13 กรกฎาคม 2013, 07:59:AM |
ยามพระอาทิตย์อัสดง
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2013, 07:59:AM » |
ชุมชน
|
อยากตะโกน กู่ร้อง ให้ก้องฟ้า ฝากสายลม นำพา ความคิดถึง บอกพวกเขา เราห่วง ห้วงคำนึง ยังตราตรึง ขึงอยู่ ไม่รู้คราย
เขียนด้วยจิต คิดด้วยใจ จากไกลห่าง บรรจงสร้าง ร่างคำกลอน ซ่อนความหมาย เพื่อนพ้องเอ๋ย เคยสนิท มิตรหญิงชาย แม้ชีพวาย สายสัมพันธ์ นิรันดร
Narasak [/b] ยินเสียงก้อง ท้องฟ้า นภามั่น คิดถึงวัน เคียงคู่ อยู่เก่าก่อน ใจคนึง ซึ้งทรวง กลัวจากจร อย่าตัดรอน แรมรา ร้างห่างไกล
บรรจงจิต ชิดชม อารมณ์หมาย บรรจงร่าย เพียงคำ นำสมัย หนึ่งบทกลอน จารจด รดรินใจ ฝากเพื่อไว้ แทนคำ ขอขอบคุณ
พระอาทิตย์อัสดง
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, D, muneenoi, ดาว อาชาไนย, รัตนาวดี, panthong.kh, เนิน จำราย, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, รการตติ, Shumbala, สุวรรณ
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
13 กรกฎาคม 2013, 08:54:AM |
D
นักรบทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,894
ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2013, 08:54:AM » |
ชุมชน
|
ฯลฯ
ไร้ผู้คน สนใจ ในหิ่งห้อย แสงเจ้าน้อย ลอยบิน ถวิลหวน มิต่างพี่ ลี้หลบ ต้องทบทวน แสนรัญจวน ป่วนใจ ในชะตา
"มุนีน้อย"
(เห็นกลอนเพราะๆ อดแจมไม่ได้ เอาสักหน่อย อิ อิ)
ต้องการใคร สักคน บนทางฝัน มาแบ่งปัน ความคิด จิตแจ่มจ้า แต่เขามี คู่จอง ตีครองตรา จึงอำลา มาไกล ใจโรยริน
เจอะ"มุนี" มิน้อย พลอยจะใหญ่ ครองถ้ำไกล ไพรพฤกษ์ ลึกผาหิน ประพฤติตน พ้นทุกข์ สุข อาจิณ กระแสสินธุ์ รินซัด มัจฉางาม
เห็นหิ่งห้อย กลางคืน ชื่น แสงสี ถ้ำคีรี ชีวา พาวาบหวาม หิ่งห้อยเปล่ง แสงจ้า ท้าทาบทาม จึงเดินตาม ข้ามเขต โปรดเมตตา
"ดิน"
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : muneenoi, ดาว อาชาไนย, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, panthong.kh, เนิน จำราย, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, Shumbala, สุวรรณ
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
13 กรกฎาคม 2013, 09:39:AM |
D
นักรบทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,894
ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2013, 09:39:AM » |
ชุมชน
|
หาหลวงปู่วุ่นวายสายเสียแล้ว ตัวต้องแจวมิรู้อยู่หนไหน ขืนอยู่กับฤาษีพวกชีไพร จะมือไวหรือเปล่าลองเดาดู
ไม่อยากเสียตุ้งตังค์ก็ยังได้ ยอมยกให้พิเศษเขตบ้านหรู ไปอยู่ถ้ำลำบากมากด้วยงู จะทนอยู่อย่างไรเสียวไส้จัง
ดาวอาชาไนย ก็ไม่รับ น้องนี่ ชีวีอับ เลยจ้องจับ ฤๅษี หนีความหลัง จะกลับตัว เชื่อใจ มิหน่ายชัง น้องจะนั่ง รอพี่ ที่สะพาน
ณ.เวลา ตีสี่ ให้พี่รับ น้องจะจับ แท็กซี่ หนีออกบ้าน หากปล่อยให้ รอเก้อ เพราะเผลอมาน เจอะนะอาน เอาให้ร้อง อย่าลองดี "ดิน"
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : muneenoi, ดาว อาชาไนย, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, panthong.kh, เนิน จำราย, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, Shumbala, สุวรรณ
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
13 กรกฎาคม 2013, 11:29:AM |
D
นักรบทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,894
ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2013, 11:29:AM » |
ชุมชน
|
อยากตะโกน กู่ร้อง ให้ก้องฟ้า ฝากสายลม นำพา ความคิดถึง บอกพวกเขา เราห่วง ห้วงคำนึง ยังตราตรึง ขึงอยู่ ไม่รู้คราย
เขียนด้วยจิต คิดด้วยใจ จากไกลห่าง บรรจงสร้าง ร่างคำกลอน ซ่อนความหมาย เพื่อนพ้องเอ๋ย เคยสนิท มิตรหญิงชาย แม้ชีพวาย สายสัมพันธ์ นิรันดร [/b] เรียบเรียงถ้อย ร้อยพจน์ จรดจากจิต ค่อยลิขิต ประดิษฐ์กานท์ จารอักษร ฤทัยมอบ ตอบเคียง เพียงคำกลอน ไร้คำอ้อน อ่อนหวาน ให้ขานชม
เพราะเป็นคน ชาวสวน สำนวนด้อย มานล่องลอย บ่อยครั้ง ภวังค์ขม แค่นอ้อนออด หยอดหวาน หว่านคารม หวังภิรมย์ ส่งผล ให้คนไกล
"ดิน"
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ดาว อาชาไนย, muneenoi, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, panthong.kh, เนิน จำราย, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, Shumbala, สุวรรณ
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
13 กรกฎาคม 2013, 02:33:PM |
D
นักรบทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,894
ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2013, 02:33:PM » |
ชุมชน
|
... ... ...คนอยู่ไกล ไร้คู่ รออยู่นี่ ใครหนาที่ เจาะรัก ราวปักศร ทุกค่ำเช้า รักฝาก มิจากจร พลันอาวรณ์ ค่ำคืน ต้องฝืนลา...
...ณ สุดฟาก ฟ้าไกล มิใครหนึ่ง กำลังรัก คิดถึง รำพึงหา ส่งใจฝาก จากแดน แสนไกลตา โปรดรับรู้ ด้วยว่า..ค่าเกินใคร..
รัตนาวดี ณ.ฟากหนึ่ง ขึงผ่าน ปลายม่านฟ้า ทำเพียงแค่ อักษรา พาฝากให้ ด้วยคิดถึง ซึ้งทรวง ห้วงหทัย ฝากห่วงใย ใจหวั่น เกรงสั่นคลอน
ฉะนั้นแล แดหวั่น ต้องหมั่นฝาก กลั่นหมึกจาก ดวงจินต์ รินอักษร มธุรส หยดหยาด อาจมีตอน ที่ใจอ่อน อ้อนเข้าไว้ ได้ผลเอง "ดิน"
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ดาว อาชาไนย, รัตนาวดี, panthong.kh, muneenoi, รพีกาญจน์, เนิน จำราย, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, Shumbala, สุวรรณ
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
13 กรกฎาคม 2013, 05:24:PM |
muneenoi
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2013, 05:24:PM » |
ชุมชน
|
|
แต่งกลอนเพราะใจรัก หนักใจเพราะตัณหา เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน สำราญด้วยพระธรรม..
|
|
|
13 กรกฎาคม 2013, 07:11:PM |
เนิน จำราย
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2013, 07:11:PM » |
ชุมชน
|
บรรจงจิต ชิดชม อารมณ์หมาย บรรจงร่าย เพียงคำ นำสมัย หนึ่งบทกลอน จารจด รดรินใจ ฝากเพื่อไว้ แทนคำ ขอขอบคุณ
พระอาทิตย์อัสดง
สนองตาม น้ำมิตร พินิจตอบ ประคองมอบน้ำใจส่งไออุ่น ประทับจิตติดไว้ได้เป็นทุน ประดับบุญติดกายจนหลายนาน
ห่างหายสายตารอท่าอยู่ คอยคู่เคียงกลอนอักษรหวาน แรมร้างห่างไกลไม่พบพาน ชื่นบานคือใช่..อยู่ใกล้อัสดงฯ
เนิน จำราย
|
|
|
|
13 กรกฎาคม 2013, 07:49:PM |
D
นักรบทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,894
ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2013, 07:49:PM » |
ชุมชน
|
อยู่กับคน จนใจ ไร้สารัตถ์ จึงออกหัด ขัดเกลา เผาตัณหา ในถ้ำเถื่อน เพื่อนกก คือนกกา ปรารถนา มาพบ สงบเย็น
ชมมัจฉา ปลางาม ตามธารใส ดูหมาใน ไล่เหยื่อ เมื่อยามเข็ญ ดอกไม้สวย รวยริน กลิ่นกระเซ็น สวรรค์เห็น เด่นชัด ปัจจัตตัง
วิหคพร่ำ จำเรียง เสียงประสาน ช่างแว่วหวาน ซ่านทรวง มิห่วงหลัง บ้างร้องกู่ คู่หาย คล้ายเซซัง พลัดรวงรัง ดังข้า พลัดอาราม
สิ้นเยื่อใย ในลาภ หาบกองยศ ละเลิกลด ปลดบ่วง ห่วงทั้งสาม น้อมพระธรรม ชำระ พยายาม ดำเนินตาม นามบุตร พุทธางกูร
ดังฤาษี มีฤทธิ์ วิชชาแกร่ง แต่พ่ายแรง แห่งหญิง ยิ่งเสียศูนย์ ตบะเสื่อม เหลื่อมล้ำ ทำอาดูร ย่อมพอกพูน มูลเหตุ กิเลสกิน
เป็นมุนี หนีช้ำ บำเพ็ญพรต หากมิลด ปลดแอก ดังแบกหิน อาจชอกช้ำ ทำหมอง ต้องราคิน เป็นมุนินทร์ สิ้นลาย อายเหลือเกิน
"มุนีน้อย"
มิอยากแหย่ มุนินทร์ เกรงศิลขาด เดี๋ยวพลั้งพลาด เกรียวกราว เป็นข่าวเกริ่น จึงลาถ้ำ ย่ำไป ในไพรเพลิน ขอเผชิญ เสี่ยงโชค โบกมือลา
เดินเลาะทุ่ง คุ้งธาร ละหานห้วย มาลีสวย กล้วยไม้ ไต่หินผา ยลน้ำตก โกรกซัด ถนัดตา สุขอุรา ล้าแรง แลงค่ำลง
สกุณา ถลาร่อน มานอนคู่ เสียงขันคู กู่ก้อง ร้องตอบส่ง โอ้ค่ำแล้ว แนวไพร ในป่าดง ฉันเดินหลง หวังโหงพราย คงใจดี "ดิน"
|
|
|
|
13 กรกฎาคม 2013, 08:19:PM |
muneenoi
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2013, 08:19:PM » |
ชุมชน
|
อ้างจาก ละอองดิน...
มิเป็นไร ไม่ถือ คือปลงแล้ว เชิญน้องแก้ว แซวพล่าม ตามประสงค์ อันมุนี ชีกอง บ่องตงตง มิลุ่มหลง งงงวย ด้วยกวี
เก็บใส่ตู้ รู้หมด จดสิกขา ก่อนถลา มาร่อน กลอนวสี ทั้งศีลพรต ปลดก่อน อ้อนคนดี ต่อจากนี้ สีกา อย่าระแวง
นามมุนี นี้หนอ ก็เพียงชื่อ ตัวจริงหรือ คือคน กมลแหว่ง ร่ายกวี สีสัน ฝันจำแลง มิได้แกล้ง แบ่งชั้น ฉันและเธอ
จะพาเดิน เพลินย่ำ ลำธารห้วย มาลีสวย กล้วยไม้ ใคร่เสนอ แซมผมดิน กลิ่นหอม พร้อมปรนเปรอ อ้าว!ละเมอ เผลอไป ไม่เคยจำ...
"มุนีน้อย"
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ดาว อาชาไนย, เนิน จำราย, ยามพระอาทิตย์อัสดง, D, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, Shumbala, panthong.kh, สุวรรณ
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
แต่งกลอนเพราะใจรัก หนักใจเพราะตัณหา เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน สำราญด้วยพระธรรม..
|
|
|
13 กรกฎาคม 2013, 08:23:PM |
เนิน จำราย
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2013, 08:23:PM » |
ชุมชน
|
โหงพรายร่ายมนต์บ่นคาถา ได้ยินเสียงสุดามารศรี รู้กำหนดหมดสิ้นดินคนดี หลงป่าพนาลีเดินดุ่มมา
ถ้าแม้นข้าไม่ช่วยต้องม้วยมอด ด้วยสังข์ทองไม่ถอดรูปเงาะป่า จำจะยกพหลพลเสนา ไปล้อมพาราสามลไว้
แล้วให้คนนครชัยศรีขึ้นขี่หลัง หลบร่มไม้ใบบังพระไทรใหญ่ พอรุ่งแสงแจ้งทิวาค่อยคลาไคล ส่งไปให้มุนีที่บ้านกลอน
เนิน จำราย
|
|
|
|
13 กรกฎาคม 2013, 09:30:PM |
D
นักรบทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,894
ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2013, 09:30:PM » |
ชุมชน
|
|
|
|
|
13 กรกฎาคม 2013, 11:29:PM |
|
|
14 กรกฎาคม 2013, 01:01:PM |
D
นักรบทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,894
ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2013, 01:01:PM » |
ชุมชน
|
โหงพรายร่ายมนต์บ่นคาถา ได้ยินเสียงสุดามารศรี รู้กำหนดหมดสิ้นดินคนดี หลงป่าพนาลีเดินดุ่มมา
ถ้าแม้นข้าไม่ช่วยต้องม้วยมอด ด้วยสังข์ทองไม่ถอดรูปเงาะป่า จำจะยกพหลพลเสนา ไปล้อมพาราสามลไว้
แล้วให้คนนครชัยศรีขึ้นขี่หลัง หลบร่มไม้ใบบังพระไทรใหญ่ พอรุ่งแสงแจ้งทิวาค่อยคลาไคล ส่งไปให้มุนีที่บ้านกลอน
เนิน จำราย
ดึกสงัด พัดพริ้ว ลมฉิวเฉียบ แสนเย็นเงียบ หิ่งห้อย บินลอยว่อน คล้ายต้องมนต์ ดลถ่วง ง่วงหาวนอน เอนหนุนขอน ข้างไทร หลับไปนาน
สะดุ้งตื่น ยืนกาย เกือบใกล้สาง คนเคียงข้าง ร่างใหญ่ ใจเสียวซ่าน เขาคือใคร ไหนหนอ .หล่อ. ทรมาน ปากช่างหวาน ขานนุ่ม เสียงทุ้มจัง
ถามได้ความ ตามตรง โหงพรายแก่ โอ! จะแย่ ไหมนั่น ดันไปหวัง แต่สุขล้น ท้นมาน ปานประดัง อยากฝากฝัง เป็นนางไม้ หน่ายชายกลอน "ดิน"
|
|
|
|
|