24 มกราคม 2011, 11:14:AM |
พรายม่าน
|
|
« เมื่อ: 24 มกราคม 2011, 11:14:AM » |
ชุมชน
|
นิยามกวี
ต้องผมยุ่งยี่ห้อใส่หม้อฮ่อม เสื้อต้องมอมย้อมฝ้ายมะเกลือฝน กางเกงกรอมเกือกกางยางรถยนต์ จึงพอนับสิทธิชนกวีชาญ
หรือต้องเชี่ยวเกี่ยวไพล่คัมภีร์สูตร เอารู้จักยมทูตบรรทัดฐาน กำปรัชญาปารมิตาเป็นอาจารย์ เอตทัคคะฌาณวิมานกวี
กระนั้นคงเด็ดขาดงานวาดเส้น จิตวิญญาณโยงเล่นเป็นแปรงสี ผู้เจนจบจินตศิลป์กวินวิธี เพื่อขานนามตามกวีปิยวงศ์
หรือต้องคงแก่เรียนเปรียญประโยค ผู้พ้นแล้วซึ่งโลกซากโศกหลง ฤาษีพบเที่ยงแท้แค่เดินดง แต่กวีท่องกระทงทั้งเวทางค์
แล้วนิยามวิญญูนั้นอยู่ไหน ตามโคนไม้ในกระต๊อบรอบกระถาง จะได้เริ่มนับก้าวเอาเท้าวาง กับแรกย่างหยิบกลิ่นถิ่นกวี พรายม่าน สันทราย ๒๔.๐๑.๕๔
|
|
|
|
|
24 มกราคม 2011, 12:32:PM |
ทอฝัน
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 24 มกราคม 2011, 12:32:PM » |
ชุมชน
|
นิยามกวี
ต้องผมยุ่งยี่ห้อใส่หม้อฮ่อม เสื้อต้องมอมย้อมฝ้ายมะเกลือฝน กางเกงกรอมเกือกกางยางรถยนต์ จึงพอนับสิทธิชนกวีชาญ
หรือต้องเชี่ยวเกี่ยวไพล่คัมภีร์สูตร เอารู้จักยมทูตบรรทัดฐาน กำปรัชญาปารมิตาเป็นอาจารย์ เอตทัคคะฌาณวิมานกวี
กระนั้นคงเด็ดขาดงานวาดเส้น จิตวิญญาณโยงเล่นเป็นแปรงสี ผู้เจนจบจินตศิลป์กวินวิธี เพื่อขานนามตามกวีปิยวงศ์
หรือต้องคงแก่เรียนเปรียญประโยค ผู้พ้นแล้วซึ่งโลกซากโศกหลง ฤาษีพบเที่ยงแท้แค่เดินดง แต่กวีท่องกระทงทั้งเวทางค์
แล้วนิยามวิญญูนั้นอยู่ไหน ตามโคนไม้ในกระต๊อบรอบกระถาง จะได้เริ่มนับก้าวเอาเท้าวาง กับแรกย่างหยิบกลิ่นถิ่นกวี พรายม่าน สันทราย ๒๔.๐๑.๕๔
...อย่างที่เป็นอยู่นั้นนั่นแหละใช่ ค้นทำไมไกลตนบนวิถี นิยามใดไม่กระจ่างทางกวี มันอยู่ที่หัวใจใครจบเจน
...ทุกอณูสำนึกรำลึกรู้ ไม่ต้องกู่ป่-า-วร้องประลองเด่น ไม่ต้องค้นหาหลักปักกฏเกณฑ์ หรือตระเวนค้นความถามใครใคร
...คำ"พราย"ม่านขานขับประดับร้อย ใครยลถ้อยเชิงชัดย่อมวัดได้ ทั้งตื้นลึกหนาบางหรือค้างใจ ท่านรวมไว้ในพจน์รจนา ..................//ทอฝัน
|
|
|
|
24 มกราคม 2011, 01:02:PM |
กาแฟดำ
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 24 มกราคม 2011, 01:02:PM » |
ชุมชน
|
. รู้เพียงใจใคร่เขียนและเพียรอ่าน รู้เพียงกานท์ผ่านใจให้คลายเหงา รู้เพียงกลอนมั่วมั่วนั้นตัวเรา รู้เป็นเต่าต้วมเตี้ยมเจียมตัวเอง . กว่าจะแต่งกลอนได้แต่ละบทหัวแทบแตก..ไม่กล้านิยามหรอกครับ อิ อิ
|
|
|
|
24 มกราคม 2011, 01:04:PM |
อักษรารำพัน
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 24 มกราคม 2011, 01:04:PM » |
ชุมชน
|
นิยามกวี
ต้องผมยุ่งยี่ห้อใส่หม้อฮ่อม เสื้อต้องมอมย้อมฝ้ายมะเกลือฝน กางเกงกรอมเกือกกางยางรถยนต์ จึงพอนับสิทธิชนกวีชาญ
หรือต้องเชี่ยวเกี่ยวไพล่คัมภีร์สูตร เอารู้จักยมทูตบรรทัดฐาน กำปรัชญาปารมิตาเป็นอาจารย์ เอตทัคคะฌาณวิมานกวี
กระนั้นคงเด็ดขาดงานวาดเส้น จิตวิญญาณโยงเล่นเป็นแปรงสี ผู้เจนจบจินตศิลป์กวินวิธี เพื่อขานนามตามกวีปิยวงศ์
หรือต้องคงแก่เรียนเปรียญประโยค ผู้พ้นแล้วซึ่งโลกซากโศกหลง ฤาษีพบเที่ยงแท้แค่เดินดง แต่กวีท่องกระทงทั้งเวทางค์
แล้วนิยามวิญญูนั้นอยู่ไหน ตามโคนไม้ในกระต๊อบรอบกระถาง จะได้เริ่มนับก้าวเอาเท้าวาง กับแรกย่างหยิบกลิ่นถิ่นกวี พรายม่าน สันทราย ๒๔.๐๑.๕๔
...อย่างที่เป็นอยู่นั้นนั่นแหละใช่ ค้นทำไมไกลตนบนวิถี นิยามใดไม่กระจ่างทางกวี มันอยู่ที่หัวใจใครจบเจน
...ทุกอณูสำนึกรำลึกรู้ ไม่ต้องกู่ป่-า-วร้องประลองเด่น ไม่ต้องค้นหาหลักปักกฏเกณฑ์ หรือตระเวนค้นความถามใครใคร
...คำ"พราย"ม่านขานขับประดับร้อย ใครยลถ้อยเชิงชัดย่อมวัดได้ ทั้งตื้นลึกหนาบางหรือค้างใจ ท่านรวมไว้ในพจน์รจนา ..................//ทอฝัน
๐ ช่างหัวมัน..นั้นเถอะ..เรื่องเยอะแยะ จะคุ้ยแคะ..แกะเกา..ไม่เข้าท่า เพียงสนุก..สุขี..และปรีดา ก็มีค่า..กว่าคำ..พร่ำบรรยาย
๐ จะกวี..ที่ไหน..นั้นไม่รู้ เพียงเชิดชู..บูชิต..ด้วยจิตหมาย หลงใหลกลอน..นอนคู้..ไม่ดูดาย มันน่าอาย..ขายหน้า..ประชาชี
|
|
|
|
24 มกราคม 2011, 01:11:PM |
ฉันเอง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
คะแนนกลอนของผู้นี้ 182
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 685
เป็นตัวเองดีกว่า..วุ้ย
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 24 มกราคม 2011, 01:11:PM » |
ชุมชน
|
นิยามกวี
ต้องผมยุ่งยี่ห้อใส่หม้อฮ่อม เสื้อต้องมอมย้อมฝ้ายมะเกลือฝน กางเกงกรอมเกือกกางยางรถยนต์ จึงพอนับสิทธิชนกวีชาญ
หรือต้องเชี่ยวเกี่ยวไพล่คัมภีร์สูตร เอารู้จักยมทูตบรรทัดฐาน กำปรัชญาปารมิตาเป็นอาจารย์ เอตทัคคะฌาณวิมานกวี
กระนั้นคงเด็ดขาดงานวาดเส้น จิตวิญญาณโยงเล่นเป็นแปรงสี ผู้เจนจบจินตศิลป์กวินวิธี เพื่อขานนามตามกวีปิยวงศ์
หรือต้องคงแก่เรียนเปรียญประโยค ผู้พ้นแล้วซึ่งโลกซากโศกหลง ฤาษีพบเที่ยงแท้แค่เดินดง แต่กวีท่องกระทงทั้งเวทางค์
แล้วนิยามวิญญูนั้นอยู่ไหน ตามโคนไม้ในกระต๊อบรอบกระถาง จะได้เริ่มนับก้าวเอาเท้าวาง กับแรกย่างหยิบกลิ่นถิ่นกวี พรายม่าน สันทราย ๒๔.๐๑.๕๔
...อย่างที่เป็นอยู่นั้นนั่นแหละใช่ ค้นทำไมไกลตนบนวิถี นิยามใดไม่กระจ่างทางกวี มันอยู่ที่หัวใจใครจบเจน
...ทุกอณูสำนึกรำลึกรู้ ไม่ต้องกู่ป่-า-วร้องประลองเด่น ไม่ต้องค้นหาหลักปักกฏเกณฑ์ หรือตระเวนค้นความถามใครใคร
...คำ"พราย"ม่านขานขับประดับร้อย ใครยลถ้อยเชิงชัดย่อมวัดได้ ทั้งตื้นลึกหนาบางหรือค้างใจ ท่านรวมไว้ในพจน์รจนา ..................//ทอฝัน อันนิยามการกวีพึงมีได้ เพียงมีใจสอดส่องเฝ้ามองหา สิ่งที่ผู้อื่นแลเห็นเป็นธรรมดา แต่เป็นสิ่งล้ำค่ากวีการ
ไม่ต้องมองไกลตัวให้ปวดหัว มองใกล้ตัวให้เข้าใจใฝ่ผสาน มีเกิดดับสูญสิ้นปริ่มวิญญาณ ใช้ดวงมานพินิจพิจารณา
เห็นคุณค่าธรรมชาติก็ใช้ได้ มองด้วยใจตามหลักศาสนา ธรรมชาติจุดกำเนิดทุกชีวา จึงควรค่ายกย่องเพียงหนึ่งครู
ฉันเอง..
|
ขอแต่งโลกสวย ด้วยคำกลอน
|
|
|
24 มกราคม 2011, 01:31:PM |
ณัฐชรี
Special Class LV3 นักกลอนผู้มากผลงาน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 106
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 126
ยิ่งมืดยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 24 มกราคม 2011, 01:31:PM » |
ชุมชน
|
ยกลายลักษณ์อักษรสุนทรถ้อย มาเรียงร้อยสืบศรีวจีสรร รวมเป็นช่อดอกไม้หลากหลายพันธุ์ เพื่อมามอบเท่านั้นท่านทุกคน
แม้นไม่ใช่กวียอดศรีปราชญ์ ไม่ฉลาดประกอบกับความสับสน เขียนเท่าที่เขียนได้ให้มวลชน ระบายบนกระดาษวาดลงไป
เห็นทุกท่านในมือถือดินสอ ช่วยกันก่อเนรมิตลิขิตไข นั่นแหละยอดเมธีกวีไทย ขอยกให้ทุกท่าน...บรรทัดนี้
|
|
|
|
|
24 มกราคม 2011, 03:39:PM |
บัณฑิตเมืองสิงห์
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 24 มกราคม 2011, 03:39:PM » |
ชุมชน
|
นิยามกวี
ผู้ใดได้ประพันธ์ฉันท์กลอนกาพย์ ให้รสซาบซึ้งใจถึงในพจน์ ฉันก็ว่าผู้นั้นน่ะเจนจบ ปราดเปรื่องทบครบเครื่องเรื่องกวี
กลอนไม่หวานอ่านแล้วอาจขัดหู แต่พิศดูผู้นั้นตั้งใจนี่ หากกลอนเพราะเสนาะแล้วอ่านเข้าที ก็ว่าเขาน่ะมีกวีรส
เพราะไม่เพราะฉันก็ยกย่องท่าน เพียงแต่งกานท์งานร้อยถ้อยกำหนด แต่งมาเถอะเนอะเพื่อนไม่เลือนลบ ให้ตามพจน์กฎเกณฑ์เจนกลอนกานท์
บัณฑิตเมืองสิงห์
|
|
|
|
24 มกราคม 2011, 07:06:PM |
เพลิงคำ
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 24 มกราคม 2011, 07:06:PM » |
ชุมชน
|
กวีคือคนสื่อสารขานความคิด ตรงตามจิตใคร่เอ่ยเฉลยแจ้ง สัญลักษณ์ถักถ้อยร้อยสำแดง ทุกแขนงทุกสื่อคือกวี
แต่ที่เด่นเล่นคำทำอักษร รวบรัดทอนจัดเล่าเกลาฉวี ดั่งใจจงตรงปานเปรยวจี เพียงเท่านี้นิยามตามถามมา
ส่วนก้านกล้วยห่วยอยู่รู้ยังห่าง เพราะค่อนข้างไหลรั่วมั่วภาษา ค่อยฝึกฝนทนเลบงเพ่งวาจา ไม่นานหนากวีคู่ชูชื่อเรา
ก้านกล้วย
|
ทอดร่างอุทิศชีวิตไว้ เอื้อมไปทะเลปุจฉา เสพสมอักษรศรัทธา จำหลักวาจาแดนดิน
|
|
|
|
24 มกราคม 2011, 09:08:PM |
พรายม่าน
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 24 มกราคม 2011, 09:08:PM » |
ชุมชน
|
ดุจเรือรั่วโล้คลื่นทะเลคลั่ง มีนิวรณ์รุงรังเป็นหางเสือ กับปัญญาอึ่งอ้นเป็นต้นเรือ จะรอดเหลือเยื่อยางกระไรไย
ดีแต่คงวงศ์ศิริปิยมิตร คอยสะกิดก่ายดึงถลึงใส่ เป็นเศษฝอยลอยฟ่องเข้ากองไฟ รังแต่ป่นหมดไปแม้เถ้าปลง
คุณแห่งมิตรวิจิตรเช่น ฉะนี้โชติ ลุประโยชน์โทษวิบัติขจัดหลง จะจำคำจำเขตเจตจำนงค์ ตราบชีวิตอยู่คง คณาคุณ
แท้กวีมีใดใช่สาระ ถึงสูงส่งสวยสะ วิสัยสุญญ์ กวีไม่กวีฤาดีดุลย์ ไม่กรายภวัครสักสกุล ก็กวี
ขอสุนทรีย์คัมภีรภาพ กับความงามแห่งกาพย์ กระวีศรี จงแด่มิตรสฤษฎ์สุขวดี นับแต่นี้แนบเวิ้งสหัสวาร
พรายม่าน สันทราย ๒๔.๐๑.๕๔
|
|
|
|
24 มกราคม 2011, 10:31:PM |
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,752
ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 24 มกราคม 2011, 10:31:PM » |
ชุมชน
|
ดื่มเหล้าแกล้มแหนมเนื้อเจือลมหนาว นั่งชมดาวพราวฟ้าน้ำตาไหล หลั่งน้ำตามาจากฟากหัวใจ มอบแด่ให้ใครหนอก็ไม่รู้
ดาวเลื่อนลับจับเจ่างันเหงาเงียบ ความเศร้าเสียบสลดให้หดหู่ ความมืดมิดชิดร่างอย่างศัตรู หวั่นใจอยู่ผู้เดียวเปล่าเปลี่ยวกาย
ตกค่อนคืนดื่นดึกชวนนึกหวาด ฝนเริ่มสาดมิขาดหยุดสิ้นสุดสาย สาดถั่งโถมโจมจู่มิรู้คลาย หนาวช่างร้ายหมายกระหน่ำซ้ำกมล
เรียบเรียงร้อยถ้อยกวีที่สูงค่า พรั่งพรูมามากมายกลางสายฝน สานความฝันสรรความคิดตามจิตตน ไหลท่วมท้นปนความจริงสิ่งดีงาม
กวีแก้วแวววับประดับหล้า รินน้ำคำล้ำค่ามาไถ่ถาม ไร้แบบแผนแทนกำหนดกฎนิยาม ทั่วเขตคามสร้างฝันวรรณกวี
|
|
|
|
25 มกราคม 2011, 12:54:AM |
วฤก
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 25 มกราคม 2011, 12:54:AM » |
ชุมชน
|
|
|
|
|
25 มกราคม 2011, 02:30:AM |
Lจ้าVojกaoนบทนี้*
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 25 มกราคม 2011, 02:30:AM » |
ชุมชน
|
สายลมพัดโชยอ่อนแล้วย้อนกลับ ใครคว้าจับลมได้ จะให้สิน คือนิยามนามแต่งแห่งกวิน ผู้มากจินตนาการประสานคำ
วกกลับไปกลับมา น่าเวียนหัว ดีหรือชั่ว ไม่อาจชี้ วจีขำ จะเอาแน่นอนอย่างไร ในลำนำ อาจชอกช้ำ ถ้าหลง คิดปลงใจ
งานบทกลอน อ้อนใจ ไว้หาคู่ แต่งเชิดชู สถาบัน นั้นก็ได้ เช่นเพลงชาติ เพลงมาร์ช องอาจไกล กวีใช้ ได้ทั่วโลก ไม่โศกซม
แต่ใช้การ ด้านกฏหมาย ต้องหงายหลัง ไม่มีหวัง เรื่องคดี มีแต่ขม ถึงแต่งไป ศาลอ่านได้ ไม่นิยม จะระทม แพ้ความ ไปตามกัน
เว้นคดี ที่เกี่ยวกับ วรรณศิลป์ ลิขสิทธิ์ เคยได้ยิน ฟ้องร้องนั่น ว่าใครหนอ คือเจ้าของ ต้องยืนยัน แบบนี้นั้น ศาลท่านฟัง ทั้งสองความ
อีกสัญญิง สัญญา ตรากฏหมาย ใช้ไม่ได้ จริงจริงแท้ ใช่แหย่หยาม บทกวี งานประพันธ์ อันลือนาม จะงดงาม ก็เฉพาะ เรื่องกวี
คำสัญญา จากกวี นี้อย่าเชื่อ มันมากเหลือ จนเรา ไม่เผาผี ล้วนแต่พร่ำ พรรณนา ประดามี จะโศกี แม้ว่าหลง คิดปลงใจ
อันนิยาม ของกวี ที่เอ่ยถาม สรูปความ เอาประเด็น ที่เห็นได้ ไม่มีความแน่นอนในตอนใด ดุจเปลวไฟ ดุจสายลม ยากชมเชย(ยากจะคว้าจับเอาไว้ได้,ดิ้นไปเรื่อยๆ)
|
|
|
|
25 มกราคม 2011, 02:45:AM |
มายา
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 25 มกราคม 2011, 02:45:AM » |
ชุมชน
|
อันว่านักกวีท่านผู้มีความรู้มาก เปรียบนักปราชญ์ที่มิอาจรู้ครบทุกศาสต์สรร มิอาจปันแจกแจงแถลงได้ ว่าคำใดคือความหมายของกวีอย่างแท้จริง
แต่ตัวเราว่ากวีก็เปรียบดัง สายลมที่พัดผ่านมาหาเราขัดเกลาใจ แล้วผ่านไปเริงร่าที่ฟ้าใหม่ เปรียบดังใจนักกวีที่ประพันธ์
|
|
|
|
07 กุมภาพันธ์ 2011, 11:33:AM |
elensar
LV1 เด็กน้อยอ่านกลอน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 1
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 07 กุมภาพันธ์ 2011, 11:33:AM » |
ชุมชน
|
เรียงร้อยถ้อยคำนำความคิด บรรจงจิตเรียบเรียงเขียนหนังสือ สรรค์ความงามไร้รูปโลกล่ำลือ ให้ระบือด้วยอักษรของกลอนกล
|
|
|
|
|