ฉันคือผู้ ถือปากกา ตามหาฝัน
ผจญผลาญ ร้อยพัน ปัญหาโถม
มีแต่เพียง ความเงียบ ปลอบชโลม
มีเพื่อนเป็น ดวงโสม โฉมระบาย
ไร้ที่อยู่ อาศัย ให้พิงพัก
กร่ำงานหนัก เพื่อตาม หาความหมาย
มีอาวุธ เป็นปากกา เคียงข้างกาย
ท่ามกลางฝัน อันเดียวดาย ร่ายรำพัน
ถือวิเวก เส้นทาง ที่ตามหา
มีน้ำตา หยดลง ตรงทางฝัน
เป็นสิ่งซึ่ง เตือนใจ ไล่ฝ่าฟัน
ซึ่งเหล่านั้น คืออดีต ซึ่งผจญ
และเมื่อไหร่ ไม่รู้ อยู่ในฝัน
ณ ตอนนี้ คืนวัน มีหยาดฝน
เวียนครบรอบ ปลายสาทร กลางหยาดชล
ฉันกลับพ้น ความเดียวดาย ที่ได้เจอ
มีสหาย รายล้อม รอบดวงจิต
มีเพื่อนมิตร คิดคู่ อยู่เสมอ
มีพี่น้อง ร้องเรียก ทั้งฉัน-เธอ
พูดออเอ่อ กันได้ ไม่ขัดใจ
มีบ้านหรู อยู่พัก สลักถ้อย
มีทุกคน ร่วมร้อย พลอยสีใส
รจนา ค่าคำ บำนาญไป
ด้วยอุ่นไอ น้องพี่ กวีกลอน . . .
เริ่มเขียนกลอนออนไลน์เพียงหมายว่า
ได้หัดใช้วาจาภาษาสอน
เขียนผิดบ้างถูกบ้างในบางตอน
ด้วยยังอ่อนเชิงชั้นวรรณกวี
มีหลายท่านเมตตาพาเรียนรู้
เขียนให้ดูปูทางสร้างศักดิ์ศรี
แต่พื้นฐานเรียนร่ำคำกวี
ยังไม่มีพอเพียง เรื่อง..เสียง..คำ
เหมือนเริ่มเรียน ก.กา ขึ้นมาใหม่
ด้วยตั้งใจ เพื่อให้ ไม่ได้ขำ
ครูว่าไป แต่ใจ เราไม่จำ
สุดเจ็บช้ำ คำ ก.กา มาติดคอ
เห็นภาษาของใครอื่นชื่นใจนัก
ได้ทั้งหลักทั้งรสสดจริงหนอ
เขียนกลอนรักก็หวานฉ่ำคำพะนอ
เขียนหยอกล้อก็เฮฮาพาสุขใจ
พอเราเขียนมาบ้างอย่างสุดฤทธิ์
กลับมีผิดมีซ้ำนำแก้ไข
อารมณ์สุขก็เศร้าไม่เข้าใจ
ใส่ตรงไหนภาษาหวานของกานท์กลอน ?
เถอะ..จะเขียน ต่อไป ไม่ย่อท้อ
มีคนรอคอยอ่านจากงานหลอน
แม้ไม่ได้ดั่งใจทีใครวอน
ก็จะหลอนกลอนเปล่า..ให้เจ้ากลัว... 555+