22 ธันวาคม 2010, 06:11:PM |
|
|
22 ธันวาคม 2010, 06:58:PM |
เศษเหล็ก//
Special Class LV1 นักกลอนผู้เร่ร่อน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 41
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 246
คนไร้จุดหมายล่องลอยไปตามสายลมที่พัดพา ..
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2010, 06:58:PM » |
ชุมชน
|
ไม่แน่มั้ง อาจไม่ใช่หรอก เขาคงหลอก ตัวเองเพื่อคลายเหงา อย่าเพิ่งเสียใจ อย่าเพิ่งเศร้า บางทีเค้า คงยังมิพร้อมก็ได้
ความเย็นชาคือบ่งบอกความรู้สึก ความลึกๆ ที่อึดอั้นอยู่ข้างใน ขอเวลาเขาสักนิดจะว่าไหม ความห่วงใย ยังมีให้เธอเสมอมา
โทษทีน่ะ อย่าเข้าใจผิดคิดเช่นนั้น สัญญามั่น มิได้หลอก เจ้าหรอกหนา เพียงมีเหตุปัจจัย ใยต้องโศกา ว่าเย็นชา เหงาๆ คงคิดไปเอง
.................เศษเหล็ก.
|
|
|
|
22 ธันวาคม 2010, 07:06:PM |
บ้านริมโขง
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2010, 07:06:PM » |
ชุมชน
|
ทำไมเธอ เย็นชา หนักหนานัก ด้วยประจักษ์ รักนี้ มีค่าไหม มันร้าวราน นานแล้ว หรือแก้วใจ ถึงทิ้งไกล ไม่หวง ห่วงกันเลย
ลืมคำมั่น สัญญา สาบานบอก ไยจึงหลอก ชอกช้ำ ซ้ำเมินเฉย ฉันคงเป็น คนหนึ่ง ซึ่งเหมือนเคย มิอาจเผย ความนัย ให้ต้องอาย ใยเธอเมินมองไปอะไรนั่น ว่าตัวฉันเย็นชาน่าใจหาย เพียงฉันนิ่งจริงใจรักไม่คลาย วางเป้าหมายรักมั่นฉันและเธอ
สัญญาใดต่อกันถือมั่นนัก แจ้งประจักษ์รักเจ้าเฝ้าเสนอ มองให้ซึ้งถึงแก่นแสน..รักเธอ หลับยังเพ้อละเมอหา..แม่ยาใจ. บ้านริมโขง
|
|
|
|
22 ธันวาคม 2010, 07:55:PM |
สมนึก นพ
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2010, 07:55:PM » |
ชุมชน
|
ขอโทษจ้า ที่มา เข้าใจผิด ก็คงคิด มากไป เพราะใจหวง คำสัญญา ให้ไว้ ไม่หลอกลวง ก็เหมือนห่วง มัดสอง ต้องคู่กัน
แต่เดี๋ยวนี้ ผิดไป ให้มองเห็น เหมือนผมเป็น กขค. ตัวย่อนั้น จึงเห็นเย็น ชาอยู่ ดูทุกวัน ก็ปล่อยมัน เถิดหนา ถ้าต้องอาย.
|
|
|
|
22 ธันวาคม 2010, 07:55:PM |
masapaer
ผู้ดูแลบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 456
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 598
ร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณคือรางวัลอันยิ่งใหญ่
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2010, 07:55:PM » |
ชุมชน
|
|
|
|
|
22 ธันวาคม 2010, 08:35:PM |
เศษเหล็ก//
Special Class LV1 นักกลอนผู้เร่ร่อน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 41
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 246
คนไร้จุดหมายล่องลอยไปตามสายลมที่พัดพา ..
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2010, 08:35:PM » |
ชุมชน
|
*ฮ่าๆ..หัวเราะดังๆ..สร้างพลังสักนิด ที่เคยยึดติด..คิดผิดและหลงไหล ต้องรวมพลัง ลุกขึ้นสู้จุดประกายไฟ เริ่มต้นใหม่ ให้กับหัวอกที่บอบบาง
*จากแตกร้าว กำลังจะหล่อหลอม ใส่สีย้อม อุดมคติคิดสรรสร้าง หัวอกเป็นหนึ่งมั่นคงมิแยกทาง เหมือนแผ่นยาง เหนียวแน่นยากจะพัง
..............เศษเหล็ก.
|
|
|
|
22 ธันวาคม 2010, 08:46:PM |
|
|
22 ธันวาคม 2010, 10:17:PM |
|
|
22 ธันวาคม 2010, 11:03:PM |
|
|
22 ธันวาคม 2010, 11:38:PM |
ไม่รู้ใจ
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2010, 11:38:PM » |
ชุมชน
|
จะร้าวรอน แค่ไหน ยากไถ่ถาม เป็นไปตาม ลิขิต ไม่คิดหวัง ยังมีวัน ต้องลุก ปลุกพลัง เพิ่มกำลัง ใจอยู่ สู้ต่อไป ขอขอบคุณทุกๆท่าน ที่มาร่วมแจม นะคะ
|
|
|
|
22 ธันวาคม 2010, 11:46:PM |
|
|
23 ธันวาคม 2010, 12:26:AM |
ฉันเอง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
คะแนนกลอนของผู้นี้ 182
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 685
เป็นตัวเองดีกว่า..วุ้ย
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2010, 12:26:AM » |
ชุมชน
|
แสงใหม่.. รักโรยราริบริบรอรอนแรม เหมือนจันทร์แจ่มร่วงโรยให้โหยหา ไร้ซึ่งเสียงเรียกร้องสกุณา ช่างเงียบเหงาเศร้าอุรายามฟ้ากลาย ขอคืนค่ำจ้ำเร็วอย่าช้านัก เพราะช้ำรักต้องการแสงเฉิดฉาย กลัวหมุกมุ่นค่ำคืนอันเดียวดาย เจ็บเพียงกายไม่เท่าไหร่เท่าใจตรม ขอแสงใหม่ไออุ่นไคร่ลุ้นรอ ยากไหมหนอนานเท่าไรอย่าให้ขม แสนเจ็บแสบรวดร้าวคราวรักซม อย่าทับถมให้จมหนักเพราะรักเลย ฉันเอง..
|
ขอแต่งโลกสวย ด้วยคำกลอน
|
|
|
23 ธันวาคม 2010, 07:49:AM |
สมนึก นพ
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2010, 07:49:AM » |
ชุมชน
|
ต้นรักปลูก ถูกหนอน ชอนใบช้ำ คนใจดำ ย่ำยี ทั้งขี้เหนียว หวงน้ำใจ ไร้ปุ๋ย เดินลุยเทียว ทิ้งใบเขียว เหี่ยวแห้ง ต้นแล้งตาย
รักไม่ร้าว เขาเมิน ก็เกินเจ็บ แค่เศษเล็บ เก็บทิ้ง นั้นยิ่งง่าย แล้วใจแยก แตกหล่น จนกระจาย คงเลวร้าย กว่าเล็บ เธอเก็บทิ้ง สวัสดีค่ะ ขอร้าวแบบขำขำนะคะ นำกิ่งรัก ปักชำ พร่ำถนอม ไม่ยินยอม ใดใกล้ หมายทุกสิ่ง ยังมั่นหมาย กลีบออก ดอกรักจริง ไม่ทอดทิ้ง ห่างเจ้า เฝ้าดูแล
หนอนมาไต่ แมงตอม ไม่ยอมละ หากปล่อยปละ เน่าไป ใบเป็นแผล ปุ๋ยจากใจ ลงให้ ไม่อ่อนแอ กิ่งก้านแผ่ พุ่มดอก ออกไรไร
เฝ้าพรวนดิน ไม่ห่าง กระถางแก้ว มีดอกแล้ว จะบาน อีกนานไหม โอ้พระเจ้า วันนี้ ฉันดีใจ บานเมื่อไหร่ ขอชม ดมก่อนนา
แสงทองจับ ท้องฟ้า รับอรุณ กลิ่นหอมกรุ่น ยวนใจ ดอกใดหนา หรือว่ารัก ต้นนี้ คลี่ดอกมา อนิจจา แมลงภู่ อยู่ภายใน
ทั้งหกเท้า ย่ำลง ตรงเกษร ยังไชชอน ดุดัน กิ่งก้านไหว เข้าทำลาย มลายสิ้น บินหนีไป แล้วก็ไม่ หวนกลับ รับขวัญตา
จะเด็ดทิ้ง กิ่งก้าน นั้นคงเจ็บ จากคมเล็บ กดไป ให้ผวา หรือหากเล็บ จะหัก ติดปักคา ก็ยิ่งมา ระกำ ย้ำแผลเป็น.
|
|
|
|
23 ธันวาคม 2010, 11:43:AM |
อักษรารำพัน
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2010, 11:43:AM » |
ชุมชน
|
๐ เคยคลอเคล้าเคียงคู่.....ร่วมชู้ชื่น กลับกลายกลืนโกรธเกลียด.....ทำเหยียดหยัน เพียงเพราะพวกพ้องเพื่อน......ก็เลือนกัน เสแสร้งสร้างสุขสันต์......ให้ฉันชม
๐ อบไออุ่นอิงแอบ......เคยแนบชิด ต้องตามติดเตือนตัก.....จนรักขม ไหววิเวกเหว่ว้า......เหงาอารมณ์ ชิดเชยชมแชเชือน......ต้องเลือนลา
๐ ทั้งที่แท้ท้อทด.....จนหมดหวัง ยอมยับยั้งหยัดยืน......ทำชื่นหน้า เฝ้าใฝ่ฝันฝึกฝืน......เธอคืนมา ให้โหยหาแหนหวง......ร้าวดวงจินต์
๐ เย็นยะเยียบเยื้องย่าง.....บนทางฝัน เศร้าโศกศัลย์ศักดิ์ศรี......เคยมีสิ้น หม่นหมองมัวเหมือนมา......ให้ราคิน หลงเล่ห์ลิ้นลวงหลอก......จนชอกช้ำ
๐ หนึ่งนัยนี้แน่นหนัก......ด้วยรักแน่ ไปเปลี่ยนแปรปล่อยปละ......จนถลำ ร้างแรมรารักร้าว.....ถูกเขาทำ ได้ดื่มด่ำดวงแด.......เพียงแค่มอง
๐ วิเวกไหวเวียนวน.....อยู่บนทาง- ยะเยียบย่างยื้อยุด.....ประทุษผอง แห่งห้วงห่มหักหาญ.....ใครผ่านมอง เมื่อหม่นหมองมีไหม.....ผู้ใกล้ชิด
๐ นัยหนึ่งนี้แน่นหนัก.....เกินจักค้น โดยดั้นด้นโดดเดี่ยว.....ทุกเทียวจิต ฝ่าฝืนเฝ้าฝันใฝ่.....ด้วยใจมิตร ฤๅรู้ฤทธิ์รอยร้าง.....ยามห่างไกล
๐ เอย..อกเอ๋ยออดอ้อน.....ก็รอนลา หอมห่วงหาเหือดแห้ง.....อยู่แห่งไหน ไร้เรี่ยวแรงรับรู้.....เถิดผู้ใด อวลอุ่นไอโอบอ้อม.....ช่วยล้อมที
๐ ไยหยอกเย้าเยี่ยงเย้ย.....แล้วเลยหลบ คนเคยคบเคยเคียง..........กลับเลี่ยงหนี เปลี่ยนไปเป็นปล่อยปละ.....สิ้นวจี ไม่หมายมีเหมือนแม้น.....เคยแสนรัก
๐ สู้สั่งสมสีสัน.....เมื่อวันสุข ทัดทานทุกข์ทดท้อ......ที่รอปัก จวบจนใจจดจ่อ.....แต่รอทัก ก็กลับกักกีดกัน.....ไม่หันมา
๐ ร่องรอยรักเริ่มร้าง......เพราะต่างฝัน เกี่ยวก้อยกันก่อนเก่า......เคยเฝ้าหา จรจากเจ้าจำใจ......ไปไกลตา รักแรมรารอยร้าว......ช่างหนาวใจ
๐ เพราะพันพัวเพ่งพิศ......ในจิตที่ หม่อนหมองมีมากมาย......เกินหมายไว้ ทุกข์ท่วมท้นทนทาน.......จนนานไป หวาดหวิวไหววูบวาบ.....เกินทาบทา
๐ ชาติชายชาญชอกช้ำ......เกินคำไข จนจิตใจจ่อมจม.....ก็สมสา อกเอ๋ยอกอั้นอัด......จำตัดลา ให้โหยหาไห้หวน......จนซวนเซ
๐ ป่วนปั่นแปรเปลี่ยนไป......มันไม่เหมาะ ยังยิ้มเยาะเย้ยหยัน......ก่อนหันเห แรงรักเรารุมรุม.......เคยทุ่มเท ล้างโลเลเล่ห์ลวง.......ติดบ่วงกรรม
|
|
|
|
23 ธันวาคม 2010, 01:33:PM |
|
|
23 ธันวาคม 2010, 03:30:PM |
ไม่รู้ใจ
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2010, 03:30:PM » |
ชุมชน
|
ต้นรักปลูก ถูกหนอน ชอนใบช้ำ คนใจดำ ย่ำยี ทั้งขี้เหนียว หวงน้ำใจ ไร้ปุ๋ย เดินลุยเทียว ทิ้งใบเขียว เหี่ยวแห้ง ต้นแล้งตาย
รักไม่ร้าว เขาเมิน ก็เกินเจ็บ แค่เศษเล็บ เก็บทิ้ง นั้นยิ่งง่าย แล้วใจแยก แตกหล่น จนกระจาย คงเลวร้าย กว่าเล็บ เธอเก็บทิ้ง สวัสดีค่ะ ขอร้าวแบบขำขำนะคะ นำกิ่งรัก ปักชำ พร่ำถนอม ไม่ยินยอม ใดใกล้ หมายทุกสิ่ง ยังมั่นหมาย กลีบออก ดอกรักจริง ไม่ทอดทิ้ง ห่างเจ้า เฝ้าดูแล
หนอนมาไต่ แมงตอม ไม่ยอมละ หากปล่อยปละ เน่าไป ใบเป็นแผล ปุ๋ยจากใจ ลงให้ ไม่อ่อนแอ กิ่งก้านแผ่ พุ่มดอก ออกไรไร
เฝ้าพรวนดิน ไม่ห่าง กระถางแก้ว มีดอกแล้ว จะบาน อีกนานไหม โอ้พระเจ้า วันนี้ ฉันดีใจ บานเมื่อไหร่ ขอชม ดมก่อนนา
แสงทองจับ ท้องฟ้า รับอรุณ กลิ่นหอมกรุ่น ยวนใจ ดอกใดหนา หรือว่ารัก ต้นนี้ คลี่ดอกมา อนิจจา แมลงภู่ อยู่ภายใน
ทั้งหกเท้า ย่ำลง ตรงเกษร ยังไชชอน ดุดัน กิ่งก้านไหว เข้าทำลาย มลายสิ้น บินหนีไป แล้วก็ไม่ หวนกลับ รับขวัญตา
จะเด็ดทิ้ง กิ่งก้าน นั้นคงเจ็บ จากคมเล็บ กดไป ให้ผวา หรือหากเล็บ จะหัก ติดปักคา ก็ยิ่งมา ระกำ ย้ำแผลเป็น. ธรรมชาติแมลงภู่กับดอกไม้ ย่อมเป็นไปอย่างนี้มีให้เห็น รักสุดรักสุดหวงบ่วงลำเค็ญ ถ้าทุกข์เข็ญเกินไปก็ปล่อยวาง อันรักร้าวเหมือนแก้วที่ตกแตก มันจำเป็นต้องแยกปลดแอกบ้าง ด้วยเข้ากันไม่ได้ในเส้นทาง จึงต้องห่างไกลกันอย่าหวั่นเลย "ปรางค์ สามยอด"
|
|
|
|
24 ธันวาคม 2010, 07:30:AM |
สมนึก นพ
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2010, 07:30:AM » |
ชุมชน
|
นำแก้วแตก หลอมใหม่ ไม่สนิท คงไม่ติด เหมือนเก่า รอยร้าวเห็น แต่เศษแก้ว มีหลาย ให้กระเด็น ดังเฉกเช่น กับขวาก เกลื่อนมากมาย
ได้เหยียบย่ำ แล้วนี่ ที่โดนตำ เป็นแผลช้ำ ปวดแย่ แต่ไม่หาย แหลมคมบาง ฝังมิด ติดในกาย ทุรนราย ทรมาน ปานขาดใจ.
|
|
|
|
24 ธันวาคม 2010, 10:41:AM |
สมนึก นพ
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2010, 10:41:AM » |
ชุมชน
|
๐ เคยคลอเคล้าเคียงคู่.....ร่วมชู้ชื่น กลับกลายกลืนโกรธเกลียด.....ทำเหยียดหยัน เพียงเพราะพวกพ้องเพื่อน......ก็เลือนกัน เสแสร้งสร้างสุขสันต์......ให้ฉันชม
๐ อบไออุ่นอิงแอบ......เคยแนบชิด ต้องตามติดเตือนตัก.....จนรักขม ไหววิเวกเหว่ว้า......เหงาอารมณ์ ชิดเชยชมแชเชือน......ต้องเลือนลา
๐ ทั้งที่แท้ท้อทด.....จนหมดหวัง ยอมยับยั้งหยัดยืน......ทำชื่นหน้า เฝ้าใฝ่ฝันฝึกฝืน......เธอคืนมา ให้โหยหาแหนหวง......ร้าวดวงจินต์
๐ เย็นยะเยียบเยื้องย่าง.....บนทางฝัน เศร้าโศกศัลย์ศักดิ์ศรี......เคยมีสิ้น หม่นหมองมัวเหมือนมา......ให้ราคิน หลงเล่ห์ลิ้นลวงหลอก......จนชอกช้ำ
๐ หนึ่งนัยนี้แน่นหนัก......ด้วยรักแน่ ไปเปลี่ยนแปรปล่อยปละ......จนถลำ ร้างแรมรารักร้าว.....ถูกเขาทำ ได้ดื่มด่ำดวงแด.......เพียงแค่มอง
๐ วิเวกไหวเวียนวน.....อยู่บนทาง- ยะเยียบย่างยื้อยุด.....ประทุษผอง แห่งห้วงห่มหักหาญ.....ใครผ่านมอง เมื่อหม่นหมองมีไหม.....ผู้ใกล้ชิด
๐ นัยหนึ่งนี้แน่นหนัก.....เกินจักค้น โดยดั้นด้นโดดเดี่ยว.....ทุกเทียวจิต ฝ่าฝืนเฝ้าฝันใฝ่.....ด้วยใจมิตร ฤๅรู้ฤทธิ์รอยร้าง.....ยามห่างไกล
๐ เอย..อกเอ๋ยออดอ้อน.....ก็รอนลา หอมห่วงหาเหือดแห้ง.....อยู่แห่งไหน ไร้เรี่ยวแรงรับรู้.....เถิดผู้ใด อวลอุ่นไอโอบอ้อม.....ช่วยล้อมที
๐ ไยหยอกเย้าเยี่ยงเย้ย.....แล้วเลยหลบ คนเคยคบเคยเคียง..........กลับเลี่ยงหนี เปลี่ยนไปเป็นปล่อยปละ.....สิ้นวจี ไม่หมายมีเหมือนแม้น.....เคยแสนรัก
๐ สู้สั่งสมสีสัน.....เมื่อวันสุข ทัดทานทุกข์ทดท้อ......ที่รอปัก จวบจนใจจดจ่อ.....แต่รอทัก ก็กลับกักกีดกัน.....ไม่หันมา
๐ ร่องรอยรักเริ่มร้าง......เพราะต่างฝัน เกี่ยวก้อยกันก่อนเก่า......เคยเฝ้าหา จรจากเจ้าจำใจ......ไปไกลตา รักแรมรารอยร้าว......ช่างหนาวใจ
๐ เพราะพันพัวเพ่งพิศ......ในจิตที่ หม่อนหมองมีมากมาย......เกินหมายไว้ ทุกข์ท่วมท้นทนทาน.......จนนานไป หวาดหวิวไหววูบวาบ.....เกินทาบทา
๐ ชาติชายชาญชอกช้ำ......เกินคำไข จนจิตใจจ่อมจม.....ก็สมสา อกเอ๋ยอกอั้นอัด......จำตัดลา ให้โหยหาไห้หวน......จนซวนเซ
๐ ป่วนปั่นแปรเปลี่ยนไป......มันไม่เหมาะ ยังยิ้มเยาะเย้ยหยัน......ก่อนหันเห แรงรักเรารุมรุม.......เคยทุ่มเท ล้างโลเลเล่ห์ลวง.......ติดบ่วงกรรม มีมาใหม่มากมาย.............ให้หัดเขียน เร่งร่ำเรียนรู้รอบ...........ชอบด้วยหนา กลกลอนกลิ้งกลับกานท์......ประสานมา คงค้นคว้าค่ำคืน.................ตื่นเช้ามี
หลงไหลเลิศลำล้ำ............พร่ำแบ่งปัน ยังยืนยันยกย่่อง.................ต้องราศรี เข้มข้นขานไขขำ.................สัมผัสดี ทันท่วงทีทบทวน..............ล้วนยากจัง
สองสามสี่สมเสริม..............เติมห้าครบ จงใจจบจริงจิต.................ดังคิดหวัง รองรับรอบรัดเร่ง.................เบ่งพลัง เวียนวนวังวอนวาน............อ่านด้วยนา
|
|
|
|
24 ธันวาคม 2010, 01:26:PM |
เอกชัย ดำรงสกุลชัย
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2010, 01:26:PM » |
ชุมชน
|
ดูหน้าเธอ เย็นชา หนักหนานัก ด้วยประจักษ์ รักนี้ มีค่าไหม มันร้าวราน นานแล้ว หรือแก้วใจ ถึงทิ้งไกล ไม่หวง ห่วงกันเลย
ลืมคำมั่น สัญญา สาบานบอก ไยจึงหลอก ชอกช้ำ ทำเมินเฉย ฉันคงเป็น คนหนึ่ง ซึ่งเหมือนเคย มิอาจเผย ความนัย ให้ต้องอาย กาลเวลา อาจผันผ่าน เนิ่นนานนัก แค่รู้จัก ก็ยังซึ้ง ถึงความหมาย อยู่ห่างกัน ด้วยเหตุผล อีกมากมาย กลับเดียวดาย ที่ต้องผ่าน ร้าวราญใจ
มีเส้นทาง ที่ต่างสาย และหลายหลาก จำต้องจาก ฟ้าพรากเดือน ทุกเงื่อนไข สิ้นแสงดาว สุกสะกาว เมื่อคราวใด ตะวันไกล ส่องปิดฝัน ใจสั่นเอน [/size][/color]
|
|
|
|
24 ธันวาคม 2010, 02:51:PM |
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,422
นักร้อง
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2010, 02:51:PM » |
ชุมชน
|
นำแก้วแตก หลอมใหม่ ไม่สนิท คงไม่ติด เหมือนเก่า รอยร้าวเห็น แต่เศษแก้ว มีหลาย ให้กระเด็น ดังเฉกเช่น กับขวาก เกลื่อนมากมาย
ได้เหยียบย่ำ แล้วนี่ ที่โดนตำ เป็นแผลช้ำ ปวดแย่ แต่ไม่หาย แหลมคมบาง ฝังมิด ติดในกาย ทุรนราย ทรมาน ปานขาดใจ. นี่แหละคือรักร้าวเข้ามาแทรก ชีวิตจึงต้องแยกดั่งแขกไล่ อยู่ใกล้กันมันทุกข์ไม่สุขใน จึงจำไกลหลีกเร้นเซ่นรอยคม แต่จะขอจดจำเคยนำรัก ที่สลักครั้งเก่าเฝ้าสุขสม รักหอมหวานซ่านซาบอาบอารมณ์ เฝ้าชื่นชมสมใจในรสรัก มาบัดนี้ความดีไม่มีเหลือ ไม่มีเยื่อมีใยให้ทอถัก หมดศรัทธาชมเชยที่เคยภักดิ์ ถอดสลักหัวใจหน้าไม่มอง ลายเริ่มออกบอกใบ้ไม่แคร์แล้ว ต่างก็พร้อมตีแก้วให้ดังก้อง รักเป็นพิษฤทธิ์ร้ายมิหมายปอง เคยร่วมห้องร้อนรนจนต้องลา "ปรางค์ สามยอด"
|
|
|
|
|