31 มกราคม 2011, 09:12:AM |
♥ กานต์ฑิตา ♥
|
|
« เมื่อ: 31 มกราคม 2011, 09:12:AM » |
ชุมชน
|
เพราะบุพเพสร้างสรรค์บันดาลให้ สองเราได้พบกันในวันหนึ่ง ตาสบตาพารักเหมือนชักดึง ความซาบซึ้งตรึงทรวงเหมือนบ่วงรัด
ระยะเวลารู้จักแม้จะสั้น แต่สุขสันต์หัวใจไม่ติดขัด เธอเป็นแสงสว่างนำทางชัด เธอเป่าปัดทุกข์ตรมที่ห่มใจ ถึงคราวต้องจำพรากจากกันหรือ? เธอนั้นคือความหวังพลังใหญ่ เธอเป็นมากยากบอกว่าสิ่งใด จะหัวเราะร้องไห้ก็เพราะเธอ
วันนี้คงไม่มีอีกแล้วหนอ มิกล้าขอทวงสิทธิ์เพราะอาจเก้อ จุมพิตหวานสองคนเคยปรนเปรอ อยู่ในใจเสมอด้วยอาวรณ์
เราคงสร้างบุญร่วมกันมาน้อย รักจึงลอยเคว้งคว้างทางร่วมหมอน คงมิอาจหวังอยู่เคียงคู่นอน หัวใจอ่อนจึงแยกแทบแหลกลาญ. "กานต์ฑิตา" ๓๑ มกราคม ๒๕๕๔
|
|
|
|
|
31 มกราคม 2011, 05:45:PM |
สมนึก นพ
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 31 มกราคม 2011, 05:45:PM » |
ชุมชน
|
สามสิบเอ็ด มกรา ปีห้าสี่ บันทึกมี ที่หมาย ไว้เปิดอ่าน ว่าคุณครู ผู้สอน เรื่องกลอนกานท์ คิดจากบ้าน หลังนี้ หายหนีไกล
ชายเสื้อมา เช็ดหน้า ตาละห้อย เขาคิดคอย หลบฉาก จากไปไหน เห็นข้อความ สะท้อน ย้อนยอกใจ น้ำตาไหล ต่อความ ตามมีกัน
กำลังใจ ต่างมอบ ตอบรับรู้ อบอุ่นอยู่ รู้คิด จิตสุขสันต์ หากย้อนหลัง กลับไป ไม่นานวัน ความผูกพันธ์ ฉันท์เพื่อน ต่างเลือนลาง
อรุณสวัสดิ์ คัดหมาย ส่งไปสู่ ได้รับรู้ ก่อนนา ตอนฟ้าสาง กำลังใจ มอบให้ ไม่อำพราง ทุกทุกอย่าง เจตนา ว่ามาดี
จะขอเป็น เงาใกล้ ดังได้กล่าว ยิ่งปวดร้าว เพิ่มใน ใจผมนี่ ความห่วงใย ทับถม จมทวี ด้วยวจี ไม่กล่าว เล่าสู่กัน
นะคุณนะ ร้องขอ อย่ารอหลบ ด้วยอยากพบ อยากเจอ เสมอนั่น จะอ้อนวอน เช่นนี้ มีทุกวัน ความสัมพันธ์ ไม่หน่าย หรือหายไป.
ด.ช. นพ
|
|
|
|
31 มกราคม 2011, 07:23:PM |
บ้านริมโขง
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 31 มกราคม 2011, 07:23:PM » |
ชุมชน
|
เป็นเค้าลางอันตรายหมายลาจาก เป็นเหมือนอยากจากไกลไฟรักผลาญ เป็นอะไรในใจไม่เบิกบาน เป็นเหมือนการได้ลาพาชื่นทรวง
นับเป็นความต้องการเมื่อหวานหมด นับเป็นความรันทดหมดแดนสรวง นับเป็นความแพ้พ่ายสลายดวง นับเป็นความหลอกลวงหน่วงชะตา
เก็บหัวใจที่แยกแตกเป็นซีก ยามเมื่อปลีกเปลี่ยวไปไกลห่วงหา อุทาหรณ์สอนตนหม่นอุรา เหตุรักลาแรมร้างเพราะอย่างไร
มีชีพยังบังเงาเคล้าทุกข์โศก วิปโยคโบกหาน้ำตาไหล กลืนแต่ขมบ่มเศร้าเจ้าหัวใจ ร้อนทรวงในใจแตกแยกระทม
จากวันนี้ไม่มีเจ้าอีกแล้ว ไม่มีแก้วใสส่องมองขื่นขม เหลือเพียงใจซีกข้าพาตรอมตรม ต้องเก็บงมเก็บงำระกำทรวง
ณ ตรงนี้ที่พบ..ที่จบรัก ณ ตรงนี้ที่พัก..รักห่วงหวง ณ ตรงนี้ที่ชื่น..ไร้อื่นควง ณ ตรงนี้ที่ลาล่วง...แยกดวงใจ.
"บ้านริมโขง"
|
|
|
|
01 กุมภาพันธ์ 2011, 08:47:AM |
กาแฟดำ
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2011, 08:47:AM » |
ชุมชน
|
หัวใจแยก แตกลาย เป็นหลายเสี่ยง ความรักเลี่ยง หลบหาย ย้ายไปไหน จะเล่นกล ค้นหา หรือว่าไร เกินฤทัย จะรับ แทบยับเยิน
ความคิดถึง ซึ่งส่ง คงว่างเปล่า ไม่มีเงา เธอรับ นับนานเนิ่น ฉันเห็นแล้ว แววตา ที่หมางเมิน คงต้องเดิน โดดเดี่ยว เปลี่ยวเดียวดาย
ความรักที่ มีให้ คงไร้ค่า สูญศรัทธา แห่งฝัน ปันความหมาย ต่อแต่นี้ มีเงา เราเคียงกาย เงาเธอหาย ไม่อยู่ คู่เคียงกัน
|
|
|
|
01 กุมภาพันธ์ 2011, 12:17:PM |
|
|
04 กุมภาพันธ์ 2011, 01:15:AM |
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,422
นักร้อง
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2011, 01:15:AM » |
ชุมชน
|
ใจสลาย
เรารักกันมั่นใจในทุกสิ่ง เพราะเธอคือยอดหญิงนิ่งเสนอ เราพบกันนานครั้งยังปรนเปรอ อยากพบเธออีกจังดั่งต้องมนต์
แต่วันนี้ที่รักต้องหักห้าม ไม่สามารถเดินข้ามความสับสน เธอพบคนใหม่แล้วแก้วโกมล สุดจะทนต่อไปใฝ่เจียมตัว
เธอเลือกเขาคนนั้นในวันนี้ มอบฤดีเคียงกันพลันเปลี่ยนขั้ว ใจสลายหมดแล้วดั่งแก้วมัว สั่นระรัวเต้นแรงถูกแซงกลาง
ขอถอยห่างอย่างผู้แพ้ให้แก่น้อง เธอมีผู้ปกป้องประคองร่าง รักของเราแช่เย็นหมดเส้นทาง จึงต้องวางรักไว้สู่ไอดิน
"ปรางค์ สามยอด"
|
|
|
|
04 กุมภาพันธ์ 2011, 02:18:AM |
ปรางทิพย์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 355
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 429
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2011, 02:18:AM » |
ชุมชน
|
โปรดจงฟังครั้งนี้ที่จำแยก เพราะใจแตกแหลกลาญกาลถวิล แม้เคยรักภักดียิ่งชีวิน แทบดับสิ้นดิ้นรนให้พ้นทาง
ดุจลิขิตพิษรักจำหลักฉล ให้หมองหม่นทนช้ำฝากคำหมาง เพียงเพื่อจบลบเลือนเสมือนพราง ที่หมายวางสร้างภาพตราบสิ้นลม
ถ้อยรำพันฝันเลือนที่เฉือนจิต ถึงมิ่งมิตรจิตราคราขื่นขม แสนอดสูรู้รักจักระทม เมื่อไม่สมจมทุกข์ที่รุกราน
เถิดจงมองท้องฟ้าดาราฉาย แล้วจะหายคลายโศกวิโยคผลาญ กอบเก็บดาวพราวแสงเพิ่มแรงจาร ฝากดวงมานผ่านกลอนก่อนนิทรา....
|
|
|
|
25 มิถุนายน 2011, 08:43:PM |
รุ่งอรุณ
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 25 มิถุนายน 2011, 08:43:PM » |
ชุมชน
|
.................................................
หัวใจแยกแตกยับเกินรับรู้
กายฝืนอยู่สู้ทนอย่างคนเหงา
มีสายลมพรมพลิ้วผิวแผ่วเบา
ช่วยบรรเทาเศร้าคลายลมหายใจ
..................................................
|
|
|
|
|