08 มิถุนายน 2010, 12:04:PM |
คนสาธารณะ
Special Class LV1 นักกลอนผู้เร่ร่อน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 24
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 64
|
|
« เมื่อ: 08 มิถุนายน 2010, 12:04:PM » |
ชุมชน
|
O มองเมฆหม่นคลุมฟ้าเพลาคล้อย ไหลเคลื่อนลอยลงต่ำฝนพรำแล้ว เป็นม่านสวย,หลากเส้นมองเห็นแนว เรียงรายแถวฝุ่นฝนจากบนบวง
O ลมโกรกเร้าแรงรุกต่างคลุก, ครื้น- เครง,คร่ำคลุมเปียกพื้น,จนรื่นสรวง ละเลงโลมพื้นฝอยเป็นรอยดวง ยังถึงถ่วงแรงโถมโพยมเย็น
O เรียงเม็ดรายเพลินหล่นดูจนฉ่ำ ระรอกน้ำคลุมพื้นยังตื่นเต้น ต่างลีลาเริงไหลไหวกระเซ็น เพ่งพิศเห็นภาพให้พาใจครวญ
O ยังลีลาเริงรุกเพื่อปลุกเร้า เพื่อปลอบเราคืนผ่านที่นาน,หวน- ถึงแรงรักรูปซึ้งคืนหนึ่ง,นวล เริงรับส่วนสุขเร่งร่ายเพลงโลม
O ลมฝนแผ่วพร่ำพรายแซมสายฟ้า โอบผกากรองอุ่นละมุนโฉม ละอองกลิ่นกรุ่นกอดพรอดประโคม- รุกแรงโถมทัพศึกผนึกกัน
O สายฟ้าแลบแปลบปรายพระพายพัด แทรกผิวเรื่อระบัดยามผลัดผัน เปลี่ยนลีลาเริงผละเข้าประชัน ดั่งห้ำหั่นเพลงศึกระทึกใจ ฯ
O เริงรูปรอยแก้มนวลพายวนยั่ว พริ้มพรายทั่วเรือนร่างสุดอ้างไหว จินตนาการรู้มิอยู่ไกล เพียงคว้าไขว่รอยจับประทับวาง
O อา..คืนฝนกล่อมฟ้าพลอยข้าสุข ซ่อนสนุกเชิงรักข้าสักอย่าง คือรสร้อนร่ำแรกที่แทรกทาง มาปลดวางคืนฝนสองคนเรา
O เธอเรียงถักทาบทำพาร่ำรส เพ้อจนหมดเสียงศัพท์ที่รับเข้า- เก็บในความรู้สึกผนึกเนา แนบอกเคล้านานเนิ่นเกินบรรยาย
O เงียบเสียงโรมแรงหมดเข้าจรดถึง เงียบหมดเสียงรำพึงจนผึ่งผาย แผ่พังพาบหลับเพลินเกินสบาย คงปล่อยสายลมผ่านให้ซ่านเย็น
O ในคืนค่ำโปรยฝนหยุดหล่นแล้ว คงเสียงแผ่วลมผ่านกังวานเว้น บางโครมครืนขับเสียงบ้างเบี่ยงเอน ดังคงเห็นไหวอ่อนเริ่มผ่อนซา
O คือ..คืนฝน,พรำรัก ที่พรักพร้อม- ไปกับเสียงลมกล่อมกระท่อมป่า ให้ลุ่มลึกโผผินแห่งจินตนา ในคืนป่าฝนปริ่ม
จนอิ่มทรวง..ฯ
๒๓๓๐ ๒๕๐๕๕๓
คืนฝนตก..... ณ กระท่อมไพรวัลย์ [ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
|
|
|
|
08 มิถุนายน 2010, 01:13:PM |
เจโจโจ้เซ
LV1 เด็กน้อยอ่านกลอน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 0
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 08 มิถุนายน 2010, 01:13:PM » |
ชุมชน
|
[/color]..
|
|
|
|
18 มิถุนายน 2010, 01:06:AM |
คนสาธารณะ
Special Class LV1 นักกลอนผู้เร่ร่อน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 24
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 64
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 18 มิถุนายน 2010, 01:06:AM » |
ชุมชน
|
๐ อา..ไออุ่น..เอมกว่าผืนผ้าห่ม บ้างไล้พรมโอบแผ่วทุกแนวถาง เปิดภาพส่วนซุกเร้นแม้เห็นจาง ยังไม่ห่างแนบชิดสนิทเนา
๐ เย็นยามโอบอุ่นรักพอพักชื่น ผวาตื่นตามกอดพรอดกระเส่า เริงรสดื่มด่ำพลันมิบรรเทา กับความเร้ารุกโหมต่างโรมรัน
|
|
|
|
18 มิถุนายน 2010, 02:59:PM |
สายลมสีขาว
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 18 มิถุนายน 2010, 02:59:PM » |
ชุมชน
|
หยาดเม็ดฝน หล่นร่วง จากห้วงหาว ทุกสิ่งพราว ราวเกล็ด ละอองฝัน ต่างโปรยปราย คล้ายว่า คิดถึงกัน แดดแห้งแล้ง จึงพลัน หยัดฟื้นคืน
คือสายฝน สายใย อุ่นไอรัก แผลงประจักษ์ ให้เห็น ไม่ใช่ฝืน เป็นไอน้ำ ละอองแก้ว แพรวพราวยืน และด่ำดื่น รื่นจิต สนิทใจ
เป็นหยาดน้ำ พรำรัก มาทักแล้ว หลังจากที่ ไร้วี่แวว แก้วเม็ดใส เมื่อถึงช่วง ต่างร่วงหล่น หม่นฟ้าไป พร้อมอุ่นไอ แห่งชีวิต วิจิตรา
|
|
|
|
19 มิถุนายน 2010, 07:17:AM |
คนสาธารณะ
Special Class LV1 นักกลอนผู้เร่ร่อน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 24
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 64
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 19 มิถุนายน 2010, 07:17:AM » |
ชุมชน
|
หยาดเม็ดฝน หล่นร่วง จากห้วงหาว ทุกสิ่งพราว ราวเกล็ด ละอองฝัน ต่างโปรยปราย คล้ายว่า คิดถึงกัน แดดแห้งแล้ง จึงพลัน หยัดฟื้นคืน
คือสายฝน สายใย อุ่นไอรัก แผลงประจักษ์ ให้เห็น ไม่ใช่ฝืน เป็นไอน้ำ ละอองแก้ว แพรวพราวยืน และด่ำดื่น รื่นจิต สนิทใจ
เป็นหยาดน้ำ พรำรัก มาทักแล้ว หลังจากที่ ไร้วี่แวว แก้วเม็ดใส เมื่อถึงช่วง ต่างร่วงหล่น หม่นฟ้าไป พร้อมอุ่นไอ แห่งชีวิต วิจิตรา.............(ละอองดาว)
โลมฝนรักเพลินลึกในศึกรบ มาบรรจบบรรเจิดพริ้มเพริศกว่า- สิ่งใดอื่นร้อยอันที่พรรณนา ฤาเลอค่าในคืนเราชื่นกัน
เป็นสายฝนแห่งฝันในวันนี้ ด้วยคืนที่โถมถั่งทุกฝั่งฝัน ระรอกคลื่นเกลียวขับกระชับพลัน- พุ่งพวยหวั่นหวาดหวิวต่างพลิ้วเพลิน
อา..ฝนรักเอมชื่นยังตื่นกลั้ว ลมไหวรัวเย็นร่ำเราพร่ำเกริ่น ให้คงอยู่ยืนยาวอย่าก้าวเดิน เพราะอยากเพลินเพลงฉ่ำอย่างค่ำนี้...........(คนสาฯ)สวัสดีขอรับ คุณละอองดาว ขอบคุณที่ร่วมแจมสนุกสนานขอรับ
|
|
|
|
28 มิถุนายน 2010, 12:52:PM |
คนสาธารณะ
Special Class LV1 นักกลอนผู้เร่ร่อน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 24
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 64
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 28 มิถุนายน 2010, 12:52:PM » |
ชุมชน
|
(๑) ๏ หยาดฝนเย็นผ่าวพร้อย.......พรูแรง แฝงลู่ ลมพัดแซง.................สาดไล้ ใสราด ฉ่ำดิน,แดง................ดูหม่น ดลหมู่ ผงลอยไขว้................ขุ่นน้ำ คลองไหล
๏ ไคล,ล่อง ลอยฝุ่นคล้ำ........โคลนนอง คลองโน่น ฟูเขลอะฟอง.........ก่ายคุ้ง กรุง,คลาย ส่งขยะมอง-..........ดูหมัก หมมแล ดักหมู่ เลนตมฟุ้ง..................กลิ่นพร้อม อวลเผย
|
|
|
|
28 มิถุนายน 2010, 02:03:PM |
nnn
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 28 มิถุนายน 2010, 02:03:PM » |
ชุมชน
|
คืน หนึ่งช่างเหว่ว้า ดวงใจ ฝน ตกอยู่ไรไร เปรอะเปื้อน พรำ พรำที่ฟ้าไกล ใจฉัน รัก ร้าวราวมีเพื่อน ดั่งฟ้าฝนโปรย
หมายเหตุ ในที่นี้มีการใช้โทโทษและคำตายในกานหยุดเสียงที่คิดไม่ออก
|
"พรสวรรค์ หรือจะสู้ การแสวงหา ลิขิตฟ้า หรือจะสู้ มานะตน"
|
|
|
28 มิถุนายน 2010, 06:25:PM |
|
|
28 มิถุนายน 2010, 09:49:PM |
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,422
นักร้อง
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 28 มิถุนายน 2010, 09:49:PM » |
ชุมชน
|
มองสายฝนหล่นพรำฉ่ำทั่วพื้น เสียงสะอื้นจางหายมลายสูญ เหลือเพียงความสดชื่นรื่นจำรูญ ดั่งพอกพูนซาบซ่านหวานฤดี
ฟ้าหลังฝนคนหลังเศร้าเช้าหลังฝัน แว่วรำพันพร่ำเพ้อดั่งเจอผี เสียงออดอ้อนงอนง้อขอชีวี อย่าเพิ่งหนีจากจรวอนจากใจ
เพียงอดทนสักนิดเจอพิษรัก จะประจักษ์รักนี้ดีไฉน หลังร่ำร้องก้องฟ้าพนาลัย จึงสดใสซึมซับกับฉิมพลี
ปรางค์ สามยอด
|
|
|
|
28 มิถุนายน 2010, 10:57:PM |
คนสาธารณะ
Special Class LV1 นักกลอนผู้เร่ร่อน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 24
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 64
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 28 มิถุนายน 2010, 10:57:PM » |
ชุมชน
|
ขออนุญาตบ้านกลอนไทยวางโคลงหน่อยนะขอรับ เกรงว่าโคลงของข้าพเจ้าอาจจะไม่เหมาะกับบ้านกลอนไทยน่ะขอรับ
(กลบทโคลงผวน...รีรีข้าวสาร) สองคำท้ายบาท...มาผวนกับ สองคำหน้าบาทในบาทถัดไป และสองคำท้ายบท..ไปผวนกับ สองคำหน้าบาทในบทถัดไป ************************* ตื่นมาเจอห่าฝนที่ปนฝุ่น แลเห็นมูลหมูไหลล่อง พร้อมกลิ่นอันอวลอบตลบไปทั้งบาง
๑๐๓๐
(๑) ๏ หยาดฝนเย็นผ่าวพร้อย.......พรูแรง แฝงลู่ ลมพัดแซง.................สาดไล้ ใสราด ฉ่ำดิน,แดง................ดูหม่น ดลหมู่ ผงลอยไขว้................ขุ่นน้ำ คลองไหล
๏ ไคล,ล่อง ลอยฝุ่นคล้ำ........โคลนนอง คลองโน่น ฟูเขลอะฟอง.........ก่ายคุ้ง กรุง,คลาย ส่งขยะมอง-..........ดูหมัก หมมแล ดักหมู่ เลนตมฟุ้ง..................กลิ่นพร้อม อวลเผย (๒) ๏ เอย..ผวน ผก,ผ่านรู้...........วันฝน ตกเนอ วนพรั่น นึกแนมคน................เปลี่ยนไว้ ไปเวียน หวาดระแวงจน..........จมคลั่ก จักข่ม คลึงจิตให้..................ขุ่น,เหี้ยน หดสลาย
๏ หายสลด ฤาปรับปลิ้น..........แปรเมือง เปลืองแม่ บท,เปล่าเปลือง......ปั่นให้ ไปหัน กลับมองเฟือง.............ฟันขับ พับคั่น พาขาดได้.................ด่าวสิ้น, ทรามไสว (๓) ๏ ใสหวาม เพียงวาดฟุ้ง.........ฝนปราย ผายป่น แปรปรวนหาย...........ห่มฟ้า หาพรหม ส่งพรคลาย.............คืนสุข คลุกชื่น ชาวชนกล้า..............กลับฟื้น คนสมาน
๏ ขานมนต์ โอมเสกเพี้ยง.......ฝนมา พาหม่น เมืองดำหรา..............หลุดย้อย ลอยหยุด ส่งเหม็นพา............ไปส่ง ปลงใส่ ละเลงห้อย................ส่งให้ ทะเลถม
๑๑๒๘ ๒๘๐๖๕๓
ขอบคุณทุกๆท่านขอรับที่ร่วมแจมสนุกสนานกันขอรับ
|
|
|
|
28 มิถุนายน 2010, 11:22:PM |
|
|
29 มิถุนายน 2010, 12:49:AM |
กุลมาตา(singlemom99)
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
คะแนนกลอนของผู้นี้ 108
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1,710
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2010, 12:49:AM » |
ชุมชน
|
ไปทางธรรม มิตามหลาน นั่นสาวหนุ่ม หากชื่นชม กลมกล่อมนุ่ม ด้วยชุ่มรัก อารมณ์หนุ่ม คิดอุ้มสาว ด่าวดิ้นชัก อัศจรรย์ พลันสลัก ประจักษ์จินต์
บทประเลง เพลงกระท่อม กล่อมสาวเจ้า เคยยินเย้า เว้าซื่อๆ ถือตามถิ่น กวีใหญ่ คล้ายๆคุ้น กรุ่นเคียงดิน ละเมียดกลิ่น หมิ่นเหม่คู่ หลวงชู้ชม
ฤาจะเหมือน เพื่อนขุนแผน แสนสะท้าน ทั้งลาวทอง ปองสะอ้าน พาลพิมขม อัศจรรย์ พันนาง มิร้างชม เสกจนจม ล้มกระท่อม จอมเจ้าชู้
..ป้ากุลมาแซวเล่น..เห็นภาษางามจริงๆ..แต่ต้องกวีสาวๆด้นกลอนอ้อนต่อนะพ่อนะ..ป้าขำๆ..
|
|
|
|
29 มิถุนายน 2010, 11:00:AM |
|
|
30 มิถุนายน 2010, 07:39:AM |
คนสาธารณะ
Special Class LV1 นักกลอนผู้เร่ร่อน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 24
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 64
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2010, 07:39:AM » |
ชุมชน
|
...ขอหยิบโคลงเก่าขึ้นจากกรุมาแจมขอรับ......
บางบริบท...
๏ มีทวน มวลที่ ทึ้ง................แทง,กล ทนแกว่ง เทียวเสียบจน...........จุกอึ้ง จึงอุก อาจ,เอมคน.................คะนองศึก นึกส่อง ชมแซมซึ้ง................สุดขั้วเรียมหนอ ๚
๏ รอ,เหนียม คำเอ่ยครั้ง..........คลอสาว คราวช่อ นวล,โลมหนาว..........หนักล้ำ นำรัก หลืบเพียง,ราว...............รวงหนีบ รีบหน่วง แลหนุบย้ำ................หยอดโย้เพลินฉนำ ๚
๏ พรำเนิน เพลงพลบเพ้อ........ผวนมา พาม่วน เพลินโคลงหา.............หับ,เร้น เห็นรับ หลากสุขครา...............คืนสุข คลุกชื่น โชนไฟเน้น................หนึบพร้อยเริงฝัน ๚ะ๛
ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแจมและอ่านพร้อมกำลังใจ-กำไรจัง ขอรับ
|
|
|
|
30 มิถุนายน 2010, 03:28:PM |
กุลมาตา(singlemom99)
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
คะแนนกลอนของผู้นี้ 108
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1,710
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2010, 03:28:PM » |
ชุมชน
|
โคลงผวนชวนคิดแม้ แส่ลอง ยากส่องแลแซ่ซ้อง ส่องหล้า สาล่องท่องเที่ยวมอง เมียงหมู่ ไม้หมู่เมียงเพียงฟ้า ว่าไว้ใจจาร
..โคลงก็ยากแล้ว..ยังจะผวนอีก..คิดได้ไงท่านกวีใหญ่คนสาธารณะและกวีสาวหทัยฯ..ขอคารวะ..เยี่ยมๆๆๆๆๆ
|
|
|
|
30 มิถุนายน 2010, 06:37:PM |
คนสาธารณะ
Special Class LV1 นักกลอนผู้เร่ร่อน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 24
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 64
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2010, 06:37:PM » |
ชุมชน
|
๑๑๑๔
เช้าจันทร์ ชันเจ่าจ้อ..........จอแจ แจจ่อ ใจฝนแล................หล่นซ้ำ ลำชล อิ่มน้ำแหน.............ระนาวจอก นอกจ่าว*ในเจิ่งน้ำ...........หนุ่มน้าวนอนขัน ๚
นั่นขอน เนาหนึ่งค้ำ..........คลึงหนา คราหนึ่ง โงครวญหา.........หกน้ำ ฮำ*นก เปียกปอนครา.......ครวญปั่น ครันป่วน ปานเปียกย้ำ........อย่างแปร้เปรยฝัน ๚
ปันเผย เพียงป่าคุ้ม...........คลุมหนาว คราวหนุ่ม ครองอกขาว......ขบช้า คราซบ อุ่นใจราว..............เริงบุก รุกเบิ่ง บานอีกฮ้า..............หกครั้งครวญอ๋อย ๚
คอย,อวลเอมอิ่มคู้............เคียงฝัน ขันเพลี่ยง พล้ำใจหัน.........หดถ้ำ ฮำ*ทด ถั่งเพลงทำ...........แผลงถก พกแท่ง ใจถนัดค้ำ............ถ่อขึ้งทวนฝน ๚
ทนพรวน เพลงป่าร้อย........แรงปลาย หลาย,แปร่ง พอทำผาย......ผึ่งแท้ แผ่ถึง ผ่านทวนหมาย.........เทียวปรก ถกเปลี่ยว ทางมุดแก้..........ก่อนเปลี้ยเกินจะขัน ๚
กันเขิน เพลงขับโล้............แรมใจ ไหลแจ่ม เม็ดฝนใส............สาดด้วย สวยดาด ป่า,ยามใบ...........เริงสะบัด ระบัดเบิ่ง เรียงฝั่งห้วย.........ระหกฟ้าระบำฝน ๚ะ๛
๑๑๔๗ ๒๖๑๐๕๒
บางสำนวนจากงานเก่าหากคำใดไม่เหมาะสมขอภัยด้วยขอรับ
ท่านกุลมาตาอย่าเรียกกวีใหญ่เลยขอรับมิบังอาจขอรับ
|
|
|
|
02 กรกฎาคม 2010, 12:06:PM |
คนสาธารณะ
Special Class LV1 นักกลอนผู้เร่ร่อน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 24
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 64
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 02 กรกฎาคม 2010, 12:06:PM » |
ชุมชน
|
ฝนเช้า..ตกต่อจากค่ำคืน ร่ายคำ..แสนหมื่นมายื่นส่ง เรียงถัก..แรคำร้อยจำนงค์ เพื่อปลง, ปรับเปลี่ยน..สังเวียนคำ *******************************
(กลโคลงผวน..รีรีข้าวสาร)
๑๐๕๗
๏ พักถนน ฝนหนักฟุ้ง.......นอนเพลิน เนินผ่อน เย็นลมเผิน.........ผ่าวซึ้ง พึงสาว ตื่นพลางเดิน.........ทางดุ่ม ทุมด่าง ดำมองอึ้ง............กระอ่วนฟ้า ทันฝน
๏ ทนฝัน ทางเปียกชื้น,......งานเรา เหงาร่าน เริง,บางเฉา........อับสั้น อันทรัพย์ อื่นเพียงเอา.......ไอฉาบ อาบใส่ อริยะทรัพย์ปั้น.......ปล่อยบ้าง ปลดอบาย
๏ ปลายบท บาทต่างเร้า.....บางฝน บนพร่าง พรูเปียกคน..........ขุ่นพื้น คืนพรุน เปียกปอนจน.........ใจฉ่ำ จำใส่ ทรงจำชื้น................แฉะคุ้ง คืนฝน
๏ คนฝืน ธรรมชาติสร้าง.....ไหวฤา หวือ ! ไล่ แรงลมกระพือ.....กระหึ่มฟ้า หาพึม พร่ำครวญคือ..........คราบ่น คนบ่า โบยบากบ้า-............บิ่นเบื้อง บนขำ
๏ ระบำคน คลุกฝุ่นฟ้า........ฝนกรู พรูก่น สบถคำดู................ด่าโพ้น โดนพา หอบงานฟู............เพลินปั่น ฝันเปิ่น นอนหนุบโน้น........หนึ่งน้อง คลายผอง
๏ คลองผาย ลำตลิ่งห้วย....บึงละหาร บานหึ่ง โคลน,ฝอยธาร......ฉ่ำด้วย สวย,ดำ ดื่นปนปาน...........คนปั่น เมืองแล ครันป่น เปิงเปรียบม้วย.......หมื่นล้านเรือนแสน ๚ะ๛
๑๑๓๔ ๐๒๐๗๕๓
คารวะสวัสดิ์เผื้อน...วันฝน
|
|
|
|
02 กรกฎาคม 2010, 01:02:PM |
กุลมาตา(singlemom99)
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
คะแนนกลอนของผู้นี้ 108
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1,710
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 02 กรกฎาคม 2010, 01:02:PM » |
ชุมชน
|
กลโคลงผวน ล้วนล้วนยาก ฝากบอกท่าน หนออาจารย์ คนสาธารณะเอ๋ ย คืนฝนพรำ ฉ่ำชื่น รื่นใจเฮย คลายร้อนเผย เปลือยเปรยไว้ ในกลอนกานท์
จินตนา แต่ละท่าน ร้อยพันบท ล้วนหลากรส สดใหม่ ใครใคร่อ่าน หลากความคิด มิตรไมตรี กวีชาญ อักษรา พาสมาน ฉันท์กาพย์กลอน
|
|
|
|
03 กรกฎาคม 2010, 01:16:AM |
คนสาธารณะ
Special Class LV1 นักกลอนผู้เร่ร่อน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 24
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 64
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2010, 01:16:AM » |
ชุมชน
|
๏ ฝนเช้า..ตกต่อจากค่ำคืน ร่ายคำ..แสนหมื่นมายื่นส่ง เรียงถัก..แรคำร้อยจำนงค์ เพื่อปลง, ปรับเปลี่ยน..สังเวียนคำ
๏ แรรูปรสลักษณ์อักขระ บางแว่วจังหวะเพลินฉนำ บทบาทร้อยบ่วงบางท่วงนำ เร่งคำรุกคืบเข้าสืบแซง
๏ นานาทัศนะอรรถรส สี่บาทหนึ่งบทเติมรสแต่ง เรียบเรียบร้องร่ำดุจสำแดง อยากแฝงตาลฉาบให้อาบเอม
๏ รอนแรมหลากรุ้งรัศมี ครอบสีเติมหนุนให้อุ่นเข้ม ตอบคำสวยเพิ่มเพื่อเติมเต็ม หวานเค็มเศร้าสนุกไม่ทุกวัน
๏ บางรสบางรักที่ถักบาท หวิวบ้างเต็ม-ขาดมิหวาดหวั่น ฝากถ้อยตามฝนที่หล่นพลัน เพื่อไหลเปลี่ยนผันสัมพันธ์เพลง
๏ เถิดฝนโถมผ่านเต็มลานเถิด เพลงฝนยังเกิดพรั่งเพริศเปล่ง ฟ้าร่ำฝนปั่นช่วยบรรเลง โลมเร่งฝนฉ่ำ..ทุกค่ำคืน
๐๑๒๐ ๐๓๐๗๕๓
สวัสดีขอรับทุกๆท่าน ขอบคุณที่ร่วมแจม...ช่วงนี้ฝนชุก โคลง-กลอน..ฝน อาจจะชุกตามบ้าง อย่าเพิ่งเบื่อนะขอรับ
|
|
|
|
04 กรกฎาคม 2010, 10:45:AM |
คนสาธารณะ
Special Class LV1 นักกลอนผู้เร่ร่อน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 24
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 64
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2010, 10:45:AM » |
ชุมชน
|
๐๙๓๕
(๑) ๏ เอมใจยามจดจ้อง..........จรุงทำ ลำทุ่ง โปรยเสียงนำ............เนิ่นฟ้อน นอนเพลิน แผ่กายขยำ,.......โคลงขยับ ขับโย่ง ยองยองช้อน............สอดย้ำ ยลไสว ๚
๏ ไยวน เวียนเวียนหย่อนเวิ้ง.วังสราญ หวานหลั่ง เปรมหลักปาน......สุขปั้น ชันปลุก ปลั่งแดงหาญ...........หึกเช่น เห็นศึก โถมถักฝั้น...............ขับฟุ้ง เพลงขยัน ๚
๏ พลันเขย่ง ขยับโย้.............พึงเขนย เผย,หนึ่ง แนมนอนเผย.........ผงกผล้าม* งามพก ผ่อนกิริยาเปรย.........เพลงปั่น พลันเปล่ง แรงเสียงข้าม.......ขอบรั้ว ดังถึง ๚
๏ ดึงถัง โครมหล่น เคร้ง ! ....คะนองเรา เนาร่อง ลืมแรงเบา-..............หนักล้ำ นำรัก สู่แสงเงา....................พาเบ่ง เพลงบ่า ยอมรักย้ำ...............หยดเยิ้ม โอ..สวรรค์ ๚ (๒) ๏ อันโว เพียงกล่าวเพ้อ........พาครวญ ผวนค่า คำโคลงหวน............กล่าวให้ ไกลหาว ห่างคมทวน............ธนูก่อน นอนกู่ คง บ ใกล้..................กลับบ้าน โคลงเหวย ๚
๏ เคยโหวง เหวง,หวั่นบ้าง......บางหน บนห่าง ฤาเทียบคน................กล่าวคล้อง กองขาว ด่างดำปน.................คลุกปั่น ครันปลุก โคลงตื่นฟ้อ.ง...........กระตุกฟื้นเพลงสวรรค์ ๚ะ๛
๑๐๒๕ ๐๔๐๗๕๓
อาทิตยสวัสดิ์ด้วย.....สบายดี
|
|
|
|
|