หาดทราย พรายคลื่น กับคืนเหงา
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 02:27:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หาดทราย พรายคลื่น กับคืนเหงา  (อ่าน 8285 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
07 ตุลาคม 2010, 03:18:PM
อักษรารำพัน
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 84
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 120



« เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010, 03:18:PM »
ชุมชนชุมชน

๐ หาดทราย ชายทะเล ร่วมเห่กล่อม
โค้งฟ้าอ้อม ล้อมรอบ จรดขอบสินธุ์
เหมือนหลอมรวม น้ำฟ้า ธรณิน
สายลมริน โลมผ่าน ธารระยับ

๐ เมื่อเม็ดทราย พรายคลื่น เต้นตื่นหยอก
เกลียวระลอก เกลือกกลิ้ง ทิ้งตัวกับ-
อ้อมกอดทราย พรายคลื่น กลืนร่างลับ
ลงซึมซับ แทรกซบ แล้วลบเลือน


๐ ระลอกคลื่น ตื่นอยู่ ไม่รู้หลับ
คลออยู่กับ ทรวงทราย ไม่คลายเคลื่อน
เนิ่นนานกาล ผ่านผัน กี่วันเดือน
ไม่แชเชือน ร้างลา แม้นาที

๐ สายลมโชย โบยพัด ระบัดพลิ้ว
ใบไม้ปลิว ร่วงคว้าง ห่างจากที่
พรากกิ่งก้าน ร่วงหล่น ปนวารี
ลอยเรื่อยลี้ ลับหาย จมสายธาร


๐ ภาพความหลัง ย้อนย้ำ ให้ลำลึก
เปิดผนึก ออกเผย ยามเคยหวาน
ท่ามคลื่นเห่ ทะเลห่ม กลับล่มลาญ
พรากตามกาล ผ่านพ้น เกินด้นดึง

๐ เหมือนเม็ดทราย พรายคลื่น ที่กลืนซบ
แล้วเลือนกลบ จบวัน เคยฝันถึง
ทรายคลื่นยัง หยอกย้ำ ให้คำนึง
แต่เคยซึ้ง กลับเศร้า คอยเร้ารุม


๐ โค้งฟ้าอ้อม ล้อมรอบ จรดขอบสินธุ์
ภาพกลางจินต์ ผุดพราย คล้ายเพลิงสุม
ห้วงอกคน เคยรัก ดังกักกุม
เช่นไฟรุม ยามร้าง อ้างว้างนัก

๐ ระลอกคลื่น ตื่นอยู่ ไม่รู้หลับ
ยามลาลับ ร้างหวาน ลงราน, หัก
ใจนั้น..ยาก หากหมาย ให้คลายภักดิ์
ยังประจักษ์ เต้นตื่น ดังคลื่นครวญ


๐ สายลมโชย โบยพัด ระบัดพลิ้ว
ใจคนปลิว ลับไกล ไม่คืนหวน
หวังพระพาย โผยผ่อน พัดย้อนทวน
พารักอวล แอบสู่ ผู้อาลัย

๐ ห่างร้างแสน ยาวนาน รักรานล่ม
เพียงสายลม พรมลูบ ก็วูบไหว
ความอาวรณ์ เร้ารุม ดังสุมไฟ
พรากร้างไกล สุดหล้า เกินคว้าครอง


๐ ลมทะเล เห่ครวญ หวลสะอื้น
เคยหวานชื่น รื่นรมย์ กลับตรมหมอง
อ้อมอุ่นไอ ใครเอ๋ย เคยตระกอง
วันนี้จ้อง มองหา คว้าเพียงเงา

๐ เพียงลมโบก โกรกผ่าน สะท้านวูบ
ลมไล้ลูบ วูบไหว กับใจเหงา
กอดตัวเอง เร่งกาย หมายบรรเทา
โอ้ว่าเรา เหงาจน จะทนแล้ว


๐ ยังงดงามน้ำฟ้า สุดตาไกล
ทะเลไหว ระลอกริ้ว ลมพลิ้วแผ่ว
เลื่อมวับวาว พราวพร่าง กระจ่างแวว
ดังเกร็ดแก้ว ประกาย วาบพรายตา

๐ คลื่นคลอเคล้า เย้าอยู่ เคียงคู่หาด
ยามซัดสาด เสียงสั่ง ดังครวญหา
พลิ้วพลิกคว้าง ใบไม้ ปลิวไกลตา
ดุจสายใย เสน่หา เลื่อนลาลับ


๐ ฟ้ายังครอบ รอบทะเล คลื่นเห่กล่อม
หากโอบล้อม คืนคลาย แล้วกลายกลับ
คืออ้อมกอด แห่งรัก ที่หักยับ
เคยประดับ กลับพัง สุดรั้งไว้

๐ หากน้ำตา พาใจ ให้หายเศร้า
ช่วยบรรเทา เหงาลง ก็จงไหล
ล้างโศกศัลย์ รันทด ให้หมดใจ
อย่าเก็ยใย ไว้เยื่อ เป็นเชื้อฟืน


๐ เมื่อความช้ำ ค้ำคอ จนท้อแท้
ยากเกินแก้ แม้ใจ ให้ขัดขืน
ปล่อยเวลา หาหลัก สักชั่วคืน
ครั้นพอตื่น ทิ้งไว้ ในวันวาน

๐ ลบอดีต กรีดใจ เสียให้หมด
ความสวยสด งดงาม ยามรักหวาน
ทอดทิ้งวัน อันท้อ ทรมาน
เก็บดวงมาน สานฝัน วันต่อไป


๐ เสียงคลื่นครวญ หวลหา คล้ายว่ายัง-
ย้ำความหลัง ครั้งนั้น จนหวั่นไหว
ในวันที่ หม่นเศร้า ไร้เงาใคร
คืออาลัย อาวรณ์ ยากผ่อนปรน

๐ ตัดสิ้นสาย เยื่อใย จากใครหนึ่ง
กลับจะตรึง ตรวน-ราน ยิ่งผลาญ-ป่น
ยิ่งตัดรอน ยิ่งเร้า เข้าหลอม-ลน
ยากหลุดพ้น รอยหวาน เคยผ่านพบ


๐ ดังคลื่นคง ครวญคร่ำ ร่ำอาลัย
ก็เช่นใคร ช้ำอยู่ ไม่รู้จบ
หลายระลอก หยอก-เยือน แล้วเลือนลบ
ยากสงบ ลำนำ ยังคร่ำครวญ

๐ อกใจเอ๋ย เคยแอบ แนบด้วยรัก
แล้วสลัก รอยช้ำ โศกกำสรวล
สายใยหวาน ซ่านซึ้ง คล้ายตรึงตรวน
ยังแย้มยวน หยอกย้ำ ให้คำนึง


๐ เสียงคลื่นเห่ ทะเลห่ม ลมสะบัด
วานช่วยพัด พรากฤทธิ์ ความคิดถึง
กับร่องรอย เสน่หา เคยตราตรึง
และพรากซึ้ง แสนเศร้า เคล้าลมลอย..ฯลฯ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สายลมที่หวังดี

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 ตุลาคม 2010, 05:22:PM
อัศจรรย์จิต
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 118
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 222


พี่ชายมาเองจำ รหัสเข้าตัวเองไม่ได้555


« ตอบ #1 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010, 05:22:PM »
ชุมชนชุมชน

พรายฟองคลื่นฟื้นตัวระรัวลอก
ซัดหินซอกหาดทรายตอนสายสาง
ริ้วระยับซับซ้อนแลย้อนทาง
งามพรายพร่างห่างตาให้พาเพลิน

ในอ้อมอุ้มทะเลเห่ห่อฝัน
เพ้อรำพันผิวพรายปลายโขดเขิน
จากตาไกลใกล้กรุ่นแดดอุ่นเดิน
ภาพงามเกินกว่ากานท์ตระการตา
ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 ตุลาคม 2010, 05:48:PM
ดอกกระเจียว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 317
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,264


จินตนาการในความว่างเปล่า


« ตอบ #2 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010, 05:48:PM »
ชุมชนชุมชน



วิจิตรงามความเคล้าเศร้าและโศก
กลางลมโบกพลิ้วไหวใบพฤกษา
เสียงทะเลเห่กล่อมย้อมวิญญาญ์
ดั่งนำพาพรากรักไปจากไกล








ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

07 ตุลาคม 2010, 11:12:PM
อักษรารำพัน
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 84
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 120



« ตอบ #3 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010, 11:12:PM »
ชุมชนชุมชน

๐ เสียงคลื่นเห่ ทะเลห่ม ลมสะบัด
วานช่วยพัด พรากฤทธิ์ ความคิดถึง
กับร่องรอย เสน่หา เคยตราตรึง
และพรากซึ้ง แสนเศร้า เคล้าลมลอย

๐ ฝากส่งให้ ใครหนึ่ง เคยซึ้งนัก
จวบจนรัก หักงอ จึงท้อถอย
ว่าหนึ่งใจ ใครนั้น ยังฝันคอย
แม้นบุญน้อย ต้อยต่ำ มิอำพราง....
(อักษรารำพัน)

พรายฟองคลื่นฟื้นตัวระรัวลอก
ซัดหินซอกหาดทรายตอนสายสาง
ริ้วระยับซับซ้อนแลย้อนทาง
งามพรายพร่างห่างตาให้พาเพลิน

ในอ้อมอุ้มทะเลเห่ห่อฝัน
เพ้อรำพันผิวพรายปลายโขดเขิน
จากตาไกลใกล้กรุ่นแดดอุ่นเดิน
ภาพงามเกินกว่ากานท์ตระการตา….
(อัศจรรย์จิต)

วิจิตรงามความเคล้าเศร้าและโศก
กลางลมโบกพลิ้วไหวใบพฤกษา
เสียงทะเลเห่กล่อมย้อมวิญญาญ์
ดั่งนำพาพรากรักไปจากไกล….
(ดอกกระเจียว)

อันความงาม ยามรัก ยากหักห้าม
เหมือนดังไฟ ไหม้ลาม จนหวามไหว
มีรักแท้ แค่หนึ่ง ก็ซึ้งใจ
แต่อยู่ไหน ใจนั้น เฝ้าฝันเคียง...
(อักษรารำพัน)
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
08 ตุลาคม 2010, 12:11:AM
พิมพิลาไลย
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 168
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,011



« ตอบ #4 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2010, 12:11:AM »
ชุมชนชุมชน



บนหาดทราย ปลายตา ฝ่าเกลียวคลื่น
ทะเลตื่น กลืนกลบ สยบฝัน
ณ ตรงนี้ ที่เรา เคล้าเคลียกัน
คงเหลือฉัน นั้นอยู่ แต่ผู้เดียว

โค้งขอบฟ้า ว้าเหว่ ทะเลเหงา
หนึ่งคนเศร้า หนึ่งดาวหงอย คอยแลเหลียว
หนึ่งใจนี้ มีกัน จันทร์รูปเคียว
แม้เพียงเสี้ยว เหลียวแล คนแพ้ใจ

พรายคลื่นพริบ วิบวับ กับคืนเหงา
ลมแผ่วเบา เย้ายวน ชวนหลงไหล
อยากล้มพับ หลับกลืน กับผืนทราย
พิงพักกาย ก่ายกอด ตลอดกาล


พิมพิลาไลย
ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
08 ตุลาคม 2010, 01:38:AM
ดิษฐา
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 200
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,067



« ตอบ #5 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2010, 01:38:AM »
ชุมชนชุมชน

๐ เสียงคลื่นเห่ ทะเลห่ม ลมสะบัด
วานช่วยพัด พรากฤทธิ์ ความคิดถึง
กับร่องรอย เสน่หา เคยตราตรึง
และพรากซึ้ง แสนเศร้า เคล้าลมลอย

๐ ฝากส่งให้ ใครหนึ่ง เคยซึ้งนัก
จวบจนรัก หักงอ จึงท้อถอย
ว่าหนึ่งใจ ใครนั้น ยังฝันคอย
แม้นบุญน้อย ต้อยต่ำ มิอำพราง....
(อักษรารำพัน)

พรายฟองคลื่นฟื้นตัวระรัวลอก
ซัดหินซอกหาดทรายตอนสายสาง
ริ้วระยับซับซ้อนแลย้อนทาง
งามพรายพร่างห่างตาให้พาเพลิน

ในอ้อมอุ้มทะเลเห่ห่อฝัน
เพ้อรำพันผิวพรายปลายโขดเขิน
จากตาไกลใกล้กรุ่นแดดอุ่นเดิน
ภาพงามเกินกว่ากานท์ตระการตา….
(อัศจรรย์จิต)

วิจิตรงามความเคล้าเศร้าและโศก
กลางลมโบกพลิ้วไหวใบพฤกษา
เสียงทะเลเห่กล่อมย้อมวิญญาญ์
ดั่งนำพาพรากรักไปจากไกล….
(ดอกกระเจียว)

อันความงาม ยามรัก ยากหักห้าม
เหมือนดังไฟ ไหม้ลาม จนหวามไหว
มีรักแท้ แค่หนึ่ง ก็ซึ้งใจ
แต่อยู่ไหน ใจนั้น เฝ้าฝันเคียง...
(อักษรารำพัน)



กระซิบเสียงเอียงแอบ แนบขอบฟ้า
ระโหยหาอาวรณ์ เว้าวอนเสียง
สรรพสิ่งนิ่งหยุด สุดสำเนียง
พาใจเลี่ยง เยี่ยงหลบ จะพบใคร

ได้แต่เพียงเฝ้าฝัน  แค่นั้นหรือ
รักจริงซื่อ ถือคู่ อยู่หนไหน
ชีพแทบม้วยมรณา พาสิ้นใจ
ไร้เสียงใด ไหนขับ รับขวัญเรา

ดีกสงัด ขจัดเป่า ความเหงาโศก
ภายใต้โลกเดียวดาย สุดพ่าย , เหงา
รับวันใหม่ รุ่งสาง อาจจางเบา
ระคนเคล้าเฝ้าโศก วิโยกครวญ

จะรวนเร แพ้พร่ำ หรือร่ำไห้
เปล่าเปลี่ยวไร้ในรัก ให้พักหวล
ความเคยชิน บินใกล้ ให้ใจรวน
สติจวนเลือนหาย แพ้พ่ายแล้ว.....(e-no)

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
10 ตุลาคม 2010, 11:09:PM
อักษรารำพัน
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 84
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 120



« ตอบ #6 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2010, 11:09:PM »
ชุมชนชุมชน

๐ เสียงคลื่นเห่ ทะเลห่ม ลมสะบัด
วานช่วยพัด พรากฤทธิ์ ความคิดถึง
กับร่องรอย เสน่หา เคยตราตรึง
และพรากซึ้ง แสนเศร้า เคล้าลมลอย

๐ ฝากส่งให้ ใครหนึ่ง เคยซึ้งนัก
จวบจนรัก หักงอ จึงท้อถอย
ว่าหนึ่งใจ ใครนั้น ยังฝันคอย
แม้นบุญน้อย ต้อยต่ำ มิอำพราง....
(อักษรารำพัน)

พรายฟองคลื่นฟื้นตัวระรัวลอก
ซัดหินซอกหาดทรายตอนสายสาง
ริ้วระยับซับซ้อนแลย้อนทาง
งามพรายพร่างห่างตาให้พาเพลิน

ในอ้อมอุ้มทะเลเห่ห่อฝัน
เพ้อรำพันผิวพรายปลายโขดเขิน
จากตาไกลใกล้กรุ่นแดดอุ่นเดิน
ภาพงามเกินกว่ากานท์ตระการตา….
(อัศจรรย์จิต)

วิจิตรงามความเคล้าเศร้าและโศก
กลางลมโบกพลิ้วไหวใบพฤกษา
เสียงทะเลเห่กล่อมย้อมวิญญาญ์
ดั่งนำพาพรากรักไปจากไกล….
(ดอกกระเจียว)

อันความงาม ยามรัก ยากหักห้าม
เหมือนดังไฟ ไหม้ลาม จนหวามไหว
มีรักแท้ แค่หนึ่ง ก็ซึ้งใจ
แต่อยู่ไหน ใจนั้น เฝ้าฝันเคียง...
(อักษรารำพัน)



กระซิบเสียงเอียงแอบ แนบขอบฟ้า
ระโหยหาอาวรณ์ เว้าวอนเสียง
สรรพสิ่งนิ่งหยุด สุดสำเนียง
พาใจเลี่ยง เยี่ยงหลบ จะพบใคร

ได้แต่เพียงเฝ้าฝัน  แค่นั้นหรือ
รักจริงซื่อ ถือคู่ อยู่หนไหน
ชีพแทบม้วยมรณา พาสิ้นใจ
ไร้เสียงใด ไหนขับ รับขวัญเรา

ดีกสงัด ขจัดเป่า ความเหงาโศก
ภายใต้โลกเดียวดาย สุดพ่าย , เหงา
รับวันใหม่ รุ่งสาง อาจจางเบา
ระคนเคล้าเฝ้าโศก วิโยกครวญ

จะรวนเร แพ้พร่ำ หรือร่ำไห้
เปล่าเปลี่ยวไร้ในรัก ให้พักหวล
ความเคยชิน บินใกล้ ให้ใจรวน
สติจวนเลือนหาย แพ้พ่ายแล้ว.....(e-no)


ที่ที่หนึ่ง ซึ่งใจ หมายได้พัก
ที่ที่นี้ มีรัก ตระหนักแน่ว
ที่ที่นั้น ฝันรัก จักฉายแวว
สำเนียงแผ่ว แว่วหวาน ผสานพลัน....
(หทัยชนก)

บนหาดทราย ปลายตา ฝ่าเกลียวคลื่น
ทะเลตื่น กลืนกลบ สยบฝัน
ณ ตรงนี้ ที่เรา เคล้าเคลียกัน
คงเหลือฉัน นั้นอยู่ แต่ผู้เดียว

โค้งขอบฟ้า ว้าเหว่ ทะเลเหงา
หนึ่งคนเศร้า หนึ่งดาวหงอย คอยแลเหลียว
หนึ่งใจนี้ มีกัน จันทร์รูปเคียว
แม้เพียงเสี้ยว เหลียวแล คนแพ้ใจ

พรายคลื่นพริบ วิบวับ กับคืนเหงา
ลมแผ่วเบา เย้ายวน ชวนหลงใหล
อยากล้มพับ หลับกลืน กับผืนทราย
ขอทอดกาย ก่ายกอด ตลอดคืน...
(พิมพิลาไลย)

๐ จะอิงแอบ แนบอก นอนกกกอด
จะพร่ำพรอด หยอดคำ สุดฉ่ำชื่น
จะฟูมฟัก รักไว้ ให้ยั่งยืน
จะแข็งขืน ยืนสู้ มิดูดาย

๐ เพราะหากใจ ไร้เธอ คงเพ้อพล่าม
ถึงนภา ฟ้าคราม ไร้ความหมาย
หวังเพียงได้ ใครหนึ่ง แนบซึ้งกาย
มาล้างเศร้า เหงาคลาย มลายเลือน....

๐ แต่ความเศร้า เหงาทรวง ดั่งบ่วงรัด
มิอาจตัด มัดตรึง ประหนึ่งเหมือน
เป็นโซ่ห่วง บ่วงกรรม เฝ้าย้ำเตือน
ไม่แชเชือน เคลื่อนคลาย จากกายเลย

๐ แต่ก็ยัง ฝังจิต มิคิดจาก
อย่าพลัดพราก จากไกล นะใจเอ๋ย
อยู่กับเศร้า เหงาจินต์ จนชินเคย
ใจเจ้าเอย เฉยไว้ หักใจปลง
(หทัยชนก)

เปรียบเม็ดทรายพรายคลื่นในคืนเหงา
หลงคว้าเงาเอาไว้อย่างใหลหลง
ก้าวสู่ท่ามความช้ำอย่างจำนง
ในแวดวงดงเศร้าช่างร้าวราน

เหมือนเกลียวคลื่นกลืนหายตรงชายฝั่ง
ซบกายยังวังวนสิ้นมนต์ขาน
จบเส้นทางร่างลับพร้อมกับกาลฯ
ปิดตำนานจารไว้ในความจำ....
(อักษราฯ)
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
16 ตุลาคม 2010, 01:22:AM
ดาวระดา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 369
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 595



« ตอบ #7 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2010, 01:22:AM »
ชุมชนชุมชน

ด้วยความหม่นดลจิตให้ผิดแผก
ตื่นมาแทรกผืนทรายเพื่อคายขม
สำรอกทิ้งสิ่งชั่วไม่กลัวลม
จะพัดพรมโหมคลื่นจนกลืนทราย

คาบอาวรณ์ก่อนเว้าเข้ารูปโค้ง
มีใยโยงเย้ายวนให้ชวนหมาย
สานเสี้ยวหนึ่งพึงโน้มโถมใจกาย
ถักทอสายถ่ายเป็นเส้นผูกพัน

ในความเงียบเหยียบกรวดตรวจความช้ำ
ถูกกระหน่ำด้วยคลื่นยืนตัวสั่น
แม้จะคายความขมงมเงียบงัน
ยังสะบั้นกลั้นสะอื้นในคืนนี้
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s