ความเอ๋ยความรัก
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
02 พฤศจิกายน 2024, 06:16:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความเอ๋ยความรัก  (อ่าน 11289 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
12 เมษายน 2009, 09:25:AM
พิมญดา
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 29
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 57



เว็บไซต์
« เมื่อ: 12 เมษายน 2009, 09:25:AM »
ชุมชนชุมชน



                   ความเอ๋ยความรัก           ยากประจักษ์ว่าพักอยู่หนไหน
เที่ยวเซาะหาเรื่อยมาจนอ่อนใจ          สุดปลายฟ้าสุลาลัยหาไม่เจอ
หรือว่ารักเล่นกลวนไปทั่ว                       ถึงไม่กลัวว่าใครจะพลั้งเผลอ
กลายเป็นรักซ้ำซ้อนจนใจเบลอ          รีบเสนอแจกจ่ายขายรักเอย



  สักวา                ความรัก           นั้นอยู่ไหน
  อยู่ใกล้ใจ           หรืออยู่ใน         บ้านกลอนนี้
 ห่างไปวัน        เหมือนหาย      ไปเป็นปี
 ใจนารี              ว้าวุ่นนัก          รักปักทรวง
 จะแกล้งลอง      ไม่อ่าน             สักวันหนอ
 จะเฝ้ารอ           ดูหัวใจ            ใครหวงห่วง
 หัวใจเอ๋ย          เหนื่อยไหม      ใครเขาลวง
 ถึงได้หลง         ติดบ่วง             ห้วงรักเอย


...กลับมารับผิดชอบใจ..


กลับมารับผิดชอบใจ   ทำใครไหวหวั่นฝันถึง
ตกอยู่ในห้วงคำนึง   คิดถึงอยู่ทุกเวลา

ยามแลสบตาหวานนัก         ชะงักด้วยแรงเสน่หา
หยาดเยิ้มเมื่อคราสบตา         อุราปั่นป่วนฤดี

อย่ามาคอยทำหน้าตาย         แม้นหมายจองใจน้องนี้
ศักดิ์ศรีของน้องพึงมี         คนดีเขาออกประตู

มาอยู่บ้านฟ้าเพียงดาว        หมอกขาวเมื่อยามเช้าตรู่
ดอกหญ้าไหวงามน่าดู        ลมกรูพลิ้วเย็นฤทัย

อย่าปล่อยให้คอยปลายฟ้า        กลับมาหาหน่อยได้ไหม
มารับผิดชอบหัวใจ        ฝันใฝ่คิดถึงแต่คุณ


ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ไม่ใช่กวีศรีลานนา  เพียงแค่ใช้ภาษาสื่อเคลื่อนไหว  จะสุขทุกข์เล่าความตามเป็นไป  สื่อสารในบทกลอนอ้อนน้ำคำ
12 เมษายน 2009, 10:56:AM
tna
Special Class LV3.9
นักกลอนหาทางกลับบ้าน
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 141
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 788



« ตอบ #1 เมื่อ: 12 เมษายน 2009, 10:56:AM »
ชุมชนชุมชน




สักวาความรัก
---------------------
สักวา ความรัก สลักเวท
มีมนต์เสก พาใจ ให้ไหวหวั่น
เป็นมายา  พาหวน ทวนชีวัน
เปลี่ยนแปรผัน ลิขิต ชีวิตคน

มีบ่วงบาศ เทวา เป็นอาลักษณ์
คล้องกระหวัด กวัดเกี่ยว เที่ยวซอกหน
ดังแพรไหม ใยสาย พรายเล่ห์กล
ร้อยเวียนวน สนสอย ถ้อยวจี

หว่านเมล็ด รักแอบ แนบในเหลือบ
ที่ฉาบเคลือบ รสหวาน หว่านฉวี
รอวันผลิ แตกงอก ดอกรักพลี
สายชีวี พิษรัก สลักตรึง
 
เวลา...วารี...ชีวี...รำพัน


ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เวลา..คลาไคล้  วารี...รี่ไหล   ชีวี..เวียนว่าย  รำพัน...ฝันไป  อาลัย....เวลา
12 เมษายน 2009, 12:06:PM
พิมญดา
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 29
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 57



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 12 เมษายน 2009, 12:06:PM »
ชุมชนชุมชน




สักวาความรัก
---------------------
สักวา ความรัก สลักเวทย์
มีมนต์เสก พาใจ ให้ไหวหวั่น
เป็นมายา  พาหวน ทวนชีวัน
เปลี่ยนแปรผัน ลิขิต ชีวิตคน

มีบ่วงบาศ เทวา เป็นอาลักษณ์
คล้องกระหวัด กวัดเกี่ยว เที่ยวซอกหน
ดังแพรไหม ใยสาย พรายเล่ห์กล
ร้อยเวียนวน สนสอย ถ้อยวจี

หว่านเมล็ด รักแอบ แนบในเหลือบ
ที่ฉาบเคลือบ รสหวาน หว่านฉวี
รอวันผลิ แตกงอก ดอกรักพลี
สายชีวี พิษรัก สลักตรึง
 
เวลา...วารี...ชีวี...รำพัน








สักวา ความรัก สลักจิต
ขอสักนิด คิดถึง   กันบ้างไหม
อยู่ขอบฟ้า ไกลห่าง ทางแสนไกล
คนห่วงใย  คอยหา  ฟ้าปลายดอย

บนทางใจ ใฝ่รอ  ขอหวนกลับ
อย่าลาลับ  ลางเลือน  เดือนเหงาหงอย
ดาวทักท้วง  ห่วงสาว  เจ้าใจลอย
นั่งตาปรอย  มองฟ้า  หาบางใคร





ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ไม่ใช่กวีศรีลานนา  เพียงแค่ใช้ภาษาสื่อเคลื่อนไหว  จะสุขทุกข์เล่าความตามเป็นไป  สื่อสารในบทกลอนอ้อนน้ำคำ
12 เมษายน 2009, 12:10:PM
จะไม่เด็ด
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 109
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 440



« ตอบ #3 เมื่อ: 12 เมษายน 2009, 12:10:PM »
ชุมชนชุมชน

อาจเพราะรักอยู่ไกลมองไม่เห็น
หรือหลบเร้นความในไม่ไคร่เผย
สุดรำพันมิหวังได้รู้นัยเลย
เพียงวางเฉยเรื่อยไปให้สนเท่ห์

จนความรักที่เก็บซ่อนกัดกร่อนจิต
หวังปกปิดขนาบในไม่ไขว้เขว
เกิดรัญจวนป่วนใจให้ลังเล
ให้โถมเทเรรวนชวนละเมอ

เธอเป็นใครใจถึงข้องเหมือนต้องจิต
โดนรักขวิดทิ่มทรวงลวงให้เผลอ
ตามต่อติดด้วยสะท้านผ่านละเมอ
ไม่ใช่เธอ...แล้วใคร...ที่ใจรอ..อิอิ

..แบบว่าพอได้ไหมครับ..อานุภาพแห่งความรัก...รุนแรง...หนักหน่วง..รวดเร็ว

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
12 เมษายน 2009, 12:37:PM
พิมญดา
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 29
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 57



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 12 เมษายน 2009, 12:37:PM »
ชุมชนชุมชน


อาจเพราะรักอยู่ไกลมองไม่เห็น
หรือหลบเร้นความในไม่ไคร่เผย
สุดรำพันมิหวังได้รู้นัยเลย
เพียงวางเฉยเรื่อยไปให้สนเท่ห์

จนความรักที่เก็บซ่อนกัดกร่อนจิต
หวังปกปิดขนาบในไม่ไขว้เขว
เกิดรัญจวนป่วนใจให้ลังเล
ให้โถมเทเรรวนชวนละเมอ

เธอเป็นใครใจถึงข้องเหมือนต้องจิต
โดนรักขวิดทิ่มทรวงลวงให้เผลอ
ตามต่อติดด้วยสะท้านผ่านละเมอ
ไม่ใช่เธอ...แล้วใคร...ที่ใจรอ..อิอิ

..แบบว่าพอได้ไหมครับ..อานุภาพแห่งความรัก...รุนแรง...หนักหน่วง..รวดเร็ว








ฟังรำพันจะเด็ดแล้วใจหวาม
คำนิยามว่ารักหวานจริงหนอ
พูดจากใจหรือแค่ลวงถ่วงให้รอ
อยากจะขอย้ำสักหน่อยค่อยว่ากัน

อันความรักแอบไว้ใครจะรู้
แอบซ่อนอยู่ตรงไหนใจของฉัน
เฝ้าเก็บกวาดห้องใจอยู่ทุกวัน
ใจของฉันไม่เห็นมีที่ใครจอง ขอจีบ...ได้ป่ะ


...อิอิ..แบบว่า...มองมะเห็นอะ...ความรักอยู่ตรงไหน..สงกรานต์เที่ยวไหนค่ะคุณจะไม่เด็ด.. อายแบบน่ารักซึ้งๆ
ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ไม่ใช่กวีศรีลานนา  เพียงแค่ใช้ภาษาสื่อเคลื่อนไหว  จะสุขทุกข์เล่าความตามเป็นไป  สื่อสารในบทกลอนอ้อนน้ำคำ
12 เมษายน 2009, 02:15:PM
สายลมสีขาว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 261
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 823


จงพัดพา ความเป็นไปได้


« ตอบ #5 เมื่อ: 12 เมษายน 2009, 02:15:PM »
ชุมชนชุมชน

สักวา ความรัก สลักมั่น
ไม่เคยผัน ไปตาม กาลอัปสร
จะอยู่ยง เฉกเช่น ภูผาดร
มิเคยพลั้ง สั่นครอญ หรือหวั่นใจ

ด้วยเพราะรัก และเข้าใจ อย่างลึกซึ้ง
จนตัวพึง เห็นค่า ไม่หวั่นไหน
บุพผาป่า ยอมเป็น ที่ต้องใจ
มิหาใช่ รูปลักษณ์ ที่ต้องตา

อันความรัก ของฉัน นั้นหมายถึง
ความดีงาม ตราตรึง เช่นปักษา
ที่กางปีก โบยบิน ขึ้นสูงฟ้า
เป็นหงส์สา ในใจ ใช่กายา
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
12 เมษายน 2009, 09:05:PM
พิมญดา
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 29
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 57



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 12 เมษายน 2009, 09:05:PM »
ชุมชนชุมชน

สักวา ความรัก สลักมั่น
ไม่เคยผัน ไปตาม กาลอัปสร
จะอยู่ยง เฉกเช่น ภูผาดร
มิเคยพลั้ง สั่นครอญ หรือหวั่นใจ

ด้วยเพราะ และเข้าใจ อย่างลึกซึ้ง
จนตัวพึง เห็นค่า ไม่หวั่นไหน
บุพผาป่า ยอมเป็น ที่ต้องใจ
มิหาใช่ รูปลักษณ์ ที่ต้องตา

อันความรัก ของฉัน นั้นหมายถึง
ความดีงาม ตราตรึง เช่นปักษา
ที่กางปีก โบยบิน ขึ้นสูงฟ้า
เป็นหงส์สา ในใจ ใช่กายา




สักวา  ความรัก สลักมั่น
อ่านแล้วฝัน ไปตาม งานอักษร
กวีหวาน  แว่วเสียง  สำเนียงกลอน
มาออดอ้อน ฝากรัก จากหัวใจ

เปรียบว่ารัก นั่นเป็น  เช่นปักษา
สกุณา  โบยบิน ฟ้ากว้างใหญ่
พร้อมจะมอบ ความรัก จากข้างใน
ให้คนไกล ปลายฟ้า มาภิรมย์
อายจัง
ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ไม่ใช่กวีศรีลานนา  เพียงแค่ใช้ภาษาสื่อเคลื่อนไหว  จะสุขทุกข์เล่าความตามเป็นไป  สื่อสารในบทกลอนอ้อนน้ำคำ
12 เมษายน 2009, 09:29:PM
พิมญดา
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 29
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 57



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 12 เมษายน 2009, 09:29:PM »
ชุมชนชุมชน


ฟังรำพันจะเด็ดแล้วใจหวาม
คำนิยามว่ารักหวานจริงหนอ
พูดจากใจหรือแค่ลวงถ่วงให้รอ
อยากจะขอย้ำสักหน่อยค่อยว่ากัน

อันความรักแอบไว้ใครจะรู้
แอบซ่อนอยู่ตรงไหนใจของฉัน
เฝ้าเก็บกวาดห้องใจอยู่ทุกวัน
ใจของฉันไม่เห็นมีที่ใครจอง ขอจีบ...ได้ป่ะ

ความเอ๋ยความรัก
หมายฟูมฟัก...รักอยู่...เป็นคู่สอง
กลับสลาย...กลายขม...ไม่สมปอง
จึงต้องหมอง...ใจหม่น...บนทางใจ

หวังเคียงคู่...ชู้ชม...ไม่สมหวัง
เมื่อรักพัง...ช่างช้ำ...เกินคำไข
หลั่งน้ำตา...มาฝาก...ก่อนจากไป
แม้อาลัย...ก็ไม่ฝืน...คืนรอยเดิม....



..ใจชายกระไรหรือ..

ความเอ๋ยความรัก
ใยมาหักรักร้างไม่สร้างเสริม
ใยมาคิดจะลดไม่เพิ่มเติม
ใยริเริ่มแยกทางระหว่างเรา

ใครกันหนอก่อเหตุไม่ติดต่อ
ปล่อยคนรอเคว้งคว้างบนทางเหงา
แล้วมาตัดสัมพันธิ์คำว่าเรา
แล้วยังเอาแต่ใจไม่คิดดู

เกิดเป็นหญิงรักจริงไม่เสแสร้ง
ไม่แสดงหลายใจให้อดสู
คิดสักนิดได้ไหมยอดพธู
จะคบชู้สู่ชายไม่หมายทำ

หากไม่เชื่อใจน้องต้องขอโทษ
พี่ไม่โปรดก็จะทนจมความช้ำ
มีคำพูดมาฝากจากน้ำคำ
น้องคงย้ำรักพี่นิรันดร

ใจของชายกระไรใจดำหรือ
ขอเชื่อถือกวีศรีอักษร
ที่พี่เห็นเป็นเพียงการต่อกลอน
มิใช่หลอนให้พี่ช้ำระกำทรวง
 ไปสวรรค์

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ไม่ใช่กวีศรีลานนา  เพียงแค่ใช้ภาษาสื่อเคลื่อนไหว  จะสุขทุกข์เล่าความตามเป็นไป  สื่อสารในบทกลอนอ้อนน้ำคำ
12 เมษายน 2009, 10:49:PM
กวีพเนจร
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 119
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,481


ปิดบัง...ซ่อนเร้น...ตัวตน


« ตอบ #8 เมื่อ: 12 เมษายน 2009, 10:49:PM »
ชุมชนชุมชน


ความเอ๋ยความรัก...
มาทายทักดวงใจให้ถวิล
เมื่อมีรักเหมือนนกที่โผบิน
สู่ที่ถิ่นแดนสรวงที่โสภี

ความเอ๋ยความรัก...
จะฟูมฟักรักนี้ไม่หน่ายหนี
แม้ยากนักจักรักษารักให้ดี
มิให้มีภัยพาลพราก...ดวงใจ

ว้า...ไม่ได้แต่งซะนาน อาจจะไม่ดีนะคับ ขอโทดด้วย
ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า


กวีพเนจร...นักกลอนเร่ร่อนแห่งโลกอักษรา
12 เมษายน 2009, 11:04:PM
พิมญดา
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 29
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 57



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 12 เมษายน 2009, 11:04:PM »
ชุมชนชุมชน


ความเอ๋ยความรัก...
มาทายทักดวงใจให้ถวิล
เมื่อมีรักเหมือนนกที่โผบิน
สู่ที่ถิ่นแดนสรวงที่โสภี

ความเอ๋ยความรัก...
จะฟูมฟักรักนี้ไม่หน่ายหนี
แม้ยากนักจักรักษารักให้ดี
มิให้มีภัยพาลพราก...ดวงใจ

ว้า...ไม่ได้แต่งซะนาน อาจจะไม่ดีนะคับ ขอโทษด้วย


..รักเอ๋ย..



ความเอ๋ยความรัก
หากเหนื่อยนักพักลงจงหลับไหล
มีหอห้องคล้องรักอยู่ข้างใน
คือหัวใจดวงน้อยคอยรักมา

ความเอ๋ยความรัก
อย่าชะงักเลยนะความรักจ๋า
สู้ถนอมกลอนกานท์อักษรา
สื่อภาษาหวานไหวในใจคน

..มิเป็นไรค่ะ..แต่งไม่ค่อยเก่งเหมือนกันค่ะ.พอกันและค่ะ ยิ้มแก้มแดง
ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ไม่ใช่กวีศรีลานนา  เพียงแค่ใช้ภาษาสื่อเคลื่อนไหว  จะสุขทุกข์เล่าความตามเป็นไป  สื่อสารในบทกลอนอ้อนน้ำคำ
12 เมษายน 2009, 11:18:PM
กวีพเนจร
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 119
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,481


ปิดบัง...ซ่อนเร้น...ตัวตน


« ตอบ #10 เมื่อ: 12 เมษายน 2009, 11:18:PM »
ชุมชนชุมชน


หอมละมุนอุ่นไอเมื่อใกล้ชิด
ยิ่งสนิทสบตาพาฝันถึง
ทุกนาทีมีรักเฝ้ารำพึง
ทุกคำนึงรักเฝ้าเจ้าชีวา

นี่น่ะหรือคืออานุภาพแห่งความรัก
สวยงามนักหลับใหลให้ฝันหา
แม้ยามตื่นอยากพบประสบตา
เธอมีค่ามากนักรักนิรันดร์

ความเอ๋ยความรัก...
จะฟูมฟักดวงใจเจ้าจอมขวัญ
เก็บความซึ้งตรึงใจใช่รำพัน
ให้คำมั่นรักเจ้าหมดหัวใจ
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า


กวีพเนจร...นักกลอนเร่ร่อนแห่งโลกอักษรา
13 เมษายน 2009, 08:17:AM
พิมญดา
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 29
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 57



เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 13 เมษายน 2009, 08:17:AM »
ชุมชนชุมชน


หอมละมุนอุ่นไอเมื่อใกล้ชิด
ยิ่งสนิทสบตาพาฝันถึง
ทุกนาทีมีรักเฝ้ารำพึง
ทุกคำนึงรักเฝ้าเจ้าชีวา

นี่น่ะหรือคืออานุภาพแห่งความรัก
สวยงามนักหลับใหลให้ฝันหา
แม้ยามตื่นอยากพบประสบตา
เธอมีค่ามากนักรักนิรันดร์

ความเอ๋ยความรัก...
จะฟูมฟักดวงใจเจ้าจอมขวัญ
เก็บความซึ้งตรึงใจใช่รำพัน
ให้คำมั่นรักเจ้าหมดหัวใจ





น้อมใจอ่านอักษราภาษาหวาน
เปิดตำนานความรักเอ๋ยอยู่ไหน
แค่ได้อ่านหวานซึ้งตรึงฤทัย
แม้หลับไหลยังเฝ้าฝันนั้นเพียงเธอ

ต่างคนต่างมีใจเสน่หา
เปิดหน้าต่างดวงตามาเสนอ
ทุกเวลาพร่ำหวานปานละเมอ
รักเพียงเธอคนไกลปลายฟ้างาม

ความเอ๋ยความรัก
มีแต่คนทายทักจักขอถาม
อานุภาพแห่งรักใต้ฟ้าคราม
ช่างงดงามหวานนักรักคนไกล
 อายจัง...
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ไม่ใช่กวีศรีลานนา  เพียงแค่ใช้ภาษาสื่อเคลื่อนไหว  จะสุขทุกข์เล่าความตามเป็นไป  สื่อสารในบทกลอนอ้อนน้ำคำ
13 เมษายน 2009, 08:54:AM
tna
Special Class LV3.9
นักกลอนหาทางกลับบ้าน
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 141
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 788



« ตอบ #12 เมื่อ: 13 เมษายน 2009, 08:54:AM »
ชุมชนชุมชน





สังคีต...ดาวดึง
-------------------------
ถ้อยวจี รำพัน หวั่นสวาท
นรชาติ วางวาย ยังหมายขืน
ไม่มอดม้วย มลาย หมายยั่งยืน
เริงระรื่น ฟื้นเสพ  สังเขปใจ

ดั่งสังคีต แดนฟ้า ดาวดึง
เกาะเกี่ยวตรึง ห้วงลึก สำนึกไหว
มธุรส ถ้อยหวาน สะท้านใจ
เทวาลัย ดุริยางค์ สำอางกลอน

เวลา...วารี...ชีวี...รำพัน



ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เวลา..คลาไคล้  วารี...รี่ไหล   ชีวี..เวียนว่าย  รำพัน...ฝันไป  อาลัย....เวลา
13 เมษายน 2009, 09:56:AM
พิมญดา
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 29
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 57



เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 13 เมษายน 2009, 09:56:AM »
ชุมชนชุมชน










สังคีต...ดาวดึง
-------------------------
ถ้อยวจี รำพัน หวั่นสวาท
นรชาติ วางวาย ยังหมายขืน
ไม่มอดม้วย มลาย หมายยั่งยืน
เริงระรื่น ฟื้นเสพ  สังเขปใจ

ดั่งสังคีต แดนฟ้า ดาวดึง
เกาะเกี่ยวตรึง ห้วงลึก สำนึกไหว
มธุรส ถ้อยหวาน สะท้านใจ
เทวาลัย ดุริยางค์ สำอางกลอน

เวลา...วารี...ชีวี...รำพัน





..ถ้อยรำพัน..

ถ้อยรำพันหวั่นนักความรักเอ๋ย
มาคุ้ยเคยเชยชมพรมอักษร
ดั่งสังคีตดาวดึงซึ้งบทกลอน
มาออดอ้อนวอนเว้าเอาใจนาง

ใช่อัปสรธิดาฟ้าสวรรค์
แค่จำนรรจ์บทกวีที่สรรค์สร้าง
มธุรสหวานวจีมิอัปปาง
มิลาร้างหายไปในสายลม

เป็นแม่ญิงเขียนกลอนร่อนเร่มา
พักชายคาบ้านกลอนไทยใจสุขสม
มีเพื่อนพ้องน้องรักเฝ้าชื่นชม
คอยภิรมย์อักษรามาพากเพียร

ไม่ได้หวังจะเป็นเช่นซีไรท์
ไม่ได้หวังจะยิ่งใหญ่กับงานเขียน
ก็แค่หวังเอาเก็บไว้เป็นบทเรียน
ไม่ใช่เซียนเขียนกลอนนอนมาเลย

จารจารหวานล้ำถ้อยคำรัก
เพราะตระหนักในรักที่เอื้อนเอ่ย
จารจารขื่นขมเพราะคุ้นเคย
จึงเปิดเผยเล่าขานอ่านเป็นกลอน
 น้อยใจแล้วด้วย


ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ไม่ใช่กวีศรีลานนา  เพียงแค่ใช้ภาษาสื่อเคลื่อนไหว  จะสุขทุกข์เล่าความตามเป็นไป  สื่อสารในบทกลอนอ้อนน้ำคำ
13 เมษายน 2009, 02:30:PM
ข้าน้อยขอฝากตัว
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 40
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 110



« ตอบ #14 เมื่อ: 13 เมษายน 2009, 02:30:PM »
ชุมชนชุมชน

     ความเอ๋ยความรัก
มาทายทักปักใจให้ฝันหา
ใครพานพบประสบรักประจักษ์ตา
ประสานเสียงเรียงวาจาพาทำนอง
  ร่วมขานขับรับส่งอักษรศิลป์
วาทะรินเรื่อยไปไม่หม่นหมอง
ขอชื่นชมคำคมอารมณ์กลอน
มนย้อนตราตรึงติดชมงาน         

(มน=มะนะ>>>แปลว่าใจไม่ใช่  (มน) นะ  เพื่อน้องๆบ้างคนไม่เข้าใจ)
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

คมอะไรไม่คมเท่าลมปาก      คมมีดแม้คมมากปากคมกว่า
คมคำใครว่าคมชมวาจา        ไม่คมกล้าเท่าคมคารมกลอน
13 เมษายน 2009, 06:00:PM
พิมญดา
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 29
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 57



เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 13 เมษายน 2009, 06:00:PM »
ชุมชนชุมชน

     ความเอ๋ยความรัก
มาทายทักปักใจให้ฝันหา
ใครพานพบประสบรักประจักษ์ตา
ประสานเสียงเรียงวาจาพาทำนอง
  ร่วมขานขับรับส่งอักษรศิลป์
วาทะรินเรื่อยไปไม่หม่นหมอง
ขอชื่นชมคำคมอารมณ์กลอน
มนย้อนตราตรึงติดชมงาน        

(มน=มะนะ>>>แปลว่าใจไม่ใช่  (มน) นะ  เพื่อน้องๆบ้างคนไม่เข้าใจ)



ความเอ๋ยความรัก
ใครประจักษ์รักสุข-ทุกข์ประสาน
เฝ้าเรียงถ้อยร้อยรักกังสดาส
ทิพย์วิมานกานท์กลอนอ้อนกมล

ขอขานไขในรักพักบ้านนี้
ร้อยวจีกลอนกานท์หวานใจล้น
ขอขอบคุณมิตรไมตรีนี้ทุกคน
น้องหน้ามนคนใหม่ในบ้านกลอน

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ไม่ใช่กวีศรีลานนา  เพียงแค่ใช้ภาษาสื่อเคลื่อนไหว  จะสุขทุกข์เล่าความตามเป็นไป  สื่อสารในบทกลอนอ้อนน้ำคำ
13 เมษายน 2009, 06:35:PM
Hikari
LV4 นักเลงประจำหมู่บ้าน
****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 45


ความรักของฉันเหมือนกับสายลมที่คอยให้เธอ


« ตอบ #16 เมื่อ: 13 เมษายน 2009, 06:35:PM »
ชุมชนชุมชน

ความเอ๋ย.........ความรัก
เปรียบได้กับดอกกุหลาบสีสดใส
สีแดงส้มชมพูขาวตามแต่ใจ
เลือกเอาไปใช้ตามโอกาสนานา

แต่สิ่งที่อยู่ใต้ใบใครจะรู้
ว่ามันมีหนามแหลมคมซ่อนอยู่หนา
จับไม่ดีก็จะบาดมือเอานา
เหมือนความรักตอนที่ลาเลิกกันไป
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

True love is not real.
20 เมษายน 2009, 07:24:PM
พิมญดา
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 29
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 57



เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 20 เมษายน 2009, 07:24:PM »
ชุมชนชุมชน

ความเอ๋ย.........ความรัก
เปรียบได้กับดอกกุหลาบสีสดใส
สีแดงส้มชมพูขาวตามแต่ใจ
เลือกเอาไปใช้ตามโอกาสนานา

แต่สิ่งที่อยู่ใต้ใบใครจะรู้
ว่ามันมีหนามแหลมคมซ่อนอยู่หนา
จับไม่ดีก็จะบาดมือเอานา
เหมือนความรักตอนที่ลาเลิกกันไป

ความเอ๋ยความรัก
มาทายทักแล้วลาพาหวั่นไหว
เจ็บเอ๋ยเจ็บเสียนักรักร้างไกล
สายลมไหวที่ไรใจโอดครวญ

 ซึ้งจัง

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ไม่ใช่กวีศรีลานนา  เพียงแค่ใช้ภาษาสื่อเคลื่อนไหว  จะสุขทุกข์เล่าความตามเป็นไป  สื่อสารในบทกลอนอ้อนน้ำคำ
21 เมษายน 2009, 07:55:AM
พิมญดา
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 29
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 57



เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 21 เมษายน 2009, 07:55:AM »
ชุมชนชุมชน


ความเอ๋ยความรัก
มาทายทักแล้วลาพาหวั่นไหว
เจ็บเอ๋ยเจ็บเสียนักรักร้างไกล
สายลมไหวที่ไรใจโอดครวญ

ทั้งที่เคย...เชยชิด...สนิทแนบ
ต้องเจ็บแปลบ...แสบช้ำ...เศร้ากำสรวล
สุดระกำ...ช้ำกมล...จนเซซวน
ไปให้พ้น...คนเรรวน...อย่าหวนคืน

 ซึ้งจัง



สวัสดีเช้าๆค่ะพี่ชาย

วันนี้ตื่นมาก็เฝ้าหน้าจอเลย..อิอิ

ทำไมตื่นเช้าจังค่ะ

 ยิ้มหน้าแมว
ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ไม่ใช่กวีศรีลานนา  เพียงแค่ใช้ภาษาสื่อเคลื่อนไหว  จะสุขทุกข์เล่าความตามเป็นไป  สื่อสารในบทกลอนอ้อนน้ำคำ
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s