25 ตุลาคม 2010, 04:21:PM |
♥ กานต์ฑิตา ♥
|
|
« เมื่อ: 25 ตุลาคม 2010, 04:21:PM » |
ชุมชน
|
ยามค่ำคืน แสงจันทร์นวล ชวนเหว่ว้า คนไร้ค่า บาดแผลเจ็บ แสนเหน็บหนาว เงยหน้ามอง ท้องฟ้าที่ มีแต่ดาว ระยิบพราว ส่องแสงส่ง ลงพื้นดิน
เมื่อไม่มี อะไรต่าง จากสิ่งอื่น ดูพื้นพื้น ก็ไม่ต่าง จากเศษหิน ใครเล่าจะ ก้มมามอง ของราคิน เมื่อมิได้ โบยบินมา จากฟ้าไกล
จากดวงดาว พราวระยับ ประดับฟ้า ร่วงลงมา ไร้อันดับ รับได้ไหม จากวันที่ โดดเด่นตา กว่าใครใคร วันนี้กลับ แค่เป็นได้ เพียงธุลี
เหมือนครั้งหนึ่ง เคยเห็นฉัน สำคัญยิ่ง แล้วกลับทิ้ง ให้เดียวดาย อยู่ที่นี่ ลืมความรัก และความหลัง ที่เคยมี ฉันคนนี้ คงเป็นเพียง ฝุ่นละออง
ยามค่ำคืน แสนเหน็บหนาว ร้าวในอก น้ำตาตก เปล่าเปลี่ยวใจ ให้หม่นหมอง คราบความช้ำ ซ้ำเตือนใจ ได้ย้อนมอง กระจกส่อง สะท้อนเงา เราคือดิน.
"Kanthita" 25 ต.ค.2553
|
|
|
|
25 ตุลาคม 2010, 07:47:PM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2010, 07:47:PM » |
ชุมชน
|
กลอนเก้าคำ จำไว้ ด้อยไพเราะ (บทประพันธ์ ส.เชื่อหอม) มิได้เจาะ จงมิตร หรือคิดหมิ่น ก็แค่เพียง อยากเผย เคยได้ยิน ค่าเพียงดิน เช่นกัน คือฉันเอง อิ ๆ
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
|
26 ตุลาคม 2010, 02:31:AM |
สุวรรณ
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2010, 02:31:AM » |
ชุมชน
|
แม้เพียงดินก็ค่ามหาศาล เป็นแหล่งลานจานเจือเอื้อทรัพย์สิน อยู่ใต้หล้า อาหารที่ทานกิน แทบทั้งสิ้นดินคือแหล่งที่มา
ทั้งเป็นบ้านโอฬารสถานใหญ่ ดั่งวิมานพงไพรไม้พฤกษา ให้กำเนิดเกิดตะไคร่วิไลตา สร้างผืนป่าสล้างงามจับใจ
สัตว์นานาก็ใช้ไม้พิงพัก เป็นตำหนักหลักนอนหนุนอาศัย เกิดระบบนิเวศน์เขตพงไพร ศิวิไลซ์นักแล้ว แพรวเม็ดดิน
|
|
|
|
26 ตุลาคม 2010, 03:35:AM |
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,422
นักร้อง
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2010, 03:35:AM » |
ชุมชน
|
ดินนั้นหรือคือแดนมนุษย์โลก ถือเป็นโชคอย่างยิ่งจริงไหมท่าน? เกิดบนดินเดินดินถิ่นสำราญ ขอชื่นบานขานรับกับกลิ่นโคลน
อันคุณค่าของคนอยู่ที่ไหน? อยู่ที่ใครกำหนดกฏหัวโขน อยู่ที่ใจใบโบกมันโชกโชน อยากตะโกนก้องฟ้า..ข้าชาวดิน!
จงภูมิใจในตนทำหน้าที่ คนจะดีหรือเลวใช่เหวหิน อยู่ที่ใจสูงต่ำค้ำเมฆิน ควรยลยินดีงามอย่าข้ามใคร
จะเป็นดินเป็นฟ้าค่าสมมุติ ขอเพียงใจบริสุทธิ์และสดใส ถ้าจะคิดแบ่งชั้นต่างกันไป ก็เชิญใหญ่คู่ฟ้าอย่าคู่ดิน
เป็นชาวดินเจียมตนคนมองข้าม เชิญเหยียดหยามเหาะเหินเกินถวิล จะขออยู่จู๋จี๋มีพอกิน ใครจะบินช่างเขาเราชอบเดิน
"ปรางค์ สามยอด"
|
|
|
|
27 ตุลาคม 2010, 12:37:PM |
♥ กานต์ฑิตา ♥
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2010, 12:37:PM » |
ชุมชน
|
กลอนเก้าคำ จำไว้ ด้อยไพเราะ (บทประพันธ์ ส.เชื่อหอม) มิได้เจาะ จงมิตร หรือคิดหมิ่น ก็แค่เพียง อยากเผย เคยได้ยิน ค่าเพียงดิน เช่นกัน คือฉันเอง อิ ๆ
สายใย
๐ กลอนเก้าคำ ย้ำสัมผัส รัดรึงจิต มิได้ผิด จะคิดไย ไปคร่ำเคร่ง ขับเสภา คราก่อนนั้น เขาบรรเลง ทั้งครื้นเครง วังเวงครวญ ล้วนเก้าคำ........
อักษรารำพัน
ขอบพระคุณทั้งสองท่านที่ขานไข มาสนใจในบทกลอนอ้อนความต่ำ ค่าเพียงดินได้ยินหนาวาจาย้ำ กลอนเก้าจำด้อยไพเราะมิเจาะจง
อยากจะเรียนสองท่านหนาว่าอ่านพบ ใช่เจนจบอยากอวดดีมีตนหลง วิชาการงานของครูอยู่ดำรง อยากเสริมส่งหลักตำราภาษาไทย
กลอนสุภาพแบ่งออกเป็นสี่ชนิด มิเคยคิดดื้อแหกคอกจะบอกให้ จากหนังสือของอาจารย์นามกำชัย ทองหล่อไซร้สกุลท่านคงผ่านตา
กลอนสุภาพมีหกเจ็ดแปดเก้านั้น ด้วยตัวฉันชอบของแปลกแตกต่างหา ไม่ชอบนิ่งชอบวิ่งวนเสาะค้นคว้า อยากบอกว่ากลอนเก้านั้นฉันพึ่งเคย
เล่นเอาเหนื่อยเมื่อยขมับนับอักษร ให้เป็นกลอนเก้าคำเกิดได้เปิดเผย ท่านสายใยท้วงติงมาอย่าช้าเลย รวดเร็วเอ๋ยเปิดอ้างอิงจริงหรือลวง. "Kanthita" 27 ต.ค.2553
|
|
|
|
27 ตุลาคม 2010, 02:23:PM |
อักษรารำพัน
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2010, 02:23:PM » |
ชุมชน
|
ตัวอย่าง กลอนเก้า ที่ไพเราะและมีความหมาย ของ ปางสีฝุ่น
๐ คราวตะวัน..พลันยอแสง..สีแดงคล้อย ที่ทะยอย..ถดถอยเคลื่อน..ลับเถื่อนผา จะถึงกา-..ละกำหนด..กฏเวลา จับผองเจ้า..ดาริกา..มาโคจร
๐ และราตรี..ที่รี่เรื่อ..เหนือทิวไม้ มาสาดส่อง..แสงสวยใส..ให้สลอน โน่นหิ่งห้อย..คอยน้ำค้าง..ข้างคบคอน หมู่แมลง..แปลงปีกอ่อน..ออกฟ้อนรำ
๐ สู่คืนคาบ..สาบผสม..สายลมสวย ที่นาดนวย..เหนือทำนบ..กระทบน้ำ กระเพื่อมพลิ้ว..ดั่งริ้วดาว..ร้าวระบำ แล้วเนื่อมนำ..แนวระนาบ..ทาบสายตา
๐ ข้าฯเหยียบยืน..อย่างเย็นเยียบ..และเงียบกริบ มองแสงดาว..ราวกระซิบ..กระซาบฟ้า พลันพบเห็น..เด่นดาวหาง..พรางนภา ก็ลื่นไหล..ใจจินตา..จับอารมณ์...............
๐ ว่า..ดาวเอ๋ย..เอ้ย.ดาวหาง..เส้นทางไหน มาพานพบ..เพียงผ่านไป..ในเหมาะสม เพื่อทวงถาม..ถึงความหมาย..ท้ายสายลม ฤา ตกหล่ม..ในหลุมล้อม..อ้อมอกเดือน
๐ ด้วยท่าทาง..เจ้าย่างย้าย..คล้ายวิโยค กำสรวลโศก..แลเศร้าศัลย์..นั้นเสมือน ดั่งรอยรด..ทุกหยดหยาด..น้ำตาเยือน บนรอยตรม..แสนขมเฝื่อน..ของเดือนดาว
๐ โอ้..ดาวหาง..วางท่วงท่า..ฟ้าฉะนี้ ฤา หวาดไหว..นัยวิถี..ที่เหน็บหนาว จึงเวียนว่าย..ไว้ปรากฏ..จรดฟ้าพราว เจ้าซ่อนซุก..ทุกเรื่องราว..ณ ดาวใด
๐ หากยังคง..ธำรงมั่น..ในสัญญา เจ้าได้มอบ..ต่อขอบฟ้า..คราสวยใส จะเยี่ยมย้อน..กลับมาเยือน..หลังเลือนไกล แม้ห้วงกาล..จะผ่านไป..ใคร่กลับมา
และ......
๐ คืนข้าฯร่ำ..ค่ำข้าฯร่าย..คล้ายข้าฯร้าง ปวาร-..ณา.ดาวหาง..หว่างใจข้าฯ ไว้มุ่งมาด..วาดมุ่งหวัง..ดั่งจินตา เมื่อถึงครา..ข้าฯเปิดฝัน..จันทร์ข้างแรม
|
|
|
|
27 ตุลาคม 2010, 02:55:PM |
บ้านริมโขง
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2010, 02:55:PM » |
ชุมชน
|
ยามค่ำคืน แสงจันทร์นวล ชวนเหว่ว้า คนไร้ค่า บาดแผลเจ็บ แสนเหน็บหนาว เงยหน้ามอง ท้องฟ้าที่ มีแต่ดาว ระยิบพราว ส่องแสงส่ง ลงพื้นดิน
เมื่อไม่มี อะไรต่าง จากสิ่งอื่น ดูพื้นพื้น ก็ไม่ต่าง จากเศษหิน ใครเล่าจะ ก้มมามอง ของราคิน เมื่อมิได้ โบยบินมา จากฟ้าไกล
จากดวงดาว พราวระยับ ประดับฟ้า ร่วงลงมา ไร้อันดับ รับได้ไหม จากวันที่ โดดเด่นตา กว่าใครใคร วันนี้กลับ แค่เป็นได้ เพียงธุลี
เหมือนครั้งหนึ่ง เคยเห็นฉัน สำคัญยิ่ง แล้วกลับทิ้ง ให้เดียวดาย อยู่ที่นี่ ลืมความรัก และความหลัง ที่เคยมี ฉันคนนี้ คงเป็นเพียง ฝุ่นละออง
ยามค่ำคืน แสนเหน็บหนาว ร้าวในอก น้ำตาตก เปล่าเปลี่ยวใจ ให้หม่นหมอง คราบความช้ำ ซ้ำเตือนใจ ได้ย้อนมอง กระจกส่อง สะท้อนเงา เราคือดิน.
"Kanthita" 25 ต.ค.2553 แม้นเงยหน้า มองเดือนบ้าง เป็นบางครั้ง แต่ก็ยัง มองลงดิน เมื่อสิ้นหวัง ยามก้าวเดิน ไปข้างหน้า ท้าพลัง ตาก็ยัง จ้องมองดิน ก่อนผลินกาย
ค่าของคน ใช่มองตน แล้วค้นเศร้า ค่าของเรา คนได้เห็น เด่นเหลือหลาย ดีหรือชั่ว ใช่ตัวตน คนบรรยาย แต่ความหมาย อยู่ที่ใคร ได้ทำดี
ถึงจะพูด หลุดปากไป ใครไหนเชื่อ อย่าพูดเผื่อ เพื่อแสร้งทำ ต่ำศักดิ์ศรี คนมีค่า ในตัวตน ท้นทวี ไม่เคยมี ไหนประเสริฐ เลิศกว่าคน
อย่าถ่อมตัว จนต่ำเกิน ให้เดินย่ำ อย่าถลำ คำพูดใคร ให้สับสน คนเขาขำ ทำต่ำศักดิ์ ไม่รักตน แม่หน้ามน..แม่คนดี...ของพี่ยา.!
|
|
|
|
|
27 ตุลาคม 2010, 07:35:PM |
ทอฝัน
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2010, 07:35:PM » |
ชุมชน
|
<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value=" ...ค่าแห่งดินเดียวเดิมคอยเติมเชื้อ อารีย์เอื้อเกื้อใจคอยไถ่ถาม อุ่นอิงแอบแนบเนาว์เฝ้าติดตาม คือนิยามยิ่งใหญ่ในค่าดิน... ............//ทอฝัน
|
|
|
|
|
|