เริงระบำพรำฝนเกลื่อนก่นต้น
บ้างร่วงหล่นบนผืนดินชื้นชุ่ม
แม้ซากใบได้เป็นปุ๋ยผุยผงคลุม
ผืนป่าพุ่มไพรพนาพฤกษาพรรณ
มนุษย์เล่าสาวหนุ่มแก่แค่ตรองคิด
รู้ถูกผิดตามครรลองครองสร้างสรรค์
หรือเพ่งโทษโฉดสาหัสสากรรจ์
ตกสวรรค์ลงนรกหมกโลกันต์
ธรรมชาติให้คุณหนุนเนื่องโลก
มนุษย์บริโภคโลกร้อนนั่น
เห็นแก่ตัวโลภละโมบตบตีกัน
เก่าใหม่นั้นฤาสำคัญเท่าจรรยา
เก่าคุณค่าต้องเก็บใช่เห็บหมัด
ใหม่ฝึกหัดต้องอ่อนน้อมพร้อมรับว่า
ติเพื่อก่อใช่..ป้อยอ..หนอ..ระอา
หมดคุณค่าเพราะเอาพวกลวกๆกัน
มนุษย์ยังหนุ่มสาวเจ้าไม่คิด
เห็นชราว่าผิด..จิตชั่วนั่น
พอแก่ตัว..ไม่มีใครใจเฉาหวั่น
เป็นเรื่องจริงที่รู้กันมานานนม
มนุษย์มีธรรมามาแต่เด็ก
แม้ยังเล็กไม่แบ่งวัยใครเหมาะสม
ด้วยคุณค่าก็สรรเสริญเพลินนิยม
ทั้งเก่าใหม่ชื่นชมสมมีธรรม
(ป้ากุลจัดว่าตัวเองเป็น "ใหม่ฝึกหัด" ถึงอายุคราวป้าแล้ว...แต่มาเขียนกลอนแค่ปีกว่าๆเองค่ะ..นับถือทั้งเก่าใหม่ที่มีฝีมือทุกท่าน..
และใหม่อ่อนน้อมที่รับฟังคำติชมทั้งต่อหน้าและลับหลัง)
...เมื่อตุ่มตา...อ้าปริ...ผลิใบอ่อน
เขียวเคยซ่อน...ซ้อนทบ...กลบรอยต่ำ
เหลืองเอนโอบ...อุ้มเอื้อ...เกื้อระบำ
จนเผยล้ำ...เลยพ้น...บนยอดนั้น
...ขั้วแข็งแรง...แกร่งกล้า...เมื่อคราก่อน
บัดนี้อ่อน...แรงล้า...เลิกท้าฝัน
หวังเพียงถ่าย...ทอดถ้อย...คอยผลักดัน
เพิ่มรอบชั้น...ขั้นข้อ...ให้ต่อโต
...ถึงเวลา...ทิ้งร่าง...ลอยคว้างหล่น
ร่วงปะปน...บนดิน...สิ้นยะโส
ยังลอบยิ้ม...อิ่มใจ...ได้คุยโว
เขียวที่โชว์...ข้าสร้าง...จึงกร่างงาม
.......................//ทอฝัน