ตะวัน จันทรา(ในสายตา แล ในความจริง)
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 พฤศจิกายน 2024, 05:20:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตะวัน จันทรา(ในสายตา แล ในความจริง)  (อ่าน 3671 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
21 ธันวาคม 2008, 12:21:PM
อัลิปรียา
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 66
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 119


By myself


« เมื่อ: 21 ธันวาคม 2008, 12:21:PM »
ชุมชนชุมชน

   แสงเพลิงดั่งเริงร้อน      ดุจไฟฟอนย้อนเผาใจ
   แสงนี้มิหวั่นไหว            ถึงใครใครเฝ้าประณาม
   แสงแห่งสุริยา            ประภาสภาจรัสงาม
   แสงทองส่องอาราม         งามประดับนภนภา
   ถึงใครว่าแสงร้าย            ที่พร่างพรายผลาญโลกา
   หม่นหมองนองน้ำตา         ฝ่าฟันสิ้นคำหมิ่นแคลน
   แท้จริงแสนอบอุ่น         เกื้อการุณย์ทั่วทุกแดน
   แสงใดไหนงามแสน         จะเทียบแสงสุริยา
   แสงแห่งภาสกร            เอื้ออาทรยามทิวา
   ราตรีศรีสง่า            จันทราทองส่องแสงใส
   แสงนวลชวนพิศมอง         รุจเรืองรองน่าปองใจ
   คู่ฟ้าราตรีไซร้            รัตติกาลหวานชีวัน
   ตะวันทั้งจันทรา            ต่างคู่ฟ้าจวบนิรันดร์
   สองแสงศรีสุวรรณ         อันกระจ่างพร่างพรายภา

   (บทกลอนข้างต้นเป็นความตอนหนึ่งจากนิยายเรื่อง ตะวัน จันทรา แต่งโดย บุษบงกช กรไชย)
ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

นทีถึงท่วมท้น ทับถม ฝังร่างจนจ่อมจม อยู่ใต้ สาครมิอาจข่ม ใจหนึ่ง นี้นา จักแหวกสายชลไซร้ ว่ายสู้สู่ดิน
21 ธันวาคม 2008, 01:38:PM
อัคนีรุทร์
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 41
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 71


Nothing ventured, Nothing have.


« ตอบ #1 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2008, 01:38:PM »
ชุมชนชุมชน

ตะวันหรือจันทรา            ในสายตาในความจริง
ค่าน้อยหรือมากยิ่ง           จะอ้างอิงกับสิ่งใด

แสงแห่งสุริยา                 บางคนว่าค่ามากไซร้
บางคนทนไม่ได้              ร้อนจับใจไร้ปราณี

อีกแสงแห่งจันทรา          บางคนว่างามผ่องศรี
บางคนมิใยดี                   สุดใจที่จะกล่าวยิ่ง

ตะวันหรือจันทรา            ในสายตาในความจริง
ค่าน้อยหรือมากยิ่ง           แล้วแต่สิ่งที่คนมอง
ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

''เมื่อคุณเจ็บปวดที่จะมองกลับหลัง และ หวาดกลัวที่จะมองไปข้างหน้า เพียงคุณ มองไปข้างๆ เพื่อนที่ดีที่สุดของคุณจะอยู่ที่นั่น'
21 ธันวาคม 2008, 07:59:PM
มั่น แซลี้
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 136
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,124


กินเพื่ออยู่ แต่อยู่เพื่อน้องหมวย


« ตอบ #2 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2008, 07:59:PM »
ชุมชนชุมชน

อ้างจาก: bussabongkoch
   แสงเพลิงดั่งเริงร้อน      ดุจไฟฟอนย้อนเผาใจ
   แสงนี้มิหวั่นไหว            ถึงใครใครเฝ้าประณาม
   แสงแห่งสุริยา            ประภาสภาจรัสงาม
   แสงทองส่องอาราม         งามประดับนภนภา
   ถึงใครว่าแสงร้าย            ที่พร่างพรายผลาญโลกา
   หม่นหมองนองน้ำตา         ฝ่าฟันสิ้นคำหมิ่นแคลน
   แท้จริงแสนอบอุ่น         เกื้อการุณย์ทั่วทุกแดน
   แสงใดไหนงามแสน         จะเทียบแสงสุริยา
   แสงแห่งภาสกร            เอื้ออาทรยามทิวา
   ราตรีศรีสง่า            จันทราทองส่องแสงใส
   แสงนวลชวนพิศมอง         รุจเรืองรองน่าปองใจ
   คู่ฟ้าราตรีไซร้            รัตติกาลหวานชีวัน
   ตะวันทั้งจันทรา            ต่างคู่ฟ้าจวบนิรันดร์
   สองแสงศรีสุวรรณ         อันกระจ่างพร่างพรายภา

   (บทกลอนข้างต้นเป็นความตอนหนึ่งจากนิยายเรื่อง ตะวัน จันทรา แต่งโดย บุษบงกช กรไชย)


กลอนร้ายกาจมากเลยจ๊ะ น้องยิม
เดี๋ยวว่างจะมาถามคำแปลน่ะ
ไม่เข้าใจหลายคำเลยล่ะจ๊ะ
เดี๋ยวมา+1ให้น่ะจ๊ะ
บันทึกการเข้า
25 ธันวาคม 2008, 09:42:PM
อัลิปรียา
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 66
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 119


By myself


« ตอบ #3 เมื่อ: 25 ธันวาคม 2008, 09:42:PM »
ชุมชนชุมชน

อ้างจาก: bussabongkoch
   แสงเพลิงดั่งเริงร้อน      ดุจไฟฟอนย้อนเผาใจ
   แสงนี้มิหวั่นไหว            ถึงใครใครเฝ้าประณาม
   แสงแห่งสุริยา            ประภาสภาจรัสงาม
   แสงทองส่องอาราม         งามประดับนภนภา
   ถึงใครว่าแสงร้าย            ที่พร่างพรายผลาญโลกา
   หม่นหมองนองน้ำตา         ฝ่าฟันสิ้นคำหมิ่นแคลน
   แท้จริงแสนอบอุ่น         เกื้อการุณย์ทั่วทุกแดน
   แสงใดไหนงามแสน         จะเทียบแสงสุริยา
   แสงแห่งภาสกร            เอื้ออาทรยามทิวา
   ราตรีศรีสง่า            จันทราทองส่องแสงใส
   แสงนวลชวนพิศมอง         รุจเรืองรองน่าปองใจ
   คู่ฟ้าราตรีไซร้            รัตติกาลหวานชีวัน
   ตะวันทั้งจันทรา            ต่างคู่ฟ้าจวบนิรันดร์
   สองแสงศรีสุวรรณ         อันกระจ่างพร่างพรายภา

   (บทกลอนข้างต้นเป็นความตอนหนึ่งจากนิยายเรื่อง ตะวัน จันทรา แต่งโดย บุษบงกช กรไชย)


กลอนร้ายกาจมากเลยจ๊ะ น้องยิม
เดี๋ยวว่างจะมาถามคำแปลน่ะ
ไม่เข้าใจหลายคำเลยล่ะจ๊ะ
เดี๋ยวมา+1ให้น่ะจ๊ะ

 ยิ้มหน้าใส ยิ้มหน้าใส ยิ้มหน้าใส
บันทึกการเข้า

นทีถึงท่วมท้น ทับถม ฝังร่างจนจ่อมจม อยู่ใต้ สาครมิอาจข่ม ใจหนึ่ง นี้นา จักแหวกสายชลไซร้ ว่ายสู้สู่ดิน
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s