03 มกราคม 2011, 10:10:PM |
สุวรรณ
|
|
« เมื่อ: 03 มกราคม 2011, 10:10:PM » |
ชุมชน
|
เด็กเอ๋ยเด็กน้อย นัยน์ตารอยใสซื่อนั้นสื่อสุข โลกทั้งโลกโศกร้างเลือนรางทุกข์ รอผู้ใหญ่ปั้นปลุกปลูกสิ่งดี
จักเติมวาดพาดฝันบรรจงสร้าง ผู้ใหญ่คอยปูทางวางวิถี ให้แก่เด็กด้วยรักที่มากมี มาคอยชี้คอยทำแนะนำคุณ
เป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีธรรมะ ตั้งตัวสมถะ มานะหนุน มีจิตใจเผื่อแผ่แพร่การุญ ทั้งความรู้ค้ำจุณคุณค่าตน ชี้ถูกผิดเพื่อเด็กพิศพิเคราะห์ คอยบ่มเพาะอารมณ์สมเหตุผล ให้รู้จักรักค่าความเป็นคน ตั้งอยู่บนศีลสัตย์สะอาดมาน
เมื่อเด็กน้อยได้เห็นเป็นแบบอย่าง ก็จักโตตามทางที่วางฐาน เป็นคนดีมีศีลจิตเบิกบาน ตามช่วงกาลแต่น้อยจนเติบโต
|
|
|
|
03 มกราคม 2011, 10:31:PM |
วฤก
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 03 มกราคม 2011, 10:31:PM » |
ชุมชน
|
|
|
|
|
03 มกราคม 2011, 10:33:PM |
ฉันเอง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
คะแนนกลอนของผู้นี้ 182
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 685
เป็นตัวเองดีกว่า..วุ้ย
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 03 มกราคม 2011, 10:33:PM » |
ชุมชน
|
เด็กเอ๋ยเด็กน้อย เจ้ารอคอยผู้ใหญ่ฝันใฝ่หา เพื่อให้ท่านสั่งสอนวอนเมตตา ให้นำพาความรู้สู่ตัวตน จงขยันหมั่นเพียรพร่ำเขียนอ่าน ตลอดกาลยาวนานให้ได้ผล และด้วยใจมานะพาอดทน เพื่อฝีกฝนกล่อมจิตใจให้ใฝ่ดี ฉันเอง..
|
ขอแต่งโลกสวย ด้วยคำกลอน
|
|
|
03 มกราคม 2011, 10:53:PM |
สุวรรณ
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 03 มกราคม 2011, 10:53:PM » |
ชุมชน
|
สร้างคนดีจากเด็กน้อยค่อยค่อยปั้น หนทางนั้นต้องระวังอย่าวางเฉย หมั่นดูแลแคร์ความรู้สึกนึกคิดเอย คอยเอื้อนเอ่ยกำลังใจให้อุ่นทรวง
ยึดจิตใจของเด็กไว้เป็นหลัก แล้วเฝ้าถักทอนำความเป็นห่วง ชี้สิ่งควรกระทำกรรมทั้งปวง อย่างบรรจงลงห้วงหัวใจน้อย
|
|
|
|
03 มกราคม 2011, 10:58:PM |
สุวรรณ
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 03 มกราคม 2011, 10:58:PM » |
ชุมชน
|
เด็กเอ๋ยเด็กน้อย
เจ้ารอคอยผู้ใหญ่ฝันใฝ่หา
เพื่อให้ท่านสั่งสอนวอนเมตตา
ให้นำพาความรู้สู่ตัวตน
จงขยันหมั่นเพียรพร่ำเขียนอ่าน
ตลอดกาลยาวนานให้ได้ผล
และด้วยใจมานะพาอดทน
เพื่อฝีกฝนกล่อมจิตใจให้ใฝ่ดี ...(ฉันเอง)
กว่าเด็กน้อยจะโตอีกโขนะ กาลเวลาวาระผละเคลื่อนหนี อยู่ที่ใจผู้ใหญ่นั้นใคร่ชี้ ทำการที่สมควรชวนเด็กทำ...(สุวรรณ)
ขอบพระคุณพี่น้องทุกท่านที่มาร่วมเขียนถึงเด็กน้อย ขออนุญาตพักผ่อนก่อนนะคะ
|
|
|
|
03 มกราคม 2011, 11:14:PM |
วฤก
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 03 มกราคม 2011, 11:14:PM » |
ชุมชน
|
ดอกเอ๋ยดอกสร้อย คล้ายเรียงร้อยสักวาเวลาเขียน เริ่มต้น.เอ๋ย... ลงเอย... ดังเคยเรียน ไม่แปรเปลี่ยนแปดวรรคจำหลักกลอน
สี่วรรคต้นด้นประเด็นเห็นประจักษ์ แล้วจึงผลักพลิกผลกลอักษร จบดอกสร้อยคล้อยตามความเว้าวอน ซึ่งสะท้อนสะเทือนติดในจิตเอย ง่า... ขอปรึกษานิดหน่อยครับ แบบว่า... ตั้งใจจะเขียนเป็น กลอนดอกสร้อย ... หรือว่า ... บังเอิญ ขึ้นต้นคล้ายดอกสร้อยครับ
|
|
|
|
03 มกราคม 2011, 11:19:PM |
Lจ้าVojกaoนบทนี้*
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 03 มกราคม 2011, 11:19:PM » |
ชุมชน
|
เอ่อผมก็งงเหมือนครับ เคยเห็นดอกสร้อยในหนังสือที่เคยอ่าน แต่งคล้ายกลอนแปด แต่เห็นครูกลอนบอกว่า เขียนแบบกลอนเจ็ด บาทละเจ็ดตัว ก็เลยงง เพราะเคยเข้าใจว่าแปดตัว
|
|
|
|
03 มกราคม 2011, 11:33:PM |
วฤก
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 03 มกราคม 2011, 11:33:PM » |
ชุมชน
|
เอ่อผมก็งงเหมือนครับ เคยเห็นดอกสร้อยในหนังสือที่เคยอ่าน แต่งคล้ายกลอนแปด แต่เห็นครูกลอนบอกว่า เขียนแบบกลอนเจ็ด บาทละเจ็ดตัว ก็เลยงง เพราะเคยเข้าใจว่าแปดตัว ดอกสร้อย สักวา ... ในสมัยก่อน เป็นกลอนที่ใช้ในการละเล่น (เรือ) โดยผู้เล่นด้นกลอนออกมาสด ๆ แล้วมีวงปี่พาทย์เอาบทที่แต่งออกมานั้นไปร้องประกอบเพลง เมื่อ ต้องร้องประกอบเพลง ... คำที่ใช้ในแต่ละวรรคก็ควรจะต้องเหมือน ๆ กันกับกลอนบทละคร คือนิยมให้มี ๖ - ๗ คำ เพราะถ้าเป็น ๘ - ๙ คำเสียหมด ... นักร้องจะหาจังหวะเอื้อนเพลงได้ยาก ดังนั้นในตำราจึงเขียนไว้ว่าให้ใช้กลอนเจ็ด หลัง ๆ มา กลอนสักวาเราเขียนกันเล่น ๆ ไม่ได้เอาไปประกอบกับการร้องเพลง ดังนั้นจะเขียนเป็นกลอนแปดก็ได้.... มั้ง ครับ แหะ ๆๆ
|
|
|
|
03 มกราคม 2011, 11:40:PM |
บัณฑิตเมืองสิงห์
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 03 มกราคม 2011, 11:40:PM » |
ชุมชน
|
เด็กเอ๋ยเด็กน้อย ไยเจ้านั่ง ตาลอย เหมือนคอยหา ทำตาซึม เซาคละ ชลนา เหมือนห่วงหา อาลัย ใครอาทร
นั่งโดดเดี่ยว เดียวดาย คล้ายสิ้นหวัง ก้มหน้าดัง ฝังจิตหา อุทาหรณ์ ตาซบซาบ ซึมเซา หนักเบาร้อน อยากพักผ่อน กายฤๅ หรือกระไร
ดูเจ้าเศร้า โศกตรม ระทมจิต หรือเจ้าคิด ผิดแผก แปลกไฉน มาเถิดหนา มาหาพี่ มิมีภัย ช่วยเจ้าได้ ดั่งพ่อแม่ แน่นอนเอย บัณฑิตเมืองสิงห์
|
|
|
|
03 มกราคม 2011, 11:43:PM |
บัณฑิตเมืองสิงห์
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 03 มกราคม 2011, 11:43:PM » |
ชุมชน
|
เอ่อผมก็งงเหมือนครับ เคยเห็นดอกสร้อยในหนังสือที่เคยอ่าน แต่งคล้ายกลอนแปด แต่เห็นครูกลอนบอกว่า เขียนแบบกลอนเจ็ด บาทละเจ็ดตัว ก็เลยงง เพราะเคยเข้าใจว่าแปดตัว ดอกสร้อย สักวา ... ในสมัยก่อน เป็นกลอนที่ใช้ในการละเล่น (เรือ) โดยผู้เล่นด้นกลอนออกมาสด ๆ แล้วมีวงปี่พาทย์เอาบทที่แต่งออกมานั้นไปร้องประกอบเพลง เมื่อ ต้องร้องประกอบเพลง ... คำที่ใช้ในแต่ละวรรคก็ควรจะต้องเหมือน ๆ กันกับกลอนบทละคร คือนิยมให้มี ๖ - ๗ คำ เพราะถ้าเป็น ๘ - ๙ คำเสียหมด ... นักร้องจะหาจังหวะเอื้อนเพลงได้ยาก ดังนั้นในตำราจึงเขียนไว้ว่าให้ใช้กลอนเจ็ด หลัง ๆ มา กลอนสักวาเราเขียนกันเล่น ๆ ไม่ได้เอาไปประกอบกับการร้องเพลง ดังนั้นจะเขียนเป็นกลอนแปดก็ได้.... มั้ง ครับ แหะ ๆๆ อิอิ เราก็ไม่ค่อยรู้ แต่งไปซะ ๘-๙ คำเลยทีเดียว ขอบคุณครับ ลุง วฤก ปล.เรียกลุงถูกมั้ยเนี่ย
|
|
|
|
08 มกราคม 2011, 03:05:AM |
สุวรรณ
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 08 มกราคม 2011, 03:05:AM » |
ชุมชน
|
ดอกเอ๋ยดอกสร้อย คล้ายเรียงร้อยสักวาเวลาเขียน เริ่มต้น.เอ๋ย... ลงเอย... ดังเคยเรียน ไม่แปรเปลี่ยนแปดวรรคจำหลักกลอน
สี่วรรคต้นด้นประเด็นเห็นประจักษ์ แล้วจึงผลักพลิกผลกลอักษร จบดอกสร้อยคล้อยตามความเว้าวอน ซึ่งสะท้อนสะเทือนติดในจิตเอย ง่า... ขอปรึกษานิดหน่อยครับ แบบว่า... ตั้งใจจะเขียนเป็น กลอนดอกสร้อย ... หรือว่า ... บังเอิญ ขึ้นต้นคล้ายดอกสร้อยครับ สวัสดีค่ะคุณวฤก คุณฉันเอง สุวรรณตั้งใจเขียนเป็นกลอนค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่เขียนผิดรูปแบบฉันทลักษณ์ของกลอนออกไป แล้วขึ้นต้นคล้ายกลอนดอกสร้อย และขอบพระคุณที่นำความรู้เรื่องกลอนดอกสร้อยมาฝาก ทำให้ได้รู้จักกลอนดอกสร้อยขึ้นมาอีกนิดนึง
|
|
|
|
08 มกราคม 2011, 08:44:AM |
อัศจรรย์จิต
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
คะแนนกลอนของผู้นี้ 118
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 222
พี่ชายมาเองจำ รหัสเข้าตัวเองไม่ได้555
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 08 มกราคม 2011, 08:44:AM » |
ชุมชน
|
เรียนเอ๋ยเรียนร่ำ จงจดจำคำครูผู้สอนสั่ง เฝ้าเพียรเก็บความรู้เข้าสู่คลัง เป็นความหวังแผ่นดินให้บินไกล
รักชาติศาสน์กษัตริย์สม ความเกลียวกลมแผ่นดินถิ่นอาศัย เป็นต้นกล้ากล้าหาญผลิบานใบ เป็นร่มใหญ่ให้แผ่นดินไม่สิ้นเอย
|
|
|
|
|
08 มกราคม 2011, 09:49:AM |
♥ กานต์ฑิตา ♥
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 08 มกราคม 2011, 09:49:AM » |
ชุมชน
|
เด็กเอ๋ยเด็กน้อย ความรู้เจ้ายังด้อยต้องคอยสอน จงสนใจใครรู้อย่าอู้นอน ลำบากก่อนวันนี้เพื่อดีตน
เคยสักนิดคิดไหมทำไปนั่น เพื่อใครกันห่วงใยได้เกิดผล คอยติดตามถามข่าวเฝ้ากังวล ศิษย์กลับบ่นครูได้ช้ำใจเอย. "กานต์ฑิตา" ๘ มกราคม ๒๕๕๔
|
|
|
|
08 มกราคม 2011, 09:55:AM |
ดอกกระเจียว
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 08 มกราคม 2011, 09:55:AM » |
ชุมชน
|
เด็กเอ๋ยเด็กน้อย กระจ้อยร่อยเอ็นดูนะครูขา ด้วยหนูนั้นหรือชื่อแต้วตา(แก้วตา) ศึกษาอนุบาลหลานน้าเจียว
อยู่กับยายตาเหว่ว้านัก แม่พ่อรักหนักหนามิเปล่าเปลี่ยว เลยน้องชายหนึ่งคนช่ือพงษ์เพียว เล็กนิดเดียวพึ่งได้สามเดือนเอย
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
|
|
|
|
08 มกราคม 2011, 10:09:AM |
♥ กานต์ฑิตา ♥
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 08 มกราคม 2011, 10:09:AM » |
ชุมชน
|
เด็กเอ๋ยเด็กน้อย กระจ้อยร่อยเอ็นดูนะครูขา ด้วยหนูนั้นหรือชื่อแต้วตา(แก้วตา) ศึกษาอนุบาลหลานน้าเจียว
มาบอกว่าเป็นหลานหลานแน่หรือ มิใช่คือหลานแม่ยาย ว๊าย! หวาดเสียว ไม้หน้าสามจามแน่อย่าแหลเชียว ครูไม่เกี่ยวงานนี้ขอหนีเอย. "กานต์ฑิตา" ๘ มกราคม ๒๕๕๔ แบบว่า...มาช่วยชายเจียว จบกลอนดอกสร้อยค่ะ
|
|
|
|
08 มกราคม 2011, 06:33:PM |
สมนึก นพ
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 08 มกราคม 2011, 06:33:PM » |
ชุมชน
|
เด็กเอ๋ยเด็กน้อย แม่เฝ้าคอย กำเนิด เกิดเจ้าหนา ทั้งเก้าเดือน ในครรภ์ นั้นอุ้มมา ต้องผวา ทุกครั้ง ระวังภัย
แม้อาหาร การกิน ลิ้นสัมผัส ต้องแยกคัด จัดมี ที่สงสัย ของแสลง พันผูก ลูกอ่อนวัย แม่อาลัย เจ้าอยู่ รู้นะเอย
เด็กเอ๋ยเด็กน้อย กำหนดถอย ถึงมี ที่เฝ้าหา แม่เจ็บปวด แทบดิ้น สิ้นชีวา แล้วน้ำตา หยดไหล ได้เปรมปรีดิ์
เจ็บครั้งนั้น มั่นใจ ในความหวัง คิดปลูกฝัง ลูกรัก สมศักดิ์ศรี ทุ่มแรงใจ แรงกาย ทั้งหลายมี หมายลูกนี้ เด่นดัง สังคมเอย
เด็กเอ๋ยเด็กน้อย เดินตามรอย แม่ไว้ ไม่ขื่นขม แม่ปูทาง สว่างไว้ ให้เจ้าชม ความเหมาะสม ที่อ้าง วางกับตัว
จะก้าวย่าง ทุกครั้ง รั้งมือแม่ พูดอ้อแอ้ ล้มบ้าง พลางยิ้มหัว เมื่อโตใหญ่ เหตุไฉน ได้เมามัว คบเพื่อนชั่ว มั่วมา ติดยาเอย
เด็กเอ๋ยเด็กน้อย น้ำตาพลอย ร่วงพรู รู้ไหมหนอ น้ำตาแม่ อีกครั้ง รั้งตาคลอ แม่เริ่มท้อ ถอยหด หมดกำลัง
น้ำตาแม่ ที่ไหล ในครั้งสอง ความหม่นหมอง นึกทราบ ภาพหนหลัง ความเจ็บปวด สองอย่าง ต่างประดัง คือความหวัง เด็กน้อย กลอยใจเอย.
|
|
|
|
|
08 มกราคม 2011, 07:45:PM |
สุวรรณ
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 08 มกราคม 2011, 07:45:PM » |
ชุมชน
|
กลอนดอกสร้อย "เด็กเอ๋ยเด็กน้อย"
เด็กเอ๋ยเด็กน้อย นัยน์ตาเจ้าปรอยพลอยสื่อสุข เหมือนโลกโศกร้างเลือนรางทุกข์ รอใครปั้นปลุกปลูกสิ่งดี
ดุจผ้าขาวพาดให้วาดฝัน เริ่มแต่วัยวันดั้นวิถี โดยจากผู้ใหญ่แนะนำชี้ แต่สิ่งที่ดีที่ควรเอย
แทนคำขอบคุณ (^_^)~
จินตนาการในม่านหมอก บางขณะเป็นระลอกร่องคลื่นไหว วูบ ชัด เลือนราง แล้วจางไป บางขณะก็กระทบใจเสียชัดเจน
นั่ง นั่ง มโนมาโน้มนึก ร่ายความตามตรึก ยามนึกเห็น รางชาง เลือน ชัด บางประเด็น กับการคิดเค้นเพื่อเล่นคำ
ยังอ่อนกลอนกลจนคำยาก แต่แม้ลำบากก็อยากร่ำ- เรียนค่าภาษาที่ควรจำ ฝึกหัดนึกนำไปตราบนาน
หวังฝึกเพื่อร่ำเพื่อพร่ำหัด เรียงร้อยถ้อยวัจน์จนใจขาน ได้ถนัดในยามที่พบพาน ฉันท์ กาพย์ โคลง กานท์ ฯ เพื่อนกรองมา
อีกกลกลอนหนึ่งที่เพิ่งรู้ ขอบพระคุณครูผู้ค้นหา ทั้งคุณวฤก ช่วยจุดประกายมา เพื่อนๆก็นำพาให้ได้เรียน
ขอบคุณค๊าบบ (^_^)~
|
|
|
|
|