ต่อครับ....
อาโก๋กำลังเร่งมือหมักเหล้า สูตรพิเศษอยู่ที่สมุนไพรต่างๆ เกสรดอกไม้หลายชนิด มันจะทำให้รสชาดของเหล้านั้นกลมกล่อมเมื่อหเมื่อหมักได้ที่ มันเป็นหน้าที่ของเขาโดยตรงที่ถูกถ่ายทอดมาแต่คนรุ่นก่อนๆทีละนิดละน้อยประกอบรวมกัน รวมทั้งงานอื่นๆภายในครัว จนเมื่อเขาเชี่ยวชาญชำนาญในทุกอย่างแล้ว พวกเขาเหล่านั้นจึงได้ลาออกไปประกอบอาชีพตามความรู้ที่ได้รับจากที่นี่ ที่นี่จึงเสมือนเป็นโรงเรียนฝึกสอนวิชาชีพแห่งหนึ่งที่ผู้ผ่านเข้ามาและออกไปจะได้มีความรู้ติดตัวไปด้วย เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งของท่านผู้เฒ่าจางหลงอี้ที่ไม่ยึดติดแต่การค้ากำไร ผิดจากที่อื่นๆที่เรื่องเล็กๆน้อยๆรวมทั้งเคล็ดลับต่างๆเหล่านี้จะถูกปิดเป็นความลับ แต่ทุกอย่างจะถูกขับเคลื่อนไปโดยกลไกของธรรมชาติ แม้แต่ตัวของเขาเองก็มิได้รู้ตัวว่าถูกเสี้ยมสอนในเรื่องเหล่านี้เลย แต่พอมารู้ตัวอีกทีเขากลับรู้สึกว่า ท่านผู้เฒ่าจางหลงอี้นี้ลึกล้ำในความคิดเสียจริง การให้ทรัพย์นั้นยังมีวันหมด แต่ การให้ความรู้ในการหาทรัพย์และการรักษาทรัพย์ที่หามาได้นั้นสำคัญยิ่งกว่าและมีแต่เพิ่มพูลไม่สูญสิ้น
ทุกคนที่พ้นจากที่นี่แล้วจะรู้สึกว่าท่านผู้เฒ่าจางหลงอี้มีพระคุณอย่างล้นพ้นต่อตัวพวกเขากับวิชาการที่ได้เรียนรู้จากที่นี่ บางคนเปลี่ยนตัวเองเป็นเฒ่าแก่น้อยๆ จากวิชาชีพที่ถูกถ่ายทอด โกวตี่เองยังเคยคิดว่าเขาจะออกไปเปิดโรงเตี้ยมเล็กๆซักแห่งหนึ่งและมีความสุขกับกิจการเล็กๆนั้นสักวัน...แต่เขาจะจากที่นี่ไปไม่ได้จนกว่าจะมีผู้มาทำหน้าที่แทนเขา
จางฟงยี่เข้ามาในครัวหลังจากเหล้าไหสุดท้ายถูกหมักแล้วเสร็จและถูกเก็บเข้าที่ในห้องเก็บเสบียง เธอเข้ามาพร้อมกระต่ายป่าตัวหนึ่ง
ท่านทำอะไรอยู่หหรืออาโก๋ จางฟงยี่ถามพลางวางกระต่ายลง
หมักเหล้า เขาตอบ
อืม!ตั้งแต่ท่านอ้อเสี่ยวตุ้ยมาเหล้าในร้านเราคงพร่องไปเยอะเลยล่ะสิ จางฟงยี่ถามอย่างนึกสงสัย
จางฟงยี่มองไปที่ห้องเสบียง เธอจะได้กลิ่นหอมๆของเหล้าเมื่อเข้าไปในนั้น แต่ตอนนี้มันถูกปิดสนิทอยู่ โกวตี่เห็นกระต่ายป่าทำให้เขานึกถึงแล้วที่เขาดักไว้
เปล่าหรอก...!ต่อให้คอเหล้าอย่างท่านอ้อเสี่ยตุ้ยสักสิบคนก็คงกินเหล้าที่ข้าหมักไว้ไม่หมด โกวตี่ตอบ ข้าแค่สำรองไว้เท่านั้น
ท่านจัดการนี่ให้ห้หน่อยสิ
มันติดแร้วหรือ
ใช่ท่านอ้อเสี่ยวตุ้ยไปเจอมันติดแร้วเธอบอกแต่ข้าคิดว่าข้าอยากให้มันเป็นๆอยู่มากว่า ข้าอยากเลี้ยงมันไว้ดูเล่น
มันเป็นกระต่ายป่าไม่เหมาะที่จะเลี้ยงหรอก โกวตี่บอก
แล้วแบบไหนล่ะที่เหมาะจะเลี้ยง
เอาไว้ข้าจะหามาให้สักตัวก็แล้วกันถ้าท่านชอบ
โกวตี่หันมาพิจารณากระต่ายตัวนั้นและถามจางฟงยี่
เอายังไงดี
ด่วน จางฟงยี่ตอบเขาก่อนเดินจากไป
ด่วน โกวตี่ทวนคำและครุ่นคิด
การเป็นพ่อครัวในความคิดของโกวตี่นั้น ไม่ต่างกับการเป็นนักดนตรี และเขาต้องเล่นดนตรีหลายชนิด มีความหนักเบาแตกต่างกันไป แต่ต้องฝึกฝนให้เชี่ยวชาญในทุกด้าน การปรุงอาหารต้องใช้ความละเมียดละไม เปรียบได้เหมือนกับการตีขิมที่ต้องพินิจพิจารณาอย่างถ้วนถี่ยามบรรเลง ความไพเราะอันเกิดจากความชำนาญของผุ้เล่นเปรียบได้กับรสชาติของอาหารที่เขาปรุง
ข้าไม่เคยกินอะไรที่อร่อยเท่าผัดกระต่ายนี้มาก่อนเลย หลูอันพูดกับอ้อเสี่ยวตุ้ยขณะที่เขาตาแดงด้วยฤทธิ์ของสุรา ทั้งสองรู้สึกสนิทกันขึ้นกว่าแต่ก่อนเมื่ออาหารมื้อนั้นจบลง
ดื่มอีกจอกท่านหลูอัน
ดื่ม อีกฝ่ายตอบ
เหตุการณ์ทั้งหมดตกอยู่ภายใต้สายตาจับสังเกตุของจางฟงยี่ เธอครุ่นคิดถึงเรื่องร้ายๆที่อาจเกิดขึ้น หลายวันมานี้เธอรู้สึกไม่สบายใจ กอรปกับเรื่องร้ายๆที่เธอได้รับรู้ เธอสังเกตุและตั้งข้อสงสัยต่างๆเกี่ยวกับลักษณะของคนทั้งสอง เธอไม่คิดเสมอไปว่าอ้อเสี่ยวตุ้ยและหลูอันนั้นจะเป็นคนดี ยิ่งนิสัยรักเสพสุราด้วยแล้ว คนเหล่านี้หาความไว้ใจได้ยากในความคิดเธอ แต่มันเป็นหน้าที่ของเธอที่จะต้องดูแลพวกเขาเป็นอย่างดีในฐานะแขกผู้มาเยือน โดยตัวเธอเองก็มิได้ถือตัวแต่เพียงว่า เธอเป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้เท่านั้น จางฟงยี่เปิดเจ้าแมวหมียวและอ่านหน้าต่อไปและพยายามไม่คิดถึงสิ่งใด