~*~ รักษ์สุมาลย์ ~*~
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 02:55:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ~*~ รักษ์สุมาลย์ ~*~  (อ่าน 3434 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
27 เมษายน 2010, 01:57:PM
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 390

สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา


เว็บไซต์
« เมื่อ: 27 เมษายน 2010, 01:57:PM »
ชุมชนชุมชน


ชื่นฉ่ำเย็นไอหนาวพราวน้ำค้าง
กลั่นหยาดกลางพฤกษ์ไพรลมไล้ลู่
กลิ้งหยดรวมสายใสก่อนไหลพรู
ร่วงลงสู่พื้นหล้าแล้วลาเลือน

หม่นมัวหมอกอ้อยอิ่งนิ่งออถิ่น
รวยรื่นรินเบาบางในกลางเถื่อน
บังสุมาลย์หวานอยู่อย่างรู้เตือน
ก่อนสูรย์เคลื่อนปลายคืนกลืนเดือนดาว

แสงตรู่สางพร่างสายจับปลายฟ้า
ม่านเมฆาเคลื่อนคล้อยลอยปุยขาว
เงามัวหม่นพ้นผ่าน เผยมาลย์ราว-
ผกาสรวงร่วงหาวน้าวช่อลง

หอมอบองค์บงกชแดงสดสี
ลมวาดวี อวลกลิ่น ภู่บินหลง
ปีกสะบัดพัดผ่อนร่อนดิ่งตรง
บุษบงแสนงามยามแย้มบาน

กลีบอ่อน-ไหว ยามภู่ลงจู่จับ
หยาดระยับน้ำค้างแสงสางผ่าน
ค่อยค่อยไหลหยดร่วงสู่ห้วงธาร
ยามภู่ด่ำดอมหวานกลีบก้านเอน

งามสวยสดสีกลิ่นประทิ่นโฉม
ย่อมยอภู่เล้าโลมลงโถมเช่น-
เบื้องบรรพ์กาลสานต่อเหล่ากอเป็น-
นิลุบลบานเด่นที่เห็นมา



งามฟากฟ้าฝั่งสรวงยอดวงขวัญ
ก็งดงามเกินสรรปั้นภาษา
ควรถนอมออมนวล..ควรเวลา
จึงสมค่าสมความถึงยามพร้อม

เก็บอรองค์วงพักตร์รักษาไว้
ด้วยมิใช่สุมาลย์เพียงหวานหอม
อย่าพึงหลงป่ายเปื้อนเหมือนพะยอม
ภู่ผึ้งตอมอิ่มหวานแล้วผ่านเลย

ขนงเนตรวับวาวดังดาวนั้น
แววไหวสั่นแห่งใจอย่าได้เผย
มิควรทอดหวานละมุนให้คุ้นเคย
ทั้งคำเปรยยั่วหยอกยามบอกรัก

หากเชื่อง่ายหน่ายแล้วไม่แคล้วช้ำ
แม้ถลำลึกลง คงยากหัก
ชั่งใจเถิดถ้อยคำ ที่ร่ำภักดิ์
อาจเพียงทักทายเล่นเช่นลมลวง

ปทุมมาคราสิ้นซึ่งกลิ่นหอม
ภู่ผึ้งดอมจางรสก็หมดหวง
กลีบร่วงหล่นลาพรากจากดอกดวง
หมดความปวงอาวรณ์แต่ก่อนเคย

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมกลอนวลีลักษณา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana
27 เมษายน 2010, 09:37:PM
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 390

สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 27 เมษายน 2010, 09:37:PM »
ชุมชนชุมชน


แสงตรู่สางพร่างสายจับปลายฟ้า
ม่านเมฆาเคลื่อนคล้อยลอยปุยขาว
เงามัวหม่นพ้นผ่าน เผยมาลย์ราว-
ผกาสรวงร่วงหาวน้าวช่อลง

หอมอบองค์บงกชแดงสดสี
ลมวาดวี อวลกลิ่น ภู่บินหลง
ปีกสะบัดพัดผ่อนร่อนดิ่งตรง
บุษบงแสนงามยามแย้มบาน

กลีบอ่อน-ไหว ยามภู่ลงจู่จับ
หยาดระยับน้ำค้างแสงสางผ่าน
ค่อยค่อยไหลหยดร่วงสู่ห้วงธาร
ยามภู่ด่ำดอมหวานกลีบก้านเอน

งามสวยสดสีกลิ่นประทิ่นโฉม
ย่อมยอภู่เล้าโลมลงโถมเช่น-
เบื้องบรรพ์กาลสานต่อเหล่ากอเป็น-
นิลุบลบานเด่นที่เห็นมา



งามฟากฟ้าฝั่งสรวงยอดวงขวัญ
ก็งดงามเกินสรรปั้นภาษา
ควรถนอมออมนวล..ควรเวลา
จึงสมค่าสมความถึงยามพร้อม

เก็บอรองค์วงพักตร์รักษาไว้
ด้วยมิใช่สุมาลย์เพียงหวานหอม
อย่าพึงหลงป่ายเปื้อนเหมือนพะยอม
ภู่ผึ้งตอมอิ่มหวานแล้วผ่านเลย


๐ อันบุปผา..มาลัย..สีใสสวย
ก็เปรียบด้วย..นารี..ตามที่เอ่ย
บุรุษหมาย..กรายชิด..สนิทเชย
หมายกอดเกย..เชยชิด..สนิทนวล

๐ หมู่มาลี..มีภมร..ว่อนแห่ห้อม
ด้วยหมายชม..ดมดอม..ความหอมหวล
เฉกนารี..มีชาย..หมายเชยชวน
ความเย้ายวน..ชวนชิด..แม้ปลิดปลง

๐ ว่า......หอมเอย...หอมกลิ่น...มิสิ้นสุด
สองแก้มนุช...ผุดผ่อง...จนต้องหลง
ดั่งกุหลาบ...แรกแย้ม...แก้มอนงค์
สักคราลง...จุมพิต...สนิทใจ

๐ ว่า......นวลเอ๋ย...นวลปราง...ช่างงามสม
หมายเด็ดดม...ชมชิด...พิสมัย
ก็กลัวว่า...แก้มน้อง...ต้องหมองไป
จะปล่อยไว้...ใจหนอ...ก็เสียดาย

๐ อันแก้มช้ำ...คล้ำไป...เพราะใครอื่น
คงขมขื่น...ฝืนใจ...ไม่รู้หาย
หากแก้มน้อง...ต้องช้ำ...ถูกกล้ำกราย
ด้วยมือชาย...ให้เป็นพี่...คนนี้นะ.



เป็นภู่ผึ้งพึงเพียงเคียงดอมด่ำ
เพื่อชื่นฉ่ำช้ำพอแล้วก็ผละ
ยามลุ่มหลงเวียนเชยไม่เคยละ
เป็นสัจจะธรรมจริงกว่าสิ่งใด

อ้อนออดคำพร่ำวอนอ่อนหวานนัก
คำว่ารักนำหน้ากว่าคำไหน
ที่เอ่ยออกเน้นยิ่งจริงจากใจ
แต่เป็นไปชั่วคราวไม่ยาวนาน

อย่าให้ช้ำเพราะใครให้เพียงพี่
พูดง่ายดีฟังดูเหมือนชูหวาน
หากหลงลมขมไหม้จนใจราน
อาจสิ้นปราณรานทรวงเกินทวงคืน


ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมกลอนวลีลักษณา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana
28 เมษายน 2010, 07:49:PM
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 390

สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 28 เมษายน 2010, 07:49:PM »
ชุมชนชุมชน


เป็นภู่ผึ้งพึงเพียงเคียงดอมด่ำ
เพื่อชื่นฉ่ำช้ำพอแล้วก็ผละ
ยามลุ่มหลงเวียนเชยไม่เคยละ
เป็นสัจจะธรรมจริงกว่าสิ่งใด

อ้อนออดคำพร่ำวอนอ่อนหวานนัก
คำว่ารักนำหน้ากว่าคำไหน
ที่เอ่ยออกเน้นยิ่งจริงจากใจ
แต่เป็นไปชั่วคราวไม่ยาวนาน

อย่าให้ช้ำเพราะใครให้เพียงพี่
พูดง่ายดีฟังดูเหมือนชูหวาน
หากหลงลมขมไหม้จนใจราน
อาจสิ้นปราณรานทรวงเกินทวงคืน...
(เพียงกมล)

ไยตัดพ้อ..ต่อคำ..ให้ช้ำชอก
มิกลับกลอก..หลอกเล่น..เช่นเขาอื่น
รักพี่ชาย..หมายหวัง..ให้ยั่งยืน
ร้อยพันหมื่น..ขื่นใดเท่า..ที่เจ้าเมิน

๐ หากที่พร่ำ..คำย้อน..เพียงอ้อนออด
ทำเง้างอด..เพียงลบ..เกลื่อนกลบเขิน
ความเอียงอาย..คล้ายนวล..หมายชวนเชิญ
พี่ยอมเพลิน..เดินสู่..ประตูใจ

๐ แม้เป็นบ่วง..ลวงล่อ..มิขอกลับ
จะยอมรับ..กับดัก..มิผลักไส
พร้อมเผชิญ..เดินรุก..ฝ่าบุกไป
ยอมหมกไหม้..ในนรก..อ้อมอกเธอ...


(ไปตามกลอน.หรือว่ากลอนพาไปก็ไม่รู้นะน้องเพียงฯ)


ร่ำพิไรรำพันฝันออดอ้อน
สำนวนกลอนวอนความคงยามเผลอ
เกรงว่าน้ำคำคนปนละเมอ
อาจทำเศร้าซึมเซ่อถ้าเจอลวง

ที่เผยนัยให้เห็นช่างเน้นย้ำ
ยอมถลำนรกอ้อมอกหวง
ใจง่ายจริงยามชายจะหมายควง
ทั้งสิ้นปวงขอเพียงสมอารมณ์ปอง

เหมือนภู่ผึ้งซึ้งหวานที่ซ่านรส
ก็ลืมหมดเภทภัยใดทั้งผอง
ยอมแม้หากล่วงล้ำถูกจำจอง
ยังหมายครองเคล้าคลอช่อสุมาลย์

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมกลอนวลีลักษณา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s