สะพานตา
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 พฤศจิกายน 2024, 05:07:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สะพานตา  (อ่าน 7986 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
14 ธันวาคม 2010, 04:07:PM
พริฎฐา
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 61
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 58


สวัสดีค่ะ


« เมื่อ: 14 ธันวาคม 2010, 04:07:PM »
ชุมชนชุมชน



สะพานตา




ความจริงใจ ให้กัน ในวันก่อน
ส่งตาค้อน ซ่อนซึ้ง จนถึงฝัน
ยิ้มเพียงน้อย คอยตื๊อ สื่อสัมพันธ์
จนจิตฉัน หวั่นไหว หวิวในทรวง

เพราะคำหวาน หว่านหวัง เพียรฝังฝาก
หรือวิบาก จากกรรม ทำห่วงหวง
เพียงสบแวว แพรวเนตร กลัวเลศลวง
ต้องทักท้วง ดวงใจ มิให้ซึ้ง

อนิจจา ใจเอย เจ้าเคยแกร่ง
กลับแอบแฝง แบ่งจิต ไปคิดถึง
เหตุไฉน ใจซื่อ จึงดื้อดึง
กล้าประหนึ่ง ว่าพร้อม ยอมเจ็บใจ

ถ้านาที นี้ตอบ ว่าชอบ, รัก
เธอจะทัก รักตอบ หรือชอบไหม
สะพานตา อาทร ซ่อนห่วงใย
เผยความนัย หมดแล้ว นะแก้วทรวง




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ยามพระอาทิตย์อัสดง

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
14 ธันวาคม 2010, 05:15:PM
jubjub
LV5 ศิลปินเอกแห่งตำบล
*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 11
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 76


Out of sight Out of mind


« ตอบ #1 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2010, 05:15:PM »
ชุมชนชุมชน

    ระหว่างความเป็นจริงและความรู้สึก

ในส่วนลึกของใจยังใฝ่หา

ไม่อยากเป็นเพียงแค่คนผ่านตา

เฝ้าฝันหารักแท้จากใครสักคน
     

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ยามพระอาทิตย์อัสดง

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

คนไม่ดีอย่างฉัน.....ไม่ต้องการสิ่งไหน....ไม่ต้องเข้าใจอย่าเหนื่อยกับฉันเกินไป........
14 ธันวาคม 2010, 07:51:PM
พระจันทร์สีน้ำเงิน
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 73
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 66



« ตอบ #2 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2010, 07:51:PM »
ชุมชนชุมชน



สะพานตา




ความจริงใจ ให้กัน ในวันก่อน
ส่งตาค้อน ซ่อนซึ้ง จนถึงฝัน
ยิ้มเพียงน้อย คอยตื๊อ สื่อสัมพันธ์
จนจิตฉัน หวั่นไหว หวิวในทรวง

เพราะคำหวาน หว่านหวัง เพียรฝังฝาก
หรือวิบาก จากกรรม ทำห่วงหวง
เพียงสบแวว แพรวเนตร กลัวเลศลวง
ต้องทักท้วง ดวงใจ มิให้ซึ้ง

อนิจจา ใจเอย เจ้าเคยแกร่ง
กลับแอบแฝง แบ่งจิต ไปคิดถึง
เหตุไฉน ใจซื่อ จึงดื้อดึง
กล้าประหนึ่ง ว่าพร้อม ยอมเจ็บใจ

ถ้านาที นี้ตอบ ว่าชอบ, รัก
เธอจะทัก รักตอบ หรือชอบไหม
สะพานตา อาทร ซ่อนห่วงใย
เผยความนัย หมดแล้ว นะแก้วทรวง










อานุภาพแห่งรักมักแผลงฤทธิ์
สามารถปลิดขั้วแดแม้ห่วงหวง
กามเทพฉ้อฉลสร้างกลลวง
ขมวดทรวงพ่วงทัณฑ์บรรณการ

เปรียบมาลีผุดผายประกายแสง
เผยนัยแฝงเย้าภมรอย่างอ่อนหวาน
ภุมรินเคล้าคลอจนช่อราน
คล้ายดวงมานปี้ป่นกล่นน้ำตา

จะกุมกักรักเก็บก็เหน็บหน่วง
เหมือนติดบ่วงโลมเล่ห์เสน่หา
ความอ่อนไหวร่ายรำทำมารยา
อำพรางพร่ามืดมัวสลัวนัย

ตอกสลักปักตรึงประหนึ่งหวัง
พะว้าพะวังว่ายวงอสงไขย
ตราบชาติภพกลบช่วงลุล่วงไป
สุดแดนไตรไกรวัลย์ยังฝันปอง

อยู่ห่างกันสุดกู่สินธูกั้น
มิอาจคั่นห้วงกมลคนทั้งสอง
ผู้สมาสมั่นหมายฤทัยปอง
เคยร่วมครองคู่กันแต่บรรพ์มา

วาสนาปฎิพัทธ์จะรัดแน่น
เป็นเกลียวแก่นผูกสายปลายเวหา
ปีกสายลมแห่งรักจะชักพา
ท่องนภาแอบออพะนอบิน

อานุภาพแห่งรักประจักษ์ซึ้ง
ดุจน้ำผึ้งหอมหวนชวนถวิล
แม้หยดหนึ่งจากสรวงที่ร่วงริน
กำซาบถิ่นแดนใจไม่รู้คลาย

 


เขียนแต่กลอนเพื่อชีวิตมานาน วันนี้ลองกลอนรักๆมั่ง เขินชอบกลค่ะ หุหุ.. เอ้อ..จริงว่ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ยามพระอาทิตย์อัสดง

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
15 ธันวาคม 2010, 12:32:PM
ฉันเอง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 182
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 685


เป็นตัวเองดีกว่า..วุ้ย


« ตอบ #3 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2010, 12:32:PM »
ชุมชนชุมชน


สายตาคู่นั้น...

เพียงแค่เหลือบดูเธอยามเผลอใกล้
ไปแล้วใจตามติดประชิดหา
เพียงคำรักยังมิได้เอ่ยออกมา
ใจถลำเข้าไปหายอดยาใจ

เหมือนมีไฟหมื่นโวลท์จับโดนช๊อต
ตะลึงกอดเสาไฟโหยหาไห้
นึกไม่ถึงเสน่ห์เธอแฝงดั่งแรงไฟ
เข่าพี่ทรุดทันใดยามใกล้กัน

ยามเผลอมองเข้าดวงตาเมื่อเธอจ้อง
ต้องคันศรง้างแล้วยิงทิ่มใจฉัน
เธอแผลงศรรักปักทรวงติดบ่วงพลัน
ขอยอมตายแทบเท้านั่นประหวั่นวิง

ฉันเอง..

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ยามพระอาทิตย์อัสดง

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอแต่งโลกสวย  ด้วยคำกลอน
16 ธันวาคม 2010, 12:55:AM
พริฎฐา
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 61
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 58


สวัสดีค่ะ


« ตอบ #4 เมื่อ: 16 ธันวาคม 2010, 12:55:AM »
ชุมชนชุมชน




อานุภาพแห่งรักมักแผลงฤทธิ์
สามารถปลิดขั้วแดแม้ห่วงหวง
กามเทพฉ้อฉลสร้างกลลวง
ขมวดทรวงพ่วงทัณฑ์บรรณการ

เปรียบมาลีผุดผายประกายแสง
เผยนัยแฝงเย้าภมรอย่างอ่อนหวาน
ภุมรินเคล้าคลอจนช่อราน
คล้ายดวงมานปี้ป่นกล่นน้ำตา

จะกุมกักรักเก็บก็เหน็บหน่วง
เหมือนติดบ่วงโลมเล่ห์เสน่หา
ความอ่อนไหวร่ายรำทำมารยา
อำพรางพร่ามืดมัวสลัวนัย

ตอกสลักปักตรึงประหนึ่งหวัง
พะว้าพะวังว่ายวงอสงไขย
ตราบชาติภพกลบช่วงลุล่วงไป
สุดแดนไตรไกรวัลย์ยังฝันปอง

อยู่ห่างกันสุดกู่สินธูกั้น
มิอาจคั่นห้วงกมลคนทั้งสอง
ผู้สมาสมั่นหมายฤทัยปอง
เคยร่วมครองคู่กันแต่บรรพ์มา

วาสนาปฎิพัทธ์จะรัดแน่น
เป็นเกลียวแก่นผูกสายปลายเวหา
ปีกสายลมแห่งรักจะชักพา
ท่องนภาแอบออพะนอบิน

อานุภาพแห่งรักประจักษ์ซึ้ง
ดุจน้ำผึ้งหอมหวนชวนถวิล
แม้หยดหนึ่งจากสรวงที่ร่วงริน
กำซาบถิ่นแดนใจไม่รู้คลาย

 


เขียนแต่กลอนเพื่อชีวิตมานาน วันนี้ลองกลอนรักๆมั่ง เขินชอบกลค่ะ หุหุ.. เอ้อ..จริงว่ะ



โอ้ดวงตา ว่าเป็น เช่นหน้าต่าง
ปูพรมทาง สร้างส่ง บ่งความหมาย
กิริยา อาการ ผ่านร่างกาย
ปั้นหน้าตาย อายซ่อน ยังผ่อนปรน

แล้วแววเนตร เลศนัย ไฉนต่าง
ถึงอำพราง อย่างไร กลับไร้ผล
จังหวะใจ ไหวเต้น เหมือนเล่นกล
บุพเพดล หนใด หนอใจเอย

แม้นบุพเพ เร่หลอก เพียงหยอกยั่ว
มิหวาดกลัว หัวใจ ใคร่เฉลย-
ว่าทุกวัน ขวัญยืน คอยชื่นเชย
รักจังเลย เคยฟัง หรือยังจ๊ะ

 เอ้อ..จริงว่ะ

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 ธันวาคม 2010, 05:44:AM
ไม่รู้ใจ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 568
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 593


« ตอบ #5 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2010, 05:44:AM »
ชุมชนชุมชน


สบเนตรน้องจ้องเพลินอยากเดินคู่
ขวัญพธูคนดีที่สวยสะ
อยากจะรักอยากจะหลงคงไม่ละ
อย่าลืมนะว่ารักปักทรวงใน

 รักแรกพบหลบตาพาเก้อเขิน
เมื่อเขาเมินไม่มองต้องหวั่นไหว
หรือรังเกียจแล้วหนอท้อเหลือใจ
งั้นขอลาจากไปให้ไกลตา

 จะตัดใจจากน้องแอบร้องไห้
เพราะหัวใจบอบช้ำร่ำถลา
บุญเราน้อยด้อยศักดิ์หนักอุรา
ไว้ชาติหน้าพบกันฝันยืนยง

 หรือนวลน้องก็มีฤดีฝัน
ผูกสัมพันธ์ใช่ไหมใจประสงค์
จะรักน้องนางเดียวเหนี่ยวใจจง
ขออนงค์สบตาอย่ามองเมิน

 
"ปรางค์ สามยอด"



ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 ธันวาคม 2010, 07:27:PM
พริฎฐา
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 61
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 58


สวัสดีค่ะ


« ตอบ #6 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2010, 07:27:PM »
ชุมชนชุมชน


สบเนตรน้องจ้องเพลินอยากเดินคู่
ขวัญพธูคนดีที่สวยสะ
อยากจะรักอยากจะหลงคงไม่ละ
อย่าลืมนะว่ารักปักทรวงใน

 รักแรกพบหลบตาพาเก้อเขิน
เมื่อเขาเมินไม่มองต้องหวั่นไหว
หรือรังเกียจแล้วหนอท้อเหลือใจ
งั้นขอลาจากไปให้ไกลตา

 จะตัดใจจากน้องแอบร้องไห้
เพราะหัวใจบอบช้ำร่ำถลา
บุญเราน้อยด้อยศักดิ์หนักอุรา
ไว้ชาติหน้าพบกันฝันยืนยง

 หรือนวลน้องก็มีฤดีฝัน
ผูกสัมพันธ์ใช่ไหมใจประสงค์
จะรักน้องนางเดียวเหนี่ยวใจจง
ขออนงค์สบตาอย่ามองเมิน

 
"ปรางค์ สามยอด"





ยามสายตา อาวรณ์ เธอช้อนส่ง
สบตรงตรง หลงเพ้อ จนเก้อเขิน
ขอให้เป็น เช่นนั้น นิรันดร์เทอญ
ช้อนตาเชิญ เยินยอ อย่าท้อใจ

เห็นหรือเปล่า เล่าหนา ขอบฟ้าโพ้น
แดดฉายโชน โดนบัง หลังเมฆไหว
เฉกยอดมิตร คิดผัน ทางครรไล
โศกฤทัย ใจเหมือน แดดเลือนราง

ร้อยมาลัย ไมตรี เป็นศรีขวัญ
รำลึกวัน ฝันหา อย่าเหินห่าง
เมื่อมนต์รัก ชักใย ไม่เจือจาง
อาจร่วมสร้าง ทางผ่าน สะพานใจ



ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
20 ธันวาคม 2010, 06:23:PM
พระจันทร์สีน้ำเงิน
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 73
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 66



« ตอบ #7 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2010, 06:23:PM »
ชุมชนชุมชน





อานุภาพแห่งรัก  (2)

ยินสังคีตสรวงกล่อมล้อมอุระ
ขับคีตะแซ่ซ้องพ้องเสมือน
แห่งคำมั่นสัญญาการมาเยือน
ฤดูกาลรักเลื่อนมาเคลื่อนคล้อง

ห้วงหทัยเหว่ว้าน้ำตาแต้ม
ดอกโศกแย้มเย้าอยู่เป็นคู่สอง
ก่อนบุพเพเสน่หามาครอบครอง
พรากเจิ่งนองเนตราให้คลาไคล

เหมือนแสงสูรย์ส่องพร่างในกลางดึก
ไล่ระทึกขวัญรัวทั่วไศล
โชนแสงงามอบอุ่นละมุนไอ
พ่วงพันใจสองดวงเป็นพวงร้อย

สร้อยระโยงจากสวรรค์อันระยับ
ลงประทับเยื่อใยเกี่ยวปลายก้อย
ทอประกายแดงเรื่อแก้มเนื้อกลอย
ด้วยแรงรอยมือชายที่หมายเชย

ภายดวงตาพู่ร่ายเป็นสายรุ้ง
อุ่นไอหุงจากอกสู่อกเอ๋ย
ขมคณาบอระเพ็ดที่เข็ดเคย
ไฉนเลยล้วนหวานปานน้ำทิพย์

ละอองรินโลมล้อกอดอกรัก
ที่ฟูมฟักปลูกประจงลงนับสิบ
จนแตกหน่อช่อหน่วงรวงระยิบ
รอคนหยิบยวงแย้มแซมโมลี

โดยบุรุษแอบออพะนอขวัญ
ใต้แสงจันทร์จำรัสรัศมี
สิ..มวลหมู่ดาริกามายินดี
ท่ามแสงหลัวราตรีมีเพียงเรา

อยากหยุดวัน ปี เดือน  ให้เคลื่อนช้า
ซื้อเวลาเคยประทุษผู้สุดเหงา
ต่อสิ้นภพกลบหล้าจักคว้าเงา
เคียงแนบเนาในฝันจวบบั้นปลาย

อานุภาพในหล้าใดปรากฏ
ต้องมีอันกำสรดหมดความหมาย
ตราบสุรีย์ริบเลื่อมยังเพื่อมพราย
ห่อนรู้คลายมนตรามายารัก




เอาภาคสองมาแจมค่ะ คุณพริษฐา
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
21 ธันวาคม 2010, 09:41:AM
ดิษฐา
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 200
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,067



« ตอบ #8 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2010, 09:41:AM »
ชุมชนชุมชน


นานเกินนับพับเก็บ จนเหน็บหนาว
ทุกค่ำเช้า คราวไหน ใจคิดถึง
ทำได้เพียงเมียงมอง จ้องรำพึง
ให้ติดตรึงถึงจิต ที่คิดไกล

ไม่อาจห้ามปรามแล้ว ฉายแววบอก
มิคิดหลอกออกตัว กลัวการใกล้
เพียงรับรู้ดูซิ รักผลิใบ
ปัดสะไหวในห้วง ลวงละเมอ

ส่งสายตาลำนำ ทักคำ รัก
เธอจะทักผลักไกล ใคร่เสนอ
สะพานจอดทอดไว้ ให้เพียงเธอ
กลัวรอเก้อเพ้อพลบ แล้วจบลง

ใจหวิวหวั่นสั่นไหว ไร้ไออุ่น
รักละมุลกรุ่นหอม มอมให้หลง
ลุ้นระทึกนึกถึง ตะลึงงง
รักส่งตรงลงหลัก แล้วปักตาย


 ปลื้มจัง
ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
21 ธันวาคม 2010, 12:48:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #9 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2010, 12:48:PM »
ชุมชนชุมชน

ด้วยหัวใจ ในอก ถูกปกปิด
คนเดียวคิด อยู่นั้น จึงหวั่นไหว
จะเอ่ยรัก จากปาก ฝากบอกไป
ก็กระไร อยู่นา น่าอับอาย

ความในใจ สื่อไง ให้รู้หนอ
ด้วยชอบพอ รักใคร่ ได้มั่นหมาย
และทุกครั้ง คิดอยู่ ดูมากมาย
สาธยาย ต่อหน้า เมื่อคราเจอ

พบกันสี่ ห้าครั้ง ยังประหม่า
ที่เตรียมมา ลืมไป ด้วยใจเผลอ
หล่อนมองมา ตาเรา เป็นเงาเบลอ
แล้วคุณเธอ แกล้งขำ ทำเอางง

แอบดูตา หล่อนจ้อง มองเห็นแล้ว
ว่ามีแวว เช่นไร หมายประสงค์
ตาต่อตา ห่างกัน ไม่มั่นคง
จะตกลง อย่างไร ไม่พูดจา

ให้ตาเป็น สายใย ว่าได้รัก
คงอกหัก ช้ำตรม ซมอีกหนา
ไม่แข็งพอ ให้ผ่าน สะพานตา
ต้องหลบหน้า ทุกครั้ง ใช่หวังเมิน

จะมีใคร สอนด้วย ช่วยผมบ้าง
เวลาว่าง ฝึกไว้ ไม่ขวยเขิน
จบหลักสูตร เมื่อใด ไม่หยอกเอิญ
ไม่หลงเพลิน หรอกหนา สบตาครู.
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
21 ธันวาคม 2010, 01:04:PM
อักษรารำพัน
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 84
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 120



« ตอบ #10 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2010, 01:04:PM »
ชุมชนชุมชน

สะพานตา




ความจริงใจ ให้กัน ในวันก่อน
ส่งตาค้อน ซ่อนซึ้ง จนถึงฝัน
ยิ้มเพียงน้อย คอยตื๊อ สื่อสัมพันธ์
จนจิตฉัน หวั่นไหว หวิวในทรวง

เพราะคำหวาน หว่านหวัง เพียรฝังฝาก
หรือวิบาก จากกรรม ทำห่วงหวง
เพียงสบแวว แพรวเนตร กลัวเลศลวง
ต้องทักท้วง ดวงใจ มิให้ซึ้ง

อนิจจา ใจเอย เจ้าเคยแกร่ง
กลับแอบแฝง แบ่งจิต ไปคิดถึง
เหตุไฉน ใจซื่อ จึงดื้อดึง
กล้าประหนึ่ง ว่าพร้อม ยอมเจ็บใจ

ถ้านาที นี้ตอบ ว่าชอบ, รัก
เธอจะทัก รักตอบ หรือชอบไหม
สะพานตา อาทร ซ่อนห่วงใย
เผยความนัย หมดแล้ว นะแก้วทรวง




๐ ความจริงใจ ให้เธอ ยังเอ่อล้น
ในกมล คนหนึ่ง ซึ่งห่วงหวง
ด้วยตระหนัก รักแท้ จากแดดวง
แม้จะล่วง บ่วงช้ำ ก็จำยอม

๐ ทุกทุกคำ ย้ำฝาก จากปากพี่
ทุกวลี ที่เอ่ย เคยถนอม
ก็พร่ำเปรย เผยหมด มิอดออม
หมายหล่อหลอม จอมนาง สู่กลางใจ

๐ โอ้ใจเอ๋ย เคยทนง ว่าคงมั่น
มาประสบ พบขวัญ กลับหวั่นไหว
เคยคิดว่า กล้าแกร่ง กลับแกว่งไกว
เรี่ยวแรงไร้ ใจสั่น ดุจฟั่นเฟือน

๐ ถ้าคำตอบ มอบมา ว่าไม่รัก
คงอกหัก รัก, ช้ำ ระกำเหมือน
คืนนภา ฟ้าไกล ที่ไร้เดือน
แก้มคงเปื้อน เกลื่อนคร่ำ ด้วยน้ำตา

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ยามพระอาทิตย์อัสดง

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
21 ธันวาคม 2010, 09:21:PM
พริฎฐา
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 61
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 58


สวัสดีค่ะ


« ตอบ #11 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2010, 09:21:PM »
ชุมชนชุมชน

สะพานตา




ความจริงใจ ให้กัน ในวันก่อน
ส่งตาค้อน ซ่อนซึ้ง จนถึงฝัน
ยิ้มเพียงน้อย คอยตื๊อ สื่อสัมพันธ์
จนจิตฉัน หวั่นไหว หวิวในทรวง

เพราะคำหวาน หว่านหวัง เพียรฝังฝาก
หรือวิบาก จากกรรม ทำห่วงหวง
เพียงสบแวว แพรวเนตร กลัวเลศลวง
ต้องทักท้วง ดวงใจ มิให้ซึ้ง

อนิจจา ใจเอย เจ้าเคยแกร่ง
กลับแอบแฝง แบ่งจิต ไปคิดถึง
เหตุไฉน ใจซื่อ จึงดื้อดึง
กล้าประหนึ่ง ว่าพร้อม ยอมเจ็บใจ

ถ้านาที นี้ตอบ ว่าชอบ, รัก
เธอจะทัก รักตอบ หรือชอบไหม
สะพานตา อาทร ซ่อนห่วงใย
เผยความนัย หมดแล้ว นะแก้วทรวง




๐ ความจริงใจ ให้เธอ ยังเอ่อล้น
ในกมล คนหนึ่ง ซึ่งห่วงหวง
ด้วยตระหนัก รักแท้ จากแดดวง
แม้จะล่วง บ่วงช้ำ ก็จำยอม

๐ ทุกทุกคำ ย้ำฝาก จากปากพี่
ทุกวลี ที่เอ่ย เคยถนอม
ก็พร่ำเปรย เผยหมด มิอดออม
หมายหล่อหลอม จอมนาง สู่กลางใจ

๐ โอ้ใจเอ๋ย เคยทนง ว่าคงมั่น
มาประสบ พบขวัญ กลับหวั่นไหว
เคยคิดว่า กล้าแกร่ง กลับแกว่งไกว
เรี่ยวแรงไร้ ใจสั่น ดุจฟั่นเฟือน

๐ ถ้าคำตอบ มอบมา ว่าไม่รัก
คงอกหัก รัก, ช้ำ ระกำเหมือน
คืนนภา ฟ้าไกล ที่ไร้เดือน
แก้มคงเปื้อน เกลื่อนคร่ำ ด้วยน้ำตา

 

ซึ้งกมล คนดี มิ่งชีวิต
เหนือมวลมิตร จิตใจ เฝ้าใฝ่หา
แม้หักปลาย ร้ายราน ผลาญอุรา
ยังศรัทธา กล้ารอ ไม่ท้อทรวง

หนึ่งชีวิต สิทธิ์ไขว่ ต้องไล่คว้า
แม้นเบื้องหน้า ผาชัน พลิกผันล่วง
หัวใจรัก ภักดิ์-หวัง แล้วทั้งดวง
ยอมตกบ่วง ปวงเหตุ แห่งเภทภัย

หากรักแล้ว แคล้วคลาด ต้องพลาดหวัง
คืนฟ้าหลั่ง ปลั่งดาว สกาวใส
จะเริงร่า ตาพริ้ม ยิ้มอย่างไร
หลอมฤทัย ไว้เคียง กลับเพลี่ยงพล้ำ

มองจันทร์เพ็ญ เด่นฉาย ณ ปลายฟ้า
แอบอิจฉา ฟ้าชื่น ทุกคืนค่ำ
สองฤดี ที่ไกล ไร้บุญนำ
จะชื่นฉ่ำ ค่ำไหน ก็ไม่รู้

  อายแบบน่ารัก
สวัสดีค่ะ
บทกลอนไพเราะมากค่ะ


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ยามพระอาทิตย์อัสดง

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
21 ธันวาคม 2010, 10:05:PM
พริฎฐา
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 61
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 58


สวัสดีค่ะ


« ตอบ #12 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2010, 10:05:PM »
ชุมชนชุมชน

นานเกินนับพับเก็บ จนเหน็บหนาว
ทุกค่ำเช้า คราวไหน ใจคิดถึง
ทำได้เพียงเมียงมอง จ้องรำพึง
ให้ติดตรึงถึงจิต ที่คิดไกล

ไม่อาจห้ามปรามแล้ว ฉายแววบอก
มิคิดหลอกออกตัว กลัวการใกล้
เพียงรับรู้ดูซิ รักผลิใบ
ปัดสะไหวในห้วง ลวงละเมอ

ส่งสายตาลำนำ ทักคำ รัก
เธอจะทักผลักไกล ใคร่เสนอ
สะพานจอดทอดไว้ ให้เพียงเธอ
กลัวรอเก้อเพ้อพลบ แล้วจบลง

ใจหวิวหวั่นสั่นไหว ไร้ไออุ่น
รักละมุลกรุ่นหอม มอมให้หลง
ลุ้นระทึกนึกถึง ตะลึงงง
รักส่งตรงลงหลัก แล้วปักตาย


 ปลื้มจัง





ใจอาวรณ์ ร้อนรุ่ม กลัดกลุ้มแสน
อยากคล้องแขน แสนงาม เปี่ยมความหมาย
อกอบอุ่น หนุนนอน ออดอ้อนชาย
กลับมลาย สายตา ส่งท้ารบ

คนคิ้วดก อกดาม ด้วยกล้ามมัด
ทั้งน่ากัด มัดใจ ให้สยบ
คนซึ่งฉัน ฝันหา ช้อนตาพบ
ไฉนครบ ตบแป้ง เติมแต่งตา

ไม่มีตา ชวนฝัน คู่นั้นแล้ว
ทำแอ๊บแบ๊ว แป๋วปิ๊ง ดีดดิ้งท่า
เสียเชิงหญิง ยิ่งนัก หนักอุรา
โถไม่น่า ตาถั่ว หลวมตัวมอง

  ขอจุ๊บ..หน่อย 
กราบสวัสดีเจ้าของบ้านค่ะ
ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ยามพระอาทิตย์อัสดง

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s