บนถนนที่ว่างเปล่า....
ฉันก้าวเท้าอันแสนหนักเดินไปด้วยหัวใจมุ่งมั่น
ผ่านความร้อนความหนาว ความทุกข์ความสุขมาสาระพัน
หนทางข้างหน้าที่มองเห็นนั้นดูมืดมัว
ดวงอาทิตย์ลาลับดับแสงลงไปแล้ว
ทุกเขตแนวมีเพียงแสงเงาจากดวงดาวที่พราวพร่างสลัว
เงาทะมึนของหมู่ไม้มองไป...ดูไหวระรัว
รอบๆ ตัวที่เดินไปดูโดดเดี่ยวเดียวดาย
สายลมแผ่วๆ พัดสัมผัสกายเหมือนเสียงกระซิบ
ว่าหนทางที่ไกลลิบนั้น... ยังไกลนักที่จะถึงจุดหมาย
จงหยุดพักผ่อนนอนเสียให้สบาย
เพื่อร่างกายจะได้มีแรงเดินต่อไปได้อีกไม่น้อย
แว่วนกฮูกส่งเสียง...ตีปีก
คล้ายจะบอกให้หลีกหลบไปซะ...ถ้าหัวใจท้อถอย
เพราะหนทางข้างหน้านั้นอาจมีอันตรายรอคอย
หากหัวใจไม่มั่นเต็มร้อยก็อาจเกิดความอ่อนล้า
ฉันยังคงสาวเท้าเดินต่อไปไม่เหลียวหลัง
ด้วยพลังของหัวใจที่ใครๆ มองดูเหมือนไร้คุณค่า
พร้อมกับดอกความหวังที่ยังผลิบานโดดเด่นตระการตา
ส่งรอยยิ้มมาเชื้อเชิญให้เดินเข้าไปจับจอง
ท่ามกลางความเงียบ...เงียบ...เงียบสนิทที่รายล้อม
แหงนดูฟ้าที่เหมือนว่าจะถูกย้อมด้วยสีดำ...หม่นหมอง
ฉันหยุดยืนนิ่งๆ เพื่อพักความเหนื่อย...ตั้งใจมอง
แล้วปิดเปลือกตาทั้งสอง...ปล่อยอารมณ์
มโนภาพชัด.....
มองเห็นถนัดว่าที่จุดหมายมันจะทุกข์หรือจะสุขสม
จะโดดเดี่ยวเดียวดาย หรือรายล้อมด้วยคนนิยม
มาร่วมยินดี ชื่นชม ด้วยความจริงใจ
บนถนนที่ทอดยาว....
ฉันยังคงก้าวเท้าเดินต่อ...แม้จะรู้สึกว่าหวั่นไหว
แต่ฉันก็ยังคงเป็นฉัน...นักเดินทางไกล
ที่พร้อมจะก้าวคว้าเส้นชัย...แม้เดียวดายในเส้นทาง.
“Kanthita”
9 ต.ค.2553