เข้าบ้านนั้นออกบ้านนี้หวังมีเพื่อน
คล้ายคล้ายเหมือนชิดกันบ้านสองหลัง
เมื่อว่างเว้นเล่นเรื่อยไม่อินัง
ใต้ร่มบังหลังคามาแสนนาน
พบอะไรแปลกใหม่ในมุมมอง
พบคนดีพบคนจองจะล้างผลาญ
ธรรมดาความดีต้องมีมาร
เป็นตัวการวัดค่าราคาคน
เป็นมลภาวะทางจิตใจใครเขาชอบ
คนคอยรอบเกลียดชังทั้งคนบ่น
หนีไม่ได้ไปไม่รอดจำต้องทน
ฟังเสียงคนต่างเสียงกาท่านว่าดี
หากต้องมีสายตาจ้องจับผิด
บนหอคอยเศร้าจิตชีวิตนี้
บนหนทางแห่งการเป็นคนดี
คงถึงทีเพพังไม่ดั่งใจ
ทั้งพวกฝ่ายหลายอย่างแบ่งข้างออก
เหมือนแฟชั่นบ่งบอกคิดครวญไหม
กลุ่มเสื้อสีเดี๋ยวนี้มีทำไม
แบ่งเพื่อไว้เรียงชั้นนับขั้นตอน
เราประเสริฐเลิศมนุษย์ควรหยุดคิด
อย่ายึดติดเป็นแบบอย่างนึกสังหรณ์
หลังจากนั้นเกิดอะไรให้อาวรณ์
คือปํญหาตามบั่นทอนทั่วสังคม
มันเรื่มปรากฎแต่หยดน้ำผึ้ง
แผ่ขยายทั่วถึงน่าขื่นขม
แต่ผู้ก่อภาวะกลับชื่นชม
เพราะมันนิยมเรื่องพาลสันดานเลว