O ภิรมย์สมัย .. O
-1-
O เกิดแต่เมื่อสั่นไหว .. ของใจหนึ่ง
หลังถูกดึงรั้งเหนี่ยวด้วยเสี้ยวหน้า-
และปอยผมงามดำ .. วาบ-ตำตา
ก็ตอกตรึงปรารถนา .. แต่ครานั้น
O บุคคลิกท่วงที .. ก็ที่เห็น
คอยโลดเต้นแห่ห้อม .. เข้าล้อมขวัญ
อิริยาถ้อยคำก็สำคัญ
ค่อยค่อยพันผูกบ่วง .. รัดดวงใจ
O อย่างพลั้งเผลอ เวียนพบ .. คอยสบเนตร
หวังเพียงเลศเผยมา .. ได้อาศัย-
เอาหล่อเลี้ยงเจตนา .. รองอาลัย-
อุ่นอกให้เวียนถวิล .. ด้วยยินดี
O ในระยะ .. ช่วงทาง .. ที่ขวางคั่น
ฤๅอาจกั้นกีดเลส .. จากเนตรที่-
ตอบรับหมายฉายทอ .. คล้ายรอรี-
แลกไมตรี .. ทุกสบ-เมินหลบนั้น !
O ในระยะ .. ช่วงกาล .. อาหารมื้อ
เป็น-อยู่-คือ .. เนตรใคร-วาบไหวสั่น
ลอบเร้นสบ ซ้ำซ้ำ .. ผูกสัมพันธ์
ร่วมแบ่งปันผ่องแผ้ว .. ผ่านแววตา
O แต่ละส่วนพูดจา .. สมาคม-
ราวแฝงลมฝากถ้อยล่องลอยหา
เพื่อรับส่งใฝ่ฝันลงสัญญา
ผ่านแววตาหวานซึ้ง .. ติดตรึงใจ
O เพียงชั่วคาบยามระยะ .. พันธะสร้าง
ช่วงความห่างเหมือนแม้นว่าแสนใกล้
แววอ่อนหวานอบอุ่นละมุนละไม
ยออาลัยหวานล้ำ .. เร่งกำลัง
O สิ้นระยะคาบกาล .. อาหารมื้อ
ผ่านพร้อมคืองดงามและความหวัง
มีความนัยบรรเลงเป็นเพลงฟัง-
ให้แว่วดังในอก .. สุดยกย้าย
O สิ้นระยะคาบกาล .. อาหารมื้อ
ผ่านพร้อมคือ .. พร่ำพร้องทั้งสองฝ่าย-
หนึ่ง .. อาวรณ์อาลัยที่ใจชาย
สอง .. เนตรฉายห่วงหา .. ตอบท่าที
O ในระยะ .. เนตรสบ .. เฝ้าหลบ .. เขิน
ก็เพลิดเพลินท่วงท่า .. รูปราศี
งามเจ้าเอยอิริยา .. แห่งนารี
จักต่อตีด้วยงาม .. ไม่คร้ามเลย
O ในระยะสุดปลาย .. เนตรชายชม้อย
แฝงร่องรอยบรรเจิดออกเปิดเผย
ระลอกหวานพูนเพียบ .. เกินเปรียบเปรย
ก็ผ่านเย้ยยั่วให้หัวใจระเริง
O แต่เมื่อสบ-สั่นไหว .. แห่งใจนี้-
ก็สุดที่จะปลิดปลง .. ความหลงเหลิง
เมื่ออาวรณ์เร้ารุมดั่งขุมเพลิง
หวานก็เจิ่งนองแล้ว .. ทั่วแววตา !
-2-
O คนสองคน, สองใจ .. ความนัย-หนึ่ง
มีซาบซึ้ง, รอคอย, ละห้อยหา-
มีแหนหวง, ห่วงใย, เมื่อไกลตา
อาจพรรณนา .. ฤๅถึง-สักครึ่งใจ
O โสตเอย .. เมื่อสดับ .. ย่อมรับรู้-
ที่เต้นอยู่ .. แว่วสั่น .. จากหวั่นไหว-
อันเร่งรัวเร้าสิทธิ์ .. สู่จิตใคร
กระซิบส่งความนัย .. เพื่อให้รู้
O จึงแม้นหนาวยาวนานสักปานไหน
อ้อมอกใครที่ละโมภ .. หมายโอบสู่
กลบหนาวด้วย - อุ่นอายแอบกายตรู
หนาว-ฤๅรู้เนื้อละมุน .. อันอุ่นล้น
O ลมเอย .. ผ่านระลอกช่วยบอกว่า-
ความห่วงหายกระดับ .. เกินปรับ-ป่น
กระเพื่อมเช่นแผ่นอุทก .. ไหววก-วน
เมื่อลมบนโยนระลอก .. เข้าหยอกเอิน
O หยอกเอินต่อสุจริต .. ในจิตหนึ่ง
ที่ถูกตรึงด้วยหวานอยู่นานเนิ่น
ถ้อยแทนอกอุ่นเอื้อ .. วางเชื้อเชิญ-
รอ-ก้ำเกินเร้ารัว .. ทั้งตัวตน
O งดงามเอย-หวานเคลือบเมื่อเหลือบชม้าย
ผ่องผกายร่ายรำ .. ซ้ำซ้ำหน-
ล่มสิ้นแสงทินกรอันร้อนรน
เหลืออำพนสองดวงกลางห้วงใจ
O เมื่อลับเลยรูปรอย .. ก็คอยหา
ปรารถนา .. รับรู้-ว่าอยู่ไหน
เมื่อห่างเห็นเร้นกาย .. เหมือนหายไป
ห้วงอกใคร .. ราวจะหาย-วอดวายตาม
O ถวิลถึงก็แต่ทอดฤทัยถอน
หลังอาวรณ์เคลื่อนรุดจนสุดห้าม
ครวญคะนึงแววระยับที่วับวาม
ที่วาบหวามซึ้งอยู่ .. แต่ผู้เดียว
O จึงร่วมสันถวะพร้องครรลองคู่
ร่วมรับรู้ - รับรอง, ร่วมข้องเกี่ยว
ร่วมร่ำร้อยอภิรมย์ .. ร่วมกลมเกลียว
ร่วมโน้มเหนี่ยวคำนึง .. จดถึงกัน
O ถึงแผ่นดินแยกภพ, อรรณพกว้าง-
อยู่ท่ามกลางใจสอง .. ผู้ปองฝัน
ใช่อาจขวางเงื่อนงำ - ความสัมพันธ์
ที่มุ่งมั่นเหนี่ยวภพ .. บรรจบ-วง
O แต่รามราชคะนึงหาสีดาน้อง
หลังราพณ์พาลับล่อง-รูปปองหลง
เทียบ-เศษเสี้ยวคะนึงหาพี่บ่าลง-
ล้อมรอบใจโฉมยง .. ณ ตรงนี้
O ใจเจ้าเอยค่ำดึก .. รำลึกบ้าง
อย่าปล่อยทิ้งปล่อยขว้างระหว่างที่ -
อีกใจหนึ่งละห้อยหาทุกนาที
คือใจนี้-ที่ถวิล, พล่าน, ดิ้นรน
O ที่ฝั่งฟ้าแสนใกล้, เถิด .. ใจหนึ่ง -
รอซาบซึ้ง-ฝากดาวฝ่าหาวหน
เพื่อรุมร้อยรัดรึง-ใจหนึ่งคน
ให้อึงอล-คำวอนอย่าผ่อนคลาย
O เมื่อหลับตาให้จิตเฝ้าคิดย้อน
ด้วยอาวรณ์, ด้วยรัก-เกินหักหาย
หลับอยู่ใน-ร่มฤดีแห่งพี่ชาย
แอบอุ่นอายก่ายกอด .. ฟังพลอดความ
O ให้คะนึงเหลือคณาในอากาศ
แทนสวาดิทับทาบ .. ให้วาบหวาม -
ตรึงติดทรวงเร้ารุกไปทุกยาม
จนรุมลามใจอยู่อย่ารู้เลือน
O แม้น .. แสนทุกข์ สุดทุกข์กว่าทุกครั้ง
เพราะสุดยั้งคิดถึง-ประหนึ่งเหมือน-
ว่า -เดิน, ยืน, นั่ง, นอน, ยังย้อนเตือน
จักกลบเกลื่อน .. คะนึงหา - เกินกว่าคิด
O จึง .. แม้นทุกข์ แสนทุกข์ กว่าทุกครั้ง
ยอม-แม้นยัง .. ทุกข์หน่วงทั้งดวงจิต
ขอเพียงใจอีกใจ .. ยอม"ใกล้ชิด"
ยอม-แม้นทุกข์ท่วมมิด .. ไม่คิดแล้ว !
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=09-2013&date=01&group=11&gblog=474