ในความสุขคลุกเคล้าด้วยเงาโศก
อุปโลกน์รสเรื่องประเทืองจิต
เฝ้าหลงปลื้มลืมตรองมองพินิจ
ว่าชีวิตไม่เที่ยงเพียงมายา
สรรพสิ่งยิ่งสร้างยิ่งว่างเปล่า
ทุกครั้งก้าวเกิดผลมิพ้นขา
อย่าสับสนกลเล่ห์ของเวลา
จนชีวาหลงผิดติดนิวรณ์
ยามสุขีชีวันก็หวั่นทุกข์
กลัวความสุขสบายจะถ่ายถอน
เมื่อจางไปใจนั้นกลับสั่นคอน
หาทางย้อนผลลัพธ์ให้กลับคืน
คงคล้ายเหรียญเวียนวนเมื่อหล่นกลิ้ง
หากจมดิ่งธารทุกข์ที่สุขยื่น
ถ้าหลงใหลใฝ่ฝันในควันฝืน
ถูกกินกลืนจมฝังหมดทั้งใจ
เพราะความอยากปากจ้อร้องขอผล
คล้ายต้องมนต์มองดาบเป็นลาภได้
เพื่อความสุขบุกบั่นมิหวั่นใด
เมื่อสมเจตเหตุไฉนไม่หยุดยั้ง
ทนเวียนว่ายหมายมุ่งความรุ่งโรจน์
เริ่มเหี้ยมโหดคมเขี้ยวลอบเกี่ยวฝัง
คนที่ห่วงท้วงทักก็มักชัง
เอาตัวตั้งต่ำใต้ต้องย้ายตาม
ไร้เรี่ยวแรงแข้งขาอ่อนล้าสิ้น
ยังหลงกลิ่นดิ้นรนให้คนหาม
แม้สังขารค้านร่ำไม่จำความ
จุดสิ้นสุดหยุดห้ามคือความตาย
เมื่อสุขใจใกล้ตัวกลับมัวหลง
เมื่อหมดลงผู้ทรงศีลกลับปีนป่าย
ถ้าย้ำข้างทางเดินจนเกินปลาย
ผลสุดท้ายว่ายวนไม่พ้นมือฯ
จ.รัตติกาล