ร้อยกรองอิสระ บทกวีไร้ฉันทลักษณ์
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 พฤศจิกายน 2024, 06:17:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1] 2 3
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ร้อยกรองอิสระ บทกวีไร้ฉันทลักษณ์  (อ่าน 44720 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
01 เมษายน 2011, 02:19:PM
ต้นก้ามปู
LV6 เทพบุตรกลอนประจำอำเภอ
******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 18
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 118


แสงสว่างเมื่อเต็มเจิดจ้าแล้วจักคืนพื้นที่ให้ความมืด


« เมื่อ: 01 เมษายน 2011, 02:19:PM »
ชุมชนชุมชน




๑ เมษายน

หนุ่มสาวทอดฝันกับหาดทรายสายลมแสงแดด
น้ำมันปาล์มหลุดเข้าหลุมดำตั้งแต่อสงไขยปี
ดาราพร้อยพราวอะคร้าวลงมาเรียงวง
คล้องเกศคู่สยุมพร
หอยสังข์แตรประโคม
เปรี้ยง !
เสียงปืนก้องปลาบไปในมณฑล
ผู้คนชะงักงันเพียงครู่
ขุ่นใจกับเสียงรบกวนเพียงครู่
แล้วเริ่มงานฉลองต่อไป
อย่างไรเสีย
เค้กก้อนใหญ่ก็ต้องถูกแบ่ง
ชิ้นใหญ่ถูกส่งให้ประธานแต่ไม่มีใครเห็นมือท่าน
ชิ้นกลางกลาง ๆ ถูกแบ่งให้วงศาคณาญาติสุดสาแหรก
ชิ้นเล็กสุดถูกส่งไปยังยามผู้มีปืนในมือ พร้อมกำชับหนักแน่น
อย่าให้เหลือ!
เขาขานรับหนักแน่นดวงตาทอประกายมุ่งมั่นภักดี
เขามั่นใจว่าจะจัดการได้ทั้งเค้ก ลูกปืน และไมโครโฟน
โปรดฟังอีกครั้ง!


ต้นก้ามปู
1/4/54

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, sucklife, Music, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความมืดมิดเมื่อถึงที่สุด แสงสว่างเพียงปลายเข็มก็เจิดจ้ากว่าหมื่นตะวัน
01 เมษายน 2011, 02:37:PM
ต้นก้ามปู
LV6 เทพบุตรกลอนประจำอำเภอ
******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 18
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 118


แสงสว่างเมื่อเต็มเจิดจ้าแล้วจักคืนพื้นที่ให้ความมืด


« ตอบ #1 เมื่อ: 01 เมษายน 2011, 02:37:PM »
ชุมชนชุมชน



ข่าวคราว

ความจริงหนักอึ้งจมลงในท้องทะเลข่าวลือ
ความเท็จฟองฟ่องล่องลอยเรี่ยผิวน้ำท่ามหมอกควันบางเบา
แสงออร่าเรื่อเรืองออกจากบุรุษที่มองไม่เห็น
สิ่งที่ผู้คนมองเห็นจึงเพียงมายา ครู่คราว
หลับเถิดเสรี พรุ่งนี้ก็ยังไม่มีข่าวดี

1/4/54

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, มะเขียบ, sucklife, Music

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความมืดมิดเมื่อถึงที่สุด แสงสว่างเพียงปลายเข็มก็เจิดจ้ากว่าหมื่นตะวัน
02 เมษายน 2011, 09:19:AM
ต้นก้ามปู
LV6 เทพบุตรกลอนประจำอำเภอ
******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 18
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 118


แสงสว่างเมื่อเต็มเจิดจ้าแล้วจักคืนพื้นที่ให้ความมืด


« ตอบ #2 เมื่อ: 02 เมษายน 2011, 09:19:AM »
ชุมชนชุมชน




๒ เมษายน

เมฆเทาหม่นยังคลุมเหนือมหานครแห่งเทวดา
อากาศเย็นยะเยือกกลางฤดูร้อน
อีกสิบห้าวันพระอาทิตย์จะเข้ามาใกล้โลกที่สุดในรอบปี
เมฆยังปิดกั้นรังสีอบอุ่น

ใกล้สงกรานต์เปลี่ยนผ่านราศรี
นางสงกรานต์มือขวาถือตะขอบังคับช้าง มือซ้ายถือปืน
ทอดร่างนิทราตาพริ้มบนหลังคชสาร แม้จะไร้น้ำมันปาล์ม
โหราทำนายว่าฝนจะตกหกร้อยห่า
ตกในโลกมนุษย์เพียงหกสิบห่า
นี่ตกมาห่าเดียวก็รื้อถอนบ้านเรือน ผู้คน ถนน ไปหกจังหวัด
อีกห้าสิบเก้าห่าไม่รู้จะรื้อถอนอีกกี่จังหวัด
และโหราทำนายว่าทหารจะมีชัย
หมายถึงว่าทหารคิดกอปรการสิ่งใดจักได้ผล?
ปืนที่เปรี้ยงไปมีคนตายในมณฑล
ขอให้เปรี้ยงต่อไปมีอริราชศัตรูเป็นเป้าหมายเถิด

เมฆสีเทานิ่งสงบ
กั้นเอาความอบอุ่นจากแสงสุรีย์ไว้เบื้องบน
ปล่อยความหนาวยะเยือกสยายใยไปทุกหย่อมหญ้า
สัญญาณส่งมา นิ่งเถิดรากหญ้า เทวดาจะสัญจร!

ต้นก้ามปู
2/4/54


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, sucklife, Music, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความมืดมิดเมื่อถึงที่สุด แสงสว่างเพียงปลายเข็มก็เจิดจ้ากว่าหมื่นตะวัน
05 เมษายน 2011, 04:52:PM
ต้นก้ามปู
LV6 เทพบุตรกลอนประจำอำเภอ
******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 18
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 118


แสงสว่างเมื่อเต็มเจิดจ้าแล้วจักคืนพื้นที่ให้ความมืด


« ตอบ #3 เมื่อ: 05 เมษายน 2011, 04:52:PM »
ชุมชนชุมชน



๕ เมษายน

ฝนตกสักพักแล้วก็หยุด
แดดทอประกายเพียงแวบ ฟ้าก็กลับสู่สีเทา
ขุนทหารบอกจะไม่มีการยึดอำนาจ

เมษายน
อากาศร้อนอบอ้าว
ฝนตกไม่เห็นรอเดือนหน้า

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความมืดมิดเมื่อถึงที่สุด แสงสว่างเพียงปลายเข็มก็เจิดจ้ากว่าหมื่นตะวัน
05 เมษายน 2011, 06:38:PM
ภู กวินท์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 364
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 383


สนสามใบ กับใครหลายคน


« ตอบ #4 เมื่อ: 05 เมษายน 2011, 06:38:PM »
ชุมชนชุมชน




ข้างทาง
...............
 ณ ถนนที่ทอดยาวสุดสายตา
เหล่าเทพยดาต่างเริ่งร่า
ดอกนีออนบานสะพรั่ง
เสียงดนตรีกาลขับขานกล่อมภวังค์
ดอกไม้ไร้เดียงสานานาพันธุ์อยู่เรียงราย
ได้กลิ่นหอมจางๆ
แมลงต่างๆเริ่มบินว่อน
เหมือนต้องมนต์ในเกสร
ที่เชื้อเชิญด้วยกลีบขาวอันเปล่าเปลือย
ขาวโพลนด้วยแสงสี
แมลงและดอกไม้หายไปแล้ว
ก่อนที่จะมีแมลงและดอกไม้ใหม่เกิดขึ้น
และก่อนที่จะกลืนหายไปในความมืด…
...อีกครั้ง...

…………............
...ราตรีกาล...
คืนนี้ช่างยาวนานตระการสี
รับรู้ได้ทุกจังหวะผละนาที
ในเกสรชั้นดี…มีแมลง.

...............

 น้อยใจแล้วด้วย







ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, Music, m1, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 เมษายน 2011, 06:58:PM
ภู กวินท์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 364
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 383


สนสามใบ กับใครหลายคน


« ตอบ #5 เมื่อ: 05 เมษายน 2011, 06:58:PM »
ชุมชนชุมชน





ร่างไร้วิญญาณ
.............
วิญญาณทักทายร่าง..
เสมือนหนึ่งว่าเป็นคนแปลกหน้า
ความเงียบ, ดวงดาว
เชื้อเชิญให้รู้จักกัน
รัตติกาลสวมบททูตสันถวไมตรี
ในร่างที่ไร้วิญญาณ
ไม่มีผู้แพ้-ชนะ
ทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดภราดรภาพแห่งความสมดุล
เพื่อที่จะรู้จักความรัก, ความเจ็บปวด, ความผิดหวัง, ความสมหวัง
แต่…ก็ยังไม่รู้จักกันเหมือนเดิม
ปัจจุบัน.ความชินชา เฉยเมย  มีมากและรุนแรงยิ่งกว่าเดิม…
ร่างกาย…วิญญาณ…ก็ไม่หายไปไหน
รอเพียงวันหล่อหลอมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
หรือไม่…ก็แหลกสลาย กระจายไป ไม่รู้จบ ไม่รู้สิ้น.
.....................














ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : กาญจนธโร, รพีกาญจน์, มะเขียบ, yotaga, Music, m1, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 เมษายน 2011, 07:10:PM
ภู กวินท์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 364
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 383


สนสามใบ กับใครหลายคน


« ตอบ #6 เมื่อ: 05 เมษายน 2011, 07:10:PM »
ชุมชนชุมชน



บาป
.................
ภายใต้จิตสำนึก….
ไม่มีใครที่อยู่โดยปราศจากความด่างพร้อย
เมืองนรกโลกันต์ชั้นอเวจี และสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อยู่ใกล้กันนิดเดียว
เจตภูมิกำลังรอรับวิญญาณดวงใหม่
เหล่าทวยเทพยดาและเหล่านางฟ้าต่างร่ายรำอยู่ข้างๆกัน
ท่ามกลางความมืดมิดแห่งรัตติกาล
เสี้ยวหน้า ผุดรับกับความเงียบสงบ รู้สึกนึกคิดถึงแววตาแห่งการเหยียดหยาม
ปลุกจิตสำนึกในส่วนที่เป็นมนุษย์
ตั้งปณิธาน ว่าจะไม่ห่อเหี่ยวสิ้นหวัง ด้วยความละเมียดละไมแห่งดวงจิต
จริงแท้ เป็นแค่คำโป้ปด อาณาจักรแห่งความผิดแผก โสโครกเริ่มครอบงำ
เกิดการวิวาทภายในจิตใจ, หนักหน่วงแสนเข็ญ  เหมือนตกอยู่ในความมืด
ช่างลี้ลับยิ่งนัก รอวันที่จะก้าวข้ามไปสู่อีกฟากฝั่งหนึ่ง
ด้วยดวงจิต, ด้วยศรัทธา และด้วยนิจนิรันดร์แห่งสางสูร.

........................
ดั่งภูตผีวิญญาณซาตานหลอน
แอบหลบซ่อนอยู่หลังหวังมาหา
ไม่อาจหนีดวงจิตติดกายา
พิพากษาจองจำด้วยกรรมเวร

พวกมนุษย์ทุกตนเป็นคนบาป
ชะตาอาบสาบส่งตรงกางเขน
เริ่มหวาดกลัวหัวหดจากกฎเกณฑ์
ล้วนเศษเดน, เศษกรรมที่ทำมา.

...........................

 น้อยใจแล้วด้วย





ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, m1, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 เมษายน 2011, 08:06:AM
ต้นก้ามปู
LV6 เทพบุตรกลอนประจำอำเภอ
******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 18
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 118


แสงสว่างเมื่อเต็มเจิดจ้าแล้วจักคืนพื้นที่ให้ความมืด


« ตอบ #7 เมื่อ: 07 เมษายน 2011, 08:06:AM »
ชุมชนชุมชน




ข้างทาง
...............
 ณ ถนนที่ทอดยาวสุดสายตา
เหล่าเทพยดาต่างเริ่งร่า
ดอกนีออนบานสะพรั่ง
เสียงดนตรีกาลขับขานกล่อมภวังค์
ดอกไม้ไร้เดียงสานานาพันธุ์อยู่เรียงราย
ได้กลิ่นหอมจางๆ
แมลงต่างๆเริ่มบินว่อน
เหมือนต้องมนต์ในเกสร
ที่เชื้อเชิญด้วยกลีบขาวอันเปล่าเปลือย
ขาวโพลนด้วยแสงสี
แมลงและดอกไม้หายไปแล้ว
ก่อนที่จะมีแมลงและดอกไม้ใหม่เกิดขึ้น
และก่อนที่จะกลืนหายไปในความมืด…
...อีกครั้ง...

…………............
...ราตรีกาล...
คืนนี้ช่างยาวนานตระการสี
รับรู้ได้ทุกจังหวะผละนาที
ในเกสรชั้นดี…มีแมลง.

...............

 น้อยใจแล้วด้วย













 ชอบใจๆ

ชอบนะ ดอกนีออน กลีบขาวอันเปล่าเปลือย เกสร แมลง
เธอว่า ในเกสรชั้นดี...มีแมลง
ฉันว่ามิใช่เสมอไปหรอก
...แมลงต่างตอมทุกมาลี

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, Music, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความมืดมิดเมื่อถึงที่สุด แสงสว่างเพียงปลายเข็มก็เจิดจ้ากว่าหมื่นตะวัน
07 เมษายน 2011, 08:17:AM
ต้นก้ามปู
LV6 เทพบุตรกลอนประจำอำเภอ
******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 18
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 118


แสงสว่างเมื่อเต็มเจิดจ้าแล้วจักคืนพื้นที่ให้ความมืด


« ตอบ #8 เมื่อ: 07 เมษายน 2011, 08:17:AM »
ชุมชนชุมชน





ร่างไร้วิญญาณ
.............
วิญญาณทักทายร่าง..
เสมือนหนึ่งว่าเป็นคนแปลกหน้า
ความเงียบ, ดวงดาว
เชื้อเชิญให้รู้จักกัน
รัตติกาลสวมบททูตสันถวไมตรี
ในร่างที่ไร้วิญญาณ
ไม่มีผู้แพ้-ชนะ
ทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดภราดรภาพแห่งความสมดุล
เพื่อที่จะรู้จักความรัก, ความเจ็บปวด, ความผิดหวัง, ความสมหวัง
แต่…ก็ยังไม่รู้จักกันเหมือนเดิม
ปัจจุบัน.ความชินชา เฉยเมย  มีมากและรุนแรงยิ่งกว่าเดิม…
ร่างกาย…วิญญาณ…ก็ไม่หายไปไหน
รอเพียงวันหล่อหลอมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
หรือไม่…ก็แหลกสลาย กระจายไป ไม่รู้จบ ไม่รู้สิ้น.
.....................


















 ชอบใจๆ
ใช่หล่ะ วิญญามองร่างราวแปลกหน้า
แต่ทว่า สมดุล นั้นยากทนทาน
ร่างนี้คงแหลกสลายก่อนวันหลอมรวม
สินะ !?

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความมืดมิดเมื่อถึงที่สุด แสงสว่างเพียงปลายเข็มก็เจิดจ้ากว่าหมื่นตะวัน
07 เมษายน 2011, 08:52:AM
ต้นก้ามปู
LV6 เทพบุตรกลอนประจำอำเภอ
******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 18
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 118


แสงสว่างเมื่อเต็มเจิดจ้าแล้วจักคืนพื้นที่ให้ความมืด


« ตอบ #9 เมื่อ: 07 เมษายน 2011, 08:52:AM »
ชุมชนชุมชน




บาป
.................
ภายใต้จิตสำนึก….
ไม่มีใครที่อยู่โดยปราศจากความด่างพร้อย
เมืองนรกโลกันต์ชั้นอเวจี และสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อยู่ใกล้กันนิดเดียว
เจตภูตกำลังรอรับวิญญาณดวงใหม่
เหล่าทวยเทพยดาและเหล่านางฟ้าต่างร่ายรำอยู่ข้างๆกัน
ท่ามกลางความมืดมิดแห่งรัตติกาล
เสี้ยวหน้า ผุดรับกับความเงียบสงบ รู้สึกนึกคิดถึงแววตาแห่งการเหยียดหยาม
ปลุกจิตสำนึกในส่วนที่เป็นมนุษย์
ตั้งปณิธาน ว่าจะไม่ห่อเหี่ยวสิ้นหวัง ด้วยความละเมียดละไมแห่งดวงจิต
จริงแท้ เป็นแค่คำโป้ปด อาณาจักรแห่งความผิดแผก โสโครกเริ่มครอบงำ
เกิดการวิวาทภายในจิตใจ, หนักหน่วงแสนเข็ญ  เหมือนตกอยู่ในความมืด
ช่างลี้ลับยิ่งนัก รอวันที่จะก้าวข้ามไปสู่อีกฟากฝั่งหนึ่ง
ด้วยดวงจิต, ด้วยศรัทธา และด้วยนิจนิรันดร์แห่งสางสูร.

........................
ดั่งภูตผีวิญญาณซาตานหลอน
แอบหลบซ่อนอยู่หลังหวังมาหา
ไม่อาจหนีดวงจิตติดกายา
พิพากษาจองจำด้วยกรรมเวร

พวกมนุษย์ทุกตนเป็นคนบาป
ชะตาอาบสาบส่งตรงกางเขน
เริ่มหวาดกลัวหัวหดจากกฎเกณฑ์
ล้วนเศษเดน, เศษกรรมที่ทำมา.

...........................

 น้อยใจแล้วด้วย










 งง....

เธอเอ๋ย ฉันสงสัย
โลกันต์ และอเวจี อยู่คนละที่ถึงจะแม้จะเป็นชื่อนรก
เจตภูติ คือมนัส คือใจ คืออัตตา คืออาตมา ไฉนมารอรับวิญญาณดวงใหม่
จิตสำนึกแห่งมนุษย์กับเหล่าเทวามิได้ต่างกันเลย
คือการปลาบปลื้มกับกามคุณทั้ง ๕ ผิดแต่ว่ามนุษย์กระทำได้ด้วยกายเนื้อเท่านั้น
สางสูรนั้นมีนิรันดร์หรือ? หากสางคือรุ่งสาง สูรคือสูรยคือพระอาทิตย์
สางสูรคือรุ่งแสงสุริยา หรือจะมีตราบนิรันดร์?
เอาเถอะ มนุษย์ทุกผู้ต่างประกอบกรรม
หากยังไม่กระทำจะมีบาปได้อย่างไร
สงสัยนัก



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ภู กวินท์, m1, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความมืดมิดเมื่อถึงที่สุด แสงสว่างเพียงปลายเข็มก็เจิดจ้ากว่าหมื่นตะวัน
07 เมษายน 2011, 08:58:AM
ต้นก้ามปู
LV6 เทพบุตรกลอนประจำอำเภอ
******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 18
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 118


แสงสว่างเมื่อเต็มเจิดจ้าแล้วจักคืนพื้นที่ให้ความมืด


« ตอบ #10 เมื่อ: 07 เมษายน 2011, 08:58:AM »
ชุมชนชุมชน



๗ เมษายน

เมฆเทายังขู่บนฟ้า
แสงสุรีย์อันกราดเกรี้ยว แผดมาเป็นระยะ
ลมร้อนกระหน่ำโบยทุกที่ผ่าน
ดินระแหง สะเทือน ไหว
หัวใจผู้คนทำด้วยอะไรนะ?

วิปริต วิปริต วิปริต
โลกหรือมนุษย์ที่
วิปริต ?

ต้นก้ามปู
7/4/54

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : yotaga, รพีกาญจน์, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความมืดมิดเมื่อถึงที่สุด แสงสว่างเพียงปลายเข็มก็เจิดจ้ากว่าหมื่นตะวัน
07 เมษายน 2011, 10:52:AM
ณัฐชรี
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 106
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 126


ยิ่งมืดยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน


« ตอบ #11 เมื่อ: 07 เมษายน 2011, 10:52:AM »
ชุมชนชุมชน



คติพจน์ของนักปรัชญา
ธรรมพจน์ของแต่ละศาสนา
อุดมคติที่สาญสูญ
บางอย่างถูกซ่อนไว้
ในห้วงแห่งมหาจักวาล

มนุษย์ผู้เหยียบย่ำธุลีดิน
ตามหาอะไรบางอย่างที่ถูกซ่อนไว้
ในแผ่นกระดาษของตำรา
ในพื้นพิภพและมหาสมุทร
ในแผ่นฟ้านภา อวกาศอันกว้างใหญ่
ในคติพจน์ของนักปรัชญา
ในธรรมพจน์ของศาสนา

พวกเขาตามหาและตามหา
ทั้ง ทั้ง ที่เขาก็ไม่รู้ว่าตามหาอะไร
เพียงเพื่อต้องการบางอย่างที่(อาจ)ถูกซ่อนไว้
ที่ไหนสักแห่งที่เขาเองก็ไม่รู้อีกเช่นกัน
แต่มันอาจเปลี่ยนแปลงหน้าวัติศาสตร์ทั้งโลก
เขาคิดเช่นนั้น!

พระสูตรและพุทธพจน์
"ปฏิจสมุปบาท"
ถูกค้นพบ
อธิบายสิ่งที่เขาตามหา
แต่เขาหาได้สนใจ
ไม่รับรู้
ไม่ศึกษา
มองไม่เห็น
หรือ...
มองข้ามไป

มนุษย์
มนุษย์
มนุษย์...
ตามหา
"อจินไตย"!

-ภาพจากอินเทอร์เนท

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, Music, m1, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

we will be forever
08 เมษายน 2011, 10:30:AM
ต้นก้ามปู
LV6 เทพบุตรกลอนประจำอำเภอ
******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 18
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 118


แสงสว่างเมื่อเต็มเจิดจ้าแล้วจักคืนพื้นที่ให้ความมืด


« ตอบ #12 เมื่อ: 08 เมษายน 2011, 10:30:AM »
ชุมชนชุมชน



๘ เมษายน

ท้องฟ้าระบายสีเทายะเยือก
กรมอุตุฯ ทำนายว่าฝนจะบ้าคลั่งฝั่งอีสาน
กรุงเทพฯ ฝูงตึกระฟ้าระดะทึมท่ามหมอกขาว
รถราบนถนนไขว้ปานใยแมงมุมเบาบาง
ตาจ้องมองยังป้ายข้างหน้า
"ทางออก"
จะออกไปไหน?...
ออกจากความโล่งของถนนสู่ความวุ่นวายของเมือง?
ออกจากภาพธรรมชาติสู่ภาพสังเคราะห์ใต้ตึกตระหง่าน?
ออกจากผู้บังคับพวงมาลัยเป็นผู้ทำตามคำสั่งเจ้านาย
ออกจากอิสระสู่การจองจำ
ในห้องระบายสีนีออนยะเยือก

ต้นก้ามปู
8/4/54

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : กาญจนธโร, รพีกาญจน์, Music, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความมืดมิดเมื่อถึงที่สุด แสงสว่างเพียงปลายเข็มก็เจิดจ้ากว่าหมื่นตะวัน
11 เมษายน 2011, 12:45:PM
ต้นก้ามปู
LV6 เทพบุตรกลอนประจำอำเภอ
******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 18
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 118


แสงสว่างเมื่อเต็มเจิดจ้าแล้วจักคืนพื้นที่ให้ความมืด


« ตอบ #13 เมื่อ: 11 เมษายน 2011, 12:45:PM »
ชุมชนชุมชน



คติพจน์ของนักปรัชญา
ธรรมพจน์ของแต่ละศาสนา
อุดมคติที่สาญสูญ
บางอย่างถูกซ่อนไว้
ในห้วงแห่งมหาจักวาล

มนุษย์ผู้เหยียบย่ำธุลีดิน
ตามหาอะไรบางอย่างที่ถูกซ่อนไว้
ในแผ่นกระดาษของตำรา
ในพื้นพิภพและมหาสมุทร
ในแผ่นฟ้านภา อวกาศอันกว้างใหญ่
ในคติพจน์ของนักปรัชญา
ในธรรมพจน์ของศาสนา

พวกเขาตามหาและตามหา
ทั้ง ทั้ง ที่เขาก็ไม่รู้ว่าตามหาอะไร
เพียงเพื่อต้องการบางอย่างที่(อาจ)ถูกซ่อนไว้
ที่ไหนสักแห่งที่เขาเองก็ไม่รู้อีกเช่นกัน
แต่มันอาจเปลี่ยนแปลงหน้าวัติศาสตร์ทั้งโลก
เขาคิดเช่นนั้น!

พระสูตรและพุทธพจน์
"ปฏิจสมุปบาท"
ถูกค้นพบ
อธิบายสิ่งที่เขาตามหา
แต่เขาหาได้สนใจ
ไม่รับรู้
ไม่ศึกษา
มองไม่เห็น
หรือ...
มองข้ามไป

มนุษย์
มนุษย์
มนุษย์...
ตามหา
"อจินไตย"!

-ภาพจากอินเทอร์เนท
ชอบใจๆ

ชอบนะ


มนุษย์
ตามหา
"อจินไตย"!

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ภู กวินท์, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความมืดมิดเมื่อถึงที่สุด แสงสว่างเพียงปลายเข็มก็เจิดจ้ากว่าหมื่นตะวัน
11 เมษายน 2011, 12:57:PM
ต้นก้ามปู
LV6 เทพบุตรกลอนประจำอำเภอ
******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 18
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 118


แสงสว่างเมื่อเต็มเจิดจ้าแล้วจักคืนพื้นที่ให้ความมืด


« ตอบ #14 เมื่อ: 11 เมษายน 2011, 12:57:PM »
ชุมชนชุมชน



11 เมษายน

ฝนพรำตอนเช้า
แดดอุ่นตอนเที่ยง
เมฆมัวตอนเย็น
ท่ามความผิดปกติ
ความปกติช่างเงียบงัน


ต้นก้ามปู
11/4/54

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : กาญจนธโร, รพีกาญจน์, sucklife, ภู กวินท์, Music, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความมืดมิดเมื่อถึงที่สุด แสงสว่างเพียงปลายเข็มก็เจิดจ้ากว่าหมื่นตะวัน
11 เมษายน 2011, 01:45:PM
ทอฝัน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 455
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,502

...ทอฝัน ขะรับ...ทอฝัน...!!!


« ตอบ #15 เมื่อ: 11 เมษายน 2011, 01:45:PM »
ชุมชนชุมชน




11 เมษายน

ฝนพรำตอนเช้า
แดดอุ่นตอนเที่ยง
เมฆมัวตอนเย็น
ท่ามความผิดปกติ
ความปกติช่างเงียบงัน


ต้นก้ามปู
11/4/54

.......................................................


ปกติคือความว่าง
มิบนมิปรุง
คือตัวมันเอง
คือ...สุญญตา

"ทอฝัน"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : กาญจนธโร, รพีกาญจน์, ภู กวินท์, m1, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หัวโขมย...เรียงร้อยจากห้วงใจ มิตรภาพยิ่งใหญ่ ไร้กาลเวลา
11 เมษายน 2011, 02:20:PM
ต้นก้ามปู
LV6 เทพบุตรกลอนประจำอำเภอ
******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 18
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 118


แสงสว่างเมื่อเต็มเจิดจ้าแล้วจักคืนพื้นที่ให้ความมืด


« ตอบ #16 เมื่อ: 11 เมษายน 2011, 02:20:PM »
ชุมชนชุมชน


หัวใจฉันมิได้ปกติ
มิใช่สุญญตา
จึงสัมผัสใจ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : กาญจนธโร, รพีกาญจน์, ภู กวินท์

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความมืดมิดเมื่อถึงที่สุด แสงสว่างเพียงปลายเข็มก็เจิดจ้ากว่าหมื่นตะวัน
11 เมษายน 2011, 02:46:PM
ทอฝัน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 455
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,502

...ทอฝัน ขะรับ...ทอฝัน...!!!


« ตอบ #17 เมื่อ: 11 เมษายน 2011, 02:46:PM »
ชุมชนชุมชน



หัวใจฉันมิได้ปกติ
มิใช่สุญญตา
จึงสัมผัสใจ


เท่าทันผัสสะ
พินิจ...สละกระพี้
เหลือแก่น
สุดท้าย...
ว่าง...คือจริง...!!!

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, sucklife, ภู กวินท์, Music, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หัวโขมย...เรียงร้อยจากห้วงใจ มิตรภาพยิ่งใหญ่ ไร้กาลเวลา
12 เมษายน 2011, 08:42:AM
ต้นก้ามปู
LV6 เทพบุตรกลอนประจำอำเภอ
******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 18
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 118


แสงสว่างเมื่อเต็มเจิดจ้าแล้วจักคืนพื้นที่ให้ความมืด


« ตอบ #18 เมื่อ: 12 เมษายน 2011, 08:42:AM »
ชุมชนชุมชน




        ไม่มีอันใดจริงหรอก
        ที่สัมผัสคือสัมพัทธ์
        กระพี้และแก่นก็ไม่จริงหรอก
        ที่สัมผัสคือสัมพัทธ์
        ว่างและจริงก็ไม่จริงหรอก
        ที่สัมผัสคือสัมพัทธ์
        ฉันและเธอก็ไม่จริงหรอก
        ที่สัมผัสคือสัมพัทธ์

        สมมติว่ามีว่าง มีจริง
        สมมติว่ามีแก่น มีกระพี้
        สมมติว่ามีเธอ มีฉัน
        สมมติว่าเรารักกัน

        สัมผัสก็ผสานตระการฝัน
        ซึ้งอณูวิญญาณด่ำประดุจสุดประมาณ
        ปีติเอ่อท้นท่วมโลกธาตุปรารถนา
        มีรักเถิด ขณะสถิตในสมมติ
        สิ้นจากนี้เราฤๅพานพบ

        ต้นก้ามปู
        12/4/54

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : กาญจนธโร, รพีกาญจน์, sucklife, ภู กวินท์, Music, m1, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความมืดมิดเมื่อถึงที่สุด แสงสว่างเพียงปลายเข็มก็เจิดจ้ากว่าหมื่นตะวัน
12 เมษายน 2011, 08:45:AM
ต้นก้ามปู
LV6 เทพบุตรกลอนประจำอำเภอ
******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 18
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 118


แสงสว่างเมื่อเต็มเจิดจ้าแล้วจักคืนพื้นที่ให้ความมืด


« ตอบ #19 เมื่อ: 12 เมษายน 2011, 08:45:AM »
ชุมชนชุมชน



ความหวัง

ฉันหยิบบทกวีเรื่องความหวัง
ของอันเนเกร็ต* ขึ้นมาอ่าน

"จะกรำผ่านเหมันตฤดูได้อย่างไร
หากไร้หวังแห่งวสันตฤดู
จะทนกับการอำลาได้อย่างไร
หากไร้หวังแห่งการพบกันใหม่

มีแต่ความหวัง
ที่เรืองรองอยู่เสมอ เท่านั้น
ที่จะช่วยเราพ้นผ่าน
คืนเดือนดับอันยาวนาน"

บางอย่างก่อประกายเรืองรองในมืดมิด
เธอโปรดเป็นความหวังของฉันเถิด
ฟ้าสีทอง


ต้นก้ามปู
12/4/54

--------
*Annegret Kronenberg

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : กาญจนธโร, รพีกาญจน์, ภู กวินท์, sucklife, Music, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความมืดมิดเมื่อถึงที่สุด แสงสว่างเพียงปลายเข็มก็เจิดจ้ากว่าหมื่นตะวัน
หน้า: [1] 2 3
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s