..ต่างคนต่างไป..
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
03 พฤศจิกายน 2024, 03:11:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ..ต่างคนต่างไป..  (อ่าน 6152 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
25 กุมภาพันธ์ 2011, 02:50:PM
Music
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 754
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,682


ขว้างไปยิ่งแรง-ยิ่งกลับมาเร็ว


« เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2011, 02:50:PM »
ชุมชนชุมชน

<a href="http://www.youtube.com/v/D-LRi1oP7nU&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/D-LRi1oP7nU&amp;rel=0&amp;fs=1</a>




"ต่างคนต่างไป"


เหลือแต่ความรู้สึก..ลึกกว่าพูด
ยากพิสูจน์แก่นแท้..ว่าแค่ไหน
ฝากเสียงเพลงมาลา..แสนอาลัย
คือ..ต่างคนต่างไป..จำไกลกัน

คนละฟากฝั่งฟ้า..ด้นมาพบ
ช่วยกันลบ..ความลับประทับขวัญ
ใยขอบฟ้าอีกฟากพรากนิรันดร์
ร่ำรำพันโรยลา..ทุกนาที

ไม่เหลือเลยความหมายซ่อนปลายฝัน
ทรยศต่อกัน......จนป่นปี้
จินตนา..พร่ามัวรู้ตัวดี
เปรียบกวีหลงเสียงขึ้นเขียงเอง

ดาวประดับกับฟ้า..ล้าตะวัน
ใจกับจันทร์แหว่งเว้า..เค้าข่มเหง
สายนทีริ้วระลอก..เพื่อบอกเพลง
แผ่วบรรเลงลึกบาด..แทบขาดใจ

ไฉนเลยซ่อนปม..ไร้ชมชื่น
แอบสะอื้นยามหลับจนจับไข้
ทุกฟ้าสางทางนี้..มืดที่ใคร
ด้านห่างไกลใช่ว่า..ด้านอาวรณ์

แสงแห่งเทียนพลิ้วไหวเปลวไฟนิ่ง
เงาก็ยิ่งเย้าหยอกเหมือนหลอกหลอน
น้ำตาเทียนเพียรร่วงทุกช่วงตอน
นี่คือกลอน..คือกรรม..ระบำใจ

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

...อย่าคิดว่ายาก.แต่ทำได้../..ควรทำให้ได้.แม้มันจะยาก...
25 กุมภาพันธ์ 2011, 03:51:PM
บัณฑิตเมืองสิงห์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 378
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 608



« ตอบ #1 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2011, 03:51:PM »
ชุมชนชุมชน

เมื่อคนเราหมองหมางต้องร้างจาก
จำต้องพรากบากบั่นอันทุกขัง
จะมีใครใช้กรรมเพียงลำพัง
ฤๅประดังประดาน้ำตานอง

เมื่อวันวานหวานชื่นคืนหอมกรุ่น
รักดรุณพลันดับลับสยอง
เหลือแค่เพียงใจนี้ที่ลำพอง
ขยั้นจ้องขยอจี้ที่ลี้ภัย

ถึงเวลาแล้วนะต้องผละออก
ความช้ำชอกบอกเหตุเทวศไหน
คร่ำน้ำตาครวญครางพลางอาลัย
จากนี้ไปต้องร้างต้องห่างลา

อย่าได้เจอกันอีกแม้นซีกโลก
ความทุกข์โศกเศร้าซ้ำเจ้ากรรมบ้า
เหมือนศรแหลมทิ่มรักปักอุรา
ทรมาน์ทั้งตัวชั่วกาลกัลป์



บัณฑิตเมืองสิงห์
ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
25 กุมภาพันธ์ 2011, 04:01:PM
ตะวันฉาย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 427
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,159



« ตอบ #2 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2011, 04:01:PM »
ชุมชนชุมชน


...ทศวรรษ ยังแปรผัน นับวันห่าง
รักมาจางเหลือรอยคอยสั่นไหว
ภาพสะท้อนตอนจบพบทางไป
สิ้นเยื่อใยมิเหลือเฝ้าเอื้อคำ

...เมื่อนัยน์ตา ไร้เงาฉัน ในวันหนึ่ง
รักถูกดึงให้จากฝากเช้าค่ำ
น้ำตาหล่นปนสะอื้นยื่นกระทำ
ฝากกะหน่ำคือแผลแผ่ทรวงใน

...ก่อเกิดปมจมนานบนลานรัก
เข้าจมปักทิ่มแทงแรงไฉน
เมื่อต่างคนต่างคิดจิตต่างใจ
ต่างคนไปใครเล่า...เฝ้าแต่จำ..
ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ว่างเปล่า
25 กุมภาพันธ์ 2011, 04:19:PM
GreenMonkey
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 144
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 163


[ think possitive ]


« ตอบ #3 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2011, 04:19:PM »
ชุมชนชุมชน

เมื่อวันเก่า เหงาหงอย รอคอยรัก
แม้นานนัก ชีวิต ที่คิดหา
ใครสักคน ที่เขา จะเข้ามา
เมื่อเวลา นำให้ ได้พบกัน

แล้วเมื่อรัก หักร้าง บนทางร้าว
ทุกย่างก้าว เหมือนกับ ถูกดับฝัน
ขอเพียงใจ จงจำ สิ่งสำคัญ
ว่าเรานั้น เคยอ้างว้าง อย่างลำพัง

ทางที่เรา เคยคู่ สู่ทางแยก
คงไม่แปลก หากใจ จะไร้หวัง
มองชีวิต เราดู คงอยู่ยัง
อีกสักครั้ง เพื่อพรุ่งนี้ ของชีวิต

จงต่างคน ต่างไป อย่าได้พบ
ถึงจุดจบ บนทาง ที่สร้างผิด
ค่อยค่อยก้าว ก้าวอีกที ทีละนิด
อย่ายึดติด กับรัก ที่มักลวง

.. GreenMonkey ..
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

!!~ I want to be a normal man ~!!
25 กุมภาพันธ์ 2011, 04:36:PM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #4 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2011, 04:36:PM »
ชุมชนชุมชน



สองเราเคยร่วมทางอย่างมุ่งมั่น
ความสัมพันธ์แน่นเหนียวดั่งเกลียวคลื่น
ต่างร่วมทุกข์ร่วมฝันทุกวันคืน
ความหวานชื่นรื่นรมย์เฝ้าห่มจินต์

แต่วันนี้ที่รักกลับผลักไส
ตัดเยื่อใยรักเก่าเราหมดสิ้น
ต้องฝืนตรมก้มหน้าน้ำตาริน
จะให้ผินหน้าไปที่ไหนกัน?

มิคิดถึงความหลังครั้งเราสอง
เคยร่วมห้องหอรักถักทอฝัน
มีทุกข์ร่วมสุขร่ายรำบายพลัน
ดั่งราหูอมจันทร์ทุกวันมา

วันนี้ลายออกแล้วต้องแจวจาก
จึ่งจำพรากจากห้องเสน่หา
รักไม่รื่นฝืนทนหม่นวิญญาณ์
แม้ชาติหน้าชาติไหนอย่าได้เจอ

 งอนแล้วด้วย

"ปรางค์  สามยอด"
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

25 กุมภาพันธ์ 2011, 06:00:PM
กาญจนธโร
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 307
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 427


...ก็แค่คนเรียงคำ


/profile.php?id=100002947136120&ref=tn_tnmn
เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2011, 06:00:PM »
ชุมชนชุมชน

                                                      หากวันใด ไร้คนซึ่ง เคยซึ้งฝัน
                                     คงเกินกั้น ปั้นทำนบ กลบตาใส
                                     วันหวังวาด พลาดหวัง พังครืนไป
                                     ที่หลั่งไหล สายน้ำตา บ่าโครมครัน
                                                                                            ลาตายดีกว่าตู
                                        สรรสิ่งดี ที่ค่าควร หวนรำลึก
                                     ตกผลึก ผนึกใส่ ในอกฉัน
                                     จักเก็บออม ถนอมนาน ผ่านคืนวัน
                                     ใว้ปลอบขวัญ วันล้าโรย โหยแรงใจ..... ปากแดงๆ จูจุ๊บ
                                                  ปากแดงๆ จูจุ๊บ ปากแดงๆ จูจุ๊บ ปากแดงๆ จูจุ๊บ ปากแดงๆ จูจุ๊บ
ปากแดงๆ จูจุ๊บ
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

25 กุมภาพันธ์ 2011, 07:39:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #6 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2011, 07:39:PM »
ชุมชนชุมชน

วันโบกมือ อำลา คราต้องจาก
มีหลายหลาก ความนัย จากใจฉัน
บรรยากาศ ก่อนเก่า เราอยู่กัน
หักสะบั้น แน่หรือ ถืออารมณ์

แน่ใจนะ ว่าหมาย จะไกลห่าง
สู่เส้นทาง สุดฝืน ความขื่นขม
อ้อมแขนกอด เริงรื่น เคยชื่นชม
นั่งรับลม ราตรี ที่ผ่านมา

แย่งกันชี้ นับดาว สกาวเด่น
กระพริบเห็น วาววับ จับขอบฟ้า
มีความสุข เอมใจ ในอุรา
ลมพัดพา หนาวนัก หนุนตักนอน

จับปลายผม ของเจ้า เฝ้าเย้าหยอก
มีกลับกลอก แหย่เล่น เป็นตัวหนอน
กระดิกดี๊ เริงใจ ได้ไชชอน
ไล่ตะลอน ติ่งหู ดูชอบใจ

ส่งประกาย ชายตา มาสะท้อน
เกิดยอกย้อน ในจิต คิดหวั่นไหว
แก้มเปล่งปลั่ง เอ่ยถาม ย้ำของใคร
หล่อนบอกใบ้ ไม่รู้ ให้ดูเอา

ยังโอบคอ โน้มไป ใช้เฉลย
ไม่เอื้อนเอ่ย รู้ตาม ความเงียบเหงา
ค่ำคืนนี้ ราตรีนั้น มันของเรา
ถึงรุ่งเช้า รับอรุณ รู้อุ่นกาย

เหลือบตามอง ใกล้ร่าง ข้างซ้ายขวา
ไม่พบหน้า ตรงที่ หลบหนีหาย
ระเบียงนี้ มีหลอน นอนเดียวดาย
มาฝันร้าย พอสว่าง ต่างแยกไป.

ด.ช. นพ
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s