ลาจันทร์
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 04:03:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: 1 [2]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ลาจันทร์  (อ่าน 15952 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 10 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
14 สิงหาคม 2013, 08:06:AM
D
นักรบทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,894


ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ


sasa.yai
เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 14 สิงหาคม 2013, 08:06:AM »
ชุมชนชุมชน






กลีบบุปผาหล่นวารีแล้วลี้ลับ
แสงเดือนซับหยาดน้ำฟ้าคราหวนไห้
รัตติกาลแผ่วเพลงบรรเลงไพร
ข้าฯผู้เดียวเปลี่ยวใดใครนำพา

ยกจอกดื่มลืมอดีตยิ่งกรีดลึก
ราดรู้สึกด้วยน้ำจัณฑ์หรือหรรษา
เอื้อนบทกลอนกล่าวย้ำเพื่อร่ำลา
มิอาจฝืนกำหนดฟ้าชะตาตน

ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่ร้างเลิก
ตะวันเบิกหาวห้วงสู่ร่วงหล่น
พสุธาดังสุสานตำนานชน
ลิขิตคนขีดเห็นล้วนเช่นกัน

ตวัดปลายพู่กันสรรอักษร
ก่อนอัมพรลาพรากจากบุหลัน
อรุณแรกแทรกเยือนแล้วเพื่อนจันทร์
ต่างเราหันเหห่างหนทางตัว

 "Shumbala"







ศศิ...เสี้ยว เศษแสง แรงริบหรี่
ค่อนราตรี แล้วหนา หล้าเริ่มหลัว
ลางเลือนล้า พาหวั่น ขวัญมืดมัว
อกระรัว รานร้าว ทุกคราวไป

รับรู้สึก ผูกพัน วันโศกเศร้า
เพื่อนคลายเหงา เท่านั้น ที่จันทร์ได้
ปลอบประโลม โน้มแฝง แสงนวลใย
รินลูบไล้ ใฝ่เพียง เคียงกมล

แค่ได้เยือน เพื่อนรัก พักตร์มีสุข
บรรเทาทุกข์ รุกไล่ ในทุกหน
กี่ครั้งครา ลาผ่าน เอ๋ย..มานคน
น้ำตาจันทร์ หลั่นหล่น จนทำใจ

ศศิ...จร ก่อนหนา พร่าผ่อนแผ่ว
อำลาแล้ว แคล้วจันทร์ อย่าหวั่นไหว
ฝากโพยม โลมเยือน เพื่อนคนไกล
ชอกฤทัย ให้นึกฝัง ยังมีจันทร์

"ดิน"



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สะเลเต, Shumbala, รพีกาญจน์, รการตติ, ดาว อาชาไนย, panthong.kh, ชลนา ทิชากร, ยามพระอาทิตย์อัสดง, พี.พูนสุข, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

14 สิงหาคม 2013, 09:09:AM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #21 เมื่อ: 14 สิงหาคม 2013, 09:09:AM »
ชุมชนชุมชน



ขอบพระคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เนตค่ะ

โอระทึกหวั่นไหวหัวใจหนอ
เร้นแสงแห่งการรอ ใจผ่าวแผ่ว
ยากเกินเห็นหรือไร ไยไร้แวว
เจ้าแสงแก้วมณีแห่งค่ำคืน

นานนับเนิ่นนาทีราตรีผ่าน
เคี่ยวกับการมองหานัยน์ตาฝืน
ค้นนภาเวหาส ทนหยัดยืน
มิลืมตื่นฝืนรอพวงเพชรพราว

หวังแสงวาบทาบผ่านท้องทุ่งนี้
ส่องรุจีคลี่ยิ้มแอบอิงหาว
กี่หยาดเพชรจักร่วง ฟ้าพร่างพราว
หนอนั่งหาวนานแล้ว อย่าแห้วกิน

เมื่อลมเห่ทะเลคลื่นกระทบฝั่ง
คนคอยหวังยังรอ นภศิลป์
อาจเคว้งคว้างกลางหาวไร้ดาวดิน
ก็จะรอจนสิ้นของค่ำคืน 

http://thaiastro.nectec.or.th/skyevnt/meteors/2013meteors.html
จากเวบสมาคมดาราศาสตร์ไทยได้ทำนายว่า
คืนนี้  จะมีฝนดาวตก “เพอร์สิอัส” ตกอัตราสูงสุด 60 ดวง/ชม.
ใครที่รอดูดาวอยู่ก็ขอให้มีความสุขกับการดูดาวนะคะ




กว่าคืนค่ำรำรางจะห่างหัน
ยังรอจันทร์เยือนฟ้าแม้ล้าฝืน
ก่อนสิ้นแรงแข็งขัดจะหยัดยืน
ยังคงขืนตื่นรอพนอจันทร์

มิได้หมายเอื้อมจันทร์แม้ฝันใฝ่
หากหวังใจใคร่ชื่นระรื่นขวัญ
เพียงสัมผัสรัศมิ์แห่งแสงอำพัน
ก็สุขสันต์เกินพอที่รอคอย

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, รการตติ, ดาว อาชาไนย, panthong.kh, ชลนา ทิชากร, D, ยามพระอาทิตย์อัสดง, สะเลเต, พี.พูนสุข, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
14 สิงหาคม 2013, 09:13:AM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #22 เมื่อ: 14 สิงหาคม 2013, 09:13:AM »
ชุมชนชุมชน

กลีบบุปผาหล่นวารีแล้วลี้ลับ
แสงเดือนซับหยาดน้ำฟ้าคราหวนไห้
รัตติกาลแผ่วเพลงบรรเลงไพร
ข้าฯผู้เดียวเปลี่ยวใดใครนำพา

ยกจอกดื่มลืมอดีตยิ่งกรีดลึก
ราดรู้สึกด้วยน้ำจัณฑ์หรือหรรษา
เอื้อนบทกลอนกล่าวย้ำเพื่อร่ำลา
มิอาจฝืนกำหนดฟ้าชะตาตน

ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่ร้างเลิก
ตะวันเบิกหาวห้วงสู่ร่วงหล่น
พสุธาดังสุสานตำนานชน
ลิขิตคนขีดเห็นล้วนเช่นกัน

ตวัดปลายพู่กันสรรอักษร
ก่อนอัมพรลาพรากจากบุหลัน
อรุณแรกแทรกเยือนแล้วเพื่อนจันทร์
ต่างเราหันเหห่างหนทางตัว

 เคารพรัก



จะรอถึงพรุ่งนี้..รวีอุ่น
หอมละมุนกรุ่นกำจายทาบไปทั่ว
จะเก็บเกี่ยวแสงทองไม่หมองมัว
รอเพียงชั่วยามจบ..ได้พบกัน

รัตติกาลคลานคืบ..จะสืบหา
ดวงดาราวิบวามจะตามฝัน
ยามหัวใจทอแสง..จะแบ่งปัน
สายสัมพันธ์ผูกพ่วง..เกี่ยวห้วงใจ

จะตวัดปลายพู่กันอย่างหรรษา
บรรเลงวาดประกาศว่าอย่าหม่นไหม้
ระบายรสบทกานท์หวานละไม
เก็บไว้ให้ คนดี..ค่ำนี้นะ

แซมค่ะ



จะคอยคืนค่ำแห่งแสงสวรรค์
ร่วมแบ่งปันความสุขทุกขณะ
ถึงเนิ่นนานปานใดไม่เลิกละ
แม้ระยะทางก้าวนั้นยาวไกล

จะรื่นรสบทกวีที่เติมต่อ
กว่าจันทร์ทอแสงพราวอันวาวใส
รัตติกาลนานยาวอาจหนาวใจ
คงผ่านไปด้วยดีเมื่อมีกัน

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, รการตติ, ดาว อาชาไนย, ดารกะ, panthong.kh, พลังบุปผา, ดิษฐา, ชลนา ทิชากร, D, ยามพระอาทิตย์อัสดง, สะเลเต, พี.พูนสุข, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
15 สิงหาคม 2013, 10:35:AM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #23 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2013, 10:35:AM »
ชุมชนชุมชน


กลีบความฝันพลิ้วผ่านม่านศศิ
แรกแย้มผลิผูกพันเมื่อบรรจบ
หากหนทางต่างเยือนแล้วเลือนลบ
หวังประสบด้วยใจได้เพียงนั้น

 เคารพรัก

 
ส่งจูบจ้ะ

ก้อย...เดินกรายไร้ชายไหนเกี่ยวข้อง
มิมามองบ้างหนอพ่อนักฝัน
มัวแต่แอบเล็งจ้องส่องแลจันทร์
พอเหงางันหวั่นท้อมาพ้อไย

 
เคารพรัก

ก้อย

ใต้แสงจันทร์โลมไล้ในเรือนร่าง
เจ้าสำอางดังอนงค์น่าหลงใหล
แม้หมายครองนงคราญสักปานใด
เจ้ากลับไกลเกินคว้ามาคู่เคียง

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ยามพระอาทิตย์อัสดง, D, รพีกาญจน์, สะเลเต, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, ดาว อาชาไนย, รการตติ

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
15 สิงหาคม 2013, 10:48:AM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #24 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2013, 10:48:AM »
ชุมชนชุมชน


. .. ทุกครั้งทีคุณบอกรักฉัน .. .
ใต้แสงแห่งพระจันทร์  คืนและวันอันสดใส
อยากสัมผัสคุณแนบสนิทชิดดวงใจ
โอบกอดไว้ .. . อยากเปลี่ยนโลกนี้เพียงเพื่อคุณ

.. . ฉันเพิ่งรู้ว่าสิ่งสวยงามเป็นอย่างไร .. .
ยามเมื่อมองคุณครั้งใด ... หัวใจก็รู้สึกอบอุ่น
จุมพิตรอยยิ้มแก้มที่ละมุน
หอมกลิ่นกรุ่นๆ .. . คล้ายๆวันที่คุ้นเคย

.. .โอ้ .. ทีรัก .. .
แต่วันนี้เราต้องหยุดพักเรื่องหนักๆที่คุณไม่เปิดเผย
เหนื่อยล้ากับทุกครั้งที่ถูกละเลย
ความรู้สึกเมินเฉย . .. เหมือนไม่เคยมีค่าอะไร

.. .ห่างกันสักพักคงดีกว่านี้ . ..
ความรักที่คุณมี .. .มิอาจทำให้ฉันหวั่นไหว
จากกันตอนนี้อาจยังมีความห่วงใย
อยากบอกไม่เคยรักใครได้เท่า"รักคุณ"


พระอาทิตย์อัสดง

แม้ในคืนที่จันทร์ลาลับ..จนดับแสง
หากฤทธิ์แรงปรารถนากลับยังคงคุกรุ่น
ทุกค่ำคืนที่รอคอยจวบจน..แสงแรกแห่งอรุณ
อ้อมโอบอันอบอุ่น..ยังคงละมุน..แม้ในความฝัน

โปรดอย่าเอ่ยคำลาแม้เพียงสักครั้ง
เพราะใจยังไม่พร้อมจะฟังคำนั้น
เธอรู้ไหม..ในค่ำคืนที่มีจันทร์
คือค่ำคืนแห่งนิรันดร์...ที่ฉันรอคอยในทุกลมหายใจ

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ยามพระอาทิตย์อัสดง, D, รพีกาญจน์, สะเลเต, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, ดาว อาชาไนย, รการตติ

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
15 สิงหาคม 2013, 10:57:AM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #25 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2013, 10:57:AM »
ชุมชนชุมชน



จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า
เป็นดั่งเงาเฝ้าจันทร์ทุกคืนผ่าน
แหงนมองดู เจ้าด้วยรักปักดวงมาน
อยู่เนิ่นนาน อาทิตย์กลาย ฉายแสงมา

เฝ้าแต่รอคืนค่ำ มาย้ำชัด
เพราะกำหนัด ด้วยไฟ เสน่หา
เพราะหลงจันทร์ มากด้วยรัก และศรัทธา
จันทร์เจ้าขา  โปรดหันมา มองสู่ดิน

ใจกระหาย ห่วงใย ในตัวเจ้า
แม้จะเนิ่นนานเนา เฝ้าถวิล
จิตก็หมายดึงเจ้าเคล้าราคิน
จนลืมสิ้น สุดจะไขว่ ใจคว้าครอง

เหมือนกระต่ายหมายจันทร์ ดูมั่นเหมาะ
แต่เป็นเพราะ สูงเกินไปไม่สนอง
ยากจะหวังเก็บเกี่ยว มาเหนี่ยวดอง
ก็คงต้องบอกลาอย่าหมายจันทร์

https://www.youtube.com/watch?v=BQg87iFvOUA

 เคารพรัก

Blues+


แสงจันทร์นวลยวนใจได้เพียงพิศ
ด้วยจันทร์สูงกว่าสิทธิ์จะคิดฝัน
กระต่ายน้อยคอยรอพนอกัน
แม้ช่วงคืนแสนสั้นก่อนจันทร์ลา

นานนับกัปแสนกัลป์ที่ผันผ่าน
เขียนตำนานกระต่ายน้อยผู้คอยหา
เพียงเศษเสี้ยวสัมพันธ์ของจันทรา
แม้รู้ว่าฝันนั้นมันไม่จริง

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ยามพระอาทิตย์อัสดง, D, รพีกาญจน์, สะเลเต, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, ดาว อาชาไนย, รการตติ

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
15 สิงหาคม 2013, 11:03:AM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #26 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2013, 11:03:AM »
ชุมชนชุมชน

 ค่ำคืนหวานในวันวานใต้แสงจันทร์
จุมพิตนั้นทำใจสั่นหวั่นไหว
รัตติกาลเคลื่นผ่านอย่างเร็วไว
พร้อมหัวใจที่เคลื่อนผ่านกาลเวลา
   คิดถึงจันทร์ดวงเก่าที่เฝ้ามอง
ด้วยใจหมองระคนสเน่หา
ค่ำคืนนี้มีเพียงแสงดารา
ส่องเจิดจ้าบดบังพลังจันทร์
   ขอลาจันทร์ดวงนี้ที่คิดถึง
ไม่ดันดึงความรู้สึกที่แรงกล้า
ทิ้งตัวลงบนเตียงแล้วหลับตา
ร้องเพรียกหาคืนหวานที่ผ่านพลัน


ฝากจุมพิตลาจันทร์คืนวันจาก
ทั้งแสนยากยั้งหยุดสุดสิ้นฝัน
หยาดน้ำค้างพร่างตาด้วยจาบัลย์
หยดในคืนคราวสวรรค์พลันลับเลือน

ขอถ้อยคำของดินถึงถิ่นฟ้า
ผ่านดาราแด่จันทร์อันเอ่ยเอื้อน
หากวันใดใจเศร้ายามเหงาเยือน
จันทร์จงเคลื่อนคืนมาข้าฯจะรอ

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, ยามพระอาทิตย์อัสดง, รพีกาญจน์, สะเลเต, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, รการตติ

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
15 สิงหาคม 2013, 11:13:AM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #27 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2013, 11:13:AM »
ชุมชนชุมชน






กลีบบุปผาหล่นวารีแล้วลี้ลับ
แสงเดือนซับหยาดน้ำฟ้าคราหวนไห้
รัตติกาลแผ่วเพลงบรรเลงไพร
ข้าฯผู้เดียวเปลี่ยวใดใครนำพา

ยกจอกดื่มลืมอดีตยิ่งกรีดลึก
ราดรู้สึกด้วยน้ำจัณฑ์หรือหรรษา
เอื้อนบทกลอนกล่าวย้ำเพื่อร่ำลา
มิอาจฝืนกำหนดฟ้าชะตาตน

ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่ร้างเลิก
ตะวันเบิกหาวห้วงสู่ร่วงหล่น
พสุธาดังสุสานตำนานชน
ลิขิตคนขีดเห็นล้วนเช่นกัน

ตวัดปลายพู่กันสรรอักษร
ก่อนอัมพรลาพรากจากบุหลัน
อรุณแรกแทรกเยือนแล้วเพื่อนจันทร์
ต่างเราหันเหห่างหนทางตัว

 "Shumbala"







ศศิ...เสี้ยว เศษแสง แรงริบหรี่
ค่อนราตรี แล้วหนา หล้าเริ่มหลัว
ลางเลือนล้า พาหวั่น ขวัญมืดมัว
อกระรัว รานร้าว ทุกคราวไป

รับรู้สึก ผูกพัน วันโศกเศร้า
เพื่อนคลายเหงา เท่านั้น ที่จันทร์ได้
ปลอบประโลม โน้มแฝง แสงนวลใย
รินลูบไล้ ใฝ่เพียง เคียงกมล

แค่ได้เยือน เพื่อนรัก พักตร์มีสุข
บรรเทาทุกข์ รุกไล่ ในทุกหน
กี่ครั้งครา ลาผ่าน เอ๋ย..มานคน
น้ำตาจันทร์ หลั่นหล่น จนทำใจ

ศศิ...จร ก่อนหนา พร่าผ่อนแผ่ว
อำลาแล้ว แคล้วจันทร์ อย่าหวั่นไหว
ฝากโพยม โลมเยือน เพื่อนคนไกล
ชอกฤทัย ให้นึกฝัง ยังมีจันทร์

"ดิน"





โอ้..ศศิสิ้นแสงหรือแรงล้า
พสุธาคอยรับประทับขวัญ
หรือด้วยเจตน์จำนงจึงลงทัณฑ์
เพราะเจ้าปันแสงสู่ถึงผู้ใด

หากใจคงจงคืนมาชื่นหล้า
ซับน้ำตาธานินทร์สิ้นเหือดไห้
ทุกถ้อยคำอำลาแสนอาลัย
เพียงทอแสงแห่งใจมิไกลจันทร์

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, ยามพระอาทิตย์อัสดง, รพีกาญจน์, สะเลเต, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
15 สิงหาคม 2013, 04:41:PM
เนิน จำราย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 637
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,224



« ตอบ #28 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2013, 04:41:PM »
ชุมชนชุมชน



ริ้วเงินโชนฉายทาบปลายฟ้า
ไล่เงาเวหาลบดวงแข
ฤทธิ์ฝันขบขย้ำจำพ่ายแพ้
ตาวันวาดแส้ปราบมายา

จมหมองใจหม่นก่นโศกเศร้า
รินเหล้ารดไยใฝ่ทุกขา
ถ่วงตนดิ่งทะเลเล่ห์เวลา
ลืมตาลาจันทร์...เถิดวันนี้


วันนั้นแดดส่องยิ้มมองฟ้า
ไล่ล้าแข็งขันกระชั้นถี่
แสงเหลืองเรืองรองส่องทางชี้
วันนี้เพลิงผลาญลอยผ่านพ้น

แหวกผ่านด่านมืดด้วยฝืดฝืน
ผ่านพ้นกลางคืนด้วยดั้นด้น
กำลังสำคัญอันท่วมท้น
คือคนหนึ่งคนคอยนำทาง

เนิน จำราย

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, D, ชลนา ทิชากร, ยามพระอาทิตย์อัสดง, Shumbala, พี.พูนสุข, สะเลเต

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 สิงหาคม 2013, 01:43:PM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #29 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2013, 01:43:PM »
ชุมชนชุมชน



ริ้วเงินโชนฉายทาบปลายฟ้า
ไล่เงาเวหาลบดวงแข
ฤทธิ์ฝันขบขย้ำจำพ่ายแพ้
ตาวันวาดแส้ปราบมายา

จมหมองใจหม่นก่นโศกเศร้า
รินเหล้ารดไยใฝ่ทุกขา
ถ่วงตนดิ่งทะเลเล่ห์เวลา
ลืมตาลาจันทร์...เถิดวันนี้


วันนั้นแดดส่องยิ้มมองฟ้า
ไล่ล้าแข็งขันกระชั้นถี่
แสงเหลืองเรืองรองส่องทางชี้
วันนี้เพลิงผลาญลอยผ่านพ้น

แหวกผ่านด่านมืดด้วยฝืดฝืน
ผ่านพ้นกลางคืนด้วยดั้นด้น
กำลังสำคัญอันท่วมท้น
คือคนหนึ่งคนคอยนำทาง

เนิน จำราย



เพียงคนหนึ่งคนบนทางเปลี่ยว
คดเคี้ยวอย่างไรมิไกลห่าง
ร่วมเดินเผชิญวันอันเลือนราง
ผู้สร้างความหวังกำลังใจ

ฝ่าข้ามวันคืนที่ขื่นเข็ญ
เสมอเธอเป็นเช่นแสงไต้
ส่องนำทางก้าวแสนยาวไกล
จนถึงเส้นชัยได้เพราะเธอ

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, สะเลเต

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 สิงหาคม 2013, 07:18:PM
ยามพระอาทิตย์อัสดง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 691
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,437


~ ทุกถิ่นแถนแดนอักษร ~


เว็บไซต์
« ตอบ #30 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2013, 07:18:PM »
ชุมชนชุมชน


เพียงคนหนึ่งคนบนทางเปลี่ยว
คดเคี้ยวอย่างไรมิไกลห่าง
ร่วมเดินเผชิญวันอันเลือนราง
ผู้สร้างความหวังกำลังใจ

ฝ่าข้ามวันคืนที่ขื่นเข็ญ
เสมอเธอเป็นเช่นแสงไต้
ส่องนำทางก้าวแสนยาวไกล
จนถึงเส้นชัยได้เพราะเธอ

 เคารพรัก


เพียงใจหนึ่งใจ ... ใคร่สนิท
อิงแอบแนบชิด ... คิดเสนอ
ผ่านคืนผ่านวัน ... พลันละเมอ
มิอยากรอเก้อ ... เพ้อเดียวดาย

ข้ามผ่านคืนวัน ... ที่ขื่นข่ม
เจ็บร้าวระบม ... ยากจะหาย
อยากมีเพียงคุณ ... ให้อุ่นกาย
แค่นี้ก็คล้าย ... ได้หายใจ

พระอาทิตย์อัสดง

 ยิ้มหน้าใส

กำ  จ๋อยจนเหงื่อตก ไม่ถนัดเอาเสียเลย กลอนเจ็ด อภัยด้วยมาณ.ที่นี่  เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : my smile, D, ดาว อาชาไนย, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, พี.พูนสุข, Shumbala, สะเลเต, รการตติ

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อัสดง..ขอขอบคุณภาพสวยๆจากอินเตอร์เนต..
http://noisunset.blogspot.com/
Thinking about you makes me smile...
18 สิงหาคม 2013, 12:23:PM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #31 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2013, 12:23:PM »
ชุมชนชุมชน


เพียงคนหนึ่งคนบนทางเปลี่ยว
คดเคี้ยวอย่างไรมิไกลห่าง
ร่วมเดินเผชิญวันอันเลือนราง
ผู้สร้างความหวังกำลังใจ

ฝ่าข้ามวันคืนที่ขื่นเข็ญ
เสมอเธอเป็นเช่นแสงไต้
ส่องนำทางก้าวแสนยาวไกล
จนถึงเส้นชัยได้เพราะเธอ

 เคารพรัก


เพียงใจหนึ่งใจ ... ใคร่สนิท
อิงแอบแนบชิด ... คิดเสนอ
ผ่านคืนผ่านวัน ... พลันละเมอ
มิอยากรอเก้อ ... เพ้อเดียวดาย

ข้ามผ่านคืนวัน ... ที่ขื่นข่ม
เจ็บร้าวระบม ... ยากจะหาย
อยากมีเพียงคุณ ... ให้อุ่นกาย
แค่นี้ก็คล้าย ... ได้หายใจ

พระอาทิตย์อัสดง

 ยิ้มหน้าใส

กำ  จ๋อยจนเหงื่อตก ไม่ถนัดเอาเสียเลย กลอนเจ็ด อภัยด้วยมาณ.ที่นี่  เคารพรัก

ในความคำนึงเพียงหนึ่งนั้น
ผูกพันเพียงแลเพ็ญแขไข
ทุกข์ทนคนคอยน้อยหรือไร
เนิ่นนานปานใดกว่าได้ยล

คืนนี้แสงเพ็ญเจ้าเด่นฉาย
เปล่งปลั่งประกายให้หายหม่น
ขอเก็บเกี่ยวไว้ในกมล
แม้จนทิวาพาเจ้าเลือน

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ยามพระอาทิตย์อัสดง, D, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, สะเลเต, --ณัชชา--, ดาว อาชาไนย, รการตติ

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
18 สิงหาคม 2013, 12:45:PM
ยามพระอาทิตย์อัสดง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 691
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,437


~ ทุกถิ่นแถนแดนอักษร ~


เว็บไซต์
« ตอบ #32 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2013, 12:45:PM »
ชุมชนชุมชน



ในความคำนึงเพียงหนึ่งนั้น
ผูกพันเพียงแลเพ็ญแขไข
ทุกข์ทนคนคอยน้อยหรือไร
เนิ่นนานปานใดกว่าได้ยล

คืนนี้แสงเพ็ญเจ้าเด่นฉาย
เปล่งปลั่งประกายให้หายหม่น
ขอเก็บเกี่ยวไว้ในกมล
แม้จนทิวาพาเจ้าเลือน

 เคารพรัก


หากความคนึง ... เพียงหนึ่งนี้
ผูกพันคนดี ... คำว่าเพื่อน
เพียงการรอคอย ... ที่ย้ำเตือน
เนิ่นนานเสมือน ... เหมือนคอยใคร

พระจันทร์ส่องแสง ... แห่งประกาย
บ่งบอกความหมาย ... ว่าหวามไหว
เก็บเกี่ยวเกลียว"รัก" ... สลักนัย
มอบเพื่อแทนใจ ... ในรักเดียว

พระอาทิตย์อัสดง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Shumbala, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, D, สะเลเต, --ณัชชา--, ดาว อาชาไนย, รการตติ

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อัสดง..ขอขอบคุณภาพสวยๆจากอินเตอร์เนต..
http://noisunset.blogspot.com/
Thinking about you makes me smile...
19 สิงหาคม 2013, 12:07:PM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #33 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2013, 12:07:PM »
ชุมชนชุมชน



ในความคำนึงเพียงหนึ่งนั้น
ผูกพันเพียงแลเพ็ญแขไข
ทุกข์ทนคนคอยน้อยหรือไร
เนิ่นนานปานใดกว่าได้ยล

คืนนี้แสงเพ็ญเจ้าเด่นฉาย
เปล่งปลั่งประกายให้หายหม่น
ขอเก็บเกี่ยวไว้ในกมล
แม้จนทิวาพาเจ้าเลือน

 เคารพรัก


หากความคนึง ... เพียงหนึ่งนี้
ผูกพันคนดี ... คำว่าเพื่อน
เพียงการรอคอย ... ที่ย้ำเตือน
เนิ่นนานเสมือน ... เหมือนคอยใคร

พระจันทร์ส่องแสง ... แห่งประกาย
บ่งบอกความหมาย ... ว่าหวามไหว
เก็บเกี่ยวเกลียว"รัก" ... สลักนัย
มอบเพื่อแทนใจ ... ในรักเดียว

พระอาทิตย์อัสดง

แม้คืนแขลับคราหลับใหล
สายใยคนึงหามิล้าเรี่ยว
ยังผูกสัมพันธ์ดังฟั่นเกลียว
ยึดเหนี่ยวโยงไว้ในใจเรา

คอยคืนดาวจันทร์ประชันแสง
ฉายแรงแห่งหวังเช่นครั้งเก่า
ร่วมชื่นชมจันทร์อันพริ้มเพรา
ยิ้มเย้าแย้มเยือนเหมือนเช่นเคย

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, สะเลเต, --ณัชชา--, ยามพระอาทิตย์อัสดง, รพีกาญจน์, ดาว อาชาไนย, ชลนา ทิชากร, รการตติ

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
19 สิงหาคม 2013, 12:58:PM
สะเลเต
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1101
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,335


ขอขอบคุณ..ภาพจากอินเตอร์เน็ต


« ตอบ #34 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2013, 12:58:PM »
ชุมชนชุมชน

อยากลบอดีตคอยกรีดเฉือน
รักเลือนร้างลาไม่กล้าเผย
หวังดื่มลืมเศร้าเขาละเลย
รักเอ๋ยเคยฝัน..พลันมลาย

จอกแรกลิ้มรสปลดหม่นหมอง
จอกสองลองซ้ำหวังช้ำหาย
จอกสาม,สี่,ห้าเริ่มตาลาย
สุดท้ายไม่ลืม..ดื่มตั้งนาน
 เคารพรัก
---สะเลเต---

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : --ณัชชา--, ยามพระอาทิตย์อัสดง, รพีกาญจน์, D, ดาว อาชาไนย, Shumbala, ชลนา ทิชากร, รการตติ

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
20 สิงหาคม 2013, 08:16:AM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #35 เมื่อ: 20 สิงหาคม 2013, 08:16:AM »
ชุมชนชุมชน

อยากลบอดีตคอยกรีดเฉือน
รักเลือนร้างลาไม่กล้าเผย
หวังดื่มลืมเศร้าเขาละเลย
รักเอ๋ยเคยฝัน..พลันมลาย

จอกแรกลิ้มรสปลดหม่นหมอง
จอกสองลองซ้ำหวังช้ำหาย
จอกสาม,สี่,ห้าเริ่มตาลาย
สุดท้ายไม่ลืม..ดื่มตั้งนาน
 เคารพรัก
---สะเลเต---

ดื่มเพียงเดียวดายยากคลายเหงา
ควรเราร่วมดื่มลืมฟุ้งซ่าน
ดื่มพลางคุยพลางช่างเบิกบาน
เรื่องราววันวานปล่อยผ่านไป

จอกแล้วจอกเล่าไม่ลดละ
คารวะดินฟ้าชลาศัย
สุดท้ายถามว่าข้าฯคือใคร
ก่อนเมาหลับใหลใต้แสงจันทร์

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, D, ยามพระอาทิตย์อัสดง, สะเลเต, ชลนา ทิชากร, รการตติ

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s