ยังงดงามน้ำฟ้า สุดตาไกล
ทะเลไหวระลอกริ้ว ลมพลิ้วแผ่ว
เลื่อมวับวาวพราวพร่าง กระจ่างแวว
ดังเกร็ดแก้วประกาย วาบพรายตา
คลื่นคลอเคล้า เย้าอยู่ เคียงคู่หาด
ยามซัดสาด เสียงสั่ง ดังครวญหา
พลิ้วพลิกคว้าง ใบไม้ ปลิวไกลตา
ดุจสายใย เสน่หา เลื่อนลาลับ
ฟ้ายังครอบ รอบทะเล คลื่นเห่กล่อม
หากโอบล้อม คืนคลาย แล้วกลายกลับ
คืออ้อมกอดแห่งรัก ที่หักยับ
เคยประดับ กลับพัง สุดรั้งไว้
เสียงคลื่นครวญ หวลหา คล้ายว่ายัง-
ย้ำความหลัง ครั้งนั้น จนหวั่นไหว
ในวันที่ หม่นเศร้า ไร้เงาใคร
คืออาลัย อาวรณ์ ยากผ่อนปรน
ตัดสิ้นสายเยื่อใย จากใครหนึ่ง
กลับจะตรึง ตรวน-ราน ยิ่งผลาญ-ป่น
ยิ่งตัดรอน ยิ่งเร้า เข้าหลอม-ลน
ยากหลุดพ้น รอยหวาน เคยผ่านพบ
ดังคลื่นคง ครวญคร่ำ ร่ำอาลัย
ก็เช่นใคร ช้ำอยู่ ไม่รู้จบ
หลายระลอก หยอก-เยือน แล้วเลือนลบ
ยากสงบ ลำนำ ยังคร่ำครวญ
อกใจเอ๋ย เคยแอบ แนบด้วยรัก
กลับสลัก รอยช้ำ โศกกำสรวล
สายใยหวาน ซ่านซึ้ง คล้ายตรึงตรวน
ยังแย้มยวน หยอกย้ำ ให้คำนึง
เสียงคลื่นเห่ ทะเลห่ม ลมสะบัด
วานช่วยพัด พรากฤทธิ์ ความคิดถึง
กับร่องรอย เสน่หา เคยตราตึง
และพรากซึ้ง แสนเศร้า เคล้าลมลอย