แรกพบสบใจ..มาบัดนี้ไม่เหลือเยื่อใยใดใดแล้ว..
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 11:10:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แรกพบสบใจ..มาบัดนี้ไม่เหลือเยื่อใยใดใดแล้ว..  (อ่าน 6490 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
06 พฤษภาคม 2010, 08:05:PM
กุลมาตา(singlemom99)
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 108
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,710



« เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2010, 08:05:PM »
ชุมชนชุมชน

เมื่อแรกพบสบใจใครคนหนึ่ง
เคยซาบซึ้งตรึงใจในคำหวาน
มาบัดนี้มิเหลือใยใจร้าวราน
สุดประสานมารประสพรบราวี
.
เมื่อแรกพบสบใจให้หวนหา
อาลัยฟ้าคราร้างพรางเร้นลี้
ทั้งเดือนดาวสกาวฟ้ามาราคี
จึงจรลีหนีหน้าลาฟ้าไกล
.
เมือแรกพบสบใจในอวลอุ่น
ร้อยละมุนกรุ่นรักมาผลักไส
ดังขุนแผนแสนรักต้องจากไกล
ดับฟอนไฟในใจเจ้าเขาหลอกลวง
.
ณ บัดนี้มิเหลือใยใดใดแล้ว
ดังดวงแก้วแววใสในขวัญสรวง
ครองธรรมามิราคีลี้เร้นลวง
ดุจดังดวงปวงประทีปทิพย์เทวี
..
-Singlemom99-
19  มีนา  2553
3
[/size]
ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
06 พฤษภาคม 2010, 11:37:PM
คนไร้ค่า
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 23
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 201



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2010, 11:37:PM »
ชุมชนชุมชน

เมื่อแรกพบสบใจใครคนหนึ่ง
เธอทำซึ้งจนฉันน้ำตาไหล
ยอมฉันยอมยอมแม้มอบหัวใจ
ฝากใจไปให้มันไว้แด่ตัวเธอ

มาบัดนี้สิ้นรักเธอกลับจาก
เธอได้พรากดวงใจไปไม่พบเจอ
ตัดหมดสิ้นเยื่อใยไม่พร่ำเพ้อ
ปล่อยฉันนอนละเมออย่างเดียวดาย
ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

07 พฤษภาคม 2010, 12:45:PM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #2 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2010, 12:45:PM »
ชุมชนชุมชน

เมื่อแรกพบสบใจใครคนหนึ่ง
เคยซาบซึ้งตรึงใจในคำหวาน
มาบัดนี้มิเหลือใยใจร้าวราน
สุดประสานมารประสพรบราวี
.
เมื่อแรกพบสบใจให้หวนหา
อาลัยฟ้าคราร้างพรางเร้นลี้
ทั้งเดือนดาวสกาวฟ้ามาราคี
จึงจรลีหนีหน้าลาฟ้าไกล
.
เมือแรกพบสบใจในอวลอุ่น
ร้อยละมุนกรุ่นรักมาผลักไส
ดังขุนแผนแสนรักต้องจากไกล
ดับฟอนไฟในใจเจ้าเขาหลอกลวง
.
ณ บัดนี้มิเหลือใยใดใดแล้ว
ดังดวงแก้วแววใสในขวัญสรวง
ครองธรรมามิราคีลี้เร้นลวง
ดุจดังดวงปวงประทีปทิพย์เทวี
..
-Singlemom99-
19  มีนา  2553


เปลี่ยนขนาดอักษร เพื่อให้ Singlemom99-
ได้รู้ว่า ทำได้ ถ้าทำถูกตามขั้นตอน คือปรับขนาดอักษรก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนสี เน้อ
จึงไม่ได้เน้นที่สัมผัส ระหว่างบทกลอน  ขออภัยนะครับ
 


*********************************************************

เมื่อแรกพบ สบตา คิดว่า  “ใช่”
มีอะไร หลายอย่าง ช่างน่าสน
เมื่อเธอเข้า มาทัก ชักพิกล
ดั่งต้องมนต์ มัดใจ ให้ผูกพัน

ดั่งหนึ่งแก้ว แวววับ จับดวงจิต
เมื่อเพ่งพิศ ใช่แน่ ไม่แปรผัน
คบกันไป คุยกันไป ไม่เว้นวัน
ทำให้ฉัน แน่ใจ ในตัวเธอ

แต่ไม่นาน แก้วใส มาเปลี่ยนสี
จากมณี ล้ำค่า มาขี้เท่อ
จากแก้วงาม ยามนี้ ไยสีเบลอ
จากด๊อกเตอร์ กลายมา เป็นม้าลาย

คงเพราะเรา สองคน มิใช่คู่
จึงยิ่งดู ยิ่งชัก รักแพ้พ่าย
ขอขอบคุณ สวรรค์ คั่นเคียงกาย
ให้เห็นลาย ลอกแล้ว นะแก้วปลอม

 ขอจีบ...ได้ป่ะ

“ปรางค์  สามยอด”
ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

07 พฤษภาคม 2010, 01:41:PM
masapaer
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 601


ร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณคือรางวัลอันยิ่งใหญ่


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2010, 01:41:PM »
ชุมชนชุมชน

 
เมื่อแรกพบสบใจใครคนหนึ่ง
เคยซาบซึ้งตรึงใจในคำหวาน
มาบัดนี้มิเหลือใยใจร้าวราน
สุดประสานมารประสพรบราวี
.
เมื่อแรกพบสบใจให้หวนหา
อาลัยฟ้าคราร้างพรางเร้นลี้
ทั้งเดือนดาวสกาวฟ้ามาราคี
จึงจรลีหนีหน้าลาฟ้าไกล
.
เมือแรกพบสบใจในอวลอุ่น
ร้อยละมุนกรุ่นรักมาผลักไส
ดังขุนแผนแสนรักต้องจากไกล
ดับฟอนไฟในใจเจ้าเขาหลอกลวง
.
ณ บัดนี้มิเหลือใยใดใดแล้ว
ดังดวงแก้วแววใสในขวัญสรวง
ครองธรรมามิราคีลี้เร้นลวง
ดุจดังดวงปวงประทีปทิพย์เทวี
..
-Singlemom99-
19  มีนา  2553


เปลี่ยนขนาดอักษร เพื่อให้ Singlemom99-
ได้รู้ว่า ทำได้ ถ้าทำถูกตามขั้นตอน คือปรับขนาดอักษรก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนสี เน้อ
จึงไม่ได้เน้นที่สัมผัส ระหว่างบทกลอน  ขออภัยนะครับ
 


*********************************************************

เมื่อแรกพบ สบตา คิดว่า  “ใช่”
มีอะไร หลายอย่าง ช่างน่าสน
เมื่อเธอเข้า มาทัก ชักพิกล
ดั่งต้องมนต์ มัดใจ ให้ผูกพัน

ดั่งหนึ่งแก้ว แวววับ จับดวงจิต
เมื่อเพ่งพิศ ใช่แน่ ไม่แปรผัน
คบกันไป คุยกันไป ไม่เว้นวัน
ทำให้ฉัน แน่ใจ ในตัวเธอ

แต่ไม่นาน แก้วใส มาเปลี่ยนสี
จากมณี ล้ำค่า มาขี้เท่อ
จากแก้วงาม ยามนี้ ไยสีเบลอ
จากด๊อกเตอร์ กลายมา เป็นม้าลาย

คงเพราะเรา สองคน มิใช่คู่
จึงยิ่งดู ยิ่งชัก รักแพ้พ่าย
ขอขอบคุณ สวรรค์ คั่นเคียงกาย
ให้เห็นลาย ลอกแล้ว นะแก้วปลอม     (       ลุง  “ปรางค์  สามยอด”  ค่ะ )                   



เมื่อแรกรักมักหวานน้ำตาลจืด
พอเริ่มชืดอืดแล้ว,แห้ว,หมดหอม
รักมักเสียเพลียใจให้ตรมตรอม
เห็นเป็นปลอมเมื่อเซ็ง..เล็งทิ้งกัน

ก่อนจะรัก,ทักไหนว่าใช่แล้ว
ดูตาแป๋วแจ๋วดีเสื้อสีสัน
ดูที่กายหรือใจใสเหมือนจันทร์
หรือเข้ากันที่นิสัยอย่างไรดี

หรือของใหม่ใสกว่าลาไปชอบ
ของเก่ากรอบแห้งเหี่ยวเกี่ยวไหมนี่
โลกหมุนเวียนเปลี่ยนไปเกิดใหม่มี
ย่อมต้องพบคนดีมีคละลวง

ตัดสินใจให้เย็นเห็นจริงก่อน
อย่าพึ่งร้อนตอนรักทักว่าหวง
ให้แน่ใจรักแน่ใช่แค่ควง
จะพ้นล่วงลายลอกบอกเป็นปลอม
สาวน้อยหัวเราะ


แจมด้วยจ้า...ทีหลังลุงก็ดูให้ดีๆก่อนดี๊...อ๊ะ..ล้อเล่ง นะค๊า        ขำแบบกระแดะหน่อยๆ
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

07 พฤษภาคม 2010, 03:11:PM
chaipan1999
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 93
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 365


กวีจรนอนตลาด-กวีปราชญ์นอนวัง


« ตอบ #4 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2010, 03:11:PM »
ชุมชนชุมชน

เมื่อแรกพบสบใจใครคนนั้น
คนที่ฉันฝันไว้ใคร่ถนอม
เฝ้าเพียรหาดั้นด้นจำทนยอม
คอยเก็บออมดวงใจไปให้เธอ

เมื่อแรกพบสบใจใครคนหนึ่ง
คนที่ซึ่งคิดไว้ใช่เสมอ
จะร้อยนางหักหาญมาปรนเปรอ
ไม่อาจเผลอแบ่งใจให้ใครปอง

เมื่อแรกพบสบใจใครคนนี้
คือคนที่หนึ่งในใจไม่มีสอง
ยอมเก็บเกี่ยวเรียวรักจักจำนอง
ขอจับจองหัวใจไว้คนเดียว

เมื่อแรกพบสบใจใครคนก่อน
คนที่สอนรักฉันให้ซ่านเสียว
คนที่หักรักร้างสุดยาเยียว
คนที่ทิ้งแม้เศษเสี้ยว..เดนหัวใจ...

 เอ้อ..จริงว่ะ เอ้อ..จริงว่ะ เอ้อ..จริงว่ะ
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 พฤษภาคม 2010, 08:06:PM
เจ้าดอกรัก
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 24
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 88



« ตอบ #5 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2010, 08:06:PM »
ชุมชนชุมชน

ยอมหักใจไม่สนใครคนอื่น
แม้เขายื่นสัญญารักสิเนหา
ถ้อยวาจาหวานล้ำส่งสายตา
ฉันยังกล้าผลักไสรักให้ออกไป

ด้วยหัวใจเป็นของเธอตั้งแต่แรก
จึงไม่แปลกที่ไม่สนใครคนไหน
ตอนรักใหม่เธอแคร์กันฉันซึ้งใจ
ยามหวั่นไหวคอยเคียงข้างทางมืดมน

แต่วันนี้คราฝนมาใจฉันเศร้า
ต้องนอนหนาวเดียวดายด้วยหมองหม่น
ฉันยอมทนคำเย้ยหยันจากผู้คน
เพราะหลงกลคนปากหวานฉันเสียใจ

เยื่อใยรักบางบางที่เคยก่อ
ไม่เพียงพอที่จะรั้งเธอใช่ไหม
คราเธอไปร้าวลึกถึงทรวงใน
ขอหอบใจมาทิ้งไว้ที่บ้านกลอน

ฝากใจไว้ด้วยนะคะ  ไม่มีคนอยากได้แล้วใจดวงนี้    ลาตายดีกว่าตู


ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 พฤษภาคม 2010, 08:20:PM
กุลมาตา(singlemom99)
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 108
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,710



« ตอบ #6 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2010, 08:20:PM »
ชุมชนชุมชน

เพลินดีจังค่ะ..ขอคารวะทุกท่านมาต่อบทกวีกันงามๆทั้งนั้น
โดยเฉพาะท่าน "ปรางค์ สามยอด" ..หัวเราะงอกลิ้งเลยค่ะ
แซวทั้งเรื่องปรับสี ปรับอักษร แถมเรื่อง..ด็อกเตอร์อีก อิอิ
เจอแต่ด็อก..โฮ่งๆ สงสัยจะต้องไปเรียนด็อกเตอร์เองซะแล้ว
ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s