ตื่นขึ้นมา...เช้านี้...หน้ายิ้มเฉ่ง
ฝันเต่งเต่ง...เมื่อคืน...ชื่นหนักหนา
สายลมพลิ้ว...ปลิวไหว...ในอุรา
ก็คุณมา...เข้าฝัน...นั้นเมื่อคืน
ยิ้มให้กัน...วันนี้...มีทั้งใจ
ให้เอาไหม...ใจนี้...ที่สดชื่น
อยากจะฝัน...ถึงคุณ...จนลืมตื่น
ไม่อาจฝืน...ก็ใจ...มันรักคุณ
ยามพระอาทิตย์อัสดง
...ขอยึดเอา...รสหวาน...ในกานท์นี้
มาใส่กล้วย...บวชชี...คงมีลุ้น
หวังเจ้าของ...เขาเอื้อ...เกื้อการุณย์
ถือเป็นบุญ...ของคน...ที่หม่นทรวง
...ทานขนม...ถ้วยน้อย...พร้อมรอยยิ้ม
สุขเหลือเกิน...เพลินชิม...ปริ่มในห้วง
แสนอิ่มอก...อิ่มใจ...กว่าไหนปวง
คงเป็นช่วง...ตกหลุมรัก...ของนักกลอน...อ่ะนะ...!!!
..........................//ดรีม ว่าอย่างไร น้องดง ผู้คงมั่น
ทอฝันนั้น ยังเอ่ย เผยคำป้อน
ช่างโชคดี มีมิตร คิดอาทร
เอ่ยอักษร ผูกใจ ให้รู้มา
รักของเพื่อน แท้จริง ยิ่งหายาก
ออกจากปาก ฝากเรียง เคียงข้างหนา
ใจประสาน อย่าหลบ สบสายตา
ด้วยนำพา ซึ่งน้ำใจ สดใสงาม
ไม่รู้ใจ
เปิดหน้ากลอน..อ้อนมา..พาหวั่นไหว
ใครนะใคร..ไหนกัน..พลันเกรงขาม
อ้อเพื่อนดรีม..พี่วิ..แม่คนงาม
ดงหลงตาม..ลงกลอน..อัอนกันไป
โชคดีจริง..นั้นแหละ..อย่างที่ว่า
ที่กล่าวมา..พาดง..ให้หลงไหล
จึงต้องเข้า..บ้านกลอน..อ้อนด้วยใจ
สุดหวั่นไหว..ทุกครั้ง..ที่ลงกลอน
มีเพื่อนรัก..พี่แท้..หายากยิ่ง
เป็นทุกสิ่ง..ดังหวัง..ยังคอยสอน
น้องทำผิด..คิดผิด..จิตอาวรณ์
คอยต่อกลอน..อย่าจร..รอนจากไกล
ยามพระอาทิตย์อัสดง