๐ บางอักขระกดลากกระชากเส้น
บ้างเอียงเอนบางเบาเหมือนเงาซ่อน
แฝงเร้นความห่วงหาและอาวรณ์
ที่แทรกซอนซึมผ่านเนิ่นนานมา
๐ อ่านเนื้อความขุดค้นจากต้นเรื่อง
ดุจร้อยถักรุ้งเรืองวางเบื้องหน้า
เป็นลู่ลาดพาดผ่านตระการตา
งามดุจฟ้าส่งเทียบมาเลียบดิน
๐ แต่ลำรุ้งพุ่งพรายยามวายแสง
ย่อมเปลี่ยนแปลงภาพทัศน์ราวพลัดถิ่น
งดงามเพียงบางหนให้ยลยิน
แล้วก็สิ้นสุดลงไม่คงนาน
๐ พาความสุขสดชื่นมายื่นให้
พร้อมดวงใจอีกดวงคล้องบ่วงสาน-
สัมพันธภาพทาบวางลงกลางกาล
จักสมานไมตรีมิมีคลาย
๐ ต่างวางสัตย์สัญญาวาจามั่น
แม้คืนวันผันเวียนไม่เปลี่ยนหมาย
หวังหลอมรวมร่วมขวัญตราบวันวาย
มิกลับกลายเป็นอื่นให้ขื่นตรม
๐ ค่อยค่อยอ่านผ่านมาอีกหน้าหนึ่ง
รอยหมึกซึ่งเลือนรางจาง ผสม-
คราบหยดน้ำ ด่างพร้อยเป็นรอยพรม
อักษรจมหล่มกาลธารน้ำตา
๐ เลือนลับเรียวโค้งรุ้งเคยปรุงแต่ง
ร้างสิ้นแสงเรืองรองให้มองหา
โลกทั้งโลกมืดมิดราวนิทรา
เมื่อถึงคราวจากลาหมดอาลัย
๐ เพียงหนึ่งช่วงเวลาผันมาพบ
เวียนบรรจบรอยทางคล้ายวางให้
สองชีวิตคล้องพ่วงความห่วงใย
ผ่านวันวัยมาถึงเพียงครึ่งทาง
๐ จึงมาพบช่วงแยกที่แปลกทิศ
จนไร้สิทธิ์ร่วมเรียงอยู่เคียงข้าง
ถึงวรรคนี้นัยน์ตาเหมือนฝ้าฟาง
รอยหมึกจางจากกระดาษจนขาดตอน
วลีลักษณา
๕ กรกฎาคม ๒๕๖๑
ต่อเนื่องจากบท
~*~บันทึก~*~
http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=29549.msg221729;topicseen#msg221729