กลอนกลบทยัติภังค์
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 04:42:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กลอนกลบทยัติภังค์  (อ่าน 11461 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
18 ธันวาคม 2010, 11:45:PM
บอม ซอง ดุ๊ก
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 589


เสกสรรกลั่นอักษร พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์


« เมื่อ: 18 ธันวาคม 2010, 11:45:PM »
ชุมชนชุมชน






อีกหนึ่งกลบท(กลบทยัติภังค์)...เอามาไว้ให้เพี่ยนๆ..เอ้ย!!เพื่อนๆอ่านเล่นๆครับ ทำตา ปิ๊งๆ

~กลบทยัติภังค์...งดเหล้า~


ปีใหม่ใหม่ ใหม่เอี่ยม เปี่ยมคุณค่า
ค่าซึ่งมา มาพร้อม ความหอมหวาน
หวานปนขม ขมขื่น กลืนวิญญาณ
ญาณกล้าหาญ หาญตัด สลัดวาง

วางสุรา ราตรี ปาร์ตี้ผอง
ผองลำพอง พองล้น บนรอยหมาง
หมางใจแค้น แค้นเดือด เอาเลือดล้าง
ล้างสะสาง สางฟ้า แทบบ้าตาย

ตายเพราะขับ ขับเคลื่อน เหมือนนักซิ่ง
ซิ่งทิ้งดิ่ง ดิ่งลับ ดับสลาย
หลายคนร่วม ร่วมเคราะห์ เพราะท้าทาย
ทายผลร้าย ร้ายถ่วง พ่วงผลกรรม

Oo..กรรมผ่านปาก ปากกล้า พาให้อึ้ง
อึ้งจนซึ้ง ซึ้งทิ่ม เพราะอิ่มหนำ
หนำใจแล้ว แล้วไง ใครต้องจำ
จำรอยช้ำ ช้ำซวย ด้วยความเมา

เมาหยุดก่อน ก่อนสาย สิ่งร้ายล่วง
ล่วงรู้บ่วง บ่วงสุข ไฟทุกข์เผา
เผามันทิ้ง ทิ้งปัด ขจัดเกลา
เกลาความเขลา เขาเธอ...อย่าเผลอใจ

O

สุขสันต์วันปีใหม่..2554เด้อ  ยิ้มหน้าแมว


บอม ซอง ดุ๊ก 

อาจเห็นกระทู้ซ้ำมาหลายอัน มันขัดข้องทางเทคนิคนิดหน่อยครับ พี่ๆที่ตั้งให้ เค้าบอกว่างั้นครับ  ยิ้มแก้มแดง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : [Love], อริญชย์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสกสรรกลั่นอักษร....พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์
20 ธันวาคม 2010, 03:49:PM
บอม ซอง ดุ๊ก
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 589


เสกสรรกลั่นอักษร พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์


« ตอบ #1 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2010, 03:49:PM »
ชุมชนชุมชน




แอบเอามารวม หัวเราะยิ้มๆ(กลบทยัติภังค์)...~ฝันแท้ แพ้อัตรา~


พ่อแม่มอบ มอบตน ขึ้นบนโลก
โลกพัดโบก โบกบิน จากถิ่นฐาน
ฐานความคิด คิดย่าง สร้างวิมาน
มานดักดาน ดาลดล  เอ่อล้นใจ

ใจเดียงสา สาธยาย หมายแห่งฝัน
ฝันร้อยพัน พันผูก ลูกต้องไข
ไขความทุกข์ ทุกข์ท้อง ต้องสิ้นไป
ไปเพื่อใหญ่ ใหญ่คับ ค่อยกลับคืน

คืนวันผ่าน ผ่านพ้น ยังทนเที่ยว
เที่ยวเก็บเกี่ยว เกี่ยวกอด ทอดกายฝืน
ฝืนบากหน้า หน้ายิ้ม ปริ่มกล้ำกลืน
กลืนบทยื่น ยื่นอาบ คราบน้ำตา

ตาหม่นเศร้า เศร้าโศก กลางโลกกว้าง
กว้างเข้าขวาง ขวางกั้น ชั้นยศฐา
ฐานันดร ดอนทุ่ง อย่ามุ่งมา
มาเทียบหน้า หน้าเนื้อ เชื้อมั่งมี

มีเพียงมือ มือน้อย ที่ต้อยต่ำ
ต่ำค่าย้ำ ย้ำเครียด เบียดศักดิ์ศรี
ศรีษะก้ม ก้มหน้า อย่าย่ำยี
ยียวนจี้ จี้จุด ต้องหยุดเดิน

เดินจากเมือง เมืองฟ้า ข้าแตกต่าง
ต่างที่ร่าง ร่างด้อย รอยห่างเหิน
เหิรเคียงฟ้า ฟ้าฝัน นั้นยากเกิน
เกินจะเดิน เดินแพร่ง แย้งกมล

มนหน้าซื่อ ซื่อสัตย์ ไม่กัดลิ้น
ลิ้นดกดิ้น ดิ้นดัน ชั้นไม่สน
สนตะพาย พายเลือด เชือดคนจน
จนเพียงค้น..ค้นชีวิต..อย่าปิดทาง


O


บอม ซอง ดุ๊ก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : [Love], อริญชย์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสกสรรกลั่นอักษร....พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์
21 ธันวาคม 2010, 02:26:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #2 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2010, 02:26:PM »
ชุมชนชุมชน

มีกลอนใหม่ ใหม่มา จะหัดเขียน
เขียนคือเรียน เรียนกลอน ตอนนี้หนา
หนาสมุด สมุดหมด จดวิชา
ชามือขวา ขวาถนัด คัดหมึกลง

ลงปากกา กาขีด ที่ผิดเห็น
เห็นชัดเจน เจนจบ พบบทหลง
หลงคำท้าย ท้ายซ้ำ ทำเอางง
งงแล้วคง คงแก้ อย่าแพ้ทาง

ทางบ้านกลอน กลอนไทย มุ่งหมายเน้น
เน้นจุดเด่น เด่นได้ ไม่ขัดขวาง
ขวางพวกเกรียน เกรียนปละ ไม่ละวาง
วางไว้ห่าง ห่างไกล ไม่เหลียวดู

ดูให้ด้วย ด้วยเพียร เขียนมาแล้ว
แล้วจะแห้ว แห้วใหญ่ ยังไม่รู้
รู้ให้ตรวจ ตรวจด้วย ช่วยเป็นครู
ครูมีอยู่ อยู่หลาย ในบ้านกลอน.

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : [Love], อริญชย์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
25 ธันวาคม 2010, 08:58:PM
บอม ซอง ดุ๊ก
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 589


เสกสรรกลั่นอักษร พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์


« ตอบ #3 เมื่อ: 25 ธันวาคม 2010, 08:58:PM »
ชุมชนชุมชน



เส้นที่โยงข้างบน คือ คำซ้ำกันภายในต้นวรรค

เส้นที่โยงข้างล่าง คือ คำท้ายวรรคซ้ำกันกับคำต้นวรรคถัดไป ดังตัวอย่าง

เอาแผนผังมาให้ดูครับ..เผื่อเพื่อนๆสนใจ

~ชวนเพื่อน~

ชวนเพื่อนเพื่อน เพื่อนเอ๋ย มาเอ่ยอ้อน
อ้อนด้วยกลอน กลอนเพิศ เปิดสร้างสรรค์
สรรสิ่งใหน ใหนลอง คล้องประพันธ์
พัลวัน วรรณยุกต์ สุขจำเรียง

เรียงเรียบพจน์ พจมาน ให้หวานล้ำ
ล้ำถ้อยคำ คำท้าย ถ่ายทอดเสียง
เสียงท้ายเริ่ม เริ่มบาท พาดคู่เคียง
เคียงพร้อมเพียง เพียงแค่นั้น นั่นแหละเธอ

O

 emo_12มีพี่ๆใจดี ตั้งกระทู้นี้ใหม่ให้...ต้องขอบคุณมากครับ

บอม ซอง ดุ๊ก




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : [Love], อริญชย์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสกสรรกลั่นอักษร....พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์
28 ธันวาคม 2010, 04:48:PM
อักษรารำพัน
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 84
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 120



« ตอบ #4 เมื่อ: 28 ธันวาคม 2010, 04:48:PM »
ชุมชนชุมชน

“กลอนกลบทยัติภังค์” เหมือนกลอนแปดธรรมดาอื่นๆ ทั่วไป เพียงแต่มีข้อกำหนดให้คำสุดท้ายของวรรคเป็นคำที่ใช้ยัติภังค์เชื่อมไปยังวรรคต่อไปเสมอ ดังตัวอย่าง

๐ บ้านฉันอยู่..บางไทร..ไกลจากทุ่ง-
นา.เมืองกรุง..ก่อนเข้า..เป็นเจ้าหน้า-
ที่.รถไฟ..หลายปี..บัดนี้อา-
ยุ.เลยกว่า..หาคน..มาสนใจ-.


จะเห็นคำที่ใช้ยติภังค์ที่ท้ายวรรค คือ “ทุ่ง-นา” “เจ้าหน้า-ที่” และ “อา-ยุ” และหากจะแต่งต่อในวรรคต่อไป ก็จะต้องให้คำแรกของบทที่สอง (วรรคสดับ) เป็นคำที่รับกับคำสุดท้ายของบาทสี่ในบทที่หนึ่งด้วย ในทีนี่คือคำว่า “ใจ” โดยมี ยติภังค์มาเป็นตัวเชื่อมด้วย
นอกจากนั้นคำสุดท้ายของ ”วรรค-รับ” ของบทที่สอง ต้องเป็นคำที่สัมผัสรับกับ “วรรคส่ง” ของบทที่หนึ่งตามหลักฉันทลักษณ์ของกลอนแปด  โดยทั่วไปคำที่จะนำมาใช้กับเครื่องหมาย ยติภังค์ จะเป็นคำประสม ซึ่งเมื่อนำมาแยกโดย ยติภังค์ อาจจะทำให้ความหมายในแต่ละวรรค ครบหรือไม่ครบก็ได้ จุดเด่นคือเหมือนให้กลอนต่อเนื่องกันไปจนจบบท.......


๐ กลบท..บทกล..เวียนวนจิต-
ใจ.จรด..จดจำ..เฝ้าย้ำคิด-
ถึง.มวลมิตร..ชิดใกล้..ด้วยใจภัก-

ดี.ต่อกัน..ฉันเพื่อน..คอยเตือนย้ำ-
รอย.ทรงจำ..พร่ำตรึง..ซึ้งสลัก-
ไว้.แนบทรวง..ดวงใจ..วิไลนัก-
กลอน.สานถัก..อักษรา..ภาษากานท์-

กวี.ไทย..ใจมั่น..และหมั่นร่าย-
คำ.คมคาย..หมายเติม..เสริมผสาน-
ไว้.ให้อยู่..คู่แดน..ไปแสนนาน-
ตราบ.วันวาร..สานถัก..มิพักเลือน-

ลืม.ทิ้งภา...-ษาไทย..กันไปสิ้น-
ทั้งแดน.ดิน..ถิ่นไทย..เหมือนใครเฉือน-
ไป.จนต้อง..หมองช้ำ..จึงย้ำเตือน-
หมู่พี่น้อง..ผองเพื่อน..อย่าเชือนแช.....

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
28 ธันวาคม 2010, 05:17:PM
บอม ซอง ดุ๊ก
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 589


เสกสรรกลั่นอักษร พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์


« ตอบ #5 เมื่อ: 28 ธันวาคม 2010, 05:17:PM »
ชุมชนชุมชน




ร่วมด้วยช่วยกัน

กลบท ยัติภังค์

                                   ฟังดูดู รู้เหตุ สังเกตสัง

สังขารา ราคะ ให้มาวัง          วังเวงนั่ง นั่งเหงา สุดเศร้ากัน

กันดารดอน ดอนแล้ง ดินแห้งเหือด   เหือดแห้งเดือด เดือดจิต มาคิดสรร
สรรหาน้ำ น้ำฝน หาจนวัน               วันทาฝัน ฝันว่า พนาไพร

ไพรสณฑ์เฉา เฉาใบ พาใจรัน          รันทดขวัญ ขวัญหาย สลายไหว
ไหวหวั่นจิต จิตพา ระอาภัย              ภัยพิษไหน ไหนเปรียบ มาเทียบกัน

กันภัยแล้ง แล้งสุด มนุสสา              สาครา ราโค โอ้ร้อนขวัญ
ขวัญจิตคิด คิดไป ใจร้อนกัน            กันทั่วหวั่น หวั่นจน ขาดฝนเท

เทพารักษ์ รักษา เมตตาเผ่า             เผ่าพันธุ์เจ้า เจ้าป่า พนาเส
เสวนา นาพันธุ์ สวรรค์เท                 เทวาเท เทฝน ลงบนนา

นานาพันธุ์ พันสรวล สุขถ้วนน้ำ         น้ำฝนตาม ตามเขา ลำเนาหนา
หนาหนูหนู ดูน้ำ ตกตามนา              นาคินทร์ร่า ร่าเริง เถลิงไกร

ไกรลาสเย็น เย็นน้ำ ตามลำเขา         เขาว่าเรา เราสุข หมดทุกข์ใส
ไสยาสน์นอน นอนหลับ ประดับไพร   ไพรสัณฑ์ใส ใสสด ลงจดกิน

กินนรโหย โหยหวน คร่ำครวญหวั่น    หวั่นไหวสั่น สั่นหนาว เพราะเจ้าสินธุ์
สินธุ์ไหลซ่า ซ่าเลี้ยว คดเคี้ยวพิน      พินทุสิ้น สิ้นหยด เพราะหมดกัน

กันดารแล้ง แล้งทั่ว ทุกหัวแห่ง          แห่งหนแจ้ง แจ้งร้อน จึงนอนฝัน
ฝันผิดผิด จิตลอย มาคอยวัน           วันคืนสัน สันเศร้า ให้ร้าวฤๅ

ฤๅทัยทุกข์ ทุกข์หนัก จักจดจำ จำใจช้ำ ช้ำชอก สุดบอกหรือ
หรือว่าใคร ใครทำ ให้ล่ำลือ             ลือเลื่องถือ ถือเล่ห์ เจรจา

จารกรรม กรรมชั่ว น่ากลัวจักร          จักรหมุนหัก หักเห สิเน่หา
หายนะ นะคน ให้จนพา                   พาราว้า ว้าวุ่น ครุ่นคะนึง

คะนึงคิด คิดจน รำพนผัน                ผันแปรกัน กันทั่ว มืดมัวถึง
ถึงจะห้าม ห้ามใคร ใจรำพึง             พึงคิดถึง ถึงหลัง มานั่งซึม

ซึมเศร้าโศก โศกจิต นั่งคิดสะ          สลดละ ละเลย นั่งเฉยขรึม
ขรึมเคร่งเครียด เครียดจน มาบ่นพึม   พึมพำอึ้ม อึ้มอั้ม มารำพัน

พันผูกป่า ป่าผูก ทุกยุครุ่ง                รุ่งโรจน์สูง สูงยูง เป็นฝูงขวัญ
ขวัญใจสัตว์ นานา สารพัน               พันเหมือนสรรค์ สรรค์ชอบ ระบอบธรรม

ธรรมชาติ ชาติงาม ไปตามส่วน        ส่วนถูกถ้วน ถ้วนงาม ไปตามสัม
สัมมาชีพ ชีพดี ชี้ชักคำ                   คำคมขำ ขำจัง มาฝังใจ

ใจสงบ จบจบ สงบจิต                    จิตไม่คิด คิดฟุ้ง ให้ยุ่งไหน
ไหนจะเรื่อง เรื่องราว ไม่เข้าใจ         ใจใสใส ไขขาน นิพพานเอย.


                                                           ...หยาดกวี...

                                                        ๕ ตุลาคม ๒๕๕๑

*******************************

มองเห็นน้ำ น้ำที่ เป็นสีน้ำ-
เงินเข้มลำ ลำจะ กะพลันโผน-
เผ่นลงหวัง หวังแช่ใ ห้ชื่นโชน-
โชกฉ่ำโหน โหนเกาะ ก้อนหินมี-

ยื่นมา พอพอให้ไม่ ต้องจ่ม-
จมไปขม ขมกลืน กินน้ำสี-
เขียวเข้าท้อง ท้องน่า กลัวว่าชี-
วิตเรานี้ นี้ต้อง ลับดับไป

จากท่าน สุกรวดี

*******************************

ขอบคุณที่มา:http://www.oknation.net/blog/kondee007/2008/10/05/entry-1

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : [Love], อริญชย์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสกสรรกลั่นอักษร....พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s