ทางธรรม
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 06:57:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทางธรรม  (อ่าน 7839 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
11 เมษายน 2010, 08:50:AM
ศรีอุดร
Special Class

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 66
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 137


...คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก...


« เมื่อ: 11 เมษายน 2010, 08:50:AM »
ชุมชนชุมชน

      เหมือนเมฆหมอกเกาะกลุ่มคลุมท้องฟ้า
ปกอาณาแผ่นดินพื้นถิ่นล่าง
แหงนมองขึ้นไม่เห็นแสงเส้นจาง
ดูเลือนเลือนรางลางและห่างไกล

       เมื่อเมฆหมอกออกคลุมเป็นกลุ่มก้อน
ทุกสิ่งซ่อนหลีกเร้นมองเห็นไม่
มือคลำคลำพลางพลางวางยันไป
มีดวงตามิได้ถูกใช้งาน

       หมอกยิ่งหนายิ่งมากลำบากจัด
ไม่ถนัดแต่ละก้าวจะสาวผ่าน
ไม่รู้ทางข้างหน้าชะตาการ
เกิดพบพานงูกัดก็อาจตาย

      เมฆหมอกหากมากโขเหมือนโทสะ
และโมหะความหลงคงไม่หาย
ถ้ายึดติดตลอดก็วอดวาย
เมฆหมอกหมายเกาะกลุ่มคลุมใจตน

       มืดแปดด้านวงวังกำลังหลอก
หาทางออกไม่เห็นจะเป็นผล
มัวหมองจิตคิดหนักลำบากทน
วิ่งสับสนเขาวงกตหมดทางเดิน

      หากเมื่อใดให้ธรรมแสงนำส่อง
แม้หม่นหมองมัวมืดยึดผิวเผิน
ตั้งสติมีธรรมย้อมจำเริญ
หมอกห่างเหินไกลลิบเพียงพริบตา

     หมั่นทำใจสบายเป็นเย็นสงบ
ก็จะพบความสุขสูงส่งค่า
เหมือนลมอ่อนซ่อนกายพัดพรายมา
ชื่นอุราสะกิดในจิตใจ
ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ.........ประเสริฐสุดซ่อนใส่เสียในฝัก
สงวนคมสมนึกใครฮึกฮัก...............จึงค่อยชักเชือดฟันให้บรรลัย -สุนทรภู่
11 เมษายน 2010, 09:42:AM
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 390

สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 11 เมษายน 2010, 09:42:AM »
ชุมชนชุมชน


มืดบอดกลบดวงตาแสงฟ้าดับ
แต่ใจกลับสุกสว่างพร่างไสว
มืดบอดในกมลเกินหม่นใด
ยากจุดไฟแห่งธรรมน้อมนำทาง

มองไม่เห็นเช่นตาเต็มฟ่าคลุม
อาจตกหลุมชนตอที่รอขวาง
สองแขนยังแกว่งคลำนำท้าววาง
ทุกก้าวย่างมุ่งมั่นไม่พรั่นพรึง

มีตาสองมองเห็นกลับเป็นโทษ
ด้วยความโกรธกรุ่นเกลียดที่เหยียดขึง
โหมกระหน่ำซ้ำหนจนเกลียวตึง
เกินคำนึงใคร่ครวญ..ที่ควรทำ

หนึ่งตาบอดหนึ่งเดียวไม่เกี่ยวใคร
แต่บอดใจคลุกคละโหมกระหน่ำ
กระพือบอดพร่าหม่นจนฟ้าดำ
และล่วงล้ำอย่างร้ายเกินหมายยั้ง

หลับตาเถิดให้บอดให้หนวกใบ้
เพื่อรอให้ธรรมเพิ่มเติมไฟหวัง
หยุดสักนิดคิดให้รอบชอบหรือยัง
ที่ประดังประเดทุ่มเทแรง

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมกลอนวลีลักษณา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana
11 เมษายน 2010, 10:32:AM
ศรีอุดร
Special Class

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 66
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 137


...คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก...


« ตอบ #2 เมื่อ: 11 เมษายน 2010, 10:32:AM »
ชุมชนชุมชน

สาธุ  "ทางธรรม" ชี้นำส่ง
เริ่มนึกปลง กับชีวิน สิ้นสงสัย
มีชีวิต เกิดขึ้น มาทำไม
เพิ่อชดใช้ เวรกรรม ที่ทำมา ..ใช่ไหม




อันคนเรา เกิดมา พร้อมตราบาป
ที่ไม่ทราบ หลายอย่าง แต่ปางก่อน
เกิดมาเพื่อ ใช้กรรม ตามขั้นตอน
ที่บั่นทอน ชีวี วิถีกรรม

หรือเกิดมา เพื่อตรองตรึก สำนึดผิด
แล้วเร่งคิด ทำดี มิตกต่ำ
ใช้บาปหรือ ทำดี เป็นที่จำ
แล้วแต่ทำ คิดดูเทอญ เจริญพร....
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ.........ประเสริฐสุดซ่อนใส่เสียในฝัก
สงวนคมสมนึกใครฮึกฮัก...............จึงค่อยชักเชือดฟันให้บรรลัย -สุนทรภู่
11 เมษายน 2010, 11:04:AM
ศรีอุดร
Special Class

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 66
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 137


...คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก...


« ตอบ #3 เมื่อ: 11 เมษายน 2010, 11:04:AM »
ชุมชนชุมชน


มืดบอดกลบดวงตาแสงฟ้าดับ
แต่ใจกลับสุกสว่างพร่างไสว
มืดบอดในกมลเกินหม่นใด
ยากจุดไฟแห่งธรรมน้อมนำทาง

มองไม่เห็นเช่นตาเต็มฟ่าคลุม
อาจตกหลุมชนตอที่รอขวาง
สองแขนยังแกว่งคลำนำท้าววาง
ทุกก้าวย่างมุ่งมั่นไม่พรั่นพรึง

มีตาสองมองเห็นกลับเป็นโทษ
ด้วยความโกรธกรุ่นเกลียดที่เหยียดขึง
โหมกระหน่ำซ้ำหนจนเกลียวตึง
เกินคำนึงใคร่ครวญ..ที่ควรทำ

หนึ่งตาบอดหนึ่งเดียวไม่เกี่ยวใคร
แต่บอดใจคลุกคละโหมกระหน่ำ
กระพือบอดพร่าหม่นจนฟ้าดำ
และล่วงล้ำอย่างร้ายเกินหมายยั้ง

หลับตาเถิดให้บอดให้หนวกใบ้
เพื่อรอให้ธรรมเพิ่มเติมไฟหวัง
หยุดสักนิดคิดให้รอบชอบหรือยัง
ที่ประดังประเดทุ่มเทแรง



มีเรื่องเล่ากล่าวถึงครั้งหนึ่งว่า
ชายตาบอดสองคนมาพาทุ่มเถียง
กระนั้นมีช้างใหญ่เดินรายเรียง
สองคนเพียงคิดสนุกสุขชีวา

ช้างนั้นตัวอย่างไรไม่เคยเห็น
รูปร่างเป็นอย่างไรไม่รู้หน้า
สองคนจึงคลำจากลักษณา
เถียงกันว่าช้างเป็นตัวเช่นไร

ชายหนึ่งคลำข้างบนไปโดนหู
"ช้างมีรูตัวแบนแบนแสนจะใหญ่
อีกขรุขระรอยห่างต่างกันไป
เจ้าเชื่อไหมช้างเป็นตัวเช่นนี้"

ชายหนึ่งคลำลูบไล้ไปโดนหาง
"เฮ้ย..ตัวช้างมันยาวยาวสาวดูซี่
ตัวป้อมป้อมเป็นลำคลำดูมี
ช้างตัวที่เจ้าบอกคงหลอกกัน"

สองคนเถียงเสียงดังกันทั้งคู่
ว่าที่ดูเอ็งผิดจงคิดมั่น
ข้าคลำดูกับมืออย่าดื้อดัน
ที่บอกนั้นจงคิดพินิจดู

ชายตาดีเดินผ่านมาเห็นตาบอด
ส่ายหัวทอดหายใจคล้ายอดสู
จึงชี้แจงถ้อยความตามคนรู้
ทั้งสองผู้ถูกผิดคิดให้ดี

"อันชายแรกคลำดูนั่นหูช้าง
ชายผู้สองคลำหางตรงช้างขี้
อันช้างนั้นตัวใหญ่กว่าใครชี้
และก็มีสี่เท้าเอาไว้เดิน"

ชายทั้งสองหยุดเถียงเพียงพินิจ
โอ้..ท่านคิดแจ้งพวกฉันขอสรรเสริญ
คนตาบอด..บอดตา ล้าเหลือเกิน
คนคงเมินตลอด ถ้าบอดใจ......
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ.........ประเสริฐสุดซ่อนใส่เสียในฝัก
สงวนคมสมนึกใครฮึกฮัก...............จึงค่อยชักเชือดฟันให้บรรลัย -สุนทรภู่
11 เมษายน 2010, 06:53:PM
ศรีอุดร
Special Class

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 66
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 137


...คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก...


« ตอบ #4 เมื่อ: 11 เมษายน 2010, 06:53:PM »
ชุมชนชุมชน

“ศรีอุดร” เก่งการ ด้านธรรมา
เป็นมหา หรือเปรียญ  เพียรสั่งสอน
คนเมืองน้ำ ได้คิด จิตนิวรณ์
จะทุกข์ร้อน เพื่ออะไร ทำใจปลง

เราเกิดมา ครั้งนี้ เพราะมีบาป
ควรรับทราบ  รักโลภ โกรธและหลง
อีกร่างกาย สังขาร ไม่ยืนยง
เหมือนกำกง  กำเกวียน เวียนเกิดมา

เราเกิดมา ทั้งที ทำดีเถิด
จะลุเลิศ ทางแจ้ง แห่งศาสนา
ใครทำดี ได้ดี ตามเวรา
พระพุทธา  สอนไว้ ให้คนทำ





"คนเมืองน้ำ"น้ำอะไรใสหรือเปล่า
น้ำใดเล่าล้ำเลิศประเสริฐศรี
เหมือนน้ำจิตน้ำใจน้ำไมตรี
น้ำเหล่านี้ใช่ไหมให้บอกกัน

น้ำนิ่งนิ่งใสใสใครจะรู้
ลึกตื้นดูไม่เห็นเป็นแม่นมั่น
ขืนรีบลงตรงไปเกิดภัยพลัน
ใครจะช่วยเรานั้นเกินการเดา

น้ำใดใดในโลกจะยกอ้าง
หลายตัวอย่างเกินเปรียบยกเทียบเท่า
น้ำหนึ่งหยดต้นไม้โตโขนานเนา
น้ำหนึ่งหยดรดใจเราเศร้าก็จาง
..
ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ.........ประเสริฐสุดซ่อนใส่เสียในฝัก
สงวนคมสมนึกใครฮึกฮัก...............จึงค่อยชักเชือดฟันให้บรรลัย -สุนทรภู่
11 เมษายน 2010, 10:55:PM
ศรีอุดร
Special Class

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 66
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 137


...คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก...


« ตอบ #5 เมื่อ: 11 เมษายน 2010, 10:55:PM »
ชุมชนชุมชน

คนเมืองน้ำ” ชื่อนี้ มีความหมาย ( คนชลบุรี )
เมืองหาดทราย  ทะเลงาม สมนามอ้าง
บูรพาวิถี  นั้นหรือ  คือชื่อทาง
อยู่กึ่งกลาง  พื้นอ่าวไทย  ใครชอบเยือน

 น้ำที่บอก  เอ่ยออก บอก“น้ำใจ”
เรื่องทุกข์ร้อน  ช่วยได้ คล้ายเป็นเพื่อน
งานหนักเบา ทำให้ ไม่แชเชือน
เปรียบเสมือน  ครอบครัว  ตัวเราเอง

.......คนเมืองน้ำ



"คนเมืองน้ำ"นามนี้หรือเป็นชื่อแฝง
ท่านชี้แจงแจ้งมาภาษาเก่ง
เหมือนดนตรีสนั่นเล่นบรรเลง
ด้วยบทเพลงอ่อนหวานผ่านหัวใจ

อีกเป็นคนสนใจในธรรมะ
อ่านวาทะข้าพเจ้าเข้าใจได้
ทั้งที่ตนมิหวังกำลังใคร
จะฝักใฝ่พบพานมาอ่านฟัง

เพียงเผยแพร่แผ่ธรรมตามรอยพุทธ
บริสุทธิ์ผดุงอย่างมุ่งหวัง
เป็นดินน้อยด้อยค่าถ้าชิงชัง
"เพียงรองเท้าผู้ยังกำลังเดิน".
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ.........ประเสริฐสุดซ่อนใส่เสียในฝัก
สงวนคมสมนึกใครฮึกฮัก...............จึงค่อยชักเชือดฟันให้บรรลัย -สุนทรภู่
11 เมษายน 2010, 10:57:PM
..ทักษมน..
Special Class

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 81
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 339



« ตอบ #6 เมื่อ: 11 เมษายน 2010, 10:57:PM »
ชุมชนชุมชน

หนูแต่งกลอน ธรรมะ ได้ค่ะท่าน
แต่ในบ้าน วันนี้ มีงานแห่
บวกคะแนนอย่างเดียว..แต่เหลียวแล
จะกล่าวแก้...วันอื่น...ให้ชื่นใจ

                                                                         (หนูกราบท่านศรีอุดร และ ท่านคนเมืองน้ำนะคะ)
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

โลกนี้สีชมพู
11 เมษายน 2010, 11:08:PM
ศรีอุดร
Special Class

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 66
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 137


...คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก...


« ตอบ #7 เมื่อ: 11 เมษายน 2010, 11:08:PM »
ชุมชนชุมชน

หนูแต่งกลอน ธรรมะ ได้ค่ะท่าน
แต่ในบ้าน วันนี้ มีงานแห่
บวกคะแนนอย่างเดียว..แต่เหลียวแล
จะกล่าวแก้...วันอื่น...ให้ชื่นใจ

                                                                         (หนูกราบท่านศรีอุดร และ ท่านคนเมืองน้ำนะคะ)



ตราบใดที่เราได้หายใจอยู่
ตราบใดผู้พินิจยังคิดได้
ตราบใดคนดีดียังมีไว้
ตราบนั้นไซร้แล้วแต่ท่านจะหันมา.


ไม่ต้องกราบนะครับผมไม่ใช่พระนะครับ...


ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ.........ประเสริฐสุดซ่อนใส่เสียในฝัก
สงวนคมสมนึกใครฮึกฮัก...............จึงค่อยชักเชือดฟันให้บรรลัย -สุนทรภู่
11 เมษายน 2010, 11:21:PM
สุวรรณ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 565
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,487


หวังทุกชีวิต สถิตไว้แต่สิ่งดี


« ตอบ #8 เมื่อ: 11 เมษายน 2010, 11:21:PM »
ชุมชนชุมชน

เห็นทางธรรมนำส่องครรลองชีพ
ดุจประทีปท่ามกลางความสับสน
ช่วยปัดเป่าเบาบางล้างกมล
ที่อับจนให้สว่างห่างหมอกควัน

พลางขัดใจใสแววดังแก้วรัตน์
เกิดจำรัสมาดหมายดังใจมั่น
ยิ้มผ่องใสจากใจขึ้นอีกครัน
แย้มรับขวัญสู่ธรรมนำสู่ทรวง
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
11 เมษายน 2010, 11:45:PM
ศรีอุดร
Special Class

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 66
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 137


...คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก...


« ตอบ #9 เมื่อ: 11 เมษายน 2010, 11:45:PM »
ชุมชนชุมชน

เห็นทางธรรมนำส่องครรลองชีพ
ดุจประทีปท่ามกลางความสับสน
ช่วยปัดเป่าเบาบางล้างกมล
ที่อับจนให้สว่างห่างหมอกควัน

พลางขัดใจใสแววดังแก้วรัตน์
เกิดจำรัสมาดหมายดังใจมั่น
ยิ้มผ่องใสจากใจขึ้นอีกครัน
แย้มรับขวัญสู่ธรรมนำสู่ทรวง


เมื่อเห็นธรรมนำส่องครรลองชีพ
ขอให้รีบนำชีวิตมิติดบ่วง
กิเลศร้ายหมายผลเหมือนกลลวง
ใครก้าวล่วงเป็นทาสอำนาจทราม.

เรื่องทำดีทำได้ยากลำบากรู้
บางครั้งสู้สิ้นเกียรติ์ถูกเหยียดหยาม
จงอย่าท้อตั้งหน้าพยายาม
สร้างดีงามทุกวัน...."วันละนิด"
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ.........ประเสริฐสุดซ่อนใส่เสียในฝัก
สงวนคมสมนึกใครฮึกฮัก...............จึงค่อยชักเชือดฟันให้บรรลัย -สุนทรภู่
12 เมษายน 2010, 12:02:AM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 12 เมษายน 2010, 12:02:AM »
ชุมชนชุมชน

อันทางธรรม เช่นใด ใคร กำหนด
ความงามงด เช่นใด ใครลิขิต
ความดีของอันธพาลกับโปลิศ
ใครถูกผิดคิดได้อย่างไรเอย

ขอร่วมทางธรรมด้วยครับ
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
12 เมษายน 2010, 12:24:AM
ชมพูไพร
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 63
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 264



« ตอบ #11 เมื่อ: 12 เมษายน 2010, 12:24:AM »
ชุมชนชุมชน

เมื่อมนุษย์มีธรรมประจำกาย
ทุกข์มลายหายเลิศเจิดมหันต์
เหมือนกำแพงมีแรงต้านพาลอัศจรรย์
ปัองคงมั่นกันภัยในสากล(โลก)

 หัวเราะเยาะ
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
12 เมษายน 2010, 12:41:AM
สายลมสีขาว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 261
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 823


จงพัดพา ความเป็นไปได้


« ตอบ #12 เมื่อ: 12 เมษายน 2010, 12:41:AM »
ชุมชนชุมชน

เส้นทางทำ เป็นดุจแก้ว ทอแผ่วแสง
อย่างอ่อนโยน ทรงแรง แผลงไพศาล
ช่างอบอุ่น อ่อนหวาน ละมุนมาน
ดั่งสายธาร ผ่านชีพ ประทีปใจ

หากเปรยเปรียบ เทียบคู่ กับดวงแก้ว
คงส่องแวว เตือนสติ ไม่ริไหว
คงตั้งมั่น พระธรรม นำทางไป
ดุจเส้นสาย ผ่องไอ ในทางเดิน

ฟ้าจะมืด คืนจะมัว ใจกลัวหลง
หากแต่จิต มั่นคง ดุงตรงเหิน
ไม่หลุดลอย พลอยลิ่ว ปลิ่วไปเกิน
ใจนี้หนา หรือสะเทิ้น สติลอย

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s