ในคืนค่ำราตรีที่โสมส่อง
แสงลำยองผ่องเพ็ญเย็นไฉน
แวววับวาวดาวพร่างกระจ่างไกล
ดั่งจะน้อมนำใจไหว..อกครัน
เย็นยะเยือกสายลมพรมใบโศก
สะท้านโยกกิ่งยืนอยู่ครืนครั่น
รักสองเราเคลียคลอพะนอกัน
พลอดรำพันซึ้งซาบตราบมลาย
หวานรักฉ่ำรำพึงคะนึงชู้
ชื่นเชยชูคู่จิตไม่คิดหน่าย
สุดจะหักรักร้อนให้ผ่อนคลาย
สวาทสายหวังถวิลแทบภินท์พัง
สุขนี้หรือใดเปรียบมาเทียบเท่า
รักใต้เงากิ่งใบด้วยใจหวัง
พี่เคียงเธอเปรอปรนท้นประดัง
ดุจจะฝังรักไว้ให้จดจำ
ทั้งแก้มแขนคิ้วคางสะอางจิต
ยิ่งเพ่งพิศยิ่งป่วนชวนชื่นฉ่ำ
โอษฐ์แย้มยิ้มอิ่มเอ่ยเพียงเผยคำ
วจีพร่ำร่ำรักประจักษ์กัน
แสนสะท้านสราญปลื้มลืมวิโยค
ใต้เงาโศกเล้าโลมโสมสวรรค์
สองรักเรารวมไว้ใจผูกพัน
กลางเงาจันทร์มั่นแท้มิแชเชือน
อาวรณ์ไหวในทรวงสุดห่วงหา
ห่อนจืดจางร้างลาพารักเลื่อน
ขอรักอยู่คู่เคล้าเร้าติดเตือน
เช่นแสงเดือนอยู่ยังยั้งยืนยง
จิตใฝ่ฝักรักกันมั่นคงแน่
หวังเฝ้าแลร่วมคู่มิรู้หลง
ถึงฟ้าสิ้นดินจมถล่มลง
รักยังคงตรงรอซื่อต่อกัน