07 ตุลาคม 2010, 01:13:AM |
♥ กานต์ฑิตา ♥
|
|
« เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010, 01:13:AM » |
ชุมชน
|
คนเขียนกลอนอ่อนไหวหัวใจเหงา เพราะหยิบเอาเค้าเงื่อนที่เหมือนต้น มีรากแก้วรากฝอยรอยมืดมน ทุกข์ท้อทนแตกใบกิ่งใหญ่โต
คนเขียนกลอนอ่อนแอไม่แพ้พ่าย ถึงเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายน่าอายโข ถึงจะล้าหน้าหมองร้องไห้โฮ ก็ยังโชว์กลเม็ดดั่งเพชรงาม
คนเขียนกลอนนอนเปล่าก็เศร้าจิต เฝ้าวนคิดเวียนไปอย่างใจย่าม เหมือนเรือขาดเข็มทิศใช้ติดตาม ตกอยู่ท่ามความงงเพราะหลงทาง
คนเขียนกลอนรอนแรมเติมแต้มฝัน หยิบตะวันเดือนดาวที่พราวพร่าง สายลมโบกแผ่วผิวหวีดหวิวคราง นำมาสร้างภาพช่วยดูสวยดี
คนเขียนกลอนวอนฝากแทนปากเอ่ย ว่าคิดถึงจังเลยรู้ไหมนี่ บรรจงสรรกลั่นคำฉ่ำวจี ด้วยไมตรีและกมลคนเขียนกลอน. “Kanthita” 7 ต.ค.2553
|
|
|
|
|
07 ตุลาคม 2010, 04:24:AM |
บ้านริมโขง
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010, 04:24:AM » |
ชุมชน
|
คนเขียนกลอนอ่อนไหวหัวใจเหงา เพราะหยิบเอาเค้าเงื่อนที่เหมือนต้น มีรากแก้วรากฝอยรอยมืดมน ทุกข์ท้อทนแตกใบกิ่งใหญ่โต
คนเขียนกลอนอ่อนแอไม่แพ้พ่าย ถึงเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายน่าอายโข ถึงจะล้าหน้าหมองร้องไห้โฮ ก็ยังโชว์กลเม็ดดั่งเพชรงาม
คนเขียนกลอนนอนเปล่าก็เศร้าจิต เฝ้าวนคิดเวียนไปอย่างใจย่าม เหมือนเรือขาดเข็มทิศใช้ติดตาม ตกอยู่ท่ามความงงเพราะหลงทาง
คนเขียนกลอนรอนแรมเติมแต้มฝัน หยิบตะวันเดือนดาวที่พราวพร่าง สายลมโบกแผ่วผิวหวีดหวิวคราง นำมาสร้างภาพช่วยดูสวยดี
คนเขียนกลอนวอนฝากแทนปากเอ่ย ว่าคิดถึงจังเลยรู้ไหมนี่ บรรจงสรรกลั่นคำฉ่ำวจี ด้วยไมตรีและกมลคนเขียนกลอน. “Kanthita” 7 ต.ค.2553 คนต่อกลอนต่อแขนนี้แสนยาก ก่อนออกปากต้องผ่านใจใช่หลอกหลอน ต้องวางเรื่องวางราวสาวเป็นตอน โดนทั้งสอนทั้งด่าน่าเจ็บใจ
คนต่อกลอนจะเริ่มเองก็เกร็งนัก กลัวผิดหลักหักโค่นโดนแก้ไข คอยดูต้นดูรากก่อนดูใบ ว่าต้นใหญ่ใบน้อยหรือห้อยวาง
คนต่อกลอนต้องอ่อนไหวตามใจเจ้า เพื่อให้เข้ากับอารมณ์ขมไม่ขวาง เขาว่าไงว่าด้วยช่วยแม่นาง กลัวเขาวางไม้เรียวให้เสียวใจ
คนต่อกลอนสอนยากจนปากแฉะ โดนชำแหละแซะซอนจนอ่อนไหว จะต่อเกินต่อล้ำให้หนำใจ ทำไม่ได้เพราะเกรงใจเจ้าของงาน
คนต่อกลอนนอนทีหลังนั่งคอยเจ้า ยังคงเฝ้ากลอนต้นคนส่งสาร ส่งมาเร็วก็ดีไปไม่รอนาน ถ้ามาช้าไม่ได้การ..มานกุ้มจัย !!
|
|
|
|
07 ตุลาคม 2010, 09:23:AM |
blue
LV2 วัยเร่ร่อนผจญภัย
คะแนนกลอนของผู้นี้ 5
ออฟไลน์
กระทู้: 7
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010, 09:23:AM » |
ชุมชน
|
คนเขียนกลอนอ่อนไหวหัวใจเหงา เพราะหยิบเอาเค้าเงื่อนที่เหมือนต้น มีรากแก้วรากฝอยรอยมืดมน ทุกข์ท้อทนแตกใบกิ่งใหญ่โต
คนเขียนกลอนอ่อนแอไม่แพ้พ่าย ถึงเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายน่าอายโข ถึงจะล้าหน้าหมองร้องไห้โฮ ก็ยังโชว์กลเม็ดดั่งเพชรงาม
คนเขียนกลอนนอนเปล่าก็เศร้าจิต เฝ้าวนคิดเวียนไปอย่างใจย่าม เหมือนเรือขาดเข็มทิศใช้ติดตาม ตกอยู่ท่ามความงงเพราะหลงทาง
คนเขียนกลอนรอนแรมเติมแต้มฝัน หยิบตะวันเดือนดาวที่พราวพร่าง สายลมโบกแผ่วผิวหวีดหวิวคราง นำมาสร้างภาพช่วยดูสวยดี
คนเขียนกลอนวอนฝากแทนปากเอ่ย ว่าคิดถึงจังเลยรู้ไหมนี่ บรรจงสรรกลั่นคำฉ่ำวจี ด้วยไมตรีและกมลคนเขียนกลอน. Kanthita 7 ต.ค.2553 คนเขียนกลอนวอนมาหามวลมิตร มาใกล้ชิดอิงแอบแนบอักษร ทุกบาทบทสดสวยอำนวยพร ทุกบทกลอน หวานรื่น น่าชื่นชม ขอมาแจมแซมวลีที่น้อยค่า อาจจะไม่คุ้นหน้า อย่าขื่นขม แค่อยากมาต่อกลอนป้อนอารมณ์ ช่วยผสมไมตรีแสนดีจาร ตามที่อ่านกลอนมาทุกทุกบท แสนรื่นรส กวี วจีหวาน มาช่วยหนุนจุนเจือเมื่อรักบาน ณ สถานบ้านกลอน กระฉ่อนจินต์ ขอบคุณมิตรทุกทุกท่านที่ขานไข มาขอเป็นกำลังใจไม่สูญสิ้น วอนฟ้าฝากคำกลอน พรโรยริน อย่าสูญสิ้น คนรัก และภักดี
|
|
|
|
07 ตุลาคม 2010, 10:29:AM |
ดาวระดา
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010, 10:29:AM » |
ชุมชน
|
คนเขียนกลอนช้อนคำชูคุณค่า ดั่งจันทรางามท้นถิ่นสถาน ผ่องอำไพอ่อนพราวคราวพบพาน ชนประจักษ์จันทร์จารผ่านแสงนวล
ชมคำฟุ้งคำฟูโอ้ฟูเฟื่อง ร้อยหลากเรื่องรินรดบทกระสวน คลี่ขอบฟ้าขอบฝันบรรณกระบวน คดสำนวนครวญศัพท์นุ่มเคียงเคล้า
คนเขียนกลอนก่อนหลับมักขับเคลื่อน โยงคำเหมือนความหมายหลากหลายเหล่า เพื่อหยิบถ้อยโยงทางได้บางเบา ยามโลมเล้าเคล้าครวญชวนละลาย
มองภาพผ่านรูปคำหนอคำนุ่ม ถักทอถ้อยทองทุ่มเป็นพุ่ม-สาย สานผสมสร้อยแทรกจำแนกกาย ประดิษฐ์ประดับหมายคุณค่าแห่งคำ
|
|
|
|
07 ตุลาคม 2010, 12:54:PM |
♥ กานต์ฑิตา ♥
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010, 12:54:PM » |
ชุมชน
|
คนเขียนกลอนวอนมาหามวลมิตร มาใกล้ชิดอิงแอบแนบอักษร ทุกบาทบทสดสวยอำนวยพร ทุกบทกลอน หวานรื่น น่าชื่นชม
ขอมาแจมแซมวลีที่น้อยค่า อาจจะไม่คุ้นหน้า อย่าขื่นขม แค่อยากมาต่อกลอนป้อนอารมณ์ ช่วยผสมไมตรีแสนดีจาร
ตามที่อ่านกลอนมาทุกทุกบท แสนรื่นรส กวี วจีหวาน มาช่วยหนุนจุนเจือเมื่อรักบาน ณ สถานบ้านกลอน กระฉ่อนจินต์
ขอบคุณมิตรทุกทุกท่านที่ขานไข มาขอเป็นกำลังใจไม่สูญสิ้น วอนฟ้าฝากคำกลอน พรโรยริน อย่าสูญสิ้น คนรัก และภักดี ขอต้อนรับประดับไว้คนทายทัก ขอบคุณนักร่วมแจมแซมกลอนนี่ คนเขียนกลอนวอนหวานกานท์กวี ด้วยหวังมีมิตรมอบโต้ตอบคำ
ซึ่งบางครั้งดุเดือดคล้ายเชือดเฉือน สุดแต่เกลื่อนคิดหามาให้ขำ อรรถรสบทกลอนแสร้งงอนง้ำ หยิกหยอกอำนำไปเพื่อให้ตาม
ก็แล้วแต่จะเห็นเป็นไฉน ต่างกันไปใจจิตมิคิดห้าม กลอนผสมคมถ้อยเรียงร้อยความ เกิดนิยามประเด็นใหม่ได้ต่อเติม
อยากจะต่อล้อคำเชิญทำได้ ตามแต่ใจคิดหานำมาเสริม ฉันทลักษณ์หนักแน่นแบบแผนเดิม เอาล่ะเริ่ม...โชว์ได้อย่าให้คอย. "Kanthita" 7 ต.ค.2553
|
|
|
|
07 ตุลาคม 2010, 03:48:PM |
สายลมสีขาว
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010, 03:48:PM » |
ชุมชน
|
คนเขียนกลอน คือผู้ รินห้วงฝัน ต่อเติมวัน อันเศร้า คืนสดใส เพราะด้วยพจน์ รจนา มาจากใจ เป็นอุ่นไอ ซึ่งเอิบอิ่ม กลางลมเย็น
จะรินฝัน กลั่นลง ตรงกระดาษ เพื่อเขียนวาด หัวใจ ให้ได้เห็น ด้วยถ้อยลักษณ์ สลักหมึก ตรึกประเด็น ดังที่จินต์ นั้นสรรเป็น ตามต้องการ
จะตวัด ปากกา ที่จับอยู่ เพื่อปันฝัน ลงสู่ รู้ประสาน จะตวัด ถ้อยพจน์ เป็นบทกานท์ ประหนึ่งธาร ลานฝัน อันวิไล
|
|
|
|
07 ตุลาคม 2010, 03:55:PM |
masapaer
ผู้ดูแลบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 457
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 601
ร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณคือรางวัลอันยิ่งใหญ่
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010, 03:55:PM » |
ชุมชน
|
รักคนเขียนกลอน
คอยจดจดจ้องจ้องมองอักษร รอเวลาเธอออนในตอนไหน รอเธอมาต่อกลอนแทบอ่อนใจ รอสัญญาณของไฟว่าใครออน
เธอเขียนกลอนอ่อนไหวใจอ่อนหวาน เราแทบคลานหวั่นไหวในอักษร เธอต่อกลอนตามใครก่อนไปนอน ส่วนเรารอต่อกลอนเพื่ออ้อนเธอ
เธอใสซื่อลือเลื่องเฟื่องคำเด็ด เราคอเคล็ดเด็ดคำตามเผยอ รอจดจ้องมองชื่อสื่อจนเบลอ ไม่มีกลอนเลยเอ๋อเก้อไปนาน
กลอนของเธอคือ พื้น ที่ขึ้นบอร์ด ใจเราจอด ภาพ เธอเพ้อผสาน มือก็รัวหัวใจให้รนราน กว่าจะลงกลอนกานท์สานไมตรี
กลอนเริ่มมั่วหลัวบอดจอดสนิท กลอนเธอนะสะกิดจิตแทบปรี่ ถ้อยความเพียรเขียนไว้ให้ดิบดี ใจเจ้ากรรมนะซีที่สั่นรัว
เริ่มยึกยักยึกยือสื่อสั่นสั่น กลัวไม่ทันคนอื่นฝืนเวียนหัว รักคนเขียน..เวียนคนอ่าน..นั่นของชัวร์ แต่ที่มั่วคือกลอน..เฮ้อ!..อ่อนใจ
|
|
|
|
|
|
|
07 ตุลาคม 2010, 07:43:PM |
hort39
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 389
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1,225
คำพูดที่ให้ร้าย ไม่อาจเปลียนแปลงความจริงทีผ่านมา
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010, 07:43:PM » |
ชุมชน
|
คนเขียนกลอนกลอนจึงฉายคล้ายจะสื่อ ทุกคำคือหัวใจใส่อักษร ทุกสำนวนคือตัวตนคนเขียนกลอน จากเด็กอ่อนก้าวย่างอย่างยากเย็น
คนเขียนกลอนนานไปก็ได้คิด เข้าใจผิดหรือเปล่้าที่เราเห็น กลอนต่างหากเขียนไว้ให้คนเป็น คอยเคี่ยวเข็ญตัวตนสร้างผลงาน
คนเขียนกลอนกลอนเขียนคนจนใจแท้ รู้เพียงแต่ยินดีที่คุณอ่าน ร่วมต่อกลอนต่อไมตรีที่เบ่งบาน เพื่อสืบสานให้กลอนอยู่คู่แดนไทย
|
|
|
|
|
08 ตุลาคม 2010, 12:53:AM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2010, 12:53:AM » |
ชุมชน
|
คนเขียนกลอนวอนสรวงประท้วงสาว ปล่อยให้หนาวเหน็บกมลกว่าทนไหว สบตาเดือนครึ่งดวงด้วยห่วงใย แต่คงไม่ทราบซึ้งอีกหนึ่งทรวง
ว่าตรงนี้มีใครเขาใฝ่ฝัน แอบมองจันทร์หวั่นใจไม่ล้ำล่วง อยากฝากถ้อยคำถึงเดือนครึ่งดวง เจ้าช่วยทวงสัญญาให้ข้าที
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
08 ตุลาคม 2010, 02:46:AM |
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,422
นักร้อง
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2010, 02:46:AM » |
ชุมชน
|
คนเขียนกลอนนอนดึกนึกสนุก แม้จะทุกข์สุขบ้างช่างเถิดหนา กลับจากงานรีบออนก่อนข้าวปลา อาบน้ำท่าทีหลังรีบนั่งมอง
คนเขียนกลอนคิดถึงเพื่อนนักฝัน แต่กลางวันไม่ว่างต่างก็ต้อง ลุยกับงานหาเงินจนเหงื่อนอง กลางคืนจ้องหน้าจอรออ่านกลอน
คนเขียนกลอนวอนเว้าเจ้าเนื้อนิ่ม อ่านกลอนอิ่มหรือยังอย่านั่งซ่อน คนนอนดึกเหงาใจยังไม่นอน เจ้าขวัญอ่อนออนพบอย่าหลบไป
คนเขียนกลอนเดียวดายในตอนดึก ยังเฝ้านึกห่วงหาแก้วตาใส หลับตื่นแล้วมาเจอเผลอดีใจ แล้วทำไมไม่ทักคนรักกลอน
ปรางค์ สามยอด
|
|
|
|
|
|
08 ตุลาคม 2010, 09:59:AM |
ไม่รู้ใจ
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2010, 09:59:AM » |
ชุมชน
|
ไม่อยากเอ่ย คำลา พาใจเศร้า มันเงียบเหงา เหลือเกิน อย่าเมินหนี ด้วยจำต้อง มาพราก จากมิตรดี ทั้งทั้งที่ ยังหวง ห่วงอาวรณ์
ฝากใจไว้ ก่อนนะ จะมาหา ขอเวลา เคลียร์งาน ทั้งการสอน ให้ทุกอย่าง เรียบร้อย ค่อยเขียนกลอน อีกกี่ตอน มิหน่าย หายห่างไกล
|
|
|
|
08 ตุลาคม 2010, 04:39:PM |
masapaer
ผู้ดูแลบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 457
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 601
ร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณคือรางวัลอันยิ่งใหญ่
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2010, 04:39:PM » |
ชุมชน
|
..คนอ่านกลอน..
คนเขียนกลอนก่อนหน้า..ตามหาใคร เห็นกวักมือไหวไหว..ให้ไปหา เอี้ยวตัวผันหันหลัง..ตั้งหลายครา ไร้ทีท่าตาสบ..จะพบพาน
คนเขียนกลอนก็เป็นเฉกเช่นนี้ เอากลอนดีจี้กมลของคนอ่าน จี้ให้คว่ำตำให้เคลิ้มเพิ่มผลงาน คนฟุ้งซ่านสยบ..เขาจบกลอน
รู้ทั้งรู้ผู้อ่านร้อยทั้งร้อย คือผู้ที่ใจลอยคล้อยอักษร ยิ่งชอบจี้จิ้มปาดแทบขาดรอน ด้วยคำอ้อนออดอ่านหวานจับใจ
คนเขียนกลอนก่อนหน้า..บ้าชะมัด เขาไปคัดคำกลอนอันอ่อนไหว มาจากห้วงหนแห่ง ณ แหล่งใด ช่างบาดในเนื้อมานผู้อ่านนัก
หรือเจนจัดคัดจากเรียวปากผ่าน โดยส่วนมากปากหวานเป็นการหลัก ช่างชำนาญการพร่ำถ้อยคำรัก เขาคงสักแต่หวานผ่านเรียวลิ้น
ถ้าคนอ่านหวั่นไหว..คล้อยใจคิด แอบผันจิตเผลอจรตามกลอนกลิ่น คนเขียนกลอนแน่ล่ะ..ศิลปิน คงจะชิน..เพียงยิ้ม..อิ่มผลงาน
อาร์ตี้ ทำตัดพ้อต่อขานอ่านอักษร หรือแอบค้อนร้อนใจให้สงสาร ต่างกันหรือสื่อคนที่ด้นกานท์ ก็ปากหวานทั้งนั้นปั้นเพื่อใคร
ใครกันเล่าชอบคำทำเจ็บปวด เป็นจรวดพุ่งเป้ายิงเข้าใส่ คำประทุลุเดือดเชือดเฉือนใจ ชอบอย่างไหนให้หวานหรือกานท์ตรม
อยากเขียนกลอนอ่านกลอนตอนเธออยู่ หวังว่าเธอรับรู้ดูสุขสม ใส่รู้สึกลึกข้นขนรักพรม ด้วยคำคมน้ำดีที่บรรจง
เลือกคัดคำอย่างดีเป็นที่หนึ่ง อยากให้ซึ้งถึงใครได้ลุ่มหลง หวังต่อเคียงเรียงคำคอยดำรง แต่นัยตรงคือเธอ..ชะเง้อคอย
เธออ่านกลอนร่อนใจร่ายไม่หยุด หมดเป็นชุดกลอนใครใจแทบถอย ได้แต่เดาแบบหวั่นกลัวฝันลอย กลอนอาจกร่อยเมื่อใดใครประกัน
เธออ่านกลอนคำคมนิยมรส เราคอยจดจ้องเขียนเวียนแข็งขัน แต่สุดท้ายไหนเล่าจะเข้าทัน กลอนที่กลั่นอย่างดีด้วยฝีมือ
จำต้องเรียนเขียนศัพท์จับมาร้อย เข้าสวมรอยนักศิลป์ระบิลชื่อ หาคำจี้กมลให้คนลือ ด้วยแอบสื่อความหมายแทงใจเธอ
|
|
|
|
08 ตุลาคม 2010, 09:28:PM |
♥ กานต์ฑิตา ♥
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2010, 09:28:PM » |
ชุมชน
|
คนต่อกลอนต่อแขนนี้แสนยาก ก่อนออกปากต้องผ่านใจใช่หลอกหลอน ต้องวางเรื่องวางราวสาวเป็นตอน โดนทั้งสอนทั้งด่าน่าเจ็บใจ
คนต่อกลอนจะเริ่มเองก็เกร็งนัก กลัวผิดหลักหักโค่นโดนแก้ไข คอยดูต้นดูรากก่อนดูใบ ว่าต้นใหญ่ใบน้อยหรือห้อยวาง
คนต่อกลอนต้องอ่อนไหวตามใจเจ้า เพื่อให้เข้ากับอารมณ์ขมไม่ขวาง เขาว่าไงว่าด้วยช่วยแม่นาง กลัวเขาวางไม้เรียวให้เสียวใจ
คนต่อกลอนสอนยากจนปากแฉะ โดนชำแหละแซะซอนจนอ่อนไหว จะต่อเกินต่อล้ำให้หนำใจ ทำไม่ได้เพราะเกรงใจเจ้าของงาน
คนต่อกลอนนอนทีหลังนั่งคอยเจ้า ยังคงเฝ้ากลอนต้นคนส่งสาร ส่งมาเร็วก็ดีไปไม่รอนาน ถ้ามาช้าไม่ได้การ..มานกุ้มจัย !!
อยากต่อกลอนขอโทษโปรดอย่าบ่น จะต่อวนหรือต่อตรงมิสงสัย จะวางเรื่องวางราวสาวตอนมั้ย จะวิจัยวิจารณ์กล่าวขานเชิญ
เป็นผู้เริ่มก่อนได้เอาให้แจ๋ว ถนัดแนวแบบไหนอย่าได้เขิน บรรเลงร้อยถ้อยคำให้ดำเนิน จะหยอกเอินค่อนว่าหรือด่าทอ
ไม่จำเป็นต้องตามใครความคิด แล้วแต่จิตตนเองอย่าเกรงหนอ คิดอะไรใส่เร็วรี่อย่ารีรอ จะขวางคอขัดแย้งก็แต่งมา
คนต่อกลอนสอนยากฝีปากจัด จึงต้องอัดเต็มที่ตีแสกหน้า จะต่อเกินต่อล้ำจำนรรจา มิเคยว่าเชิญต่อจะรอดู
คนต่อกลอนนอนดึกคิดอึกอัก บังอาจทักท้วงไปให้อดสู ตัวเราเองนี้ไซร้ใช่คุณครู หางอึ่งรู้สาระแหน่...แส่นะเรา. "Kanthita" 8 ต.ค.2553
|
|
|
|
|