๐ มาเพื่อลา ๐
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
01 พฤศจิกายน 2024, 09:19:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ๐ มาเพื่อลา ๐  (อ่าน 11033 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
29 มกราคม 2011, 03:57:PM
ตะวันฉาย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 427
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,159



« เมื่อ: 29 มกราคม 2011, 03:57:PM »
ชุมชนชุมชน





...ฉันยืนอยู่  ณ  ตรงนี้มีความเศร้า
เอื้อมมือคว้าเพียงเงายังไร้ผล
แม้สบตายังไม่อาจมาทาบปน
ขอสู้ทนก้มหน้าอำลาเธอ

...มือมันสั่นฝันมันค้างร้างทางรัก
ยากยิ่งนักเมื่อมันล้าพาเสนอ
หมดแรงไขว่ใจคว้ามาปรนเปรอ
ภาพพร่าเบรอยังจางเป็นลางใจ

...หยดน้ำตาร่วงรินเยือนถิ่นหน้า
เหมือนดั่งสายธาราทาแก้มใส
หยดลงพื้นธุรีดินเคล้ากลิ่นไอ-
ความอาลัยควันฟุ้งคลุ้งมิซา

...เดินก้มหน้า เพื่อลาจาก ปิดฉากรัก
ยอมอกหักแพ้พ่ายชายห่วงหา
สายลมพริ้วทิวฝันกับวันลา
ขอสบตาก่อนจากฝากก่อนลืม

...ขอจับมือที่อุ่นเป็นทุนตัด-
เยื่อใยปัดสวาทลงตรงที่ปลื้ม
อย่าได้ยื้อเวลานำมายืม
ใช้เพื่อดื่มความหลังเมื่อพังลง

...หากรอยยิ้มเปื้อนน้ำตาอย่าว่าเถิด
รักถูกเปิดแล้วผลักไสให้เป็นผง
เหลือแค่รอยอัสสุชลปนบรรจง
ฝากเข้าตรงหทัยไม่บรรเทา

...เพียงวาจาไม่กี่คำนำมาเอ่ย
อย่าว่าเลย กับคนหมอง ครองความเหงา
ขอเห็นพักตร์ก่อนลาพาเป็นเงา
น้ำตาเราก็ร่วงหล่นปนวจี

...ดั่งหัวใจแตกสลายกลายเป็นผง
ร่วงหล่นลงพสุธาว่าสักขี
คว้ามือจับยังสั่นทั้งฤดี
เหลือแค่ 4 นาทีมีเพื่อลา...

...ขอแค่มองอย่างคนรักสักพักหนึ่ง
ให้ภาพตรึงฉาบทรวงพวงบุปผา
นับจากนี้แม้ "คำเรา" เป็นเงาทา
ขอสบตาแล้วยิ้มให้...ได้ไหมเธอ...

...ตะวันฉาย...


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พ่อค้าพเนจร

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ว่างเปล่า
29 มกราคม 2011, 05:54:PM
ไม่รู้ใจ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 568
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 593


« ตอบ #1 เมื่อ: 29 มกราคม 2011, 05:54:PM »
ชุมชนชุมชน


เมื่อความรัก สลาย กลายเป็นช้ำ
สุดระกำ จำหม่น ทนเศร้าหมอง
ใจเจ้าเอ๋ย เคยอยู่ คู่เคียงครอง
ยากใฝ่ปอง มองเธอ เพ้อจากไกล

มาวันนี้ ที่รอ ขอสบหน้า
ทำเป็นว่า ยังรัก จักได้ไหม
จับมือฉัน อีกครั้ง หวังเก็บไอ
อุ่นละไม ที่เคย เผยต่อกัน

ไม่รู้ใจ



ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 มกราคม 2011, 05:56:PM
ฉันเอง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 182
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 685


เป็นตัวเองดีกว่า..วุ้ย


« ตอบ #2 เมื่อ: 29 มกราคม 2011, 05:56:PM »
ชุมชนชุมชน


คำร่ำลามาบอกเหมือนยอกอก
ไม่ตลกเลยหนาแทบบ้าฉัน
แม้รู้จักเธอเพียงไม่กี่วัน
แต่ก็นั่นแหละหนาพาชื่นใจ

อาจเว้าวอนอ้อนสาวคราวถึงถิ่น
ให้ลืมสิ้นตื่นมาพาสดใส
แต่ที่ลืมไม่ได้คือกลอนใจ
ที่เธอฝากเอาไว้ได้กลับกลาย

เข้าบ้านมาแวะเวียนเพียรส่องหา
ถึงกานดาแสงตะวันไม่พลันฉาย
วันทั้งวันนั่งจ้องต้องเสียดาย
เธอห่างหายไปไหนไม่กลับมา

หากกลอนพี่ไม่ชื่นเหมือนใครอื่น
ก็อย่าฝืนทนอ่านมันหรอกหนา
บอกตรงตรงสักหน่อยค่อยมองตา
ว่าจะลากันตรงนี้จริงหรือเธอ


ฉันเอง..
ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอแต่งโลกสวย  ด้วยคำกลอน
29 มกราคม 2011, 06:50:PM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #3 เมื่อ: 29 มกราคม 2011, 06:50:PM »
ชุมชนชุมชน


มองเห็นภาพน้ำตาคราลาจาก
ยินเสียงฝากคำลามาเสนอ
เสียงเพียงแผ่วแต่สะท้านคำขานเธอ
รักเสมอเป็นลาจาก...ต้องพรากกัน

เหมือนพายุบุกพังสั่งสลาย
เข้าทำลายไม่ยั้งในฝั่งฝัน
ยากจะซุกกายหลบให้จบวัน
ใจกายสั่น..พรั่นพรึงตะลึงแล

เมื่อรักมากทุกข์มากจากดวงจิต
มีแต่คิดกังวลบนกระแส
ความห่วงหาอาลัยใครดูแล
ให้ห่วงแท้ยามรัก...มักคำนึง

ยามรักร้างห่างหายกายยิ่งเศร้า
ทุกข์รุมเข้ามาเค้นเน้นถามถึง
ไม่เว้นแม้นาทีที่ตอกตรึง
เหมือนจะขึงกายาท้าแดดลม

โอ้..รักนี้นี่ไฉนให้แต่ทุกข์
รักใครสุขบ้างไหมไม่ขลุกขม
บอกมาบ้างอย่างไรไม่ทุกข์ตรม
ตะวันฉาย..คล้ายแต่ซม...ระทมรัก

ได้แต่พร่ำเห็นใจในพ่ายแพ้
ได้แต่แค่เศร้าตามยามประจักษ์
ได้แต่ขออวยชัยให้ผ่อนพัก
ให้รู้จัก..ปล่อยวาง..ในทางธรรม.

"บ้านริมโขง"

ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

29 มกราคม 2011, 07:57:PM
ปรางทิพย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 355
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 429



« ตอบ #4 เมื่อ: 29 มกราคม 2011, 07:57:PM »
ชุมชนชุมชน


เมื่อบรรจบพบกันตะวันฉาย
สร้างฝันพรายหลายสิ่งยิ่งถลำ
จนลุ่มหลงสงสัยในถ้อยคำ
ที่พลอดพร่ำตำนานกาลเวลา

จนตะวันพลันพลบสิ้นสบแสง
ฟ้าเรื่อแดงแฝงเล่ห์เสน่หา
จึงหงอยเหงาเศร้านักหักอุรา
รินน้ำตาอาวรณ์ทอดถอนใจ

นี่หรือรักภักดีที่เคยฝัน
ร้อยตะวันจันทร์ดาวสกาวใส
มาหมายมอบปลอบขวัญกำนัลใน
แล้วผลักไสไกลตาอ่อนล้าแรง

ทิ้งคนเศร้าเฝ้าหม่นกมลหมอง
อกกลัดหนองครองช้ำกระหน่ำแฝง
ทำหน้าชื่นฝืนยิ้มแม้ทิ่มแทง
มิโต้แย้งแสร้งเฉยดั่งเคยเป็น


ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 มกราคม 2011, 08:56:PM
ดอกกระเจียว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 317
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,264


จินตนาการในความว่างเปล่า


« ตอบ #5 เมื่อ: 29 มกราคม 2011, 08:56:PM »
ชุมชนชุมชน






เอ่ยอำลาอาลัยทั้งใจรัก
จักขอหักห้ามทรวงไม่ห่วงหา
แม้ภาพจำความหลังครั้งผ่านมา
ไม่เหลือแล้วในสายตาเป็นสายใย

เธอแม้นเคยคิดรักกันสักนิด
ก็ไม่อาจทวงสิทธิ์เหมือนคิดใคร่
เพียงหนึ่งคำเอ่ยลาประสาใจ
ไม่ผ่านมาผ่านไปเหมือนสายลม


รักเธอเสมอ....






.
ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

29 มกราคม 2011, 09:01:PM
ตะวันฉาย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 427
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,159



« ตอบ #6 เมื่อ: 29 มกราคม 2011, 09:01:PM »
ชุมชนชุมชน


...อ่านคำพจน์บทกลอนทำนองเสนาะ
เข้าเลียบเลาะมองกานท์พานให้เห็น
ทุกถ้วนถ้อยร้อยรำนำประเด็น
ซ่านกระเซ็นอยู่ในอกตกถึงทรวง

...เมื่อความเจ็บก่อเกิดเปิดนำร่อง
เข้ายื่นฟ้องหัวใจให้ใส่บ่วง
มัดโซ่ตรวนฝังลงตรงคำลวง
สุดท้ายดวงแขเป็นรอยซอยทั้งเป็น

...ขอขอบคุณมิตรกวีวจีปลอบ
ผ่าเส้นขอบที่เจ็บเย็บทุกข์เข็ญ
กำลังใจส่งมาทาเช้าเย็น
แม้จะเห็นจากหน้าจอ...ขอขอบคุณ...


ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ว่างเปล่า
29 มกราคม 2011, 10:33:PM
บอม ซอง ดุ๊ก
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 589


เสกสรรกลั่นอักษร พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์


« ตอบ #7 เมื่อ: 29 มกราคม 2011, 10:33:PM »
ชุมชนชุมชน






~จำลา~


พยายามตามหาคุณค่ารัก
ยิ่งตระหนักว่าฉันมันโง่เขลา
เมื่อทุกสิ่งยิ่งสร้างยิ่งบางเบา
ทางของเรายิ่งต่อยิ่งย่อลง

ด้วยเหตุผลคนหนึ่งซึ่งแตกต่าง
ดึงข้ออ้างร้อยพันหั่นเป็นผง
รัดอีกคนที่ทนยื้อ..เพราะซื่อตรง
ไร้เสียงส่งสิทธิ์ค้านต่อต้านเธอ

ฉันมาไกลมากเกินจะเดินกลับ
จำต้องรับขับสู้อยู่เสมอ
ด้วยวาดหวังหลังฝนคงค้นเจอ
ทางที่เอ่อด้วยรัก..เข้าสักวัน

เมื่อน้ำตาหยดแรกแหวกม่านเนตร
น่าสมเพชเหลือล้นคนอย่างฉัน
ต้องทนอยู่สิ้นไร้เพื่อใครกัน?
ต้องอดกลั้นใต้เงา..เค้าทำไม?

หากต้องรักตัวเธอมากกว่านี้
ฉันต้องพลีรักแท้อีกแค่ไหน
สุดท้ายเพียงเสียงร้องของหัวใจ
ที่บอกให้..สิ้นสุด..หยุดน้ำตา

ขอสัมผัสไออุ่น..ครั้งสุดท้าย
เมื่อผู้ชายคนนึงซึ่งไร้ค่า
ไม่อาจอยู่สู้ฝันเช่นสัญญา
สุขเถิดหนา..ลาก่อน...ลาก่อนเธอ

O


บอม ซอง ดุ๊ก







ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสกสรรกลั่นอักษร....พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์
29 มกราคม 2011, 11:19:PM
กล่องความทรงจำ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 225
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,057



« ตอบ #8 เมื่อ: 29 มกราคม 2011, 11:19:PM »
ชุมชนชุมชน






~จำลา~


พยายามตามหาคุณค่ารัก
ยิ่งตระหนักว่าฉันมันโง่เขลา
เมื่อทุกสิ่งยิ่งสร้างยิ่งบางเบา
ทางของเรายิ่งต่อยิ่งย่อลง

ด้วยเหตุผลคนหนึ่งซึ่งแตกต่าง
ดึงข้ออ้างร้อยพันหั่นเป็นผง
รัดอีกคนที่ทนยื้อ..เพราะซื่อตรง
ไร้เสียงส่งสิทธิ์ค้านต่อต้านเธอ

ฉันมาไกลมากเกินจะเดินกลับ
จำต้องรับขับสู้อยู่เสมอ
ด้วยวาดหวังหลังฝนคงค้นเจอ
ทางที่เอ่อด้วยรัก..เข้าสักวัน

เมื่อน้ำตาหยดแรกแหวกม่านเนตร
น่าสมเพชเหลือล้นคนอย่างฉัน
ต้องทนอยู่สิ้นไร้เพื่อใครกัน?
ต้องอดกลั้นใต้เงา..เค้าทำไม?

หากต้องรักตัวเธอมากกว่านี้
ฉันต้องพลีรักแท้อีกแค่ไหน
สุดท้ายเพียงเสียงร้องของหัวใจ
ที่บอกให้..สิ้นสุด..หยุดน้ำตา

ขอสัมผัสไออุ่น..ครั้งสุดท้าย
เมื่อผู้ชายคนนึงซึ่งไร้ค่า
ไม่อาจอยู่สู้ฝันเช่นสัญญา
สุขเถิดหนา..ลาก่อน...ลาก่อนเธอ

O


บอม ซอง ดุ๊ก










+1 จ้า
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

...ทำดีย่อมได้ดี...สาธุ!!
30 มกราคม 2011, 01:29:AM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #9 เมื่อ: 30 มกราคม 2011, 01:29:AM »
ชุมชนชุมชน



...อ่านคำพจน์บทกลอนทำนองเสนาะ
เข้าเลียบเลาะมองกานท์พานให้เห็น
ทุกถ้วนถ้อยร้อยรำนำประเด็น
ซ่านกระเซ็นอยู่ในอกตกถึงทรวง

...เมื่อความเจ็บก่อเกิดเปิดนำร่อง
เข้ายื่นฟ้องหัวใจให้ใส่บ่วง
มัดโซ่ตรวนฝังลงตรงคำลวง
สุดท้ายดวงแขเป็นรอยซอยทั้งเป็น

...ขอขอบคุณมิตรกวีวจีปลอบ
ผ่าเส้นขอบที่เจ็บเย็บทุกข์เค็ญ
กำลังใจส่งมาทาเช้าเย็น
แม้จะเห็นจากหน้าจอ...ขอขอบคุณ...


 


ไม่ต้องลาได้ไหม?..ใจขอบอก
แม้ช้ำชอกเพียงไหนอย่าไปวุ่น
มาระบายความเศร้าเราเซซุน
เอาน้ำตาอุ่น อุ่นมาลุ้นกัน

ใจเราเจ็บอยู่ไหนมันก็เจ็บ
เพราะอักเสบเหลือทน..จนเกินกลั้น
อยู่ตรงนี้มีแรงช่วยแบ่งปัน
อย่างน้อยฉันยังอยู่เคียงคู่เธอ

เรามาช่วยปลอบใจให้กันเถิด
อย่าเตลิดหนีไปใคร่เสนอ
ยังมีเพื่อนมากมายใคร่พบเจอ
อย่าให้ต้องรอเก้อ...เพราะเธอลา

 หน้าซีด

"ปรางค์  สามยอด"
 ลาตายดีกว่าตู
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

30 มกราคม 2011, 02:20:AM
กัลมลี*
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 77
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 138


รักคือแรงบันดาลใจ


« ตอบ #10 เมื่อ: 30 มกราคม 2011, 02:20:AM »
ชุมชนชุมชน

     


         
          เหตุผลของตัวฉันคือหวั่นไหว
     เนิ่นนานไปเลยท้อขอไกลห่าง
     ไม่อยากเป็นอดีตที่เลือนราง
     ให้คั่งค้างต่อไป...ฉันขอลา

          ขอไปมีชีวิตใหม่อย่างใจฝัน
     ลืมว่าใจตรงกันเคยเห็นค่า
     อีกไม่นานคงลืมเรื่องราวผ่านมา
     กลายเป็นเรื่องธรรมดา...ว่าเคยรัก



ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

30 มกราคม 2011, 09:51:AM
ตะวันฉาย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 427
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,159



« ตอบ #11 เมื่อ: 30 มกราคม 2011, 09:51:AM »
ชุมชนชุมชน


คำร่ำลามาบอกเหมือนยอกอก
ไม่ตลกเลยหนาแทบบ้าฉัน
แม้รู้จักเธอเพียงไม่กี่วัน
แต่ก็นั่นแหละหนาพาชื่นใจ

อาจเว้าวอนอ้อนสาวคราวถึงถิ่น
ให้ลืมสิ้นตื่นมาพาสดใส
แต่ที่ลืมไม่ได้คือกลอนใจ
ที่เธอฝากเอาไว้ได้กลับกลาย

เข้าบ้านมาแวะเวียนเพียรส่องหา
ถึงกานดาแสงตะวันไม่พลันฉาย
วันทั้งวันนั่งจ้องต้องเสียดาย
เธอห่างหายไปไหนไม่กลับมา

หากกลอนพี่ไม่ชื่นเหมือนใครอื่น
ก็อย่าฝืนทนอ่านมันหรอกหนา
บอกตรงตรงสักหน่อยค่อยมองตา
ว่าจะลากันตรงนี้จริงหรือเธอ


ฉันเอง..


...คำสะท้อนว่ากล่าวส่งข่าวบอก
คนช้ำชอกอ่านแล้วแว่วเสนอ
เขียนเป็นกลอนนำหน้าว่านะเออ
ยังอย่าเจอมากกว่าลาจะว่าไย

...ทุกกานท์เนาว์เช้าเย็นอยากเห็นหน้า
ยังตั้งตาพะนอกลอนทอนส่งให้
คำมันด้านบางบทอาจลดไป
แต่ส่งใจมาปนคนเขียนคำ

...เรื่องมันเศร้าเผาถางในกลางอก
ลามเข้าชกถึงทรวงจ้วงกระหน่ำ
เกิดรอยแผลเป็นทางวางกระทำ
ใจระกำด้วยคมบาดเขาดาดมา

...ขอสบตาหน้าจอพอมีหวัง
ให้ประทังคนเหงาเนาว์ไปหนา
จบจากกลอนตอนนี้ใช่หนีลา
ขอนำพากลอนคนเศร้าเล่าสู่ฟัง...

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ว่างเปล่า
30 มกราคม 2011, 08:15:PM
มหาซัง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 302
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 399


โลกคือโรงละครโรงใหญ่ เราคือผู้เขียนบทและแสดง


« ตอบ #12 เมื่อ: 30 มกราคม 2011, 08:15:PM »
ชุมชนชุมชน


"มาเพื่อลา"

สบตากัน วันนี้ รู้ดีหนอ     
ยากจะง้อ ขอคืน เกินฝืนไหว
เมื่อคำรัก หักขาด เข้าบาดใจ   
น้ำตาใส ไหลหลั่ง ดุจดั่งธาร

มันคับแค้น แน่นไป ข้างในอก   
ตกนรก หมกไหม้ เหมือนไฟผลาญ
เมื่อต้องแยก แตกกัน มันร้าวราน   
สุดทนทาน ปานมีด กรีดฤทัย

คนเคยคู่ อยู่เคียง ร่วมเรียงฝัน   
บอกเลิกกัน ปั้นช้ำ กระหน่ำใส่
คำว่ารัก ภักดี ที่มอบไป   
เธอทิ้งไว้ ไกลร่าง ห่างเหลือเกิน

เธอบอกมา ลาก่อน ถึงตอนเหงา 
สิ้นบุญเก่า เราทำ จำห่างเหิน
หรือคำสาป บาปสร้าง เส้นทางเดิน 
จึงเผชิญ โชคร้าย ตายทั้งเป็น

สบตากัน ฝันดี พี่ลาก่อน   
คือละคร ตอนจบ พึ่งพบเห็น
บทพระนาง หมางใจ ให้ลำเค็ญ   
จะเช้าเย็น ย่ำโศก บนโลกลวง

มหาซัง...
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
30 มกราคม 2011, 08:57:PM
Peony
LV3 นักเลงกลอนประจำซอย
***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20



« ตอบ #13 เมื่อ: 30 มกราคม 2011, 08:57:PM »
ชุมชนชุมชน



ภาพของเธอพร่าเลือนเพราะเบื้อนน้ำตา
ที่รินไหลออกมาจากใจนี้
ทรมานรู้ไหม...แม้โอกาสสุดท้ายก็ไม่มี
จะคว้าไขว่ให้คนดี...มาข้างกาย

พบ-จบ-จากและพรากลา
ยากจะข่มน้ำตา...เก็บกลืนไว้
เธออาจ"มาเพื่อจากลา" แต่ฉันมาเพราะ"หัวใจ"
สำหรับเธอแค่ "เริ่มใหม่" ขณะที่ "จนวันตาย" ฉันคงไม่ลืม
ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
30 มกราคม 2011, 09:43:PM
Lจ้าVojกaoนบทนี้*
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 270
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 757



« ตอบ #14 เมื่อ: 30 มกราคม 2011, 09:43:PM »
ชุมชนชุมชน



"จะจากเจ้าทรามวัยเพื่อไปรบ
คงไม่พบเนื้อนวลเจ้าชวนฝัน
ไปสู้ศึกครั้งนี้หลายวี่วัน
หวังเจ้านั้นรอรับพี่กลับมา

จะเป็นตายวันไหนยังไม่รู้
ต้องไปสู้เพื่อชาติศาสนา
อีกเอกองค์กษัตริย์และประชา
มาร่ำลานวลน้องพี่ต้องไป"


ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

30 มกราคม 2011, 10:23:PM
chaipan1999
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 93
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 365


กวีจรนอนตลาด-กวีปราชญ์นอนวัง


« ตอบ #15 เมื่อ: 30 มกราคม 2011, 10:23:PM »
ชุมชนชุมชน

อ่านถ้อยรส บทจร ที่อ้อนเอ่ย
เพียงเปิดเผย ความนัย ให้อาสัญ
ถึงต่างบท รสกลอน กลับคล้ายกัน
คร่ำครวญฝัน วันวาน ผันผ่านมา

ทั้งบทโศก บทครวญ หวนความหลัง
เสียดแทงฝัง รอยลึก นึกผวา
คราบที่ติด แต้มไว้ สองนัยน์ตา
ราวกับว่า สิ้นฤดี แทบพลีกาย

ดั่งสิ้นแสง สิ้นเสียง สิ้นสูญโลก
บทวิโยค ครวญคร่ำ ทำใจหาย
ยิ่งบทจาก ย้ำมา เหมือนลาตาย
แทบวางวาย ตามรส ในบทกลอน

เป็นบทเศร้า เคล้าน้ำตา เขียนมาร่วม
ด้วยน้ำท่วม แก้มฉัน พลันเปียกหมอน
แต่งแล้วร้อง ร้องแล้วแต่ง ด้วยอาวรณ์
ขอจบกลอน นอนกอดหมอน อยู่เดียวดาย.....


 ลาตายดีกว่าตู ลาตายดีกว่าตู ลาตายดีกว่าตู
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
31 มกราคม 2011, 01:28:PM
ปากะญอ
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 48
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 130



« ตอบ #16 เมื่อ: 31 มกราคม 2011, 01:28:PM »
ชุมชนชุมชน


บทสะท้อนเห็นภาพมาฉาบฉาย
นั่งทรุดกายเหนื่อยอ่อนทอนแรงหวัง
คราบน้ำตาติดเกรอะเลอะใจจัง
ดวงแขพังแตกยับดับไม่ลง

เมื่อทุกอย่างพังภิณฑ์สิ้นทางรัก
เพิ่งประจักษ์จุดจบพบเพียงหลง
ภาพติดตาบทบาทอาจมั่นคง
ยังสิงตรงอยู่ที่ใจใช่ลบเลือน

"มาเพื่อลา" เลียแผลที่แช่อก
รอยเขาชกดำด่างต่างเสมือน-
เกิดความจำนำทางมาวางเตือน
เวลาเลื่อนหวังจางบนทางใจ

ขอวันนี้หนีเศร้าไปเหงาก่อน
หากร้าวรอนเจ็บหนักพักหลับไหล
ตื่นขึ้นมาฝากกลอนตอนอาลัย
เขียนเอาไว้ว่ารักได้ก็เจ็บเป็น


ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

"หัวใจมีไว้รัก      แม้อกหักยังรับไหว
หัวใจไม่ให้ใคร   แต่เก็บไว้ให้ตัวเอง"
06 กุมภาพันธ์ 2011, 11:39:PM
บอม ซอง ดุ๊ก
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 589


เสกสรรกลั่นอักษร พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์


« ตอบ #17 เมื่อ: 06 กุมภาพันธ์ 2011, 11:39:PM »
ชุมชนชุมชน






~อย่าดูถูกรักแท้~


เมื่อทรงจำฉันนี้มีค่าน้อย
โปรดเถิดปล่อยฉันไว้ในเบื้องหลัง
อย่าเก็บภาพคนเซ่อที่เธอชัง
ไปเหนี่ยวรั้งรักใหม่ให้รำคาญ

เพียงละอองล่องลมมาพรมร่าง
เผลอใจสร้างวางฝันอันอ่อนหวาน
คิดว่าเขาลึกซึ้งจึงดักดาน
มอบรักหว่านทุ่มไปไม่ลืมตา

จึงเฝ้าทนฝนทั่งให้เป็นเข็ม
เพื่อเติมเต็มช่องว่างสร้างปัญหา
ทุกอารมณ์ถมทับฉันรับมา
เพื่อมีค่าสักหนบนทางเคียง

จนเธอเอาเขามาในความรัก
ให้รู้จักคนเซ่อที่เธอเลี้ยง
คำว่าซื่อต้อยต่ำในสำเนียง
นั่นเป็นเพียงความรักความภักดี

ชายหน้าซื่อถือรักรู้จักลด
ฉันกำหนดลิมิทสิทธิ์ศักดิ์ศรี
หากเธอเห็นเป็นเพียงใจไร้ดีกรี
จากนาที นี้ไป ไม่เสียดาย 
 
ตอนเธอจูงมือเขาเข้าสู่ฝัน
รักฉันนั้นเริ่มลับดับสลาย
ตอนเธอก่อรักเริ่มเติมใจกาย
มีผู้ชายหายไป...ใต้คำลวง

O


บอม ซอง ดุ๊ก

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสกสรรกลั่นอักษร....พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s