~~ ขอลารัก ~~
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
03 พฤศจิกายน 2024, 03:11:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ~~ ขอลารัก ~~  (อ่าน 4490 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
09 ธันวาคม 2010, 09:41:PM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« เมื่อ: 09 ธันวาคม 2010, 09:41:PM »
ชุมชนชุมชน


ขอลารัก


วันเวลาเวียนผ่านกาลเลยลับ
ฤดูกลับเปลี่ยนไปใหม่มาหา
จากวสันต์เวียนผ่านกาลเวลา
จวบถึงคราเหมันต์สุดรัญจวน

เสียงลมหนาวหวิวหวีดกรีดร่องฝา
แทรกเข้ามาป่วนใจให้คิดหวน
เหมือนเหยียดเยาะเซาะทางอย่างกวนกวน
มายั่วยวนกวนขุ่นฝุ่นอารมณ์

แม้หลบลี้หนีหายแอบกายหลบ
ยังตามพบสบที่หนีขื่นขม
ยากจะเร้นเจ้าได้หนอสายลม
ข้ายังตรมขมชีวีเช่นปีกลาย

ข้าอยากย้ายกายตนให้พ้นโลก
ข้าอยากโยกชีวันก่อนมันสาย
ข้าอยากล้างมลทินสิ้นจากกาย
ข้าอยากหมายทางแจ้งแห่งนิพพาน

ข้าขอยอมพ่ายแพ้แก่ความรัก
ถอดสลักความหลงส่งสุสาน
ถอดความเศร้าเหงาใจมาเนิ่นนาน
ลอยสายธารสู่ยมพรหมรำเพย

เจ้าผ่านมาผ่านไกลฝากไปบอก
คนรักหลอกเล่ห์ลวงทรวงเขนย
ให้เขาหยุดหลอกซ้ำอย่าทำเลย
คนคุ้นเคยขอบอกลา...ชั่วฟ้าดิน

บ้านริมโขง

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

10 ธันวาคม 2010, 02:36:AM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #1 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2010, 02:36:AM »
ชุมชนชุมชน


ทำใครเจ็บ..เจ็บเพราะใคร..อย่าให้ชี้
ผ่านแล้วกี่คนคู่ เท่ารู้จัก
อย่ากล่าวพจน์มดเท็จ ว่าเข็ดรัก
เจ็บแล้วจักจำจริง หรือหัวใจ


แซวเล่น ไม่ว่ากันนะคะ เอ้อ..จริงว่ะ

ระบายจันทร์

ร้องไห้งอแง ร้องไห้งอแง ร้องไห้งอแง ร้องไห้งอแง

รักที่เจ็บ เจ็บเพราะตน ลนหาที่
ไม่พอดี ไม่พอตัว มัวหลงไหล
ไม่เชื่อฟัง ใครเขา เอาแต่ใจ
สมแล้วไง ที่ต้องเจ็บ เพราะเล็บตน

ลาตายดีกว่าตู

ขอบคุณครับ ทีแวะมาร่วมไว้อาลัยให้แก่กัน ร้องไห้งอแง
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

10 ธันวาคม 2010, 02:22:PM
พรายม่าน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 548
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 556


Praiman CharlesTep CharlesTep
เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2010, 02:22:PM »
ชุมชนชุมชน


           กับมากทุกข์สุขโศกในโลกนี้
   ก็ยังมีพบพรากอีกหลากหลาย
   มีจริงเผ็ดเท็จหวานวิมานทราย
   ใจที่หายตายลับไปกับลวง

      ถ้าแรกเริ่มเติมใจด้วยไฟรัก
   ไฟก็มักเผาลามด้วยความหวง
   ถ้าใช้ใจไปกับรักเพื่อตักตวง
   แล้วจะทวงคืนใจจากใครกัน

      ทุกคนหวังตั้งหลักกับรักแท้
   ลืมข้อแม้แพ้ใจขอได้ฝัน
   ลืมทั้งโลกโศกฝืนลืมคืนวัน
   ลืมแม้กันปันใจไว้เผื่อจาง

      โลกที่สวยดั่งสรวงเพื่อลวงล่อ
   ระริกรอซ้ำทุรนด้วยหม่นหมาง
   แท้จริงสุขคลุกไว้เพียงบางบาง
   ก่อนจะวางมีดเงื้อลงเถือใจ

      ถ้าปรับใจให้แน่อยู่แค่รัก
   ไม่หาญหักผลักผันไม่สั่นไหว
   ไม่ห่วงนับจับจองเป็นของใคร
   จะสุขล้นท้นใจที่ได้รัก
   
   พรายม่าน
   สันทราย
   ๑๐.๑๒.๕๓
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

10 ธันวาคม 2010, 05:28:PM
♥ กานต์ฑิตา ♥
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 500
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,078



« ตอบ #3 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2010, 05:28:PM »
ชุมชนชุมชน


@* ขอเจอรัก*@
   

วันเวลาผ่านผันอนันต์นับ
ฤดูสับเปลี่ยนไปใหม่มาหา
จากวสันต์เวียนผ่านกาลเวลา
จนถึงคราเหมันต์สุดรัญจวน

เสียงลมหนาวหวิดหวิวต้องผิวนุ่ม
ความหนาวรุมหัวใจให้คิดหวน
กี่ปีแล้วหัวใจไร้คนกวน
มาชี้ชวนชิดใกล้ในอารมณ์

ไม่เคยลี้หนีห่างพรางตัวหลบ
พร้อมจะคบคนดีที่เหมาะสม
ไม่เคยปิดตัวบังตั้งเงื่อนปม
คนชื่นชมอยู่ไหนไม่เห็นกราย

หรือว่าคนดีดีหนีจากโลก
หรือว่าโชคไม่มีคนที่หมาย
หรือว่ายังไม่มีดีผู้ชาย
หรือว่าสายไปแล้วได้แห้วทาน

จะอย่างไรไม่ยอมแพ้แก่ความรัก
แม้ยากนักผู้ใดใจประสาน
ยังคงหวังตั้งใจได้พบพาน
แม้เนิ่นนานเพียงใดใจยังรอ

จากวสันต์เวียนถึงเหมันต์นี้
พบเสียทีอย่าซ่อนวิงวอนขอ
ความหงอยเหงาเศร้าสุดหยุดแล้วพอ
เหมันต์นี้นี่หนอ...ขอเจอรัก.

สาวน้อยเซย์ ฮาโหล

"Kanthita"
๑๐ ธ.ค. ๒๕๕๓












ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
10 ธันวาคม 2010, 06:50:PM
พระจันทร์สีน้ำเงิน
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 73
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 66



« ตอบ #4 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2010, 06:50:PM »
ชุมชนชุมชน





 ตราบน้ำใสใจคนยังวนวิ่ง
มิเคยนิ่งเวียนว่ายอย่างไร้หลัก
กว่าจะจอดเทียบจุดควรหยุดพัก
มักเล่นเอาเจ็บหนักกระอักใน

หากริรักลองแล้วไม่แคล้วปวด
ดั่งถูกหวดแส้ส่งสิ้นสงสัย
หามีดอกสมอุราสาฤทัย
มีแต่ไผลเผลอหมดจรดดวงแด

ตัดอาลัยในรักฤาจักขาด
สายสวาทพันพ่วงเป็นบ่วงแห
กี่ฤดูคาบคล้อยทยอยแปร
ล้วนยังแต่ขมวดปมจมเปลวเพลิง

พรหมลิขิตปริศนามายารัก
ไม่มีสูตรจำหลักสักแต่เหลิง
แรกชูหวานดาลฤทธิ์จิตกระเจิง
พาลอยเติ่งกลางหาวเฉกดาวลอย

จวบสิ้นรสหมดซึ้งถึงปลายรอบ
รั้งแต่มอบเศษซากของกากอ้อย
ที่สำรากถุยถ่มมาถมรอย
กลบแผลน้อยช้ำฟกในอกคน

ท่ามรอยรักกำสรดมากบทบาท
ปริมาตรความหลงมักส่งผล
หลากอารมณ์ลึกล้ำนำบันดล
โดยกมลไหวหวาดขาดตริตรอง

หยาดน้ำตาล้านเกล็ดที่เล็ดเผาะ
เกิดจำเพาะสองใจไม่สนอง
นาวารักเป็นพิษผิดครรลอง
สุดเหนี่ยวคล้องแคล้วคลาดทุกชาติบรรพ์


 

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
10 ธันวาคม 2010, 10:14:PM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #5 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2010, 10:14:PM »
ชุมชนชุมชน


           กับมากทุกข์สุขโศกในโลกนี้
   ก็ยังมีพบพรากอีกหลากหลาย
   มีจริงเผ็ดเท็จหวานวิมานทราย
   ใจที่หายตายลับไปกับลวง

      ถ้าแรกเริ่มเติมใจด้วยไฟรัก
   ไฟก็มักเผาลามด้วยความหวง
   ถ้าใช้ใจไปกับรักเพื่อตักตวง
   แล้วจะทวงคืนใจจากใครกัน

      ทุกคนหวังตั้งหลักกับรักแท้
   ลืมข้อแม้แพ้ใจขอได้ฝัน
   ลืมทั้งโลกโศกฝืนลืมคืนวัน
   ลืมแม้กันปันใจไว้เผื่อจาง

      โลกที่สวยดั่งสรวงเพื่อลวงล่อ
   ระริกรอซ้ำทุรนด้วยหม่นหมาง
   แท้จริงสุขคลุกไว้เพียงบางบาง
   ก่อนจะวางมีดเงื้อลงเถือใจ

      ถ้าปรับใจให้แน่อยู่แค่รัก
   ไม่หาญหักผลักผันไม่สั่นไหว
   ไม่ห่วงนับจับจองเป็นของใคร
   จะสุขล้นท้นใจที่ได้รัก
   
   พรายม่าน
   สันทราย
   ๑๐.๑๒.๕๓


เห็นจะจริงอย่างว่าถ้าเร่งร้อน
และถ้าป้อนหัวใจใช้ไฟผลัก
เหมือนสุมขอนร้อนบ่มขมใจนัก
มันก็จักไม่เหลือเป็นเหยื่อไฟ

คงต้องเหลือเผื่อบ้างยามร้างรัก
อย่าทะลักสุดตัวมัวหลงใหล
ยามพลาดพลั้งนั่งตรมขมดวงใจ
จะได้เหลือลมหายใจไว้ต่อทุน
~~~~~~~
แรกก็ปรับได้หนอ..ขอแค่รัก
ไม่เกินหลักหัวใจใคร่เกื้อหนุน
พอนานไปใยรักมากอยากเกื้อกูล
ยามสิ้นสูญจึงตรมหนักถูกรักลวง.

ขอบคุณครับ ที่แวะมาให้แง่คิดชีวิตรัก

บ้านริมโขง

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

11 ธันวาคม 2010, 04:44:AM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #6 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2010, 04:44:AM »
ชุมชนชุมชน



ตราบน้ำใสใจคนยังวนวิ่ง
มิเคยนิ่งเวียนว่ายอย่างไร้หลัก
กว่าจะจอดเทียบจุดควรหยุดพัก
มักเล่นเอาเจ็บหนักกระอักใน

หากริรักลองแล้วไม่แคล้วปวด
ดั่งถูกหวดแส้ส่งสิ้นสงสัย
หามีดอกสมอุราสาฤทัย
มีแต่ไผลเผลอหมดจรดดวงแด

ตัดอาลัยในรักฤาจักขาด
สายสวาทพันพ่วงเป็นบ่วงแห
กี่ฤดูคาบคล้อยทยอยแปร
ล้วนยังแต่ขมวดปมจมเปลวเพลิง

พรหมลิขิตปริศนามายารัก
ไม่มีสูตรจำหลักสักแต่เหลิง
แรกชูหวานดาลฤทธิ์จิตกระเจิง
พาลอยเติ่งกลางหาวเฉกดาวลอย

จวบสิ้นรสหมดซึ้งถึงปลายรอบ
รั้งแต่มอบเศษซากของกากอ้อย
ที่สำรากถุยถ่มมาถมรอย
กลบแผลน้อยช้ำฟกในอกคน

ท่ามรอยรักกำสรดมากบทบาท
ปริมาตรความหลงมักส่งผล
หลากอารมณ์ลึกล้ำนำบันดล
โดยกมลไหวหวาดขาดตริตรอง

หยาดน้ำตาล้านเกล็ดที่เล็ดเผาะ
เกิดจำเพาะสองใจไม่สนอง
นาวารักเป็นพิษผิดครรลอง
สุดเหนี่ยวคล้องแคล้วคลาดทุกชาติบรรพ์




เพราะความไม่จีรังนั่งในอก
ความวิตกหมกเศร้าเฝ้าเสกสรร
ความต้องการมากล้นบนจำนรรจ์
ความผูกพันยังไม่พอขอจากไป

ความปรารถนาคราหวังฝังความเหงา
มันก็เผาตัวเราเศร้าไฉน
มากเกินที่หยิบยื่นด้วยฝืนใจ
ความหมองไหม้เมื่อไม่มีนี่แหละงาน

เมื่อมีรักมีไหมใครไม่หวง
อยากเดินควงอวดอ้างอย่างสนาน
อยากโอบรัดด้วยจิตชิดชื่นบาน
แต่หากหวานกลายขมก็ตรมทรวง

รู้ทั้งรู้ตัดสวาทไม่ขาดใย
ความอาลัยยังเหลือยาวคราวห่วงหวง
ถึงเดินจากมากถามตามมาทวง
ต้องสู้อดปลดห่วงบ่วงน้ำตา

แต่ก็จำต้องทำอย่าทำหวาด
อยากหายขาดต้องยาขมปมรักษา
หากเลี้ยงไข้ให้อาการพาลดื้อยา
วันกล่าวลาคือวัน ฉันขาดเธอ

บ้านริมโขง

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s