~*~ ดับ ~*~
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
02 พฤศจิกายน 2024, 04:20:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ~*~ ดับ ~*~  (อ่าน 5820 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
26 เมษายน 2010, 11:32:AM
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 390

สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา


เว็บไซต์
« เมื่อ: 26 เมษายน 2010, 11:32:AM »
ชุมชนชุมชน


คือเดียวดายหมองหม่นระคนช้ำ
ดังมืดดำรำบายป่ายเปื้อนทั่ว
สิ้นแสงสูรย์ส่องไล้ ใต้ฟ้ามัว
ร้าวระรัวหม่นมืดและชืดเย็น

ไม่มีสายลมพลิ้วโลมริ้วหญ้า
ร้างดาราเดือนนวลล้วนเคยเห็น
ไร้ซึ่งคำนิยามความอันเป็น
ที่หลบเร้นหลืบซอกทรวงชอกช้ำ

กลีบกุหลาบร่วงคว้างอย่างเชื่องช้า
โอ้..ผกาชื่นหอมเคยดอมด่ำ
ไม่เหลือค่าควรมองหม่นหมองคล้ำ
สิ้นหวานฉ่ำฉมรื่น..เคยชื่นชม

ไม่เท่าหรอกเนื้อนัยแห่งใจหนึ่ง
อาจรำพึงซึ้งได้ในความขม
เมื่ออกหนึ่งลิ้มรสกำสรดซม
คือโลกล่มแหลกลาญกว่าผลาญชนม์

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมกลอนวลีลักษณา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana
26 เมษายน 2010, 12:01:PM
เจ้าดอกรัก
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 24
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 88



« ตอบ #1 เมื่อ: 26 เมษายน 2010, 12:01:PM »
ชุมชนชุมชน

คืนที่ฟ้าไร้ดาวฉันหมองหม่น
เหมือนดั่งคนไร้รักหมดความหวัง
ใจที่พังเหมือนดาวที่ไกลจันทร์
ความผูกพันดังลมที่พัดไป

รักเปรียบสายน้ำไหลไม่หวนกลับ
คงลาลับไม่หวนคืนมาใหม่
ถึงร่ำไห้ปริ่มปานจะขาดใจ
เธอจากไปไม่กลับช้ำเหลือทน

ใจขื่นขมต้องเจ็บในคืนดับ
ดาวมาลับไกลตาใจยังหม่น
ใจของคนมันแสนจะแยบยล
ดังเล่นกลเล่ห์ลวงฉันช้ำใจ

รอคืนวันฟ้าใสมีดาวพร่าง
คงไม่ร้างหนทางคงสดใส
วาดเอาไว้ความหวังบนฟ้าไกล
แม้เพียงได้แค่ฝันก็ยังดี


ขอเพียงได้แค่ฝัน ว่าเธอจะกลับมาก็ดีใจ  มาแจมค่า   เต้นบัลเลย์




ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
26 เมษายน 2010, 12:05:PM
DEVIL
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 63
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 150



« ตอบ #2 เมื่อ: 26 เมษายน 2010, 12:05:PM »
ชุมชนชุมชน

เหมือนอยู่ใน อุโมงค์ ที่โหวงเหวง
ขณะี่ที่ ฉันเอง ก็เหวงโหวง
พลันเห็นแสง ประกาย ปลายอุโมงค์
ก็ใจโล่ง หลั่งริน ความยินดี

เดินต่อไป ใจชื้น เริ่มชื่นฉ่ำ
แต่แสงนำ ทางเดิม เริ่มริบหรี่
ยิ่งเข้าใกล้ ยิ่งไกลห่าง หนอทางนี้
หรือไม่มี วาสนา มากร้ำกราย

เดินมาไกล ใจเมื่อย กายเหนื่อยอ่อน
แสงสะท้อน ก็เลือนลับ ดับสลาย
ใยเห็นอยู่ แท้แท้ แต่มิวาย
แสงก็หาย ห้วงดำ มาย่ำเยือน

เหมือนกับเธอ ที่เคยทำ กับฉันนี้
คงไม่มี ใครเลิศเลอ เสมอเหมือน
แต่เดี๋ยวเดียว ก็เมินหมาง รักลางเลือน
เธอก็เคลื่อน รักก็คลาย มลายพลัน

คือความจริง วันนี้ ที่ฉันทุกข์
เหลือความสุข คงไว้ แต่ในฝัน
เป็นอดีต ที่จำกัด ปัจจุบัน.....
ฟ้าไม่กั้น ดินไม่ขวาง แต่ห่างไกล...

แบบว่า...แต่งไปเรื่อยเปื่อย  ขำแบบกระแดะหน่อยๆ
ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อารมณ์ดี
26 เมษายน 2010, 01:27:PM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,699


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 26 เมษายน 2010, 01:27:PM »
ชุมชนชุมชน



แม้ลำแสงแห่งวันพลันลาลับ
ใช่จะดับอับแสงทุกแห่งหน
แม้ดาวเดือนเลือนหายไม่ให้ยล
ขอใจคนมีหวังแสงรังรอง

แม้รอบตัวมัวหม่นจนดำมืด
ความเย็นชืดจืดหายคล้ายห่มห้อง
ถ้าหัวใจให้รักแนบภักดิ์ครอง
ผสานสองใจสนิทแนบชิดไว้

แม้ไม่มีสายลมพัดพรมพลิ้ว
ลมหายใจผ่าวผิวพาหวิวไหว
แม้ไร้กลิ่นบุปผาพาชื่นใจ
กลิ่นหอมให้โหยหายังอาวรณ์

แม้กุหลาบกลีบหนึ่งถึงคราร่วง
ยังแหนหวงเก็บไว้ที่ใกล้หมอน
แม้จะสิ้นกลิ่นไปไม่ร้าวรอน
กลิ่นหอมก่อนซ่อนซึ้งติดตรึงทรวง

 
ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
28 เมษายน 2010, 07:19:PM
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 390

สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 28 เมษายน 2010, 07:19:PM »
ชุมชนชุมชน


ยังคิดถึงตรึงตราว่าเคยรัก
จนยากหักจิตใจไม่ย้อนสู่
ยามเมื่อเคยชิดไกล้ได้ชื่นชู้
แต่นี้อยู่เงียบเหงา โศกเศร้าทรวง

แม้ห่างกันเพียงใดใจยังเจ็บ
ด้วยกักเก็บรอยหวานที่ผ่านล่วง
เมื่อสลาย กลายขม ปนลมลวง
จึงติดบ่วงเสน่หาเกินกว่ารั้ง

เพราะสิ้นรักไม่เหลือเยื่อใยแล้ว
ก็เหมือนแก้วแตกร้าวคราวสิ้นหวัง
เหลือเพียงร่างกับจินต์อันพินพัง
ที่หยัดหยั่งรอยช้ำสุดกล้ำกลืน

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมกลอนวลีลักษณา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana
28 เมษายน 2010, 08:19:PM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #5 เมื่อ: 28 เมษายน 2010, 08:19:PM »
ชุมชนชุมชน


  ความรักดับไปกับเธอเดินจาก
เพียงแต่ฝากรอยไว้ดูให้เห็น
ไม่มีสองเคียงใกล้ไม่จำเป็น
แสนลำเค็ญมาคู่อยู่ด้วยกัน

เหมือนฟันเฟืองหักแล้วแก้วไร้ค่า
ความห่วงหาหมดไปไม่มีฝัน
พบคนใหม่ชื่นฉ่ำหมดสำคัญ
ความสัมพันธ์ดับลงจงโชคดี

เธอจากไปได้ดีๆใจด้วย
ไม่มอดม้วยไม่มีเราเคล้าสุขี
เราต่างคนต่างเดินเพลินชีวี
บุญไม่มีเคียงกันทั้งฉันเธอ

ขอจีบ...ได้ป่ะ

“ปรางค์  สามยอด”
 
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

28 เมษายน 2010, 08:32:PM
สุภาพบุรุษทรชน
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 147
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 781


"ถ้อยคำ...คือน้ำเสียงของหัวใจ"


« ตอบ #6 เมื่อ: 28 เมษายน 2010, 08:32:PM »
ชุมชนชุมชน



ยังคิดถึงตรึงตราว่าเคยรัก
จนยากหักจิตใจไม่ย้อนสู่
ยามเมื่อเคยชิดไกล้ได้ชื่นชู้
แต่นี้อยู่เงียบเหงา โศกเศร้าทรวง

แม้ห่างกันเพียงใดใจยังเจ็บ
ด้วยกักเก็บรอยหวานที่ผ่านล่วง
เมื่อสลาย กลายขม ปนลมลวง
จึงติดบ่วงเสน่หาเกินกว่ารั้ง

เพราะสิ้นรักไม่เหลือเยื่อใยแล้ว
ก็เหมือนแก้วแตกร้าวคราวสิ้นหวัง
เหลือเพียงร่างกับจินต์อันพินพัง
ที่หยัดหยั่งรอยช้ำสุดกล้ำกลืน....(คุณ เพียงฯ)


๐ ยามไร้เยื่อ..เหลือใย..ทำไมเล่า
เก็บถาพเก่า..เขาไว้..ให้ใจขื่น
แก้วที่แตก..กระจาย..หมายต่อคืน
เหมือนกับยืน..มองปลา..มีขาเดิน

๐ เมื่อมันจบ..ลบไป..เสียให้สิ้น
มัวถวิล..รักร้าง..ที่ห่างเหิน
เราหาใช่..ไร้ค่า..จนน่าเมิน
รักบังเอิญ..สะดุด..ใช่สุดทาง....(พี่ วิคฯ)

วิมานรัก พักวาง ก่อนสร้างต่อ
หวังเพียงรอ โอกาส ใช่บาดหมาง
ขบวนรัก มักไกล ไปสุดราง
เข้าจัดวาง ห่างก่อน ค่อยย้อนไป

ไม่คิดแข่ง แซงหน้า หรือว่าข่ม
วิ่งด้วยลม พรมพัด สะบัดไหว
สัมภาระ ทั้งหมด บนรถไฟ
คือขนใจ ไปส่ง ให้ถึงเธอ....(สุภาพฯ)


ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

"รักษาตัวไม่เท่าไหร่..รักษาใจไม่ได้เลย"
04 พฤษภาคม 2010, 11:37:AM
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 390

สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2010, 11:37:AM »
ชุมชนชุมชน



ยังคิดถึงตรึงตราว่าเคยรัก
จนยากหักจิตใจไม่ย้อนสู่
ยามเมื่อเคยชิดไกล้ได้ชื่นชู้
แต่นี้อยู่เงียบเหงา โศกเศร้าทรวง

แม้ห่างกันเพียงใดใจยังเจ็บ
ด้วยกักเก็บรอยหวานที่ผ่านล่วง
เมื่อสลาย กลายขม ปนลมลวง
จึงติดบ่วงเสน่หาเกินกว่ารั้ง

เพราะสิ้นรักไม่เหลือเยื่อใยแล้ว
ก็เหมือนแก้วแตกร้าวคราวสิ้นหวัง
เหลือเพียงร่างกับจินต์อันพินพัง
ที่หยัดหยั่งรอยช้ำสุดกล้ำกลืน....(คุณ เพียงฯ)


๐ ยามไร้เยื่อ..เหลือใย..ทำไมเล่า
เก็บถาพเก่า..เขาไว้..ให้ใจขื่น
แก้วที่แตก..กระจาย..หมายต่อคืน
เหมือนกับยืน..มองปลา..มีขาเดิน

๐ เมื่อมันจบ..ลบไป..เสียให้สิ้น
มัวถวิล..รักร้าง..ที่ห่างเหิน
เราหาใช่..ไร้ค่า..จนน่าเมิน
รักบังเอิญ..สะดุด..ใช่สุดทาง....(พี่ วิคฯ)

วิมานรัก พักวาง ก่อนสร้างต่อ
หวังเพียงรอ โอกาส ใช่บาดหมาง
ขบวนรัก มักไกล ไปสุดราง
เข้าจัดวาง ห่างก่อน ค่อยย้อนไป

ไม่คิดแข่ง แซงหน้า หรือว่าข่ม
วิ่งด้วยลม พรมพัด สะบัดไหว
สัมภาระ ทั้งหมด บนรถไฟ
คือขนใจ ไปส่ง ให้ถึงเธอ....(สุภาพฯ)



ยังเข็ดกลัวเกินกว่ามองหารัก
ด้วยตระหนักหม่นไหม้..หากใจเผลอ-
หวั่นเจ็บช้ำซ้ำซากไม่อยากเจอ
แค่เพียงลมละเมอที่เพ้อครวญ

สู่อยู่อย่างเงียบเหงาแม้เศร้าบ้าง
ดีกว่าคว้างตามลมที่พรมหวน
เก็บดวงใจนิ่งอยู่อย่างรู้ควร
ดีกว่าป่วนรักเศร้ามาเคล้าคลอ

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมกลอนวลีลักษณา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s