*** ตำนานนางสงกรานต์ ***
** จะขอเกริ่นเรื่องราวคราวหนหลัง ให้ผู้ฟังสดับรับข่าวสาร ได้เข้าใจประวัตินางสงกรานต์ ตามตำนานบอกกล่าวเล่ากันมา
** เพื่อให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ และท่านผู้สนใจใฝ่ศึกษา ได้ช่วยกันสืบทอดเจตนา ประเพณีที่มีค่าให้ยาวนาน
** มีเศรษฐีคนหนึ่งร่ำรวยทรัพย์ คณานับมากมายมหาศาล แต่อาภัพเรื่องบุตรสุดทรมาน ทุกวันวารอยากมีไว้สืบสกุล
** นักเลงสุราข้างบ้านกล่าวขานว่า น่าสงสารนักหนาพาเคื่องขุ่น เหตุไฉนเราจึงไม่มีบุญ ช่วยอุดหนุนให้มีลูกผูกวิญญา
** ครั้นวันหนึ่งมาถึงราษีเมษ วันเกิดเหตุนางสงกรานต์ผ่านมาหา ท่านเศรษฐีตั้งใจดั้นด้นมา ยังต้นไทรใบหนาเพื่ออ้อนวอน
** ตั้งสัตยาธิษฐานบนบานกล่าว ขอลูกชายลูกสาวเป็นอนุสรณ์ โปรดจงได้เมตตาอย่าตัดรอน ประสาทพรได้ดังหวังตั้งใจเทอญ
** รุกขเทวดาสงสารจัดการให้ เฝ้าพระอินทร์ทันใดน่าสรรเสริญ อ้อนวอนช่วยเมตตาอย่าหมางเมิน ได้อัญเชิญเทพบุตรรีบรุดไป
** ฝ่ายพระอินทร์มอบหมายให้ธรรมบาล ปฏิสนธิตามกาลไม่หวั่นไหว ภรรยาเริ่มตั้งครรภ์ดังตั้งใจ เศรษฐีใหญ่มีความสุขทุกวันคืน
** เมื่อวันเดือนเคลื่อนไปไม่นานนัก ถึงวาระคลอดลูกรักสุดจักฝืน เป็นผู้ชายหน้าตาดีมิกล้ำกลืน เฝ้าเชยชื่นดูแลไม่ห่างไกล
** ตั้งชื่อว่า “ธรรมบาลกุมาร” น้อย แล้วจึงค่อยสอนสั่งดังฝันใฝ่ และศึกษาวิชาการควบคู่ไป เล่าเรียนไตรเภทจบครบตำรา
** เป็นอาจารย์บอกมงคลมนต์ทั้งหลาย มีชื่อเสียงกระจายไกลนักหนา ได้เรียนรู้ภาษานกอีกวิชา จนเก่งกล้าฟังนกพูดก็เข้าใจ
** มาวันหนึ่งกบิลพรหมอยากรู้ว่า ธรรมบาลตอบปัญหาเขาได้ไหม จึงรีบมาซักถามโดยเร็วไว ตั้งเงื่อนไขถ้าแพ้ต้องตัดคอ
** ถ้าตอบได้จะตัดเศียรของตัวเอง ไม่ยำเกรงตั้งคำถามมาสามข้อ ตอนเช้าศรีอยู่ไหนอย่ารีรอ อีกหนึ่งข้อตอนเที่ยงศรีอยู่ที่ใด
** เวลาเย็นจงบอกมาอยากจะรู้ ว่าศรีอยู่ตรงแห่งตำแหน่งไหน จะตอบได้หรือเปล่าว่าอย่างไร จะตั้งใจคอยฟังดังบรรยาย
** ธรรมบาลครั้นได้ฟังต้องนั่งนิ่ง ทุกทุกสิ่งที่ถามมาพาใจหาย พูดไม่ออกบอกถูกยิ่งวุ่นวาย ตอนสุดท้ายขอผ่อนผันวันต่อไป
** ขอเวลาเจ็ดวันดังมั่นหมาย จะมีคำอธิบายไม่เหลวไหล ผิดคำพูดจงตัดคออย่าเกรงใจ เป็นสัญญาว่าไม่หลอกลวงกัน
** ครั้นเวลาผ่านไปวันที่หก คิดไม่ตกจะตอบได้อย่างไรนั่น จึงเข้าป่าคิดฆ่าตัวตายพลัน ดีกว่าให้เขานั้นมาบั่นคอ
** เป็นโชคดีที่ไม่ถึงชะตาขาด เรื่องเกินคาดนกไพรคุยเสียงจ้อ ตัวผู้บอกตัวเมียเฝ้าเคลียคลอ พรุ่งนี้หนอธรรมบาลจะต้องตาย
** นกตัวเมีถามว่าทำไมหรือ ต้องสิ้นชื่อเพราะอะไรน่าใจหาย นกตัวผู้พูดว่าน่าเสียดาย ต้องวอดวายคราวนี้มิเปลี่ยนแปลง
** กบิลพหรมถามปัญหาว่าด้วยศรี ของคนนี้อยู่ที่ไหนจงแถลง ถ้าหากรู้จงได้รีบชี้แจง ธรรมบาลครางแคลงสุดร้าวรอน
** นกตัวเมียถามว่าตอบอย่างไร นกตัวผู้ตอบไปไม่หลอกหลอน ตอนเช้าศรีอยู่ที่หน้าอย่าอาวรณ์ ตอนเที่ยงจรอยู่ที่อกยกย้ายไป
** ครั้นตอนเย็นศรีนั้นอยู่ที่เท้า ดังที่ข้าได้เล่าเข้าใจไหม ธรรมบาลได้คำตอบจากนกไพร คุยกันไปเหมือนบอกกล่าวเล่าให้ฟัง
** รีบกลับบ้านทันทีมิรอช้า ดีใจว่าครั้งนี้มีความหวัง เราพร้อมตอบปัญหาอย่างจริงจัง ความผิดหวังตกที่กบิลพรหม
** ถึงกำหนดท้าวเธอรีบมาหา เจรจาให้ตอบอย่างเหมาะสม ทั้งสามข้ออย่าให้รอเพียงลมลม มีคำคมรีบเอ่ยมาช้าอยู่ใย
** ธรรมบาลรีบตอบว่าชอบมาก ตอบคำถามที่รู้จากนกขานไข กบิลพรหมสะดุ้งในทันใด ฝืนบอกไปเราจะตายตามสัญญา
** แต่ด้วยเหตุศีรษะกบิลพรหม จะทำให้ล่มจมเกิดปัญหา ตกที่ไหนจะวอดวายอัปรา ตกบนฟ้าฝนจะแล้งแห้งเหือดตาย
**ตกบนดินไฟจะไหม้หมดทั้งโลก วิปโยคโลกร้อนน่าใจหาย ตกในน้ำน้ำแห้งจนวอดวาย สิ้นสลายจากสมุทรสุดตรอมตรม
** จึงมอบหมายให้เจ็ดพระธิดา นำพานมารองรับให้เหมาะสม เสร็จแล้วเชิญพระเศียรเวียนวงกลม แห่รอบรอบพนมเพื่อทดแทน
** เก็บในถ้ำคันธชุลีที่ภูเขา ครบรอบปีนำเอามาแห่แหน รอบเขาพระสุเมรุถือเป็นแกน ดุจเฉกเช่นเมืองแมนทุกปีเลย
** เจ็ดองค์พระธิดาที่กล่าวขาน ก็คือนางสงกรานต์ใคร่เฉลย เป็นตำนานกล่าวมาอย่าอย่าเฉยเมย ขอภิเปรยบอกกล่าวไว้เล่ากัน
** พระธิดาทั้งเจ็ดแบ่งหน้าที่ เมื่อครบรอบของปีตามลดหลั่น ถ้ามหาสงกรานต์ตรงวันจันทร์ “โคราคะ” จอมขวัญเป็นผู้นำ
** วันอังคารคนดีมีศรีศักดิ์ ให้ “รากษส” นงลักษณ์ผู้งามขำ เป็นวันพุธ “มณฑา” มาประจำ พฤหัสเลิศล้ำ ”กิริณี”
** “กิมิทา” รู้รอบชอบวันศุกร์ พาแห่แหนสนุกสมศักดิ์ศรี ถ้าวันเสาร์ “มโหธร” ยอดนารี เป็นผู้ที่นำขบวนชวนให้ชม
** วันอาทิตย์โฉมงามนาม “ทุงษะ” ไม่ลดละทำหน้าที่ดีเหมาะสม ทั้งหมดนี้พระธิดากบิลพรหม ต่างชื่นชมด้วยเห็นเป็นสำคัญ
** ประเพณีสงกรานต์งานเดือนห้า ทั่วโลกาสนใจต่างใฝ่ฝัน มาเล่นน้ำดำหัวผูกสัมพันธ์ ร่วมสร้างสรรค์คุณค่าสถาพร
** กิจกรรมดีดีมีหลากหลาย ขอนำมาขยายมิใช่สอน เพื่อเป็นการสืบต่อด้วยอาทร ขออ้อนวอนเสริมสร้างอย่างยั่งยืน
** กิจกรรมที่หนึ่งพึงประกาศ คือทำบุญตักบาตรจะสดชื่น มีความสุขไร้ทุกข์ทุกวันคืน สุขใดอื่นจะเปรียบปานการทำบุญ
** กิจกรรมที่สองไม่ลดละ เป็นการสรงน้ำพระไม่ว้าวุ่น เพื่อบูชารำลึกนึกถึงคุณ พุทธองค์ทรงค้ำจุนโลกร่มเย็น
** กิจกรรมสามการก่อเจดีย์ทราย อานิสงส์มากมายยกให้เห็น จะพ้นจากอบายไม่ลำเค็ญ ไม่ยากเข็ญมีทรัพย์นับอนันต์
** สี่ปล่อยนกปล่อยปลาด้วยสงสาร อายุยืนยาวนานมีสุขสันต์ เรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยเรื่องสำคัญ จะหายพลันแสนดีไม่มีภัย
** ห้ารดน้ำผู้ใหญ่ไม่ควรเว้น เพราะถือเป็นมงคลอภิสมัย จะทำให้เรานี้มีโชคชัย มอบมาลัยบูชาค่าความดี
** หกทำบุญอัฐิบรรพบุรุษ ดีที่สุดประเสริฐเลิศดิถี เป็นคนกตัญญูกตเวที ธรรมข้อนี้มีไว้ให้โลกงาม
** มาเถิดหนามาช่วยกันอนุรักษ์ เพื่อประจักษ์แน่แท้แก่โลกสาม ส่งเสริมให้ฟูเฟื่องเลื่องลือนาม ประเพณีเมืองสยามสวยงามจริง
สมพงศ์ ชูสุวรรณ |
add complete
by Klonthaiclub fb