23 พฤศจิกายน 2010, 08:30:PM |
|
|
23 พฤศจิกายน 2010, 08:45:PM |
|
|
23 พฤศจิกายน 2010, 09:54:PM |
ชนบท
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2010, 09:54:PM » |
ชุมชน
|
สักวาหาคู่ใจชั่งไหวหวั่น มีใครกันเหมือนฉันบ้างทางเสนอ หลายปีฝนทนจาบรรณ์ไม่ฝันเจอ เราเสนอคนสนองไม่มองมา
หรือองค์พรหมท่านลิขิตมาผิดที่ คู่เรามีอยู่สวรรค์ชั้นเวหา แต่เราหลงลงมาสู่โลกมายา วอนท่านมาแก้ให้ทีวันนี้เอย
|
|
|
|
23 พฤศจิกายน 2010, 10:02:PM |
hort39
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 389
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1,224
คำพูดที่ให้ร้าย ไม่อาจเปลียนแปลงความจริงทีผ่านมา
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2010, 10:02:PM » |
ชุมชน
|
สักวาว้าเหว่เร่หารัก ไม่ประจักษ์สักทีชีวิตคู่ เห็นหนุ่มสาวรักกันมันส์น่าดู เรายังอยู่ผู้เดียวเปล่าเปลี่ยวใจ
ใครต่อใครต่อกลอนอ้อนคำหวาน คงชื่นบานขานขับรับคู่ใหม่ แล้วเรานี้จะอยู่คู่กับใคร มองมองไปได้กินแห้วอีกแล้วเอย
|
|
|
|
23 พฤศจิกายน 2010, 10:41:PM |
|
|
24 พฤศจิกายน 2010, 12:16:AM |
|
|
24 พฤศจิกายน 2010, 02:00:AM |
|
|
24 พฤศจิกายน 2010, 11:58:AM |
สมนึก นพ
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2010, 11:58:AM » |
ชุมชน
|
สักวา เขียนมา จะแก้เหงา แต่โง่เขลา จึงได้ หมายสอบถาม ต้นสักวา เห็นอยู่ พอรู้ความ ท้ายมีตาม ท่อนจบ ครบคำเอย
มีกำหนด หรือไม่ ใช้กี่บท หรือเพิ่มลด ยาวได้ ให้เฉลย จะหัดเขียน ดูบ้าง ยังไม่เคย จึงได้เอ่ย ขอความรู้ ครูบ้านกลอน
อย่าเพียงอ่าน ผ่านไป แต่ไม่สน ยังวกวน อยู่นา หาครูสอน อยากจะรู้ จริงนี่ ที่วิงวอน ว่าบทตอน กำหนด กฏไงเอย.
|
|
|
|
24 พฤศจิกายน 2010, 12:59:PM |
บอม ซอง ดุ๊ก
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2010, 12:59:PM » |
ชุมชน
|
ยืมเค้ามาอีกที กลอนสักวา แบบแผนเหมือนกลอนสุภาพ ขึ้นต้นด้วย สักวา และบทสุดท้าย จบด้วย เอย สักวา ๐๐ ๐๐ก.............๐๐ก ๐๐ ๐๐ข ๐๐๐ ๐๐ ๐๐ข..............๐๐ข ๐๐ ๐๐ค ๐๐๐ ๐๐ ๐๐ง..............๐๐ง ๐๐ ๐๐ค ๐๐๐ ๐๐ ๐๐ค..............๐๐ค ๐๐ ๐๐เอย ที่เขียนเป็นตัวอักษร คือการสัมผัสคำค่ะ อักษรเดียวกันคือคำที่สัมผัส สระหรือเสียงเดียวกัน คำในแต่ละบาท(หมายถึงวรรค) อาจเป็น ๘ หรือ ๙ ก็ได้ และการสัมผัส อาจสัมผัสคำที่ ๓ หรือ ๕ (หรือ๖) ในบาทต่อไปก็ได้ ที่คนแต่งมือใหม่มองข้ามกันมาก คือไม่มีสัมผัสระหว่างบท ทั้งที่กลอนชนิดไหนก็ตาม ไม่ว่ากลอนเสภา กลอนบทละคร กลอนสักวา ดอกสร้อย ทุกชนิดจะต้องมีการสัมผัสระหว่างบท ตรงตัวอักษร " ค" น่ะค่ะ ไม่ใช่ว่าจบบทแล้วขึ้นบทใหม่ ก็จะไปใช้คำใหม่ไม่สัมผัสกับบทเก่าอีก มันจะสะดุด ไม่คล้องจองขาดความรื่นหูระหว่างบทต่อบทค่ะ สักวาที่นิยมกันมี ๒ บทจบ แต่เดี๋ยวนี้บางคนก็อาจจะยืดเป็น ๓ -๔ บทก็ได้ เล่นกันสนุกๆ ขออนุญาตคุณสร้อยจันทร์ แห่งถนนนักเขียน ยกสักวาของคุณมาเป็นตัวอย่างนะคะ สักวาบานบุรี สักวาบานบุรีเรืองเหลืองเด่น สายลมเย็นโบกผ่านสะท้าน ไหว ไม่รู้หรือลมล้อไม่จริงใจ ดูซิไปไหวหวั่นพรั่นฤดี ยามฤดูผ่านกาลมาถึงหนาว อกเจ้าร้าวแรงรอนอ่อนเหลือที่ ดอกปลิวร่วงพริ้วหายสายนที บานบุรีเหลืองเด่นไม่เห็น เอย. จากคุณ : สร้อยจันทน์ - [1 พ.ย. 11:32:34]
|
เสกสรรกลั่นอักษร....พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์
|
|
|
24 พฤศจิกายน 2010, 01:02:PM |
วฤก
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2010, 01:02:PM » |
ชุมชน
|
๐ สักวา... ว่าความไปตามบท.................ท่านกำหนดให้ยลกลอักษร หนึ่งบทนั้นนั่นมีสี่คำกลอน.....................แปดวรรคตอนตามนับตำหรับกานท์ เริ่มต้นวรรค "สักวา" ว่าไว้ก่อน.................แล้วเริงร่อนเล่นคำทำสนาน ก่อนลง "เอย" เอ่ยเอาอย่างเบาราณ...........คงตอบท่าน "นพ" เป็นเช่นนี้เอย ฯ
|
|
|
|
24 พฤศจิกายน 2010, 01:08:PM |
♥ กานต์ฑิตา ♥
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2010, 01:08:PM » |
ชุมชน
|
กลอนสักวา คำว่า สักวา เขียนเป็น สักรวา ก็มี คำว่า สักวา นี้ย่อมาจาก สักวาทะ หรือ สักวาที ซึ่งเป็นคำตรงกันข้ามกับคำปรวาทะ หรือปรวาทีเพราะในการเล่นสักวานั้นมีการโต้ตอบกันเป็นบทกลอน การเล่นสักวาเป็นการเล่นอย่างหนึ่งของชาวไทย มีมาแต่สมัยอยุธยาเมื่อถึงฤดูน้ำมากในเทศกาลทอดกฐิน ทอดผ้าป่าและเที่ยวทุ่ง ในสมัยนั้นผู้มีบรรดาศักดิ์ ตั้งแต่เจ้านายลงมาจะพาบริวารซึ่งเป็นนักร้องทั้งต้นบทและลูกคู่ มีโทน ทับ กรับ ฉิ่ง ลงเรือไปเที่ยว บางลำก็เป็นเรือชาย บางลำก็เป็นเรือหญิง เมื่อไปพบปะ ประชุมกันในท้องทุ่งต่างฝ่ายก็คิดบทสักวาร้องโต้ตอบกัน สักวานั้นต้องคิดเป็นกลอนสดโต้ให้ทันกัน ผู้ชำนาญการประพันธ์เท่านั้นจึงจะบอกบทสักวาได้ สักวานิยมเล่นกันมาจนถึงรัชกาลที่ ๕ กรุงรัตนโกสินทร์ กฎ๑. กลอนสักวาบทหนึ่งมี ๘ วรรค หรือ ๒ คำกลอน วรรคหนึ่งใช้คำตั้งแต่ ๖-๙ คำ ถ้าจะแต่งบทต่อไป ต้องขึ้นบทใหม่ ไม่ต้องมีสัมผัสเกี่ยวข้องกับบทต้น ๒. กลอนสักวาต้องขึ้นต้นด้วยคำว่า สักวาและลงท้ายด้วยคำว่าเอย ๓.สัมผัสและความงามไพเราะอื่นๆเหมือนกับกลอนสุภาพ ๔.วิธีเล่นสักวาในปัจจุบันผิดแผกไปจากเดิมเล็กน้อย คือ ร้องบทไหว้ครูด้วยเพลงพระทอง แบบโบราณ ให้เป็นตัวอย่างเพียงบทเดียวบทต่อๆไปทั้ง บทเชิญชวนและบทเรื่องร้องเพลง ๒ ชั้นธรรมดาทั้งนี้เพื่อรักษาเวลาที่มีเพียงประมาณ ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น และเพิ่มรส ในการฟังเพลงโดยเพิ่มวงปี่พาทย์ไม้นวมสำหรับคลอเสียงด้วย การเล่นก็แสดงกันบนเวที มีกระดานดำ ๕ แผ่นเรียงกันด้านหลัง มีคนเขียนกลอนสักวาตามคำบอกแผ่นละคน ผู้บอกสักวานั่งประจำโต๊ะ คนละโต๊ะ อยู่หน้าเวทีใกล้กับคนร้องของตน แทนการนั่งในเรือคนละลำอย่างโบราณ
|
|
|
|
24 พฤศจิกายน 2010, 01:18:PM |
|
|
24 พฤศจิกายน 2010, 07:38:PM |
|
|
24 พฤศจิกายน 2010, 08:40:PM |
ตะวันฉาย
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2010, 08:40:PM » |
ชุมชน
|
...สักวาหน้าจอไฟใส่สักบท หวังเหงาลดแบ่งเบาเราอีกหน ร่ายพจน์นำคำกล่าวส่งข่าวปน หนุ่มหน้ามนพอมีไหมขอใฝ่กลอน
...มาพัดวีเคียยงข้างอย่างคนรัก มานั่งพักลงกานท์ลานอักษร เห็นเราแก่หรือเยี่ยงไรไกลอาทร ลาจากจรทิ้งทวนให้รวนเร
...ฤาหน้าจอมีเพียงเราที่เหงาอยู่ เหลียวหาคู่ก็มิเห็น...เป็นหักเห หรือกลอนด้านผ่านตามาปนเป เรือตังเกเขาไม่มองปองอ่านฟัง
...จึงร่ายคำนำกล่าวคราวเหงาหงอย สักเพียงน้อยได้ไหมขอข้ามฝั่ง อยากจะไล่ปัดเงาเหงาจริงจัง เก็บใส่ลังลอยล่องท่องราตรี...หนีสักคืน...
|
ว่างเปล่า
|
|
|
24 พฤศจิกายน 2010, 09:08:PM |
|
|
24 พฤศจิกายน 2010, 10:27:PM |
ยามพระอาทิตย์อัสดง
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2010, 10:27:PM » |
ชุมชน
|
สักวามาตอบปลอบพี่ชาย ให้พี่หายคลายเหงาเศร้าโศกศัลย์ น้องคนนี้มีดีที่ห่วงกัน ด้วยใจนั้นพลันบอกออกฤดี
แม้นเหงาใจให้คิดจิตมิห่าง ยังคงว่างทางไกลไม่หริบหรี่ ให้คลายทุกข์สุขใจขอให้มี จงสุขีพี่หายคลายทุกข์ใจ
พระอาทิตย์อัสดง
|
|
|
|
24 พฤศจิกายน 2010, 10:41:PM |
|
|
24 พฤศจิกายน 2010, 11:07:PM |
|
|
25 พฤศจิกายน 2010, 07:24:AM |
สมนึก นพ
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2010, 07:24:AM » |
ชุมชน
|
สักวา มาเวียน เขียนอีกหน หายสับสน แล้วนี่ มีครูสอน ขอขอบคุณ ทุกท่าน ผ่านคำกลอน แต่ละตอน อ้างเด่น เช่นโบราณ
ซึ่งส่วนใหญ่ นิยมแน่ แค่สองบท คำกำหนด สัมผัส บรรทัดฐาน เป็นการโต้ ตอบกัน งานเทศกาล แต่นมนาน เล่นอยู่ เพิ่งรู้เอย.
|
|
|
|
25 พฤศจิกายน 2010, 12:21:PM |
|
|
|