ลอยลมบนหนทางช่างเงียบเหงา
ฟากฟ้าเทาเคล้าเมฆเฉกความหลัง
มืดมัวหม่นทนหนาวร้าวประดัง
จึงปิดขังฝังใจใช่ลืมเลือน
"ปรางทิพย์ จ้า"
คนยิ่งสูงยิ่งหนาวดั่งว่าวว่าย
ถูกพระพายพัดกระหน่ำจำต้องเคลื่อน
อยู่เฉยๆอกพังนั่งสะเทือน
ดั่งจะเตือนใจตนต้องทนเอา
คนอยู่ต่ำดิดดินอยู่กินง่าย
ดั่งคนพ่ายแพ้ราบอาบความเศร้า
ไม่ลุกยืนขึ้นสู้อยู่บางเบา
มันจังเหงาจึงง่วงไม่ห่วงใด
ปรางค์ สามยอด
...กระตุกกลับ...ขยับสาย...หมายว่ารู้
ว่าวก็ลู่...ตามแรง...แสดงผล
หากดื้อดึง...ขึงขาด...ประมาทตน
คงลอยพ้น...พลาดผิด...ไร้ทิศทาง
...........................//ทอฝัน
[/center]
ดั่งสติเตือนใจให้ต่อสู้
มันจะลู่จะล้าอย่าหมองหมาง
ต้องบินสูงจูงจิตมิจืดจาง
เดินสายกลางแห่งธรรมนำชีวี
เดินทางผิดพลิกฟื้นคืนทางเก่า
อย่ามัวเมาท้อแท้แก่วิถี
ทางสายใหม่โดนต้านพาลเต็มที
ดั่งลมตีว่าวลอยอย่าถอยเลย
ปรางค์ สามยอด
ว่าวพึ่งลม ลมไม่มี ไม่มีว่าว
สายลมกร้าว ว่าวลอยคว้าง กลางท้องฟ้า
ลมพอดี ให้ที่ว่าว เจ้าเวหา
สายลมจ๋า มาประโลม ลมว่าวพา
กุลมาตา จ้า
โอ้ลมจ๋า มาหน่อย อยากปล่อยว่าว
มันถึงคราว อยากลอย จึ่งคอยท่า
อยากโดนลม ถมไล่ ใส่เมฆา
สูงสู่ฟ้า หน้าตั้ง ดั่งอินทรีย์
ปรางค์ ยามยอด
...จึงนั่งเศร้า อกตรม จมน้ำเนตร
ไร้ซึ่งเขต จะขวางกั้น ครั้นอับเฉา
ว่าวขาดลอย คอยลาง จางบางเบา
หวังคนเก่า เฝ้าเก็บว่าว ส่งข่าวมา...
เจ้าจงคอย คนดี อยู่ที่เก่า
พี่จะเฝ้า ตามอง จ้องเวหา
สายว่าวขาด พลาดรัก จักเยียวยา
จะรักษา หัวใจ ให้หน้ามล
กลับมาแล้ว แก้วตา อย่าถือโทษ
แม้จะโกรธ เพียงใด ใส่เหตุผล
ต้องลำบาก ยากแค้น แสนจะทน
จึงเวียนวน กลับมา หาน้องนาง
ปรางค์ สามยอด