[สิ้นสุดการประกวด]: หัวข้อประกวดกลอนประจำเดือน พฤศจิกายน ๒๕๕๓ - ลมหนาว -
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
04 ธันวาคม 2024, 02:01:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: 1 [2]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [สิ้นสุดการประกวด]: หัวข้อประกวดกลอนประจำเดือน พฤศจิกายน ๒๕๕๓ - ลมหนาว -  (อ่าน 55882 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
12 พฤศจิกายน 2010, 05:21:PM
Design with love ᵔᴥᵔ
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 186
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 288


~Eyerything I See~


KhwAn TK Dee
« ตอบ #20 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2010, 05:21:PM »
ชุมชนชุมชน

                         
Title:ลมหนาว
Auther:with love
                               •พฤศจิกา
ลมหนาวพัดมา      พาใจให้เหงา
หน้าหนาวปีนี้        ฤดีหมองเศร้า
คงมีเพียงเรา        ไร้เขาข้างกาย
                            •เพียงคิดหวั่นไหว 
ลมพัดคราใด         หนาวใจมิหาย
ฤดูแปรเปลี่ยน       หมุนเวียนกลับกลาย
ลมหนาวพัดพราย  หัวใจระบม
           
                            *กาพย์สุรางคนางค์๒๘
ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

`°.•°•.★* Love Me Love My TK.DEE My Family Forever *★ .•°•.°´
12 พฤศจิกายน 2010, 10:26:PM
พรายม่าน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 548
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 556


Praiman CharlesTep CharlesTep
เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2010, 10:26:PM »
ชุมชนชุมชน

 
วสันตดิลก ฉันท์
เรื่อง :       เหมันต์พิลาป
ผู้แต่ง :      พรายม่าน

o   ฝนยังมิทันนิรประวัติ   ประจุซัดกระจัดทราย
เหมือนยังมิสิ้นตะกละจะหาย   วตะเยือกก็มาเยือน
ดั่งหนึ่งทิวาจะลุพยับ   รติลับรุจีเลือน
ทุกข์ท้อระทมรตะสะเทือน   ดิถิดับฤดีดาย
o   ข้าวเหลืองละรวงระดะระดาด   สวะพาดโสนวาย
โคลนคลุมคละกล้ากระบะทะลาย   ทุรทนเทวศวาร
เจ้าเกริ่นจะกลับยุติวสันต์   กิระนั้นก็เนิ่นนาน
ลืมถิ่นละที่สิปฏิญาณ   มิประมาณจะสมใจ
o   เนื่องน้องนิรุกติปรจริต   สละสิทธิจะสงสัย
เกินเลิกละดุลย์สมอภัย   มุทิตาเถอะพาเย็น
มี ไร้ ฤ ร้างลุตถตา   สติมาก็มองเห็น
โหยไห้ ณ สิ่งจุติจะเป็น   ปริวรรตอนัตตา
o   หนาวนี้นิราทุติยครอง   ศศิหมองอนาถา
เหน็บในก็รับปฏิปทา   คุรุทับสดับทน
ข้าวร้างจะเกี่ยวตะละขนัด      ผิว์กระหวัดมิเห็นหน
ข่มใจมิให้ทุรทุรน      อสุชลก็ทนกลืน   

พรายม่าน
สันทราย
๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
 

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : คันไถ

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

12 พฤศจิกายน 2010, 10:38:PM
aidin574
LV1 เด็กน้อยอ่านกลอน
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1



« ตอบ #22 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2010, 10:38:PM »
ชุมชนชุมชน

Title:สัญญาหน้าหนาว
Auther:ไอดิน กลิ่นฟ้า

O คืนวันผันผ่านเนิ่นนานจางหาย
แม้รักสุดใจยังไม่ทัดทาน
เธอลืมสัญญาเพียงลมพัดผ่าน
ทำฉันร้าวรานสุดจะทานทน

O สัญญาจะกลับมารับหน้าหนาว
แต่ใยยืดยาวจนเข้าหน้าฝน
มองปฏิทินหัวใจสับสน
ทำไมใจคนวกวนเปลี่ยนแปลง

O หนาวแล้วอีกครั้งฉันยังเดียวดาย
หัวใจสิ้นสลายมลายภาพฝัน
ต้องทนเจ็บร้าวทุกคืนทุกวัน
ในหัวใจฉันปวดร้าวเดียวดาย

O หนาวนี้ช่างหนาวปวดร้าวเหลือเกิน
ถูกเธอหมางเมินเจ็บเกือบปางตาย
ความหนาวซึมลึกทุรนทุราย
ฝันฉันต้องสลายลงไปเพราะเธอ
ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
16 พฤศจิกายน 2010, 06:55:PM
ปาระ
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 104
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 552



« ตอบ #23 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2010, 06:55:PM »
ชุมชนชุมชน

Title    :  ลมหนาว...
Author : ฮกหลง


ลมหนาวพัด ซัดเซ เหมันต์หวน
ลมหนาวยวน  ยั่วเย้า กายเจ้าไหว
ลมหนาวมา พาพัด สะบัดใจ
ให้หนาวไอ โอบเอื่อ เผื่อแผ่ทรวง

หนาวไอลม ห่มผ้า ยิ่งพาหนาว
หนาวไอสาว สรวลเส เหหวนหวง
หนาวไอดิน กลิ่นดาว คราวเด่นดวง
หนาวไอสรวง ปวงฟ้า ถึงข้าดิน

หนาวใจกาย คลายยาก สุดยากสุด
หนาวใจหยุด ยากคลาย ดั่งคลายหิน
หนาวใจเนื้อ เอื่ออุ่น คุ้นชีวิน
หนาวใจสิ้น สู่สุด หยุดเพราะเธอ.........
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

17 พฤศจิกายน 2010, 12:42:PM
พระจันทร์สีน้ำเงิน
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 73
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 66



« ตอบ #24 เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2010, 12:42:PM »
ชุมชนชุมชน



Author :: พระจันทร์สีน้ำเงิน

Title :: หนาวดรุณี



ฤดูเปลี่ยนวรรษาเวียนมาพบ
หมอกตลบอบอวลด้วยมวลหนาว
หยาดน้ำค้างแข็งเกล็ดดั่งเม็ดดาว
จาก..เด็กน้อยย่างก้าวเข้าฉกรรจ์

สู่วัยรุ่นวุ่นหวามกับความรัก
เริ่มรู้จักความใคร่ใฝ่กระสัน
ชายก็จ้องผลาญพล่าพรหมจรรย์
หญิงก็พร้อมบูชายัญชั้นฉิมพลี

กลีบผกาตูมเต่งเร่งโรยร่วง
ทุกดอกดวงกราวกรูยับยู่ยี่
แซมด้วยกลิ่นอื้อฉาวคาวราคี
ปวงบุปผาหน้านี้มักแหลกลาญ

พายุแห่งกำหนัดมันซัดต้น
แรงเสียจนรากเหง้าเจ้าสะท้าน
ซ้ำต้นกล้าบอบเบาเยาวมาลย์
เพิ่งแย้มบานแรกหนาว..ก็คราวนี้

เกสรน้อยลอยชันขึ้นหยันช่อ
สะพรั่งรอมด แมง แมลงหวี่
ภู่ภมรยากนักหมายภักดี
ทุกตัวล้วนพึงขยี้แค่ปรีดา

เพราะหย่อมความกดอากาศมันพาดต่ำ
กามรสสีดำเทียวถามหา
ภายเงื่อนไขลมเล่ห์ของเวลา
ที่พัดพาความสาวจากเราไป

หลากอารมณ์เรไรที่ไกวแกว่ง
มักสู้แรงพิศวาสไม่หวาดไหว
เป็นอาณัติ พัด,พราก จากภายใน
สัมปชัญญะใด ฤาจักปราม

หนุ่ม-สาวเอยรุ่นน้องคะนองนัก
ด้วยพี่รักนะกลอยจึงคอยห้าม
เคยจาบัลย์ขันชะเนาะเพราะวู่วาม
ไม่ทันงามทรามวัยแพ้ใจตัว

ย่างเหมันต์ชันษามาเพิ่มรอบ
วางกฎกรอบเชิงชั้นนั้นให้ทั่ว
ยามม่านหมอกเสน่หามาพันพัว
สำนึกผิด ดี ชั่ว คือ..ตัวแปร

สนามแข่งโลกีย์สีมันสวย
จักมอดม้วยหลงย่ำตามกระแส
เมื่อสิ้นรสหมดสาวใครเล่าแล
คงเหลือแผลเหมันต์ที่ควั่นรอย


ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 พฤศจิกายน 2010, 01:30:PM
bpmoon
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 24
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 144



« ตอบ #25 เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2010, 01:30:PM »
ชุมชนชุมชน

      Title:ลมหนาว
      Auther:bpmoon
      ลมหนาวพัดมาครานี้         นึกถึงคนดีมิสร่าง
หมอกหนาเยือกเย็นอ้างว้าง     รู้บ้างยังคอยกลับมา
      กลับมาหอบไออุ่นรัก        สบพักตร์เอื้อนเอ่ยวาจา
เคียงข้างห่มผ้าหนาหนา          สบตาผิงไฟไล่หนาว
      หมอกจางลางหายสายแก่  เพียงแผ่ไออุ่นทุกคราว
เย็นเยือกยอกย้ำใจร้าว             เพียงก้าวผ่านหนาวสักครา
      เมืองใต้ไม่มีลมหนาว         ใจร้าวเจ็บหนักนักหนา
ย้อนไปเย็นเยือกยิ่งกว่า            กี่คราหายหนาวร้าวใจ
ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
21 พฤศจิกายน 2010, 02:15:AM
GreenMonkey
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 144
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 163


[ think possitive ]


« ตอบ #26 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2010, 02:15:AM »
ชุมชนชุมชน

Title : ลมห่มลม
Auther : GreenMonkey

ลมหนาว.. พัดผ่าน ลมลู่ไล้
ทั้งกิ่งใบ ลู่ตาม ในความหนาว
มืดสนิท มืดหมอง นั่งมองดาว
ในคืนหาว ฟ้าห้อม อ้อมกอดฟ้า

ลมหนาว.. พัดผ่าน มาอีกครั้ง
กับความหวัง ในกรุเก่า เร้าเร่งหา
ไม่มีกอด ใดต้าน ลมผ่านมา
จึงเอื้อมคว้า ความหนาวห่ม ต้านลมแรง
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

!!~ I want to be a normal man ~!!
21 พฤศจิกายน 2010, 08:20:PM
my smile
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 333
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,183


รอยยิ้มที่จริงใจ มองทีไรก็รู้สึกดี. ..


« ตอบ #27 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2010, 08:20:PM »
ชุมชนชุมชน


Title : ลม
Auther : My smile



หนาวก็กอดตัวเองซิ
ถูกมือไปมา..ไม่กี่ที..เดี๋ยวก็หาย

ใช่ที่ไหนล่ะ..ฉันไม่ได้หนาวกาย
ที่หนาวน่ะข้างใน..ซึ่งเธอจะเป็นคนแรก..และคนสุดท้ายที่ได้มัน


อะไรของเธอ
อย่ามาเพ้อมั่วมั่วข้างฉัน

นี่ฉันพูดจริงน่ะ..หรือเธอไม่คิดจริงจังต่อกัน
ถ้าอย่างนั้นก็ไปซะ..อย่ามานั่งให้ฉันเห็นหน้า..มันเจ็บใจ


มานี่มา
เห็นสายตาดวงนี้..จ้องมันซิ..เห็นไหม
ฉันจริงจัง..แต่ว่าเธอนั้นแหละ..จะเอายังไง
บอกได้ไหม..จะเอาอะไร..บอกกันดีๆ


ไม่มีอะไร
แค่มันหนาวใจ..เพราะลมวูบตะกี้
ช่วยจับมือ..หรือกอดฉัน..สักหนึ่งนาที
เท่านี้แหละแค่นี้..ให้ฉันได้หรือเปล่าเธอ..



ถ้าอยากได้คำตอบต้องอ่านใหม่อีกรอบค่ะ..^_^


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : คันไถ

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

23 พฤศจิกายน 2010, 03:45:PM
ตะวันฉาย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 427
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,159



« ตอบ #28 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2010, 03:45:PM »
ชุมชนชุมชน

Title : ...เหมันต์ครวญ...
Auther : ตะวันฉาย



...ลมพัดแผ่วโยกรวงข้าวหนาวแล้วหนอ
อร่ามทอแสงทองผ่องทั่วทุ่ง
เหมือนต้องมนต์ริ้วลมห่มใจปรุง
เข้าโอบอุ้มนุ่งเหมันต์ตะวันรอน

...แว่วเสียงปี่ซังข้าวยาวระยะ
คล้ายจังหวะคนเศร้าเฝ้าไถ่ถอน
น้ำตารินรดรวงข้าวคราวอาวรณ์
หนาวสะท้อนทรวงจิตปลิดชีพวาย

...รังสิมันตุ์เปลี่ยนทิศหรือคิดห่าง
หรือจับวางรัถยาพาให้หาย
ขอวัสโสทกปรกหน้ารดลากาย
อัสสุหมายอย่าเปื้อนเยือนแก้มนาน

...สนธยาลับเมฆข้ามเขตหม่น
ฤทัยหล่นที่ใดเกินไขว่สาน
ถูกจุรีฝังคมให้ซมซาน
เดชนะพานยิงลงเข้าตรงใจ

...นั่งมองว่าวทวนลมข่มเหงาอยู่
ชลเนตรรู้หลั่งรินด้วยกลิ่นไหว
รอคนเก่าที่เขาจากปิดฉากไป
กลับคืนใจดนุนี้ฤดีคอย

...รชนีกรพราวสวยอำนวยแสง
ชวาลาแฝงเร้นอับดับเหงาหงอย
ดารกะพรายระยับวับวาวลอย
งามดั่งพลอยมิกล้าไขว่ใฝ่เชยชม

...วาณีล่องท่องเหมันต์ฝันถึงพี่
หนาวคราวนี้ไม่เห็นหน้าพาขื่นขม
ฤาไปหลงรมณี,รัมภา อกข้าฯตรม
ชลนัยน์ห่มหลับลาทิวารอ

...ฤาไปอยู่ตรัยตรึงศ์จึงไม่กลับ
รวิดับเมฆาหายหมายอยู่หอ
ฝากทิชากรย้ำคำนำพะนอ
ศศิทอทิฆัมพรกล่อมก่อนจรลา

...อินทรธนูวาดสายที่ปลายเมฆ
เหมือนเข้าเขตอัสสุชลปนห่วงหา
ทุ่งรวงทองรอเคียวคนเกี่ยวมา
สู่สัญญาปี่ซังข้าวคราวเหมันต์

...หรือให้คอยรอยช้ำย่ำดวงจิต
ราษราตรินปิดฉากฝากแค่ฝัน
ดั่งวชิระฟาดใจไปลงทัณฑ์
ให้ชีวันดับจุณหวันยิหวา

...ฝากวัลลีโอบอุ้มหุ้มใจหมาย
แม้ร่างกายแปรเปลี่ยนเป็นวาลุกา
เกิดรอยเปื้อนเยือนพักตร์ด้วยชลนา
ยังรอท่าพี่กลับนับยวงทอง...ครองเหมันต์...



ตะวันฉาย
๒๔  พฤศจิกายน  ๒๕๕๓

 

...แปลบางส่วน...

...ลมพัดแผ่วโยกรวงข้าวหนาวแล้วหนอ
อร่ามทอแสงทองผ่องทั่วทุ่ง
เหมือนต้องมนต์ริ้วลมห่มใจปรุง
เข้าโอบอุ้มนุ่งเหมันต์ตะวันรอน

...แว่วเสียงปี่ซังข้าวยาวระยะ
คล้ายจังหวะคนเศร้าเฝ้าไถ่ถอน
น้ำตารินรดรวงข้าวคราวอาวรณ์
หนาวสะท้อนทรวงจิตปลิดชีพวาย

...พระอาทิตย์เปลี่ยนทิศหรือคิดห่าง
หรือจับวางทางเดินพาให้หาย
ขอน้ำฝนปรกหน้ารดลากาย
น้ำตาหมายอย่าเปื้อนเยือนแก้มนาน

...สนธยาลับเมฆข้ามเขตหม่น
ฤทัยหล่นที่ใดเกินไขว่สาน
ถูกมีดฝังคมให้ซมซาน
ลูกศรพานยิงลงเข้าตรงใจ

...นั่งมองว่าวทวนลมข่มเหงาอยู่
น้ำตารู้หลั่งรินด้วยกลิ่นไหว
รอคนเก่าที่เขาจากปิดฉากไป
กลับคืนใจฉันนี้ฤดีคอย

...พระจันทร์พราวสวยอำนวยแสง
ตะเกียงแฝงเร้นอับดับเหงาหงอย
ดาวพรายระยับวับวาวลอย
งามดั่งพลอยมิกล้าไขว่ใฝ่เชยชม

...ถ้อยคำล่องท่องเหมันต์ฝันถึงพี่
หนาวคราวนี้ไม่เห็นหน้าพาขื่นขม
ฤาไปหลงผู้หญิง,นางฟ้า อกข้าฯตรม
น้ำตาห่มหลับลาทิวารอ

...ฤาไปอยู่ดาวดึงห์จึงไม่กลับ
พระอาทิตย์ดับเมฆาหายหมายอยู่หอ
ฝากนกย้ำคำนำพะนอ
พระจันทร์ทอท้องฟ้ากล่อมก่อนจรลา

...สายรุ้งวาดสายที่ปลายเมฆ
เหมือนเข้าเขตน้ำเนตรปนห่วงหา
ทุ่งรวงทองรอเคียวคนเกี่ยวมา
สู่สัญญาปี่ซังข้าวคราวเหมันต์

...หรือให้คอยรอยช้ำย่ำดวงจิต
กลางคืนปิดฉากฝากแค่ฝัน
ดั่งสายฟ้าฟาดใจไปลงทัณฑ์
ให้ชีวันดับผงดวงวิญญาฯ

...ฝากเถาวัลย์โอบอุ้มหุ้มใจหมาย
แม้ร่างกายแปรเปลี่ยนเป็นวาลุกา(กรวด,ทราย)
เกิดรอยเปื้อนเยือนพักตร์ด้วยน้ำตา
ยังรอท่าพี่กลับนับยวงทอง...ครองเหมันต์...


ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ว่างเปล่า
23 พฤศจิกายน 2010, 07:14:PM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #29 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2010, 07:14:PM »
ชุมชนชุมชน


Title : หนาวสามเด้ง
Auther : บ้านริมโขง

หนาวหัวใจในวันกลั่นอักษร
เป็นบทกลอนป้อนงานมาขานไข
ตามหัวข้อที่กำหนดบทเรื่องใด
ให้ถูกใจจับจิตคนติดกลอน

กลัวเสียทางวางเรื่องเปลืองกระดาษ
กลัวจะขาดเนื้อหาพาทอดถอน
กลัวสำเนียงเสียงภาษาพาขาดตอน
กลัวคำกลอนขาดสัมผัสขัดอารมณ์

แล้วหนาวในหวั่นไหวหัวใจสั่น
ความกดดันปั่นอัดรัดจนขม
เมื่อต้องผ่านสายตาที่กล้าคม
ที่นิยมเรียกชื่อ คือ “กรรมการ”

และยิ่งหนาวโดดเดี่ยวเปลี่ยวอ้างว้าง
มองสุดทางไร้คู่ผู้ประสาน
มาต่อเติมเสริมสร้างวางหลักการ
เรียกคะแนนสงสารจากกานท์กลอน

แต่หนาวหนักกว่าที่กล่าวก็คราวนี้
หนาวจากที่กองเชียร์เคลียสลอน
เดินทางมาไกลมากจากบ้านดอน
ต่างหาบคอนนอนเสบียงส่งเสียงชม

แพ้ไม่ได้ในใจเราฮึดสู้
เพื่อพวกหมู่แพ้ได้ไงให้ขื่นขม
พอลับตาไหว้ฟ้าและไหว้พรหม
ขอให้สมอย่าให้หนาว “เหล้าขาว”บน

บ้านริมโขง


ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

24 พฤศจิกายน 2010, 12:42:PM
เมฆา...
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 698
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 624


..............


« ตอบ #30 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2010, 12:42:PM »
ชุมชนชุมชน


..ขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพจากอินเตอร์เน็ตครับ..



Title : หนาวลม ห่มกลอน
Auther: เมฆา...


  ‘หนาวลม ห่มกลอน’


...หอมกลิ่นชื่น รื่นกรุ่น ละมุนหวาน
ลมหนาวซ่าน ผ่านผิว ระริ้วไหว
หอบความหอม ย้อมทรวง ในดวงใจ
อบอวลไอ ไล้ลูบ คล้ายจูบลา

เหมันต์กล่อม พร้อมศัพท์ เอื้อนขับขาน
เยี่ยงเตรียมการ รับขวัญ วันห่วงหา
บรรจงร้อย ถ้อยคำ จำนรรจา
คล้องอุรา ปลอบขวัญ วันเดียวดาย

โอบกอดร่าง อย่างร้าว ด้วยหนาวเหน็บ
ประจักษ์เจ็บ แจ่มชัด สัมผัสสาย
ประดุจย้ำ พร่ำเตือน มิเคลื่อนคลาย
อยู่รอบกาย หมายล้อม ยอมจำนน

มองเมฆหมอก ดอกแก้ว แล้วสะอื้น
ลิขิตฝืน อย่างไร ก็ไร้ผล
ถึงวานลม พรมพจน์ รสสุคนธ์
ก็ประจญ ความเหน็บ เจ็บเช่นเคย

จำต้องกลั้น อั้นข่ม ระทมซ่อน
แม้ต้องนอน ช้ำฟก หนอ อกเอ๋ย
หนาวสะท้านปานใด ไกลทรามเชย
มิอาจเผย เอ่ยท้น ให้คนยิน

แม้นต้องพราก จากขวัญ ให้สั่นแขวน
จงหนักแน่น แก่นใจ ดั่งใยหิน
ถึงพระพาย ทายท้า เป็นอาจิณ
จงอย่าสิ้น ความแกร่ง แห่งทรวงมาน

ประคองจิต คิดตั้ง ดั่งแพรห่ม
กั้นหนาวลม โลมไล้ ในถ้อยสาส์น
ใช้ปลอบทรวง ห่วงหา คราร้าวราน
หวังมินาน คงสิ้น กลิ่นเหมันต์

ร่ายพลัง ขลังมนต์ กลอักษร
ถึงหนาวย้อน อย่างไร จะใช้ฝัน
เพื่อจารจรด บทถ้อย ร้อยรำพัน
ให้กลอนนั้น ห่มตน พ้นหนาวไป...


***เมฆา...***



ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..สัมผัสทิพย์ปรารถนาอารมณ์แล้ว..
24 พฤศจิกายน 2010, 04:55:PM
tem
LV1 เด็กน้อยอ่านกลอน
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2



« ตอบ #31 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2010, 04:55:PM »
ชุมชนชุมชน

Title : ลมหนาว
Auther : ป๋าเต็ม
มองภูผาที่สูงสุดตระหงาน  ความสว่างถูกบดบังด้วยหมอกขาว
เหมือนตัวเธอที่จากไกลไร้ข่าวคราว  ช่างเหน็บหนาวช่างอ้างว้างช่างเดียวดาย
เหมือนประดุจดั่งใจฉันต้องขาดแน่  ถูกหนาวแช่ให้หัวใจฉันสลาย
กินไม่ได้นอนไม่หลับรักมลาย  สิ่งสุดท้ายคงขาดใจตายกลางสายลม
ลาตายดีกว่าตู
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
25 พฤศจิกายน 2010, 06:20:PM
KungDekZa
LV4 นักเลงประจำหมู่บ้าน
****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48



เว็บไซต์
« ตอบ #32 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2010, 06:20:PM »
ชุมชนชุมชน

Title: ลมหนาวไม่อาจต้านใจ
Author: KungDekZa


ถึงปลายปีรับลมที่เย็นหนาว
ถึงครั้งคราวลมโบกโชกไสว
ถึงเวลาลมหนาวกระทบใจ
ถึงทีใครสั่นไหวเมื่อลมมา

ลมโอบร่างล้อมสุดไม่คิดปล่อย
พัดค่อยค่อยนำลมพาเข้าหา
เมื่อข้างเคียงไร้ใครใกล้กายา
ในใต้ฟ้าโลกหล้านภาลัย

แม้นโลกกว้างเพียงใดใครนับล้าน
ก็ไม่คร้านเศร้าเหงาอารมณ์ไหน
หากมีเพียงหนึ่งคนมาดลใจ
คงทำให้ลมหนาวลดแรงลง

ขอแค่เพียงหนึ่งคนมาเคียงคู่
มีแรงอยู่ร่ายกลอนให้ลุ่มหลง
เพียงกวีบทหนึ่งที่มั่นคง
ให้ยืนยงยั่งยืนคู่แผ่นดิน
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

26 พฤศจิกายน 2010, 12:00:PM
ฟรอนเทียร์
LV2 วัยเร่ร่อนผจญภัย
**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 5



« ตอบ #33 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2010, 12:00:PM »
ชุมชนชุมชน

         ชื่อเรื่อง     สายลมหนาว
            ผู้แต่ง       ฟรอนเทียร์


          สุดสายปรายทางฝันที่ผันผ่าน
ระยะกาลเวลายังคงไม่หยุดหมุน
โอบเอาสายลมหนาวอ่อนละมุน
ให้อบอุ่นจนถึงขั้วหัวใจ
             หากตอนนี้หัวใจยังเหว่หว้า
และกำลังอ่อนล้าหวั่นไหว
อย่าลืมสิมีสายลมคอยห่วงใย
แม้ห่างไกลสัมผัสได้ทุกเวลา
              โอบกอดตัวเองกลางสายลมหนาว
เหม่อมองดวงดาวที่ลอยอยู่บนฟ้า
ก็ไม่รู้เหตุใดจึงมีน้ำตา
อยู่ในคืนที่อ่อนล้ากลางสายลม


ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
26 พฤศจิกายน 2010, 04:09:PM
ฟรอนเทียร์
LV2 วัยเร่ร่อนผจญภัย
**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 5



« ตอบ #34 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2010, 04:09:PM »
ชุมชนชุมชน

                 
                                                                 ชื่อเรื่อง   ให้สายลมปลอบใจ
                                                                 ผู้แต่ง      ฟรอนเทียร์
             

             ฤดูเปลี่ยนผันแปรอีกคราแล้วสิหนา
  หอบลมหนาวมาทักทายให้ชิดใกล้
  ฝากอ้อมกอดหอมละมุนอบอุ่นใจ
  ให้คลายหนาวแม้ถึงคราวต้องหวั่นไหว
              อยากกระซิบบอกผ่านความเงียบเหงา
  ให้สายลมคลายเศร้ารับวันใหม่
  หากมีรักต้องรู้จักคอยห่วงใย
  เหมือนสายลมที่อยู่ใกล้...พัดผ่าน...ทุกเวลา
ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
27 พฤศจิกายน 2010, 05:51:PM
ไม่รู้ใจ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 568
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 593


« ตอบ #35 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2010, 05:51:PM »
ชุมชนชุมชน

ชื่อบทกลอน    :       ลมหนาว - เคล้าน้ำตา
ผู้แต่ง           :        ไม่รู้ใจ



ยามลมหนาว พัดมา พากระหน่ำ
หัวใจพร่ำ ย้ำเตือน มิเลือนหาย
นั่งเขียนกลอน ให้สะอื้น ฝืนเดียวดาย
ยังมิวาย ติดห่วง ทวงข้อความ

กี่เดือนแล้ว ที่เธอ ไม่เจอฉัน
คิดถึงกัน บ้างไหม ใคร่อยากถาม
ก่อนนี้ใคร เป็นเงา เฝ้าติดตาม
ทุกโมงยาม รื่นรมย์ สุขสมใจ

มาวันนี้ มีน้ำตา พาใจหม่น
โอบกอดตน ทนฝืน ยืนตรงไหน
ลมยังพัด ไอเย็น อยู่เช่นไร
โปรดรู้ไว้ ใจฉัน นั้นด้านชา


ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
28 พฤศจิกายน 2010, 05:15:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #36 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2010, 05:15:PM »
ชุมชนชุมชน

ชื่อเรื่อง...ช่วยภัยหนาว
ผู้แต่ง.....นพ
..................................

ถึงหน้าหนาว เข้าเยือน เตือนอีกหน
มีเวียนวน ทุกปี มิห่างหาย
เก็บขอนแห้ง ไม้ท่อน ซ้อนมากมาย
ไว้ผ่อนคลาย ไอร้อน ตอนสุมไฟ

หลายองค์กร ร่วมด้วย ช่วยเสาะหา
ทั้งเสื้อผ้า -ห่มหนา มามอบให้
ฤดูกาล ปีนี้ มีมาไว
แต่น้ำใจ จากท่าน นั้นมาแรง

เห็นเด็กห่ม ผ้านอน ผ่อนหายหนาว
เหลืออีกยาว ซุกได้ หมายแอบแฝง
จนตะวัน โผล่รับ จับฟ้าแดง
นอนคะแคง คุดคู้ ดูผิดตน

แม้ผิงไฟ ห่มผ้า หาอุ่นไม่
มันหนาวใจ ไงนี้ มีสับสน
เริ่มวูบวาบ ในจิต คิดชอบกล
หากมีคน สวยสาว คงหนาวคลาย

นี่ก็หนาว เข้ามา อีกคราแล้ว
คงไม่แคล้ว ผิดหวัง จริงดังหมาย
หรือต้องทน ผิงไฟ ให้ไหม้ตาย
น่าเสียดาย ไม่มีแจก แลกแถมมา

ขอวิงวอน องค์กร อิสระ
อย่าปล่อยปละ ละไว้ ให้หนาวหนา
ด้วยว่าท่าน มีจิต คิดเมตตา
กรุณา ผมด้วย ช่วยเร็วไว.



ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
28 พฤศจิกายน 2010, 08:34:PM
Billboard
LV2 วัยเร่ร่อนผจญภัย
**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9



« ตอบ #37 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2010, 08:34:PM »
ชุมชนชุมชน



     
สายใยรักฝากลมหนาว   
     
      กระเเสไฟสถิตสนิทเนื้อ                  รอยระเรื่อปรางนวลชวนฉงน
 เชยเนื้อน้องปลาบเเปลบช่างเเยบยล        โลมาพลไม่พ้นขึ้นโรมรัน     
     ขับความงามของเจ้าราวบุปผา            ยามเเย้มกลีบดรุณาลา วสันต์
ช่อสร้อยฟ้าคลี่คล้อยรับเหมันต์                รื่นสุคันธารสจบภพไตร
     สายลมพราวปิดปลิวเจ้าเกสร             สู่ผืนฟ้าอัมพรอันกว้างใหญ่
เฉกดังพี่ภูมรินโผผินไพร                       ชมเรณูมาลัยเเล้วออกบิน
        เราต่างคนต่างมีหน้าที่เเท้                   เจ้าคือเเม่พี่คือพ่อผูกถวิล
 ตะวันขึ้นออกเรือนเลี้ยงชีวิน                 เย็นคืนถิ่นหวนกลับรับเเสงเดือน
       เเม่หลังบ้านการเรือนสอนสั่งลูก         คอยฝังปลูกคุณธรรมไม่คลาคลื่อน
น้อมคุณงามความดีเป็นครูเตือน               ให้คบเพื่อนปองมิตรที่จิตใจ
       เเม้เราห่างไกลกันรำพันถึง               สายลมพึงบรรจบพบรักให้
เเม้ลมหนาวบาดกายยังคลายไป                เเต่อุ่นไอสายใยรักคงฝากลม

       
      [/color]                               
บทประพันธ์โดย Billboard
[/color]
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
30 พฤศจิกายน 2010, 06:15:PM
เขียนชีวิต
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 73
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 282


เขียน"ชีวิต"
เว็บไซต์
« ตอบ #38 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2010, 06:15:PM »
ชุมชนชุมชน




สายลมหนาว...

สายลมหนาว พัดพา ความขมขื่น
ผ่านวันคืน บาดแผล มิรู้หาย
ทรมาน พิษรัก ร้าวรานกลาย
พิษละลาย มิเจือจาง เพียงร้าวรน

ยามเหน็บหนาว คราวก่อน มิเหน็บหนาว
มีงามกานต์ แพรวพราว ไล้ดาวฝน
มองหมู่ดา ราพราว พลันล่วงหล่น
มินึกรน ร้อนใจ รักเป็นดาว

ยามหมอกหนา หลอกใจ บิดเบือนจิต
หลอกความคิด ปิดบังไป ในลมหนาว
พ้นวิสัย มิอาจพบ เท็จเรื่องราว
ฟ้าสกาว รักรานร้าว ลึกลงไป...

ดวงจันทรา ในยามหนาว ละมุนล้วน
สองเราอวล อบอุ่น ด้วยไฉน
หรือเป็นฉัน คิดเองด้วย ดาราไร
ยังเข้าข้าง ตัวไซร้ ขลาดกลัวเจ้า

ดวงใจร้าว พันผูก ความรู้สึก
ก่อนรักลึก รู้ตัวแล้ว ฟ้าหม่นเศร้า
ไออุ่นรัก ผูกสัญญา หลอกมัวเมา
สัญญาผูก สัญญาเงา ร้าวระทม

มืดมนแล้ว กาฬโลก ดำมืดมิด
หนาวคมกรีด เด็ดบิด ดวงแดขม
ลวงหลอกด้วย กามา ชวนแกล้งชม
พอสุขสม ร้างลา ฝากทุกข์ล้น


ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

สนใจในชีวิตของบุคคลบนโลกหงิกงอ...
สนใจในแก่นแท้ของความไร้สาระ...
30 พฤศจิกายน 2010, 07:37:PM
บอม ซอง ดุ๊ก
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 589


เสกสรรกลั่นอักษร พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์


« ตอบ #39 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2010, 07:37:PM »
ชุมชนชุมชน


Title:ลมหนาวร้าวทรวง
Author:บอม ซอง ดุ๊ก

เมื่อกาลพ้นฝนลาฟ้าไร้เมฆ
ลมหนาวเสกหมอกหนาให้ข้าหม่น
เปลี่ยนผันผกวกเปลี่ยนเฝ้าเวียนวน
ทิศทางขมถมถ่วงล่วงกลับมา

จิตโศกศัลย์วันสะอื้นคืนถั่งโถม
ข้าต้องโทรมมนต์ร้อนซ่อนคาถา
หวั่นวิตกอกซ่านพิษอนิจจา
ไหวไหวมาคราใดให้จาบัลย์

เฝ้าคำนึงรักลวงห่วงพร่ำเพ้อ
คิดละเมอว่าเธอใช่เพียงฝัน
ถึงกี่กาลผ่านล้นพ้นกี่วัน
ใครคนนั้นยังนับวันเจ้าหันคืน

ที่แห่งนี้มีหวังตั้งจิตเฝ้า
ไกลสุดเขาสุดฝันจะรั้นฝืน
จากน้ำตาทาสายลมล้มทั้งยืน
ฉันยังยื่นผืนความรักปักใจคอย

O


บอม ซอง ดุ๊ก




ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสกสรรกลั่นอักษร....พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์
หน้า: 1 [2]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s