จันทร์กระจ่างกลางฟ้านภากาศ
ดารดาษดวงดาวพร่างพราวฉาย
คนบางคนเปล่าเปลี่ยวยืนเดียวดาย
มองจันทร์พรายพร่างอยู่เพียงผู้เดียว
๐ แต่จันทร์ฉาย..กรายแย้ม..หลังแรมเคลื่อน
ค่ำคืนไหน..ไร้เดือน..เหมือนโดดเดี่ยว
ดาวอยากเห็น..เพ็ญแข..แม้รูปเรียว
ให้ดาวเหลียว..เสี้ยวหนึ่ง..ก็ซึ้งพอ..
๐ เป็นดาวใจ ในจิต อยู่ชิดใกล้
เนาแนบใน ใจจันทร์ ร่วมกันก่อ-
ร่างแผ่น"ใจ" ใช้รัก..มาถักทอ
เคล้าเคลียคลอ พนอกัน ทุกวันไป
เหมือนกับดวงดาราบนฟ้านั่น
เคียงคู่จันทร์ระยิบระยับมิหลับใหล
เมื่อจันทร์ฉายแสงจ้าอ่าอำไพ
ดาวจะใสแสงผสมคู่กลมเกลียว (วรรณศิลป์)
ใครนะใคร ดายเดียว เปลี่ยวเหว่ว้า
มองจันทรา ไร้คู่ เป็นชู้เกี่ยว
จันทร์พร่างพราว ดาวพรายพร่าง อ้างว้างเชียว
ใครจะเหลียว มองไหม เห็นใจจัง (อ้อนจันทร์)
๐ ดาวดวงน้อย ลอยคว้าง อยู่กลางหน
แอบดวงหม่น พ้นจันทร์ อันนวลปลั่ง
มิอาจเปรียบ เทียบแข แผ่พลัง
จำสยบ หลบบัง หลังเมฆินทร์
๐ สิ้นตะวัน..จันทร์ฉาย..ก็กรายร่าง
ความเลือนลาง..พรางหาว..ก็พราวสิ้น
ส่องแสงนวล..ยวนตา..ทั่วธานินทร์
ตั้งแต่ยอด..ศิขริทร์..ถึงดินแดน
๐ จันทร์ผินมอง..ท้องฟ้า..หาดาวน้อย
ไร้ร่องรอย..พลอยเหงา..และเศร้าแสน
เคยคู่ดาว..พราวพร่าง..กลางเมืองแมน
ทั่วสรวงแถน..แผ่นฟ้า..หล้า, นที
๐ ไยดาวห่าง..ร้างเลือน..เหมือนหลบหน้า
หรือน้อยใจ..จันทรา..ในคราที่
ต้องจำพราก..จากฟ้า..แรม-ราตรี
ดาวจึงหนี..ลี้หลบ..ไม่พบจันทร์...
เรื่องของดาวจันทร์เดือนในเรือนโลก
ยังไม่โศกสักเบื้องเหมือนเรื่องฉัน
คนสองคนพลัดพรากจำจากกัน
ทุกคืนวันเหว่ว้ายิ่งกว่าเดือน