...วิญญาณร้องไห้...
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 05:48:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ...วิญญาณร้องไห้...  (อ่าน 4093 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
14 ธันวาคม 2010, 12:09:AM
ภู กวินท์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 364
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 383


สนสามใบ กับใครหลายคน


« เมื่อ: 14 ธันวาคม 2010, 12:09:AM »
ชุมชนชุมชน







โอ้อกเอ๋ย…วิญญาณข้ารานร้อง
ท่วงทำนองหมองหม่นจนหวั่นไหว
มันผิดแผกแปลกเห็นความเป็นไป
จึ่งร่ำไรร้องร่ำ…มาคร่ำครวญ

ในห้วงหาวดาวดวงดูล่วงลับ
ราตรีดับคืนค่ำกำสรวล
ทุกถ้อยคำสำลักมาชักชวน
ดื่มด่ำมวลอากาศ…แทบหวาดกลัว

เพียงสายตาอาวรณ์ก่อนข้าพบ
มาประสบภาวะมืดสลัว
ความงียบกริบกระซิบเราอย่าเมามัว
เพื่อให้ตัวยืนหยัด…อย่างชัดเจน

โอ้อกเอ๋ย…คืนนี้ยิ่งชีช้ำ
ถูกเขานำมาวางอยู่กางเขน
ด้วยชินชาสาเหตุของเศษเดน
ชีวิตโอนเอนไหว…อยู่ในกรุง!

น้อยใจแล้วด้วย


ภาพจาก oknation.net



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : plang

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
14 ธันวาคม 2010, 12:38:AM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2010, 12:38:AM »
ชุมชนชุมชน


 
แล้วเจ้าเจ็บช้ำใดไยร่ำร้อง
หรือหวังครองถิ่นไหม่แล้วไม่รุ่ง
คนทุกข์ยากบากหน้ามาเมืองกรุง
เหลือหูมุ้งกลับไปไม่เลวแล้ว

,,,คือใจจริง ไม่อยาก ให้คนบ้านเรา หลงผิด คิดมาเสี่ยงโชคในเมืองกรุง ซึ่งส่วนใหญ่
มักจะทำให้เราเสียคนไทยดี ๆไป คนนึง และ อาจได้ปัญหาสังคมเพิ่มมาอีก หนึ่งคน ภายในไม่ถึงปี น่ะ ครับ

...จึงรำพึงมาด้วยจิต คารวะ

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
14 ธันวาคม 2010, 02:15:AM
ดาวนำทาง
LV2 วัยเร่ร่อนผจญภัย
**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10



« ตอบ #2 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2010, 02:15:AM »
ชุมชนชุมชน




ขอข้าฯ ร่ำไห้แทนท่าน สักวันเถอะ
ให้ปรางเปรอะคาวขื่น เถอะสหาย
ข้าฯ อยากรินน้ำตาลูกผู้ชาย
หลั่งสายด้วยสลด -โศกตรม
.
.
ข้าฯ มิอาจนิ่งดูดาย - สหายรัก
เก็บกดบนกับดักจนหมักหมม
ข้าฯ เศษธุลีที่โสมม
ใครจักสมน้ำหน้า ไม่ว่ากระไร
.

หากน้ำตาหยดหนึ่งที่ร่วงหยด
กล่อมวิญญาณรันทดของท่านได้
ดับเพลิงผลาญระอุคุดวงใจ
แลกกับยิ้มละไมในดวงตา
.

ข้าฯ จะหลั่งน้ำตามาให้หมด
เพื่อดอกไม้สวยสด วันข้างหน้า
ถือวิสาสะวันที่โลกบีฑา
โศกแทนวิญญาณอ้อนล้า เพื่อนมนุษย์!
.
.
................



ไฟล์แนบถูกแก้ไขโดยผู้ดูแลระบบ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : plang

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ควรคงค่าศรัทธาวิญญาณ์ใคร!
14 ธันวาคม 2010, 07:11:PM
ภู กวินท์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 364
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 383


สนสามใบ กับใครหลายคน


« ตอบ #3 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2010, 07:11:PM »
ชุมชนชุมชน








ข้าสูญเสียวิญญาณมานานแล้ว
ลมหายใจผ่าวแผ่วไร้แววฉุด
มีแต่ความโง่งมโลกสมมุติ
ไม่อาจหยุดความหวัง…อหังการ์

เถิด! สหาย…
จุดมุ่งหมายขื่นขับกับโลกหล้า
ยินถ้อยคำพร่ำรักปักชีวา
กี่หม่นพร่ามาพบ…ก็ลบเลือน

จะนำพาอณูของผู้แพ้
ที่มาแต่ละอองทำนองเหมือน
เพื่อรอรับอรุณเข้าหนุนเดือน
อยู่เป็นเพื่อนขื่นขม…อย่างชมเชย

เวลานี้ถ้ามองอาจร้องไห้
แต่สหายเชื่อเถิดข้าเปิดเผย
โลกใบนี้ไม่มีอย่างที่เคย
เมื่อละเลยคืนค่ำ…ของน้ำใจ.

 น้อยใจแล้วด้วย



ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
15 ธันวาคม 2010, 12:34:PM
เมฆา...
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 698
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 624


..............


« ตอบ #4 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2010, 12:34:PM »
ชุมชนชุมชน


ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอรเน็ตครับ.




    /...สายเกิน.../

...น้ำเสียงส่อ กำสรวล คร่ำครวญโศก
ดุจว่าโลก ตกหล่น บนทางเศร้า
เจิ่งและนอง ด้วยหยาด สาดซัดเรา
ชลเนตร แห่งเหงา เจ้าน้ำตา

สะอื้นอึก กระอัก สำลักสิ้น
หายใจริน ระทวย ระทมหา
คล้ายจะขาด บาดย้ำ ช้ำอุรา
ในทุกข์ถา โถมถั่ง ฝังท่ามทรวง

เหมือนเวลา หยุดแช่ เหลือแต่เจ็บ
ที่หนาวเหน็บ เนื้อหนัง ดั่งดอกสรวง
โปรยกลิ่นเย้า เข้าแทรก แหวกกลางดวง
ลงใจกลวง ที่กล้ำ กลืนช้ำใน

มองขื่อคา  คานคบ ประกบคู่
ยิ่งหดหู่  เหลือคณา จะหาไหน
พร้อมเชือกแป้น แขวนขวั่น พาดหลั่นไป
แล้วทำใจ จำนน ต่อหนทาง

ม้วนเป็นวง ลงศอ ที่ต่อขั้ว
แยกดีชั่ว ตัวจิต ที่ติดร่าง
กะว่าสิ้น อินทรีย์ สรรพางค์
แล้วไปอย่าง เวรกรรม ที่ทำทุน

หวังหลุดพ้น จากภพ ที่อาภัพ
แล้วเริ่มนับ หนึ่งแท้ เพื่อแปรหมุน
หวังวงล้อ ต่อชะตา เกื้อการุณย์
ให้ใจอุ่น ขี้นบ้าง ก็ยังดี

ครั้นมองร่าง ห้อยนิ่ง ทิ้งดิ่งดับ
เริ่มกระสับ จับทิศ ที่คิดหนี
รู้สึกผิด ติดตาม ถามราวี
ว่าเรานี้ โง่แท้ แพ้ใจตัว

ด้วยรู้ซึ้ง ถึงครา วิญญาแยก
ใช่ทุกข์แตก ดับหาย สลายหัว
แต่มันยัง เกาะแน่น แก่นระรัว
ลงเนียนัว กลั้วใจ ในวิญญาณ

แต่ก็สาย เกินแล้ว แก้วใจโศก
ถูกพัดโบก ด้วยลม รมประหาร
ที่คิดสั้น เพียงเหตุเศร้า เข้าระราน
สมสันดาน เถอะใจ  ไห้-ระงม.....



***เมฆา...***




ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..สัมผัสทิพย์ปรารถนาอารมณ์แล้ว..
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s