10 ตุลาคม 2010, 08:20:PM |
อักษรารำพัน
|
|
« เมื่อ: 10 ตุลาคม 2010, 08:20:PM » |
ชุมชน
|
๐ บนเส้นทาง ข้างหน้า สุดตานั้น มีเพียงฝัน พร่าเลือน เหมือนสหาย มีเงาหมอง ครองคู่ อยู่ข้างกาย มีบ่วงร้าย มัดรอบ และบอบช้ำ
๐ เหลียวแลรอบ หน้าหลัง ยังว่างเปล่า เหลือเพียงเหงา เร้ารุม สุมกระหน่ำ หนามรักยัง คงยอก เหมือนตอกย้ำ ต้องกลืนกล้ำ อาลัย ยามไกลลับ
๐ ร้อน-หนาว หรือ? ใคร? คอยใกล้ชิด เหมือนลิขิต สวรรค์ พลันมืดดับ ไร้แสงเดือน แสงดาว อันวาววับ จ่อมจมกับ รอยร้าว แสนผ่าวร้อน
๐ อยากหยุดวัน เวลา ด้วยล้านัก ถอดสลัก รักฝัน ค่อยผันผ่อน สางภาพเคย ลวงหลอก คอยยอกย้อน รานรักซ้อน ซ่อนเงื่อน ให้เลือนลบ
๐ สัมผัสความ งดงาม ในความเหงา หากรุมเร้า รอยฝัน ที่พลันจบ จึงเหลือความ เงียบงัน อยู่ ครันครบ แม้ฝังกลบ เก็บกลืน ยังขื่นช้ำ
๐ ท้องฟ้ากว้าง พร่างพราว เมฆขาวเกลื่อน กลับรางเลือน นัยน์ตา ด้วยพร่าฉ่ำ ในอกเหมือน ไฟรุม ซ่อนสุมซ้ำ ดังตอกย้ำ ช้ำหมอง ยากป้องพ้น
๐ เหลือง-ส้ม-แดง ใบไม้ ไหวลู่-ร่วง เมื่อสิ้นช่วง ล่วงกาล ก็รานหล่น ดุจรักเคย เปี่ยมสุข กลับทุกข์ท้น ยามแหลกป่น หล่นคว้าง อย่างใบไม้
๐ ทางชีวิต แปลก-เปลี่ยว ที่เคี้ยวคด ยังเลี้ยวลด หลอนขวัญ ในวันใหม่ ทอดเหยียดยาว ราวสร้าง อำพรางไว้ เพื่อผู้คน หลงใหล ก้าวไขว่คว้า
๐ บนเส้นทาง ข้างหน้า ยังท้าสู้ แต่กลับดูไกลเกิน จะเดินฝ่า หวังกระจ่าง พร่างพราย ที่ปลายฟ้า ร่างเหนื่อยล้า หรือจะถึง ซึ่งหวังนั้น
๐ ไร้ซึ่งคน ก้าวย่าง ร่วมทางด้วย ขาดคนช่วย โอบอ้อม ถนอมขวัญ คว้างอยู่กลาง ทางเปลี่ยว เดียวดายครัน มีเพียงฝัน ฟั่นเฟือน เป็นเพื่อนทาง!
|
|
|
|
|
|
|
11 ตุลาคม 2010, 12:19:AM |
อักษรารำพัน
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2010, 12:19:AM » |
ชุมชน
|
อยู่อย่างฝันฉันชนคนต่ำต้อย ไม่รอคอยใครงัดความขัดขวาง เฝ้าดั้นด้นค้นไขว่ไปตามทาง บางครั้งหมางหม่นใจแต่ไม่ท้อ
จะหวังใครเมตตาปรานีให้ ต่อฤทัยแสนเศร้าของเราหนอ จึงฝืนฝ่าฟันไปไม่รีรอ กว่าพร่ำขอกรุณาจากฟ้าไกล
เหนื่อยและล้ากล้าทนหวังพ้นทุกข์ พบความสุขภาคหน้าเมื่อฟ้าใส วันหมอกจางร้างหายจากสายใจ คือความฝันวันใหม่ในรุ่งราง....(สำเริง โคกสะท้าน)
ผ่านวันปีดี ร้าย มิวายเว้น บ้างลำเข็ญเป็นทุกข์ สุขไม่สร่าง วันที่มี ดี ชั่ว รัวเบาบาง ได้เพียงถาง ทางทุกข์ แล้วลุกยืน
ตามไล่ล่า ไปเรื่อย จนเหนื่อยอ่อน หลงทางย้อน วอนวก ผันผกฝืน ทั้งท้อแท้ แย่ยับ คิดกลับคืน ริบหรี่ขืน ฝืนก้าว คงร้าวลวง(e-no)
คงยากห้ามปรามใครตามไล่ฝัน เพราะดวงใจไหวหวั่นยามฝันล่วง คือสีแสงแห่งหวังอันทั้งปวง อันโชติช่วงจรัสเกินตัดไป
ถึงหลงย้อนอ่อนล้าตามหาฝัน เพียงใจกายหมายมั่นอย่าหวั่นไหว คงจะถึงซึ่งวันอันอำไพ คงสมใจในฝันอันหมายปอง
|
|
|
|
11 ตุลาคม 2010, 02:15:AM |
บ้านกลอนไทย
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 533
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 962
จิ๊กโก๋...กำลังจะโตเป็นหนุ่ม ฮ่าๆ
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2010, 02:15:AM » |
ชุมชน
|
o เดินไปบน หนทาง ที่ห่างรัก ขอหยุดพัก ผ่อนใจ เพื่อไกลหมอง ยอมหันหลัง ฝังยิ้ม เคยลิ้มลอง กับเจ้าของ ห้องที่ เคยมีกัน
o "สามย่าน"เอ๋ย เคยหวาน ยามผ่านเห็น บัดนี้เป็น เช่นเงา เหมือนเราฝัน เสียงกระซิบ หยิบยื่น ในคืนจันทร์ ภาพวันนั้น มันไกล.....จากใจเดิมแบบว่า.....ไม่รู้สิครับ กลอนพาไปมั่ง
|
|
|
|
11 ตุลาคม 2010, 02:17:AM |
สุวรรณ
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2010, 02:17:AM » |
ชุมชน
|
เพียงคว้าเงาเอาไว้ยังไร้สิทธิ์ ความฝันปลิดลิดร่วงดวงใจหมอง กับลมแล้งแรงล้าน้ำตานอง ปั่นป่วนท้องท้อนักยากบรรยาย
เก็บรอยฝันวันวานยังไม่สิ้น กี่รอยจินต์รินภาพลับเลือนหาย กี่ความหวังยังทรุดยุดมลาย กี่ลมร้ายผ่านไปได้หวนคืน
ห่างไกลเกินไปไหมในอกพ้อ ไยฝันทอหนักหนาชะตาฝืน ด้นลิขิตผิดใด ใจกล้ำกลืน ชะรอยยืนยิ้มอยู่ ดูฝันเลือน
|
|
|
|
|
11 ตุลาคม 2010, 04:20:PM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2010, 04:20:PM » |
ชุมชน
|
สุดแรงล้าล่าฝันไม่ทันแล้ว เริ่มผะแผ่วผ่านวันฝันคล้อยเคลื่อน ฝันเจ้าเอย เคยใกล้ไม่มาเยือน ได้แต่เตือนตนว่าไล่คว้าเงา
หรือเศษเชื้อ เผื่อแผ่เพียงแค่นี้ รางวัลที่ไล่ตามคือความเหงา กับภาพฝันช้ำฟกในอกเรา เพื่อเร่งเร้าน้ำตายามจาบัลย์
ต้องหักห้วงดวงแดแม้ถวิล ต้องหักจินต์จบห้ามไล่ตามฝัน ต้องเฝ้าฝืนกลืนกล้ำอย่ารำพัน กลับหลังหันหวั่นใจไร้รอยเดิน
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
|
|
|
|
12 ตุลาคม 2010, 05:13:AM |
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,422
นักร้อง
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 12 ตุลาคม 2010, 05:13:AM » |
ชุมชน
|
วิ่งตามล่าหาฝันในวันเก่า ที่สองเราเชยชื่นคืนสดใส ช่างหวานล้ำด่ำดื่มปลื้มทรวงใน มาบัดนี้เปลี่ยนไปไม่เหลือรอย
อยากจะฝันวันชื่นคืนสุขสม ช่างตรอมตรมเหลือที่มีแต่ถอย เศร้าถึงวารผ่านไปใช่สำออย แม้สักน้อยคืนละนิดหมดสิทธิ์แล้ว
พบแต่เพียงฝันร้ายดั่งคล้ายเยาะ อยากหัวเราะเริงร่าแต่ท่าแห้ว ความหอมหวานหว่านไว้ไร้วี่แวว ไม่เหลือแนวนานเนิ่นเกินความจริง
ที่รักจ๋ามาร่วมรวมล่าฝัน เพื่อคืนวันของเราเข้าสู่สิง เอาน้ำผึ้งแห่งรักร่วมพักพิง เฝ้าแอบอิงอุ่นไอให้รื่นรมย์
พี่งอนง้อขอโทษโปรดสงสาร ทรมานเหลือเกินเดินขื่นขม ขอจงโปรดอภัยให้ชื่นชม โยนเศร้าตรมทิ้งไปได้ฝันดี
ปรางค์ สามยอด
|
|
|
|
|