03 กันยายน 2010, 10:46:AM |
คนสาธารณะ
Special Class LV1 นักกลอนผู้เร่ร่อน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 24
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 64
|
|
« เมื่อ: 03 กันยายน 2010, 10:46:AM » |
ชุมชน
|
๐๒๐๙๕๓
๏ สานกาย, กลึง..เกี่ยวรั้ง, กันพลั้งหลุด แรงโน้มนุชเพลงหน่วงคืนห้วงหนาว ในคืนมืดจันทร์มอดยังพรอดดาว ยินเสียงผ่าวลมผ่อนกรุ่นร้อนเกิน
๏ หากแต่ฝนร่วงผายจากปลายฟ้า ยังโอบกล่อมผืนนาครอบป่าเขิน ทั่วลุ่มดอนแอ่งที่ทั้งมีเนิน ก็ชุ่มเกินใจฝันที่หวั่นพอ
๏ คืนหนาวนอนฟังฝนที่หล่นพ่วง ในโซ่บ่วงแรงบุกที่คลุกต่อ- เพลงหวานแทรกเพลินรักที่ถักทอ ยังร่ำห่อ, จนหับไม่หลับ..แล้ว
๏ อา..สายกาล เกี่ยวฝากเพื่ออยากฝ่า- วงหรรษาภาพไล้ยังไม่แผ่ว คงแต่ลึก โลมธาตุ ในวาดแนว ลีลาแผ้ว ถางผากให้อยากชม
๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ไร้ผู้จับสำเนียงและเสียงขรม หากมีแต่สายฝนช่วยหล่นพรม พร้อมการบ่มเสียงอุ่นให้กรุ่นอวล
๏ สานกาย, ซบ..พอซับสำทับทุก- อนู, ต่อ..ตั้งลุก..สนุกสรวล ไร้รูปแบบ..รสพร่ำ..หลากสำนวน ในคืนครวญ..ศัพท์หาย แห่ง..สายกาล
๐๐๒๖ ๐๓๐๙๕๓
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
|
|
|
|
03 กันยายน 2010, 12:34:PM |
avatar
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 03 กันยายน 2010, 12:34:PM » |
ชุมชน
|
๐ เมื่อไอฝน โปรยปรายดังหมายว่า จะนำพา ขวัญคว้างกลางฟ้าชื่น มาผ่อนหนาว คราวฝนหล่นโครมครืน ไห้สะอื้น ชื่นฉ่ำ ดื่มด่ำ,ดาว
๐ แล้วห่มฝน ปนหมอกหนาวดอกไม้ สานอุ่นไอ โอนอ่อน เพื่อผ่อนหนาว สะท้านครืน ครืนโครมโหมเรื่องราว ฝ่าลมบน..ฝนกร้าว ..แล้ว..คราวนี้....๚ะ๛
|
|
|
|
03 กันยายน 2010, 02:25:PM |
ดิษฐา
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 200
ออฟไลน์
กระทู้: 1,067
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 03 กันยายน 2010, 02:25:PM » |
ชุมชน
|
ผ่านวสัตน์สั่นคลอน ทอดถอนหนัก ร่องรอยมัก ชักนำทำสั่นไหว ลาแล้วหนอรอกาลที่ผ่านไป ฤดูไหนใหม่เก่า ...ยังเฝ้ารอ
|
|
|
|
03 กันยายน 2010, 02:36:PM |
กุลมาตา(singlemom99)
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
คะแนนกลอนของผู้นี้ 108
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1,710
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 03 กันยายน 2010, 02:36:PM » |
ชุมชน
|
เสียงระฆังหงั่งเหง่งวังเวงนัก คืนฝนพรำกระหน่ำรักจักเหือดหาย ป่านฉะนี้พี่นอนหนุนอุ่นเรือนกาย วาดลวดลายย้ายยักกับตักใคร
เสียงระฆังดังแว่วจนแผ่วหาย ใจคะนึงถึงพี่ชายยังหมายให้ คืนฝนพรำนำรักจากห้วงใจ ทอถักใยสายรักจักหวนคืน
|
|
|
|
04 กันยายน 2010, 11:51:AM |
avatar
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 04 กันยายน 2010, 11:51:AM » |
ชุมชน
|
ร้อยสายใยแห่งรักมิพักร้อย ยื่นสายสร้อยหยาดฟ้าจะคว้ายื่น ลืมหรือไรใครแกล้งหรือแสร้งลืม รอจนคลื่นฝนเลือนเหมือนแกล้งรอ
หนีจากฝนคนหวั่นว่าขวัญหนี ก่อไมตรี สร้อยสาย มารายก่อ ท้อกระไรใจเอ๋ยมิเคยท้อ คงสานต่อสมานสมัครให้รักคง
|
|
|
|
05 กันยายน 2010, 04:49:PM |
avatar
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 05 กันยายน 2010, 04:49:PM » |
ชุมชน
|
๏ คว้าเพียงกายใจเหม่อเผลอยื่นคว้า ขมวาจา รานร้าว คราวรักขม ลมฝนพาพัดแผ่วแว่วสายลม ล้างอารมณ์ตรมตรอม...ก็ยอมล้าง
๏ แล้วจะเสริมเติมรักประจักษ์แล้ว สร้างสิ่งแพร้วพรรณรายยิ่งหมายสร้าง วางรอยร้าวท้อทดเพื่อปลดวาง เลือนรอยหมางจางหม่น..จนร้างเลือน
|
|
|
|
08 กันยายน 2010, 02:50:PM |
|
|
11 กันยายน 2010, 04:52:AM |
คนสาธารณะ
Special Class LV1 นักกลอนผู้เร่ร่อน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 24
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 64
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 11 กันยายน 2010, 04:52:AM » |
ชุมชน
|
คารวะสวัสดิ์เผื้อน....กลอนไทย
๒๒๓๓
๏ ฝนหยุดปรอยแล้วเพลงก็เร่งฝัน เพื่อกลบ,หวั่นเสียงหวอดที่พรอดหว่าน แข่งเสียงฝนกระหน่ำ,คู่ตำนาน เพลินขับขานเพลงเร้าที่เคล้าโลม
๏ จากความหนาวยังแนบ,ต้องแสบร้อน ฝนขาดตอนหยุดพร่ำกระหน่ำโหม แต่เพลงรักยังแกร่งเพราะแรงโบม เสียงประโคมยังศัพท์สำทับ,ทวน-
๏ ความฝันเพลินบรรเจิดยังเพลิดต่อ- การร่ายห่อสุขเหิมต่างเกริม,สวน- ความเงียบฝนโปรยผ่านที่ซ่านครวญ จึงอบอวลชมแอ่งที่แห่งเอม-
๏ สุขรอยต่อขอฝนหล่นเพิ่มนิด เพื่อจะปิดฉากครบให้จบเข้ม กับคู่ชิงศึกเริ่มเพื่อเติมเต็ม จนอิ่มเปรมใจปลั่งท่วมฝั่งพอ
๏ ฤาแต่เสียงต่างสร้อย,เพลงร้อยฝัน ทำนองฝั้นแรงผ่อนจนร้อน,ฝ่อ แต่หากโลม..ลึกปัก...ช่วงถักทอ จนเกือบท้อแรงถั่งช่วงฝั่งทาง
๏ เถิดขอฝนอีกคราซักห่าใหญ่ เพื่อกลบไล่เสียงร่ำที่ฉ่ำ,ผาง มาปิดความครื้นคึกในศึกคราง- ครวญเสียงต่างเพลงศัพท์...ในหับไพร ๚ะ๛
๒๓๒๐ ๐๙๐๙๕๓
ทักทาย
avatar คห.1, คห. 5, และคห. 7 สวัสดีขอรับ ขอบคุณขอบคุณที่แจมกลอนกันขอรับฝีมือพลิ้วไหวเลยนะขอรับ
หทัยชนก คห.2, และคห. 6 ขอบใจน๊าหทัยฯ ฝีมือและความขยันไม่เคยหล่นนะนี่ อิอิ
e-no คห. 3 สวัสดีพี่น้องอีโน ขอบคุณที่ทักทายแจมกันขอรับ
กุลมาตา คห. 4 พี่น้องกุลมาตาสบายดีนะขอรับ ช่วงนี้ฝนชุก..ต้องซุกกายเพื่อหลบฝนขอรับ อิอิ
แม่ค้าหน้าหวาน คห. 8 ฝีมือ..พัฒนา-พาถนัด..ตามลำดับน๊า รักษาสุขภาพด้วยนะขอรับ
|
|
|
|
27 ตุลาคม 2010, 07:31:AM |
avatar
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2010, 07:31:AM » |
ชุมชน
|
ดูเถิด.ทำชม้อยชม้ายส่ง เหมือนบอกบ่งพงหับให้กลับไหว สะท้านตอบลอบเร้นสิ่งเป็นไป ก็กลบไกล่ไหวคราง..ที่กลางดวง
อยากติดปีกกางร่อน..มิอ่อนล้า อยากจะฝ่าสายฝนที่หล่นร่วง อยากประทับครื้นครึกในศึกทรวง อยากจะหวงห่วงขวัญ..จนวันตาย
|
|
|
|
|
27 ตุลาคม 2010, 11:17:AM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2010, 11:17:AM » |
ชุมชน
|
เสียงระฆัง เคาะยก ให้ถกนับ สติกลับ ฉับพลัน ฝันสลาย อยากจะลบ รอยช้ำ เชือด ทำลาย หากห่วงคล้าย ใครหนึ่ง คนึงคอย
จากฤทัยรันทดที่หมดหวัง ปลื้มประดังหลายเท่ากว่าเหงาหงอย โอ้เราเอ๋ยเคยจูบแต่รูปรอย รู้สักหน่อยน้อยใจ...จะ..ไม่ลา....
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
28 ตุลาคม 2010, 04:52:AM |
avatar
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2010, 04:52:AM » |
ชุมชน
|
หากระฆัง..เคาะยกตอนชกหมัด จะเร่งรัดหนึ่งชู้ให้รู้ว่า ความผูกพันทุกช่วงใช่ล่วงลา ยังล้นทรวงเสน่หา..ทุกคราไป จะแกล้งหลับตานอนแล้วซ่อนยิ้ม หลับตาพริ้มโอษฐ์รับประทับใหม่ รอระฆังเง่งหง่างอย่างร่ำไร เติมเชื้อไฟปราถนา..ในอารมณ์
|
|
|
|
17 พฤศจิกายน 2010, 07:41:AM |
|
|
17 พฤศจิกายน 2010, 04:43:PM |
สุนันยา
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2010, 04:43:PM » |
ชุมชน
|
แวะมาอ่าน กานท์กลอน สะท้อนอก เห็นเขาถก คำอ้อน อ่อนฉะนี้ ไม่ถนัด จัดแต้ม แจมวลี สานอักษร กลอนศรี กวีงาม
ขอเป็นผู้ เข้าชม นิยมอ่าน ถ้อยสราญ คนสาฯพาวาบหวาม งามอัดษร เอื้อนเอ่ย เฉลยตาม เป็นนิยาม หลากรส บทกวี
"สุนันยา" สวัสดีค่ะ แวะมาทักทาย ฝากเนื้อฝากตัว...แต่ หัวใจไม่ฝากนะคะ มีคน รับฝากแล้วค่ะ....อิอิ
|
ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
|
|
|
17 พฤศจิกายน 2010, 08:01:PM |
avatar
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2010, 08:01:PM » |
ชุมชน
|
ชื้นฉ่ำสายฝนพรมจากร่มเมฆ อุราเฉกเชือกเงื่อนมิเลื่อนถอย พันธนาการทรวงทุกช่วงรอย โหยละห้อยอาวรณ์..เกินผ่อนคลาย
พริ้วลมเอนโอนไหวใจพลั้งเผลอ ยิ่งพร่ำเพ้ออารมณ์เกินข่มหาย อยากยื่นแขนโอบกอดพ่อยอดชาย ก่อนสานกายแนบชิด..ทั้งจิตใจ
|
|
|
|
01 ธันวาคม 2010, 02:15:PM |
avatar
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2010, 02:15:PM » |
ชุมชน
|
รัวระฆังดังก้องในห้องรัก ชื่นฉ่ำนักเสียงหวีดสังคีตกล่อม คราลมบนฝนร่ำต่างด่ำดอม สู่วิมานหวานหอม..ไม่ยอมร้าง
|
|
|
|
01 ธันวาคม 2010, 05:39:PM |
อักษรารำพัน
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2010, 05:39:PM » |
ชุมชน
|
รัวระฆังดังก้องในห้องรัก ชื่นฉ่ำนักเสียงหวีดสังคีตกล่อม คราลมบนฝนร่ำต่างด่ำดอม สู่วิมานหวานหอม..ไม่ยอมร้าง
๐ เสียงระฆังกังวานสะท้านจิต เคยสนิทชิดใกล้มิได้ห่าง วันนี้ช้ำค่ำครวญถึงนวลปราง ช่างเลือนลางทางฝันน่าหวั่นใจ
๐ เสียงครวญครางหง่างเหง่งวังเวงนัก ห้วงบ่วงรักมักช้ำทำไฉน น้ำไหลนองสองตาทุกคราไป หลงรักใครไม่สมภิรมย์ปอง.....
|
|
|
|
12 ธันวาคม 2010, 06:10:PM |
avatar
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2010, 06:10:PM » |
ชุมชน
|
๐ เสียงครวญครางหง่างเหง่งวังเวงนัก ห้วงบ่วงรักมักช้ำทำไฉน น้ำไหลนองสองตาทุกคราไป หลงรักใครไม่สมภิรมย์ปอง.....
ก็เป็นเพียงแค่ฝันในวันนี้ หนาวฤดีครวญข่มอารมณ์หมอง ระฆังรัวหัวใจไร้ใครครอง แค่ร่ำร้องไหวหวาม..ไปตามนั้น
emo_12เสียงครวญครางหง่างเหง่งวังเวงแว่ว ลมโบยแผ่วอาวรณ์ตอนหลับฝัน เผลอกอดก่ายปรารถนามานานวัน รอดวงขวัญมาเยือนทั้งเรือนกาย
|
|
|
|
|
12 มกราคม 2011, 02:43:PM |
avatar
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 12 มกราคม 2011, 02:43:PM » |
ชุมชน
|
เมื่อวันเคลื่อนเดือนผ่านจนกาลล่วง ใจทั้งดวงห่วงหาคราไร้ขวัญ เคยประโลมเคียงคู่อย่างรู้กัน หวนคิดถึงครานั้น..พลันอาวรณ์
เมื่อ..ระฆัง หลบเรา-ใต้เงาเมฆ อุราเฉกติดตรึงดึงด้วยศร ล้มกายข้างนทีสีทันดร ใจแทบขาดรอนรอน..แล้วตอนนี้
|
|
|
|
|