~"ระบำใบไม้?"~
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 02:46:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ~"ระบำใบไม้?"~  (อ่าน 7964 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
17 กันยายน 2010, 11:06:PM
ระนาดเอก
webmaster
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 780
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,732


~พลิ้วไหว..ดั่งสายน้ำ~


profile.php?id=100024533527747
เว็บไซต์
« เมื่อ: 17 กันยายน 2010, 11:06:PM »
ชุมชนชุมชน






~"ระบำใบไม้?"~



๐ ลมสัมผัสก็กราวเป็นดาวเต้น
กรอบแกรบเด่นเกลื่อนดินดิ้นไหวไหว
เขียวแทรกปนแน่นิ่งมิกลิ้งใบ
ปล่อยเหลืองให้แสดงแจ้งกลางลาน

๐ คือระบำใบไม้วายห่างต้น
บอบบางหล่นทักทายสายลมผ่าน
พลิกกลาดเกลื่อนกลางแปลงไร้แรงทาน
สอดผสานริ้วแดดที่แผดลำ

๐ ศิลปะสุดท้ายปลายชีวิต
ถูกลิขิตดาษดื่นจรดคืนค่ำ
นาฏศิลป์ธรรมชาตินาฏกรรม
เริงระบำจวบกายสลายดิน

๐ ยามอรุณแสงคลานผ่านพิภพ
ส่องกระทบนักแสดงแหล่งทั่วถิ่น
เหลืองชราผุแหว่งแมลงกิน
ร่างขาดวิ่นจบบท..ปลดแสดง

๐ ปล่อยรุ่นใหม่ควงหล่นล้นใต้ต้น
เริงผจญผืนดินศิลป์ไกวแกว่ง
ส่งต่อรุ่นต่อรุ่นคุ้นกลางแปลง
ไม่เคยแบ่งใครเต้นเด่นเกินใคร

๐ ก้มลงเก็บร่างกรอบที่บอบช้ำ
เกรียมแห้งคล้ำนึกมาน้ำตาไหล
หวนถึงแม่แก่เฒ่าเข้าตามวัย
อยากกลับไปกราบท่านอีกวันนี้..

ระนาดเอก

ยิ้มแก้มแดง



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : masapaer

ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

18 กันยายน 2010, 01:24:AM
ปรางทิพย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 355
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 429



« ตอบ #1 เมื่อ: 18 กันยายน 2010, 01:24:AM »
ชุมชนชุมชน



ลมพัดลู่กรูร่วงจากพวงก้าน
เหลืองน้ำตาลผ่านฝนจนเข้าหนาว
สลัดกิ่งทิ้งต้นใบหล่นกราว
แห้งกรอบคราวก้าวย่างเสียงต่างไป

ดั่งระบำคำกลอนที่วอนถึง
ผู้เฒ่าหนึ่งซึ่งล้าน้ำตาไหล
หมดเรี่ยวแรงแห่งฝันยากผันไกล
ดุจไม้ใบไร้ค่าจึงพาเมิน

บทกลอนกระชากใจมากค่ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : masapaer

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
18 กันยายน 2010, 01:53:AM
สุวรรณ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 565
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,487


หวังทุกชีวิต สถิตไว้แต่สิ่งดี


« ตอบ #2 เมื่อ: 18 กันยายน 2010, 01:53:AM »
ชุมชนชุมชน

ฟังกระแสลมทวนครวญกระซิบ
ชมน้ำค้างพร่างพริบระยิบสี
ใสวาววับสลับเลื่อมกระเพื่อมดี
ท่ามเวิ้งวนาลีวิถีควน

กลีบใบพฤกษ์หนึ่งแย้มมาแซมต้น
คลี่เบ่งบานรับฝนปนลมหวน
ร่ายรำบายพรายพลิ้วริ้วสีนวล
ลานใบล้วนเขียวอ่อนชะอ้อนกลม

อีกใบขับเขียวเข้มจนเต็มก้าน
งามสะอ้านผ่านวันอันเหมาะสม
ระบัดใบคล้ายผายให้เชยชม
เปรียบดั่งพรมใบไม้ลายเขียวทา

แล้วเหลืองเริ่มเติมแต้มเจือแจมบ้าง
ขั้วซีดจางต่างใบคล้ายเหมือนว่า
ผ่านช่วงกาลนานวันหนอเวลา
จนลมพาสะท้านไหวก้านไกวปลิว

อีก..ร่วงลิดปลิดลากายาแห้ง
ซีดหมดแรงแล้งรอบกรอบตามผิว
กายลงซบกลบกองเป็นทองทิว
ยามลมฉิวริ้วฟื้นขึ้นระบำ

คล้ายดั่งเราก่อร่างแต่แรกเริ่ม
แล้วค่อยเติมเสริมชีพให้งามขำ
วันเวลาผันไปให้ระกำ
ชีวินล้าหน้าคล้ำตามช่วงกาล




ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
18 กันยายน 2010, 05:16:AM
แม่ค้าหน้าหวาน
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 217
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 319


~ วจีหวานเริงรสพจน์ไม่ลวง ~


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 18 กันยายน 2010, 05:16:AM »
ชุมชนชุมชน



สายลมครวญ...ชวนพร่ำ...ระบำฝัน
สร้างฉากกั้น...เมืองแมน...กับแดนสรวง
ลมพัดพลิ้ว...แทรกซ้อน...มาซบทรวง
ดั่งทิวอ้อ...ตกห้วง...บ่วงระบำ

พลิ้วแผ่วไกว...เอนอ่อน...ตอนลมหนาว
โอนเอนราว...ฟ้าชื้น...ยามชื่นฉ่ำ
ทิวดอกอ้อ...ล้อลู่...ลมร่ายรำ
ช่างงามล้ำ...บนแดนดิน...ถิ่นวิมาน

ใบอ้อยาว...มนเรียว...ดั่งเคียวฟ้า
ได้เวลา...โรยร่วง...ห่วงสถาน
ก่อเกิดภาพ...หายวับ...พร้อมกับกาล
ดั่งวันวาน...เลือนลับ...มิกลับคืน

~แม่ค้าหน้าหวาน~

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
18 กันยายน 2010, 08:38:AM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #4 เมื่อ: 18 กันยายน 2010, 08:38:AM »
ชุมชนชุมชน

ลมโชยพัด ผ่านไป ไม่ขาดสาย
กิ่งขยาย ไม้โยก โบกต้นเสียง
ได้เสียดสี ที่ใหญ่ค้ำ ส่งสำเนียง
นำเทียบเคียง ดนตรี ที่กลางไพร

หมู่จั๊กจั่น กรีดก้อง นักร้องเด่น
มีดาวเต้น ขยับทาง ร่างอ่อนไหว
พริ้วสะบัด ลีลา ว่ากันไป
เป็นวงใหญ่ ระบำใบไม้ ในป่าดง

สลับสี หลากหลาย ใบต่างดอก
เพื่อบ่งบอก สมบูรณ์นา สมประสงค์
เวลาหนึ่ง เฉาไป ไม่มั่นคง
แยกจากวง จากเพื่อน เกลื่อนลงดิน

ก่อนวาระ สุดท้าย คล้ายภาพเหมือน
ลมพัดเยือน เตือนมา ว่าจบสิ้น
เสียงจั๊กจั่น เงียบไป ไม่ได้ยิน
ต่างโบยบิน หาวงใหม่ ในพฤกษ์พง

หมดคุณค่า หมดราคา เพื่อนมาหาย
ไม่ทันสาย ย่อยยับ กับฝุ่นผง
ไม้ใกล้ฝั่ง ยังไง ไม่มั่นคง
ควรคิดปลง มีอย่างไร เขาไม่ลืม.
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
18 กันยายน 2010, 10:29:AM
บอม ซอง ดุ๊ก
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 589


เสกสรรกลั่นอักษร พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์


« ตอบ #5 เมื่อ: 18 กันยายน 2010, 10:29:AM »
ชุมชนชุมชน




Oo..ระบำนี้ ที่ไม่เคยตาย..oO

ทำนองไพรใบพัดสะบัดพุ่ม
ดูร้อนรุ่มนุ่มลึกเหล่าพฤกษา
วาดลวดลายอ่อนช้อยร้อยลีลา
ยืนทายท้าสายลมด้วยกลมกลืน

เริงระบำรำร่ายโยกย้ายต้น
พลีสนนผลก้านสราญรื่น
แสนอิ่มเอมเกษมล้นพ้นวันคืน
สายฝนชื่นพร่างพรมภิรมณ์พรรณ

อนิจจา!...พาพัด....ผลัดฤดู
ลมหนาวชูม่านหมอกบอกความผัน
เมฆลอยเคลื่อนเลือนฟ้าลาตะวัน
เมื่อคิมหันต์ล้นล่วงช่วงเดือนปี

!!!..จบเริงรำ"ระบำ"แห่งไพรสัณฑ์..!!!
มิอาจกลั่นรั้นแพร่งตะแบงสี
ความเหี่ยวแห้งแฝงเร้นทุกนาที
จำหลีกลี้สายลมระทมกาย

...แล้วสุดท้ายก้านเกาะก็เปราะบาง
สลัดร่างลงดินสิ้นความหมาย
ใบกรอบกร่อนร่วงผล็อยคอยวันตาย
วางชีพวายพ่ายแพ้แก่เวลา....

...สักวันหนึ่ง.."ระบำ"...จะฟื้นตน
สร้างหน่อผลเมื่อฝนนั้นหวนหา
ภาพวันวานจะย้อนคืนกลับมา
วัฏจักร...นี้หนา...ชั่วนิรันดิ์

เก่าไป ใหม่มา อยู่เช่นนี้แลท่านๆเอ๋ย อะไรว๊า..แม่ไม่ปลื้ม

บอม ซอง ดุ๊ก



ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสกสรรกลั่นอักษร....พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์
18 กันยายน 2010, 10:53:AM
ณัฐชรี
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 106
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 126


ยิ่งมืดยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน


« ตอบ #6 เมื่อ: 18 กันยายน 2010, 10:53:AM »
ชุมชนชุมชน

ร่ายระบำเริงร่าทุกวาทะ
อักขระอ่อนไหวใบไม้เคลื่อน
ขยับรับแสงจันทร์ตะวันเดือน
สายลมเลื่อนใบไม้ร่ายระบำ

ฤดูกาลวงวัฏถูกผลัดเปลี่ยน
มือนักเขียนเริ่มห้อยย้อยลงต่ำ
หมดเวลาใบไม้จักร่ายรำ
มวลดอกคำ..จะเหี่ยวกร้าน"บนลานกลอน"
ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

we will be forever
18 กันยายน 2010, 11:03:AM
กุลมาตา(singlemom99)
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 108
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,710



« ตอบ #7 เมื่อ: 18 กันยายน 2010, 11:03:AM »
ชุมชนชุมชน



เริงระบำพรำฝนเกลื่อนก่นต้น
บ้างร่วงหล่นบนผืนดินชื้นชุ่ม
แม้ซากใบได้เป็นปุ๋ยผุยผงคลุม
ผืนป่าพุ่มไพรพนาพฤกษาพรรณ

มนุษย์เล่าสาวหนุ่มแก่แค่ตรองคิด
รู้ถูกผิดตามครรลองครองสร้างสรรค์
หรือเพ่งโทษโฉดสาหัสสากรรจ์
ตกสวรรค์ลงนรกหมกโลกันต์

ธรรมชาติให้คุณหนุนเนื่องโลก
มนุษย์มัวบริโภคโลกร้อนลั่น
เห็นแก่ตัวโลภละโมบตบตีกัน
เก่าใหม่นั้นฤาสำคัญเท่าจรรยา

เก่าคุณค่าต้องเก็บใช่เห็บหมัด
ใหม่ฝึกหัดต้องอ่อนน้อมพร้อมรับว่า
ติเพื่อก่อใช่..ป้อยอ..หนอ..ระอา
หมดคุณค่าเพราะเอาพวกลวกๆกัน

มนุษย์ยังหนุ่มสาวเจ้าไม่คิด
เห็นชราว่าผิด..จิตชั่วนั่น
พอแก่ตัว..ไม่มีใครใจเฉาหวั่น
เป็นเรื่องจริงที่รู้กันมานานนม

มนุษย์มีธรรมามาแต่เด็ก
แม้ยังเล็กไม่แบ่งวัยใครเหมาะสม
มีคุณค่าก็สรรเสริญเพลินนิยม
ทั้งเก่าใหม่ชื่นชมสมมีธรรม

(ป้ากุลจัดว่าตัวเองเป็น "ใหม่ฝึกหัด" ถึงอายุคราวป้าแล้ว...แต่มาเขียนกลอนแค่ปีกว่าๆเองค่ะ..นับถือทั้งเก่าใหม่ที่มีฝีมือทุกท่าน..
และใหม่อ่อนน้อมที่รับฟังคำติชมทั้งต่อหน้าและลับหลัง)

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
18 กันยายน 2010, 11:54:AM
เมฆา...
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 698
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 624


..............


« ตอบ #8 เมื่อ: 18 กันยายน 2010, 11:54:AM »
ชุมชนชุมชน

ร่ายระบำเริงร่าทุกวาทะ
อักขระอ่อนไหวใบไม้เคลื่อน
ขยับรับแสงจันทร์ตะวันเดือน
สายลมเลื่อนใบไม้ร่ายระบำ

ฤดูกาลวงวัฏถูกผลัดเปลี่ยน
มือนักเขียนเริ่มห้อยย้อยลงต่ำ
หมดเวลาใบไม้จักร่ายรำ
มวลดอกคำ..จะเหี่ยวกร้าน"บนลานกลอน"



๐..ดอกคำหวาน บานพร้อม มิยอมร่วง
ด้วยเพราะห้วง ปวงมิตร ลิขิตสอน
สื่อภาษา กล้าร่าย ระบายพร
วางอักษร อ่อนช้อย คอยรำพัน

๐..เริงระบำ จำนรรค์ ประพันธ์พจน์
ให้งามหยด หยาดเยิ้ม เติ่มสีสัน
พลิ้วดั่งลม พรมไกว ในเหมันต์
ให้กลอนฝัน ที่เคยกร้าน ผ่านสู่ชัย

๐..มวลใบไม้ มายมาก ฝากข้อคิด
ดั่งชีวิต คิดค้น แต่หนไหน
ระบำฟ้อน กลอนผงาด อาจแฝงนัยย์
พลักดวงใจ ให้สู้ อย่างผู้ทำ

๐..มนต์เสน่ห์ เชิงกาพย์ หากฉาบทั่ว
จะเปี่ยมสุข ทุกครัว รัวเช้าค่ำ
ย่อมบำรุง ปรุงใจ ใฝ่น้อมนำ
ดั่งระบำ ของกวี ดนตรีกาล

๐..หากมิเห็น เช่นนั้น ให้ฝันหา
ลองหลับตา ฟังเสียง สำเนียงหวาน
ที่ล่องลิ่ว พลิ้วไหว ดั่งสายธาร
แล้วมองผ่าน แก่นคำ ระบำไพร.........


***เมฆา...***



ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..สัมผัสทิพย์ปรารถนาอารมณ์แล้ว..
18 กันยายน 2010, 12:48:PM
ทอฝัน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 455
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,502

...ทอฝัน ขะรับ...ทอฝัน...!!!


« ตอบ #9 เมื่อ: 18 กันยายน 2010, 12:48:PM »
ชุมชนชุมชน



เริงระบำพรำฝนเกลื่อนก่นต้น
บ้างร่วงหล่นบนผืนดินชื้นชุ่ม
แม้ซากใบได้เป็นปุ๋ยผุยผงคลุม
ผืนป่าพุ่มไพรพนาพฤกษาพรรณ

มนุษย์เล่าสาวหนุ่มแก่แค่ตรองคิด
รู้ถูกผิดตามครรลองครองสร้างสรรค์
หรือเพ่งโทษโฉดสาหัสสากรรจ์
ตกสวรรค์ลงนรกหมกโลกันต์

ธรรมชาติให้คุณหนุนเนื่องโลก
มนุษย์บริโภคโลกร้อนนั่น
เห็นแก่ตัวโลภละโมบตบตีกัน
เก่าใหม่นั้นฤาสำคัญเท่าจรรยา

เก่าคุณค่าต้องเก็บใช่เห็บหมัด
ใหม่ฝึกหัดต้องอ่อนน้อมพร้อมรับว่า
ติเพื่อก่อใช่..ป้อยอ..หนอ..ระอา
หมดคุณค่าเพราะเอาพวกลวกๆกัน

มนุษย์ยังหนุ่มสาวเจ้าไม่คิด
เห็นชราว่าผิด..จิตชั่วนั่น
พอแก่ตัว..ไม่มีใครใจเฉาหวั่น
เป็นเรื่องจริงที่รู้กันมานานนม

มนุษย์มีธรรมามาแต่เด็ก
แม้ยังเล็กไม่แบ่งวัยใครเหมาะสม
ด้วยคุณค่าก็สรรเสริญเพลินนิยม
ทั้งเก่าใหม่ชื่นชมสมมีธรรม

(ป้ากุลจัดว่าตัวเองเป็น "ใหม่ฝึกหัด" ถึงอายุคราวป้าแล้ว...แต่มาเขียนกลอนแค่ปีกว่าๆเองค่ะ..นับถือทั้งเก่าใหม่ที่มีฝีมือทุกท่าน..
และใหม่อ่อนน้อมที่รับฟังคำติชมทั้งต่อหน้าและลับหลัง)


...เมื่อตุ่มตา...อ้าปริ...ผลิใบอ่อน
เขียวเคยซ่อน...ซ้อนทบ...กลบรอยต่ำ
เหลืองเอนโอบ...อุ้มเอื้อ...เกื้อระบำ
จนเผยล้ำ...เลยพ้น...บนยอดนั้น

...ขั้วแข็งแรง...แกร่งกล้า...เมื่อคราก่อน
บัดนี้อ่อน...แรงล้า...เลิกท้าฝัน
หวังเพียงถ่าย...ทอดถ้อย...คอยผลักดัน
เพิ่มรอบชั้น...ขั้นข้อ...ให้ต่อโต

...ถึงเวลา...ทิ้งร่าง...ลอยคว้างหล่น
ร่วงปะปน...บนดิน...สิ้นยะโส
ยังลอบยิ้ม...อิ่มใจ...ได้คุยโว
เขียวที่โชว์...ข้าสร้าง...จึงกร่างงาม
.......................//ทอฝัน
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หัวโขมย...เรียงร้อยจากห้วงใจ มิตรภาพยิ่งใหญ่ ไร้กาลเวลา
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s