างป้องกันรักษาพาชีวี
ล้วนมากมีกลเล่ห์เพทุบาย

มองให้ลึกตรึกถ้วนอย่าด่วนเหมา
เอาเปรียบเขากดขี่บี้สหาย
ชีวิตใครใครหวงอย่าล่วงกราย
ดังผึ้งตายคาดอก...บอกเตือนกัน.

"บ้านริมโขง"

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

18 เมษายน 2011, 01:01:PM
อัศจรรย์จิต
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 118
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 222


พี่ชายมาเองจำ รหัสเข้าตัวเองไม่ได้555


« ตอบ #2 เมื่อ: 18 เมษายน 2011, 01:01:PM »
ชุมชนชุมชน




หาว่าล่วงลวงล่อต้องขอเถียง
ใช้สิทธิ์เพียงเลี้ยงตัวโดยทั่วหน้า
แมลงเลือกเกลือกก่นยลมาลา
ห้ามกล่าวหาว่าลวงมาหน่วงโน้ม

ภุมเรศเจตจำนงบินลงจับ
ถึงจะขับเขี่ยไปพร้อมยังใคร่โถม
หมายน้ำหวานซ่านซู่จ้องจู่โจม
ใช่ยั่วเย้าเร้าโลมให้จมตาย


วันนี้เขียนไม่ออกเลยค่ะเป็นอะไรไม่รู้ได้มาแค่นี้

อัศจรรย์จิต
ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
18 เมษายน 2011, 01:01:PM
เมฆา...
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 698
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 624


..............


« ตอบ #3 เมื่อ: 18 เมษายน 2011, 01:01:PM »
ชุมชนชุมชน




๐ ผึ้ง..ลวง ๐


...ภุมริน บินรื่น ดูตื่นเต้น
ท่ามแสงเส้น สายสันต์ ตะวันแสง
รับอรุณ อุ่นล้ำ ปีกจำแลง
กระพือแข่ง ควบขัน กันคึกคัก

...สู่ทุ่งหมอก ดอกไม้ บานใสส่อง
หลากละออง ต้องตา หาตวงตัก
เจ้าน้ำหวาน ผู้เร้น เช่นที่รัก
ล้วนพำนัก พักรอ ช่างล่อตา

...เจ้าภมร อ้อนอ้อ เหมือนล้อเล่น
เกษรเด่น ดุ่มดุ่ม ตะคุ่มหา
ชิมน้ำรส สดหอม ล้อมผกา
แล้วลอบลา ลอยล่อง ท่องถัดไป

...ปล่อยไม้ดอก ยอกย้อน อาทรเหน็บ
ไหวไหวเจ็บ จากจร เง้างอนใส่
อุตส่ารั้ง ชิวหา ลีลาใจ
พี่ผึ้งไย  ได้อิง ทิ้งระรวย

...เห็นว่าเรา ไร้ปีก เลยฉีกหนี
ลืมลายสี ทรวดทรง องค์สลวย
สิ้นน้ำหวาน มานสุด หยุดเอออวย
ให้ดอกม้วย สวยตรม ระทมทิว

...ช่างลวงหลอก หยอกเย้า รอเฝ้าหมาย
ภมรชาย กรายย่าง ข้างข้างผิว
มีสุขเพียง ช่วงปม แค่ลมปลิว
ก็บินลิ่ว ลับลวง ไม่ห่วงเลย

...นี่หละหนอ ช่อบาน ตระการพุ่ม
ถูกผึ้งหนุ่ม สุมทรวง ลวงเสวย
พอไร้ซึ่ง ตรึงค่า ราคาเคย
ก็ลงเอย ด้วยเฉา รอเน่าตรม....


***เมฆา...***



ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..สัมผัสทิพย์ปรารถนาอารมณ์แล้ว..
18 เมษายน 2011, 04:37:PM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #4 เมื่อ: 18 เมษายน 2011, 04:37:PM »
ชุมชนชุมชน



หาว่าล่วงลวงล่อต้องขอเถียง
ใช้สิทธิ์เพียงเลี้ยงตัวโดยทั่วหน้า
แมลงเลือกเกลือกก่นยลมาลา
ห้ามกล่าวหาว่าลวงมาหน่วงโน้ม

ภุมเรศเจตจำนงบินลงจับ
ถึงจะขับเขี่ยไปพร้อมยังใคร่โถม
หมายน้ำหวานซ่านซู่จ้องจู่โจม
ใช่ยั่วเย้าเร้าโลมให้จมตาย


วันนี้เขียนไม่ออกเลยค่ะเป็นอะไรไม่รู้ได้มาแค่นี้

อัศจรรย์จิต


ธรรมชาติสร้างสรรค์สวรรค์เปิด
จึงบังเกิดเกสร ภมรส่าย
เพื่อผสมเผ่าพันธุ์ก่อนวันกลาย
ในบั้นปลายเป็นผลใด้ยลยิน

ทั้งภมร บุปผา มิน่าผิด
เลี้ยงชีวิตท่ามกลางระหว่างถิ่น
ใครจะโง่หรือฉลาดผงาดบิน
ก็จะสิ้นตามกาลไม่นานเนาว์

ดุจสาวน้อยสวยใสวัยแรกรุ่น
กลิ่นหอมกรุ่นอ้อนชายให้กราย,เฝ้า
ต่างหลงรักหลงฝันมิบรรเบา
เกิดเป็นเหล่าเผ่าพงศ์ดำรงพันธุ์

อย่าไปโทษภมรที่จรจาก
บุปผามากมายล้อมพร้อมเสกสรรค์
ทำหน้าที่ของตนวนเวียนวัน
เกสรเหี่ยวเดี๋ยวหั่นมิทันนา  ยิ้มกวนตีน

จึงต้องเรียนรู้ไว้หทัยมั่น
จะผูกพันชายใดให้ดูหน้า
จะรักสาวขาวหมวย รวยเงินตรา
ต้องรู้ค่ารู้ควรจึ่งชวนเชิญ

ต้องสมกันทั้งคู่จึงอยู่ได้
ทั้งเข้าใจเข้าถึงจึ่งสรรเสริญ
ถ้าไม่เหมาะสมกันจะพลันเยิน
เป็นส่วนเกินหัวใจดั่งใบบัง

 ขอจีบ...ได้ป่ะ

"ปรางค์ สามยอด"

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

18 เมษายน 2011, 05:18:PM
ดอกกระเจียว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 317
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,264


จินตนาการในความว่างเปล่า


« ตอบ #5 เมื่อ: 18 เมษายน 2011, 05:18:PM »
ชุมชนชุมชน




ถ้าลวงผึ้งจะหมายรังหวังความหวาน
ดั่งเสน่ห์เยาวมาลย์นั่นแหละหนา
หวังหนุ่มอ่อนสอนมนตร์กลมายา
เผื่อพบพาลวงใครได้สักที

ขอคนเดียวจะลวงแหลกหวังแซกจิต
แล้วพิชิตจนสมใจไม่หลบหนี
โลกที่ว่าง..ว่างเปล่านี้สิ้นดี
เห็นจะมีสีสันนึกฝันไป







ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

22 เมษายน 2011, 10:07:PM
กระรอกขาว
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 36
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 108



« ตอบ #6 เมื่อ: 22 เมษายน 2011, 10:07:PM »
ชุมชนชุมชน


เข้ามาอ่านลวงผึ้งนึกว่า"รวง"  จึงพิศฯล่วงเลยมาว่าไฉน
อ่านแล้วอ้อไม่ผิดคำจึงทำใจ  อ่านเรื่อยไปใจเศร้าเคล้าแมลง
เหมือนจะโศกโลกอำพรางช่างน่าขัน  สร้างคืนวันสรรค์ไว้ให้แสวง
มาเปรียบดังดั่งพวกปลวกแมลง   ให้ระแวงแวดวังระวังภัย
อันชีวิตประดิษฐ์ตามธรรมชาติ  ที่วางวาดเวียนวนเป็นวงไว้
ต้องพึ่งกันพึ่งพาทุกคราไป   ประดับไว้ให้คงดำรงค์พันธุ์
ที่เบียดเบียนฆ่ากันเพราะวงจร  ที่โลกสอนคงไว้ไม่เปลี่ยนผัน
ผลัดกันกินเล็กใหญ่ไม่สำคัญ   ผันชีวันแปรเปลี่ยนหมุนเวียนไป
ต่างชีวิตเกิดมามีหน้าที่   ทุกวันวี่ดำเนินติดนิจนิสัย
ต้องกินอยู่คู่สร้างไม่ห่างไกล  ระวังภัยป้องตัวเพราะกลัวตาย
แต่สุดท้ายชีวีต้องมีดับ  ต้องมีลับล่วงละร่างสลาย
ทิ้งทายาทสืบทอสานต่อไป    รับช่วงไว้ดำรงค์พงศ์เผ่าพันธุ์

กระรอกขาว
 ซึ้งจัง เอ็นดู
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s