30 เมษายน 2010, 03:03:PM |
victoria's secret
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 421
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 150
อักษรันรำพา...อักษรารำพัน
|
|
« เมื่อ: 30 เมษายน 2010, 03:03:PM » |
ชุมชน
|
xxxx
|
|
|
|
30 เมษายน 2010, 04:04:PM |
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 390
สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 30 เมษายน 2010, 04:04:PM » |
ชุมชน
|
๐ ล่วงอีกคืน..ฝืนร่าง..อย่างเหน็บหนาว แสงเดือนพราว..วาววับ..จับแดนสรวง มีดาวแจ่ม..แซมเห็น..เป็นรุ้งรวง งามโชติช่วง..ห้วงฟ้า..ดาราราย
๐ รักเคยสร้าง..ทางฝัน..อันเจิดจ้า เหมือนนภา..ราตรี..มีจันทร์ฉาย เมื่อโรยรา..พาคว้าง..อย่างเดียวดาย เหมือนจันทร์กราย..ย้ายเคลื่อน..สู่เดือนแรม...(Victorias secret)
ยามเดือนแรมรูปเรียวซีดเซียวหม่น แต่เกลื่อนหนด้วยดาวยังพราวแต้ม คืนผ่านพ้นวนวันจวบจันทร์แย้ม เพ็ญกลับแจ่มกลางหาวอีกคราวครั้ง
ต่างจากแสงข้างในที่ใจนั่น กลับนับวันมัวหม่นจนสิ้นหวัง ไร้วี่แววเรื่อรองส่องนวล,ดัง ชีพไร้ฝั่งกลางมืดดับชั่วกัปกาล
|
|
|
|
30 เมษายน 2010, 05:46:PM |
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 390
สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 30 เมษายน 2010, 05:46:PM » |
ชุมชน
|
๐ ล่วงอีกคืน..ฝืนร่าง..อย่างเหน็บหนาว แสงเดือนพราว..วาววับ..จับแดนสรวง มีดาวแจ่ม..แซมเห็น..เป็นรุ้งรวง งามโชติช่วง..ห้วงฟ้า..ดาราราย
๐ รักเคยสร้าง..ทางฝัน..อันเจิดจ้า เหมือนนภา..ราตรี..มีจันทร์ฉาย เมื่อโรยรา..พาคว้าง..อย่างเดียวดาย เหมือนจันทร์กราย..ย้ายเคลื่อน..สู่เดือนแรม...(Victorias secret)
ยามเดือนแรมรูปเรียวซีดเซียวหม่น แต่เกลื่อนหนด้วยดาวยังพราวแต้ม คืนผ่านพ้นวนวันจวบจันทร์แย้ม เพ็ญกลับแจ่มกลางหาวอีกคราวครั้ง
ต่างจากแสงข้างในที่ใจนั่น กลับนับวันมัวหม่นจนสิ้นหวัง ไร้วี่แววเรื่อรองส่องนวล,ดัง ชีพไร้ฝั่งกลางมืดดับชั่วกัปกาล...(เพียงกมล)
๐ คืนเดือนแรม..แก้มช้ำ..น้ำตาไหล สู้หมายใจ..ได้ปอง..ละอองหวาน หวังครองคู่..ชูชื่น..ยั่งยืนนาน กลับร้าวราน..รักลา..ช่างน่าชัง
๐ จะกี่ปี..กี่เดือน..ดูเหมือนว่า ใจที่ล้า..รารอ..หมายก่อหวัง ถ้อยสัญญา..ครานั้น..ใจฉันยัง เตือนให้ยั้ง..รอคอย..บนรอยเดิม
๐ จะกี่รอย..ก้าวย่าง..บนทางเหงา จะเก็บเอา..น้ำตา..นั้นมาเสริม จะแปรล้า..เป็นแรง..มาเเต่งเติม จะรอเริ่ม..ฝันสวย..ไปด้วยกัน
๐ ที่เคยทำ..ช้ำมา..ในครานั้น จะลืมมัน..จากใจ..ไม่ไหวหวั่น ขอเป็นเเรง..แห่งใจ..ในรายวัน เพื่อสานฝัน..วันนี้..ณ ที่เดิม...(เพลีย..กมล)
ได้ประจักษ์ในจิตซึ้งพิษรัก ไม่หมายภักดิ์ผู้ได้มาไว้เสริม เมื่อสิ้นแล้วไม่ขอรอต่อเติม ไม่มีเริ่มไม่มีจบลบอาลัย
มิเหลือใจแสนเจ็บไว้เก็บกัก- ด้วยตรึงปักเงาหม่น..ยากพ้นได้ ยังมืดดำคล้ำเศร้าและเหงาใจ จนไม่เหลือเยื่อใยมอบใครครอง
สายเสียแล้วสายฝันเมื่อผันช่วง ไม่อาจพ่วงพันให้หัวใจสอง ได้สานเกลียวเหนี่ยวนำเข้าจำจอง แม้หมายปองคล้องไว้ด้วยนัยเดียว
แต่ว้าเหว่หวั่นไหวก็ไม่หยุด เหมือนตามยุดฉุดเร้าด้วยเปล่าเปลี่ยว แม้ว่ามานขาวซีดนั้นรีดเรียว เกิดกว่าเกี่ยวสายฝันสู่วันไกล
|
|
|
|
01 พฤษภาคม 2010, 11:27:AM |
Kotchanan
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 01 พฤษภาคม 2010, 11:27:AM » |
ชุมชน
|
๐ คืนเดือนแรม..แก้มช้ำ..น้ำตาไหล สู้หมายใจ..ได้ปอง..ละอองหวาน หวังครองคู่..ชูชื่น..ยั่งยืนนาน กลับร้าวราน..รักลา..ช่างน่าชัง
๐ จะกี่ปี..กี่เดือน..ดูเหมือนว่า ใจที่ล้า..รารอ..หมายก่อหวัง ถ้อยสัญญา..ครานั้น..ใจฉันยัง เตือนให้ยั้ง..รอคอย..บนรอยเดิม
๐ จะกี่รอย..ก้าวย่าง..บนทางเหงา จะเก็บเอา..น้ำตา..นั้นมาเสริม จะแปรล้า..เป็นแรง..มาเเต่งเติม จะรอเริ่ม..ฝันสวย..ไปด้วยกัน
๐ ที่เคยทำ..ช้ำมา..ในครานั้น จะลืมมัน..จากใจ..ไม่ไหวหวั่น ขอเป็นเเรง..แห่งใจ..ในรายวัน เพื่อสานฝัน..วันนี้..ณ ที่เดิม...(เพลีย..กมล)
ได้ประจักษ์ในจิตซึ้งพิษรัก ไม่หมายภักดิ์ผู้ได้มาไว้เสริม เมื่อสิ้นแล้วไม่ขอรอต่อเติม ไม่มีเริ่มไม่มีจบลบอาลัย
มิเหลือใจแสนเจ็บไว้เก็บกัก- ด้วยตรึงปักเงาหม่น..ยากพ้นได้ ยังมืดดำคล้ำเศร้าและเหงาใจ จนไม่เหลือเยื่อใยมอบใครครอง
สายเสียแล้วสายฝันเมื่อผันช่วง ไม่อาจพ่วงพันให้หัวใจสอง ได้สานเกลียวเหนี่ยวนำเข้าจำจอง แม้หมายปองคล้องไว้ด้วยนัยเดียว
แต่ว้าเหว่หวั่นไหวก็ไม่หยุด เหมือนตามยุดฉุดเร้าด้วยเปล่าเปลี่ยว แม้ว่ามานขาวซีดนั้นรีดเรียว เกิดกว่าเกี่ยวสายฝันสู่วันไกล...(เพียงกมล)
๐ ดึกคืนนี้..มีดาว..พร่างพราวแสง แต่ฤาแข่ง..แสงจันทร์.. อำพันใส ฟ้าสกาว..พราวสวย..โปรดอวยชัย ช่วยเปลี่ยนใจ..ใครหนึ่ง..ซึ่งหมายปอง
๐ เธอถูกรัก..หักอก..จนหมกไหม้ เมื่อรักจาก..พรากไป..เลยใจหมอง แม้มีชาย..หมายเมียง..คู่เคียงครอง ไม่แยแส..แลมอง..แม้ต้องตา
๐ ยังอาลัย..ใจภักดิ์..ในรักเก่า อยู่ใต้เงา..เศร้าสร้อย..ละห้อยหา ทนอาวรณ์..นอนเดี่ยว..เปลี่ยวเอกา แม้เวลา..จะผ่าน..เนิ่นนานแล้ว
๐ วอนฟ้าสวย..ช่วยให้..เผยใจนาง ให้กระจ่าง..พร่างพราย..ประกายแก้ว อาจบางที..ที่.รัก..จักฉายแวว ให้เพริศแพร้ว..อีกครา..ใต้ฟ้างาม...(เพลีย..กมล)
ทุกที่ทางสองเราเคยก้าวผ่าน ยังร้าวราน หวนไห้..วันไหวหวาม เมื่อนัยน์ตามีน้ำผุดฉ่ำวาม มิเหลือความเข้มแข็งแห่งดวงใจ
จะเริ่มรักเริ่มฝันนั้นแสนยาก เพราะรอยบากถากลึกผนึกให้- เกิดริ้วรอยเกินจิตคิดรักใคร จมหมองไหม้ เหมือนดั่ง กำลังล้า
เส้นขอบโค้งตรงนั้นตะวันตก ยังพลิก,ผก ดวงตะวัน ผันเจิดจ้า แต่ความรักที่ร้างและห่างตา มิกลับมาอีกแน่...รู้แก่ใจ
ความทรงจำทำร้ายเวียนร่ายภาพ และเจ็บปลาบทุกครั้ง..เกินยั้งได้ คนหนึ่งพรากจากกัน..พลันมีใคร พร้อมก้าวไปสู่ฝัน..ลืมกันแล้ว..(เพียงมั่วปน)
|
|
|
|
01 พฤษภาคม 2010, 08:00:PM |
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 390
สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 01 พฤษภาคม 2010, 08:00:PM » |
ชุมชน
|
ทุกที่ทางสองเราเคยก้าวผ่าน ยังร้าวราน หวนไห้..วันไหวหวาม เมื่อนัยน์ตามีน้ำผุดฉ่ำวาม มิเหลือความเข้มแข็งแห่งดวงใจ
จะเริ่มรักเริ่มฝันนั้นแสนยาก เพราะรอยบากถากลึกผนึกให้- เกิดริ้วรอยเกินจิตคิดรักใคร จมหมองไหม้ เหมือนดั่ง กำลังล้า
เส้นขอบโค้งตรงนั้นตะวันตก ยังพลิก,ผก ดวงตะวัน ผันเจิดจ้า แต่ความรักที่ร้างและห่างตา มิกลับมาอีกแน่...รู้แก่ใจ
ความทรงจำทำร้ายเวียนร่ายภาพ และเจ็บปลาบทุกครั้ง..เกินยั้งได้ คนหนึ่งพรากจากกัน..พลันมีใคร พร้อมก้าวไปสู่ฝัน..ลืมกันแล้ว..(เพียงมั่วปน)
หากอีกใจยังคงดำรงมั่น ไม่แปรผันวาดหวานแม้ผ่านแผ่ว- เรียวรีดรอยพิศสวาทฤๅคลาดแคล้ว กลับตรึงแนวบอบบางลงกลางทรวง
ด้วยไม่อาจลบรอยที่คอยหลอก ยังยั่วหยอกรุมเร้าให้เฝ้าหวง รู้รักเช่นเสน่หา..แค่ค่าลวง ยังติดบ่วงพ่วงพันสุดบั่นทอน
เสียงเพรียกจากหัวใจไม่เคยหยุด และยากฉุดเหนี่ยวรั้ง..สิ้นหวัง,ถอน สลักนั้นตรึงมั่นนิรันดร และคอยย้อนรอยย้ำทุกค่ำคืน
จันทร์เจ้าเอย นวลใยที่ในฟ้า เคยเจิดจ้าอาบผ่านบนมาน, ผืน กลับกลายหมองหม่นคล้ำให้กล้ำกลืน สิ้นแสงโสมโลมรื่น..เหลือขื่นทรวง (เพียงกมล)
|
|
|
|
01 พฤษภาคม 2010, 10:38:PM |
จะไม่เด็ด
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 01 พฤษภาคม 2010, 10:38:PM » |
ชุมชน
|
ยินเสียงใจบอกจันทร์วันฟ้ากว้าง ดูเหมือนนางวางใจ,มิใคร่หวง ราวจะบอกความในใจทั้งปวง ว่าแดดวงหนึ่งนี้...มีผู้ใด
หรือจะอำความนัยมิใคร่เผย ก็เกินเลยอันมนุษย์สุดวิสัย ถนอนมนวลชวนชื่นรื่นฤทัย หรือเกรงใจใครอื่นที่ชื่นครอง...อิอิ
...แบบว่า..มาแจมหนะ...
|
|
|
|
01 พฤษภาคม 2010, 10:56:PM |
กฤษณาต้องน้ำ
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 01 พฤษภาคม 2010, 10:56:PM » |
ชุมชน
|
เหมอมองจันทร์ฝันหวานวันวานเก่า เห็นหน้าเจ้า ยิ้มร่าเฮฮารื่น พี่จึงแอบ หลบหน้าน้ำตากลืน แอบสะอื้นหวยไห้ ในแสงจันทร์
ยามเพ็ญเดือนสิบสองน้ำนองนั่น เคยร่วมกันลอยกระทง ตรงตลิ่ง เชื่อในรักประจักษ์รักเจ้าจริง เพื่อทุกสิ่ง จึงมา หาเงินทอง จันทร์เจ้าเอ๋ยรู้ไหมว่าใครเศร้า คนใจเหงาเศร้าใจไห้มัวหมอง คิดถึงเจ้าโหยหาน้ำตานอง จึ่งร่ำร้องฝากจันทร์ ฉันรักเธอ แง้ ๆ แต่งเสร็จแล้วมันหาย ต้องแต่งใหม่ อันเก่าดีกว่านี้ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆT_T
|
ลมอรุณเฉื่อยฉิวลูบไล้เดือนค้างฟ้า แม้เป็นภาพที่สวยงามอย่างยิ่ง แต่ก็
|
|
|
03 พฤษภาคม 2010, 03:49:PM |
พิมพร
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
คะแนนกลอนของผู้นี้ 29
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 92
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 03:49:PM » |
ชุมชน
|
เสียงเพรียกจากหัวใจไม่เคยหยุด และยากฉุดเหนี่ยวรั้ง..สิ้นหวัง,ถอน สลักนั้นตรึงมั่นนิรันดร และคอยย้อนรอยย้ำทุกค่ำคืน
จันทร์เจ้าเอย นวลใยที่ในฟ้า เคยเจิดจ้าอาบผ่านบนมาน, ผืน กลับกลายหมองหม่นคล้ำให้กล้ำกลืน สิ้นแสงโสมโลมรื่น..เหลือขื่นทรวง (เพียงกมล)
ยินเสียงใจบอกจันทร์วันฟ้ากว้าง ดูเหมือนนางวางใจ,มิใคร่หวง ราวจะบอกความในใจทั้งปวง ว่าแดดวงหนึ่งนี้...มีผู้ใด
หรือจะอำความนัยมิใคร่เผย ก็เกินเลยอันมนุษย์สุดวิสัย ถนอมนวลชวนชื่นรื่นฤทัย หรือเกรงใจใครอื่นที่ชื่นครอง...(จะเด็ด..กมล)
๐ แม้ใจนาง..ร้างใคร..ที่ใฝ่ฝัน ขอผูกพัน..มั่นอยู่..เป็นคู่สอง กับโฉมงาม..ทรามวัย..ที่ใฝ่ปอง ขอจับจอง..ห้องใจ..มิไคลคลา...(เพลีย.กมล)
สรวงฟ้าเอย เผยให้ เพียงได้ฝัน เพื่อใครนั้น เฝ้าคอย ละห้อยหา เพียงร่ำพากย์ ฝากให้ ผู้ไกลตา ด้วยหมายตรา ตรึงขวัญ เกี่ยวพันไว้
โปรดรับรู้ อาวรณ์ อันอ่อนหวาน ที่จดจาร จากขวัญ ผู้ฝันใฝ่ โปรดรับรู้ ห่วงหา และอาลัย มอบจากใจ คนเหงา คอยเคล้าคลอ...(เพียงกมล)
๐ ค่ำคืนนี้..มีดาว..สกาวใส มีหนึ่งใจ..ใครหมอง..ร่ำร้องขอ ให้หนึ่งใจ..ใครนั้น..ที่ฝันรอ กลับมาก่อ..ทอฝัน..เหมือนวันวาน
๐ คิดเอย..คิดถึง..คนึงนัก มอบใจภักดิ์..รักเอย..เคยหอมหวาน หมายสลัก..รักไว้..ให้แสนนาน กลับร้าวราน..ซานซม..ฤาสมควร...(เพลีย.กมล)
รวยรินราตรีหอม รอบล้อมถิ่น ให้โชยกลิ่น รื่นหวาน ผ่านลมหวน ออในอก ผู้ร่ำ คำคร่ำครวญ ว่ารักรวน แรมร้าง จืดจางแล้ว
เพื่อปลอบขวัญ คนไกล ผู้ไฝ่ฝัน คลายไหวหวั่น อาวรณ์ ให้ผ่อนแผ่ว แม้หนึ่งหวัง เลือนราง เคยพร่างแพร้ว อย่าคลาดแคล้ว อีกหวัง จนพังครืน...(เพียงกมล)
๐ ถึงเพียงแม้..แค่ฝัน..อันลางเลือน มิแชเชือน..ชะตา..ที่ฟ้ายื่น ขอหัวใจ..ได้ซึ้ง..แค่หนึ่งคืน แม้เมื่อตื่น..ลืมตา..รักราโรย
๐ เพียงปลายก้อย..น้อยหนึ่ง..ก็ซึ้งค่า กับอุรา..ครวญคร่ำ..ร่ำหาโหย เหมือนดินแห้ง..แล้งหมาย..พระพายโชย พาฝนโปรย..พรายพร่าง..หลังร้างไกล...(เพลีย.กมล)
สายฝนหล่น จากฟ้า สู่หล้าโลก ให้ชุ่มโชค ใจฝัน ผู้หวั่นไหว รื่นเย็นอยู่ เช่นนั้น ทุกวันไป จวบพบใจ อีกใจ ฝากให้กัน
ที่แสนไกล สุดเหลียว จะเกี่ยวก้อย เพียงเฝ้าคอย พบได้ แค่ในฝัน ยังสบตา ฝากไว้ ในเพ็ญจันทร์ เพื่อพ่วงพัน สายใย เป็นนัยเดียว...(เพียงกมล)
๐ ระยะทาง..หว่างฟ้า..ใช่สาเหตุ ถึงห่างเนตร..เจตจินต์..มิสิ้นเหนี่ยว หากผูกพัน..มั่นหมาย..มิคลายเกลียว ให้สุดหล้า..ฟ้าเขียว..ยังเกี่ยวพัน
๐ แต่หากใจ..ไม่มั่น..ยังหวั่นไหว ถึงอยู่ใกล้..ไม่ต่าง..กับร้างฝัน หากมั่นใน..ใจสอง..ที่คล้องกัน ห่างเพียงไหน.ไม่หวั่น..สัมพันธ์เลือน...(เพลีย.กมล) ๑.ขอเพียงใจแน่นหนักในรักนี้ ห่มฤดีที่รักฤๅจักเลื่อน จะลาร้างห่างไกลหลายปีเดือน ก็อุ่นเหมือนอยู่ใกล้แนบใจกัน
๒.แต่หากชังหวังใกล้กับไกลห่าง เพราะจินต์สร้างกำแพงแอบแฝงกั้น เบื่อและหน่ายคลายรักหักสัมพันธ์ นั่งมองกัน...แต่ใจ....ไงกลับชัง..
|
|
|
|
03 พฤษภาคม 2010, 09:26:PM |
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 390
สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 09:26:PM » |
ชุมชน
|
ยากยิ่งนักแยกได้คำใครนั้น หากสานต่อทอฝันก็หวั่นหวัง จะจบสิ้นถวิลหาถึงคราพัง จึงควรรั้งใจตน..อาจกลลวง
ปล่อยเวลาเผยเร้นที่เป็นอยู่ ว่าควรคู่หรือไม่ ที่ใจหวง อาจสิ้นลบจบไปไม่ถามทวง จึงกันทรวงพ้นช้ำเข้ากล้ำกราย
|
|
|
|
04 พฤษภาคม 2010, 02:33:AM |
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,422
นักร้อง
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2010, 02:33:AM » |
ชุมชน
|
อันคำคนกลมกลิ้งนิ่งไว้บ้าง จะเจือจางเข้มข้นวนเวียนว่าย ค่อยพินิจคิดเค้นเดี๋ยวเห็นลาย บ้างมักง่ายพูดพล่ามตามครรลอง
อันคนจริงยิ่งยากปากล้ำลึก ไม่คักคึกตามเพลงบรรเลงคล่อง จึงไม่หวานน้ำคำไม่ลำพอง จงไตร่ตรองไคร่ครวญล้วนความจริง
เมื่อเอ่ยปากฝากรักปักดวงจิต ไม่มีพิษให้แพ้แก่น้องหญิง เพราะรักนั้นกลั่นกรองจากใจจริง ไม่ใช่สิ่งพูดเล่นเป็นนิยาย
มาร่วมแจมนะครับ ไม่ถนัด อ่ะ
ปรางค์ สามยอด
|
|
|
|
05 พฤษภาคม 2010, 01:18:PM |
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 390
สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2010, 01:18:PM » |
ชุมชน
|
อันคำคนกลมกลิ้งนิ่งไว้บ้าง จะเจือจางเข้มข้นวนเวียนว่าย ค่อยพินิจคิดเค้นเดี๋ยวเห็นลาย บ้างมักง่ายพูดพล่ามตามครรลอง
อันคนจริงยิ่งยากปากล้ำลึก ไม่คักคึกตามเพลงบรรเลงคล่อง จึงไม่หวานน้ำคำไม่ลำพอง จงไตร่ตรองไคร่ครวญล้วนความจริง
เมื่อเอ่ยปากฝากรักปักดวงจิต ไม่มีพิษให้แพ้แก่น้องหญิง เพราะรักนั้นกลั่นกรองจากใจจริง ไม่ใช่สิ่งพูดเล่นเป็นนิยาย
มาร่วมแจมนะครับ ไม่ถนัด อ่ะ
ปรางค์ สามยอด เกรงเจ็บช้ำซ้ำหนจนยากหัก ยามสิ้นรักดังวันขวัญสลาย หากหลงลมเพลี่ยงพล้ำกับคำชาย อาจต้องตายทั้งเป็นโดนเข่นทรวง
ฉันใดหนอเชื่อได้นะใจนั้น หลอกให้ฝัน..ปั้นคำร่ำว่าหวง พิสูจน์ได้อย่างไรว่าไม่ลวง หวั่นช้ำทรวงยิ่งนักหากรักใคร
|
|
|
|
|