08 เมษายน 2011, 10:55:PM |
ยามพระอาทิตย์อัสดง
|
|
« เมื่อ: 08 เมษายน 2011, 10:55:PM » |
ชุมชน
|
月下獨酌
ร่ำสุราเมรัยใต้เงาจันทร์
花 間 一 壺 酒。 獨 酌 無 相 親。 舉 杯 邀 明 月。 對 影 成 三 人。
月 既 不 解 飲。 影 徒 隨 我 身。 暫 伴 月 將 影。 行 樂 須 及 春。
我 歌 月 徘 徊。 我 舞 影 零 亂。 醒 時 同 交 歡。 醉 後 各 分 散。 永 結 無 情 遊。 相 期 邈 雲 漢。 ร่ำสุรา เมรัย ดงไผ่เขียว น้ำไหลเชี่ยว เหลียวมอง จันทร์ส่องแสง ดื่มหมดจอก ตอกรับ กับลมแรง มีเงาแฝง แห่งจันทร์ ทั้งสามใจ
จันทร์ไม่ดื่ม ลืมรส โอษฐ์จุมพิต มีเพียงเงา เฝ้าติด ชิดหวั่นไหว มีจันทรา เคียงคู่ อย่างรู้ใจ ฤดูใบ ไม้ผลิ ปลิดโรยรา
เฝ้าบรรเลง เพลงรัก ใต้เงาจันทร์ เพียงเงานั้น เป็นเพื่อน เมื่อโหยหา มีเพียงเหล้า ยามเหงา เศร้าอุรา สุขหนักหนา เริงร่า ท้าอารมณ์
ยามพระอาทิตย์อัสดง
......丘 美 华..... ปล. กลอนบทนี้ (李白 (หลี่ไป๋) ประพันธ์ อัสดงได้เอามาแปลเป็นภาษาไทย คงไม่ดีนัก เพราะอัสดงด้อยและอ่อนภาษาไทย คงมีบางประโยคที่ไม่ตรงกับบทกลอนเพราะต้องการความไพเราะของภาษาไทย แต่ที่แต่งขึ้นเนื่องจากมีแรงจูงใจจากใครคนหนึ่ง น้องชิวเอ๋อร์ ขอขอบคุณพี่ท่าน ไป๋อวี้ถัง ที่ทำให้น้องมีแรงใจในการแต่งกลอนนี้ คารวะสัก 1 จอก
|
|
|
|
09 เมษายน 2011, 02:16:AM |
นัท ผู้ชายฯ รักในหลวง
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 09 เมษายน 2011, 02:16:AM » |
ชุมชน
|
ดึกดื่น คืนเหงา เหล้าหนึ่งไห คืนสวย จันทร์ใส ไม่มีเพื่อน เจ้าเงา ติดตาม ยามเราเคลื่อน หนึ่งเฉย หนึ่งเลื่อน เพื่อนรู้ใจ
ข้าร้อง จันทร์เฉย ไม่ยกดื่ม ฝ่ายเงา มิลืม ยังเคลื่อนไหว จันทร์เจ้า เจ้าเฉย มิเป็นไร เจ้าเมา ใช่ไหม ให้บอกมา
ไม่นาน ฤดู ก็คงเปลี่ยน ลมหนาว คงเวียน ไปช้าช้า หนึ่งเงา หนึ่งจันทร์ หนึ่งตัวข้า คือมิตร สุรา อย่าได้ลืม
|
หนึ่งคนห่างไกล หนึ่งใจห่วงหา
|
|
|
09 เมษายน 2011, 09:38:AM |
(ฟ้า) มารสุรา
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 09 เมษายน 2011, 09:38:AM » |
ชุมชน
|
กลางดงไผ่ไร้จันทร์วันอับแสง จิตกล้าแกร่งแฝงหวั่นพรั่นใจข่ม ยกสุราพาดื่มลืมโศกตรม ทุกข์ระทมจมปรักรักมืดมน
หนึ่งจอกซดรสรักปักกลางอก สองกระดกตกท้องต้องสับสน สามรินสาดบาดเจ็บเก็บกมล สี่ดื่มล้นคอปากเพราะอยากเมา
เป็นกระต่ายหมายชมภิรมย์แข เจ้าไม่แลลับหายชายนี้เหงา ช่างใจร้ายกรายหลบไม่พบเรา ปล่อยให้เศร้าเฝ้าแหงนหน้าถามหาจันทร์
(ฟ้า)มารสุรา
|
รินหยด..รสเมรัย..ซ่านชอนไช..ในชิวหา
|
|
|
|
09 เมษายน 2011, 11:05:AM |
หิมะเงิน
LV1 เด็กน้อยอ่านกลอน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 5
ออฟไลน์
กระทู้: 4
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 09 เมษายน 2011, 11:05:AM » |
ชุมชน
|
หากข้าเปรียบไหสุราดั่งบุปผา รวมจันทรากระจ่างฟ้าในค่ำนี้ ผนวกเงารวมเป็นสามเราพอดี ร่วมชนจอกร่ำ whisky คงสุขใจ
หากแต่จันทร์ใช่ตรึงอยู่คงคู่ฟ้า ผ่านเพลาไม่กี่ยามจำเคลื่อนไหว เหลือเพียงเงายังตามติดชิดตัวไป ข้ามฤดู spring ไซร้..เป็นเพื่อนกัน
จันทร์ทอแสงรับยามข้าขับบทเพลง เงาสั่นไหวคล้ายบรรเลงช่วยเสกสรรค์ ตลอดคืน..ตื่นนิทราสัญญามั่น ไว้พบกัน ณ มุมเก่าเราสามคน
|
|
|
|
09 เมษายน 2011, 03:13:PM |
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,752
ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 09 เมษายน 2011, 03:13:PM » |
ชุมชน
|
ร่ำเมรัย ใต้เงาจันทร์ ต้องทัณฑ์โทษ ฟ้าพิโรธ นั่งโขดเขิน กลางเนินไผ่ มือขีดหิน รินกลอนกล ถึงคนไกล เหตุไฉน ใจแสนดำ อำมหิต
ดื่มจอกหนึ่ง ถึงบุตร คนสุดท้อง ดื่มจอกสอง น้องเพื่อน เตือนการกิจ ดื่มจอกสาม ยามเย็น เช่นชมชิด ก้นไหติด ยกดื่ม ลืมจิตตน
จอกหลุดไป ไหกลิ้ง ทิ้งความเงียบ โศกเศร้าเสียบ มืดพลัน พระจันทร์หม่น ลมพัดวูบ ลูบไล้ ไผ่เอนโอน เหลือซากคน ซูบเซียว นอนเดียวดาย
|
|
|
|
09 เมษายน 2011, 03:15:PM |
กาแฟดำ
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 09 เมษายน 2011, 03:15:PM » |
ชุมชน
|
ร่ำเมรัย ใต้แสงจันทร์ วันพานพบ ได้ประสบ คบสหาย ผู้ยิ่งใหญ่ เหล้าพันจอก ดื่มเคียงคู่ ผู้รู้ใจ มีกระไร ต้องเสียดาย หากวายปราณ
กาแฟดำ
|
|
|
|
|
|
09 เมษายน 2011, 06:58:PM |
ฉันเอง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
คะแนนกลอนของผู้นี้ 182
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 685
เป็นตัวเองดีกว่า..วุ้ย
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 09 เมษายน 2011, 06:58:PM » |
ชุมชน
|
ช่างสวยงามยามจันทร์ สะท้อนเด่น ให้แลเห็นเฉิดฉาย แล้วหายเหงา พื้นผิวน้ำสาดส่อง มองดูเรา หนึ่งจอกเมาเพื่อเจ้า เคล้ากามา
ช่างสุขสันต์ปันโอกาส ให้ชีวิต เจ้าดั่งจิต เหล้าดั่งกาย ให้รู้หา และมีจันทร์ดวงงาม อร่ามตา เป็นเพื่อนข้า ร่ำสุรา ใต้เงาจันทร์
ฉันเอง..
|
ขอแต่งโลกสวย ด้วยคำกลอน
|
|
|
09 เมษายน 2011, 07:50:PM |
นัท ผู้ชายฯ รักในหลวง
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 09 เมษายน 2011, 07:50:PM » |
ชุมชน
|
月下獨酌 ดื่มเดียวดายใต้เงาจันทร์
花間一壺酒。 ไหสุราประหนึ่งดัง ดอกไม้ 獨酌無相親。 ไร้เพื่อนดื่มเคียงกาย ผู้เดียว 舉杯邀明月。 ยกจอกขึ้นเชื้อเชิญจันทร์ กระจ่างใส 對影成三人。 ทอแสงรวมเงาข้า เป็นสาม 月既不解飲。 จันทร์เจ้าลอยเลื่อนไม่อาจดื่มได้ 影徒隨我身。 เงาเจ้าคล้อยเคลื่อนตาม ติดไหว 暫伴月將影。 มีทั้งจันทร์และเงาอยู่เป็นเพื่อน 行樂須及春。 เริงรื่น ก่อนฤดูไม้พรรณพฤกษ ผลิใบ 我歌月徘徊。 เมื่อข้าร้องเพลง จันทร์ทอแสง 我舞影零亂。 เมื่อข้าเริงระบำ เงาสั่นไหว 醒時同交歡。 เมื่อยังตื่น ร่วมสรวลเสเฮฮา 醉後各分散。 เมื่อเมาแล้ว ต่างต้องแยกจากกัน 永結無情遊。 มิตรภาพของเรายังคงอยู่ตลอดไป 相期邈雲漢。 และพบกันใหม่ในธารดารา
李白 หลี่ไป๋ ประพันธ์ที่มา วิกพีเดีย http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88_%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B9%8B
|
หนึ่งคนห่างไกล หนึ่งใจห่วงหา
|
|
|
09 เมษายน 2011, 10:36:PM |
ปีศาจสุรา
Special Class LV1 นักกลอนผู้เร่ร่อน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 33
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 232
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 09 เมษายน 2011, 10:36:PM » |
ชุมชน
|
มีสุราช้าอยู่ไยต้องไปร่วม ขอรวบรวมเพื่อนชิดมิตรสหาย ที่เคยร่วมรวมกันวันผ่อนคลาย กวีร่ายกลอนกาพย์รับทราบทัน สนทนาปัญหาสารพัด ยอดเจนจัดหลายคนต่างหนหัน วิเคราะห์แก้แลกคิดเห็นเป็นพัลวัล สุรากลั่นน้ำเมาเรากลั่นใจ มีสุขร่วมรับสุขทั่วทุกหน้า ปัญหามาพาแนวคิดจิตแก้ไข หลายเรื่องราวทุกข์ร้อนให้ผ่อนไป ซึ้งน้ำใจไมตรีจิตรมิตรกวี
|
คนรุปหล่อ หน้าใส ใจเกินร้อย ปอดอ้อยซ้อย หนุ่มน้อยเมืองร้อยเกิน
|
|
|
10 เมษายน 2011, 12:35:AM |
หิมะเงิน
LV1 เด็กน้อยอ่านกลอน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 5
ออฟไลน์
กระทู้: 4
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 10 เมษายน 2011, 12:35:AM » |
ชุมชน
|
สายลม พรมพลิ้ว ทิวยอดไผ่ ดื่มด่ำใจ ไร้มิตร คิดห่วงหา เพียงแสงจันทร์ ปันเงา เคล้าสุรา ข้างกายา หามีใคร ใคร่อยู่เคียง
ยกจอก บอกจันทรา มาทอแสง กระจ่างแจ้ง แสดงจิต มิตรหล่อเลี้ยง ร่ายรำ ทำนอง ก้องสำเนียง แว่วผ่านเสียง เสียดใจ ในอกตรม
เงาจันทร์ ผันเวียน เปลี่ยนขอบฟ้า เหม่อนภา พร่าเลือน เตือนสุขสม ม่านราตรี คลี่กลืน คืนสายลม รอผลิบ่ม ชมธาร ดาริกา
|
|
|
|
11 เมษายน 2011, 05:33:AM |
เพื่อเธอ
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 11 เมษายน 2011, 05:33:AM » |
ชุมชน
|
ร่ำสุรา คราคลอน กลอนสะบัด จันทร์กระจ่าง พร่างจรัส ประภัสสร ยลบุหลัน จันทร์ฉาย ร่ายบทกลอน อรชร กลอนกรุ่น ละมุมละไม ค่ำคืนเหงา เคล้าสุรา จันทราฉาย ดวงดาววาว พราวเรียงราย ให้คลายหวน ประดุจดั่ง อิงแอบ แนบนางครวญ สายลมพริ้ว ปลิวผวน ชวนคนึง เมาสุรา คราใด ใจครุ่นคริว ใบไผ่คล้อย ลอยลิ่ว เป็นทิวสาย ดั่งเช่นรัก ขาดวิ่น สิ้นมลาย เพียงสุรา เคียงกาย ให้คลายครวญ
|
|
|
|
|
13 เมษายน 2011, 12:39:AM |
พรายม่าน
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 13 เมษายน 2011, 12:39:AM » |
ชุมชน
|
อาบแสงจันทร์สั่นพริ้วดั่งริ้วหยก มังกรผกผันไขว่วังไผ่เผิน เมรัยเลิศเปิดดาลสวรรค์เดิน มีหมู่มิตรชิดเชิญหรือเมินชม ฯ
พรายม่าน สันทราย ๑๓.๐๔.๕๔
|
|
|
|
13 เมษายน 2011, 12:54:AM |
บัณฑิตเมืองสิงห์
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 13 เมษายน 2011, 12:54:AM » |
ชุมชน
|
แสงจันทร์นวลชวนชมลมผ่านพัด ไกวกระหวัดผลัดใบจากไม้ร่วง ยามค่ำคืนฝืนหนาวจันทร์พราวดวง กระจ่างสรวงห้วงหาวสกาวตา
นั่งจิบเหล้าเฝ้าโสมกับโฉมฉาย จนร่างกายหายหนาวร้าวภูผา ลิ้มรสจัณฑ์กลั่นเหล้าเคล้าสุรา พร้อมกานดาคราเดือนใกล้เลือนลับ
บัณฑิตเมืองสิงห์
|
|
|
|
|
21 กันยายน 2011, 06:28:PM |
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,752
ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 21 กันยายน 2011, 06:28:PM » |
ชุมชน
|
ร่ำเมรัย ใต้เงาจันทร์ ต้องทัณฑ์โทษ ฟ้าพิโรธ นั่งโขดเขิน กลางเนินไผ่ มือขีดหิน รินกลอนกล ถึงคนไกล เหตุไฉน ใจแสนดำ อำมหิต
ดื่มจอกหนึ่ง ถึงบุตร คนสุดท้อง ดื่มจอกสอง น้องเพื่อน เตือนการกิจ ดื่มจอกสาม ยามเย็น เช่นชมชิด ก้นไหติด ยกดื่ม ลืมจิตตน
จอกหลุดไป ไหกลิ้ง ทิ้งความเงียบ โศกเศร้าเสียบ มืดพลัน พระจันทร์หม่น ลมพัดวูบ ลูบไล้ ไผ่เอนโอน เหลือซากคน ซูบเซียว โดดเดียวดาย ร่างระโหย โอยอ่อน นอนแน่นิ่ง เรไรหริ่ง จันทร์ดาว ราวสหาย คอยประโคม โลมลูบ จูบทั่วกาย มีพระพาย ชายผิว โฉบฉิวเยือน
เหล้ากระฉอก จอกหลุด สะดุดพื้น แข็งตัวฝืน ยืนร่าง หว่างไพรเถื่อน ก้มลงหยิบ คีบจอก ออกเลอะเลือน มือแปดเปื้อน สกนธ์ คราบโคลนดำ
ไร้สุรา อ้าปาก อยากแทบดิ้น คงถึงสิ้น ชีวา บอกลาร่ำ อย่ามึนงง หลงเชื่อ ในเนื้อคำ พล่อยเพ้อพร่ำ คิดถึง รักซึ้งทรวง รพีกาญจน์ 59
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รุ่งอรุณ, สมนึก นพ, รัตนาวดี, นพตุลาทิตย์, บ้านริมโขง, ♥หทัยกาญจน์♥, สะเลเต, สุวรรณ, รัตติกาล, ธันวาคม, yaguza, Music, ไม่รู้ใจ, ยามพระอาทิตย์อัสดง
ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
21 กันยายน 2011, 10:57:PM |
|
|
|