กาลครั้งหนึ่ง : เธอคือรุ่งอรุณของฉัน
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 01:37:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กาลครั้งหนึ่ง : เธอคือรุ่งอรุณของฉัน  (อ่าน 2695 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
23 ตุลาคม 2012, 01:02:PM
พิมพ์วาส
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 422
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


Pretending is the beginning of changes.


profile.php?id=100002905344846
« เมื่อ: 23 ตุลาคม 2012, 01:02:PM »
ชุมชนชุมชน

กาลครั้งหนึ่ง : เธอคือรุ่งอรุณของฉัน


วันวันหนึ่งในที่ที่หม่นหมอง
ใครหนึ่งร้อง'สู้ต่อท้อเกินฝัน'
มีแต่ความแก่งแย่งแข่งดีกัน
จนตัวฉันล้มฟุบหน้าหลุบดิน
ใครต่อใครหัวเราะเยาะเย้ยร่อ
หวาดจะก่อฝันใหม่ทลายสิ้น
ก่อนผลักตัวหนีหายปลายชีวิน
น้ำตารินอาบทั้ง... ฝั่งแก้มนี้
ยิ้มให้กับวันเหงากอดเข่าแอบ
ทำตัวแฟบคุดคู้อยู่..บนเก้าอี้
ซบหน้ากับมือนิ่ม, ยิ้มบางที
บ่ายหน้าหนีตะวันอันแรงเรือง

   "แต่ท่านกรรมการคะ"
   "หยุดคุณไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว ผมไล่คุณออก" เสียงฉุนโกรธดังลั่นออฟฟิตแห่งหนึ่ง
   "ได้โปรดฟังดิฉันก่อน..."
   "ไม่ต้องแก้ตัวแล้วผมไล่คุณออกแล้วยื่นใบลาออกที่นี่ด้วย" เสียงดุกระชากกร้าวขับไล่พนักงานร่างบาง
เธอมอง 'ผู้เคยเป็นนาย' ครั้งสุดท้ายก่อนเดินลงมาโบกแท็กซี่กลับบ้าน

ภายในออฟฟิตสาขาใหญ่ของสถาปนิกออกแบบดีไซน์บ้านหลายวันต่อมา
  "ฉันว่าจริงๆยายรินก็ทำงานดีนะ แต่ไม่น่าไปสะเออะออกความคิดเห็นกับท่านกรรมการเลย เห็นเขาว่าโดนไล่ออกเพราะออกความเห็นเรื่องเอาของไม่มีคุณภาพสั่งให้ลูกค้าแล้วโก่งราคาเท่าของเกรดเอล่ะ ยายนั่นเลยโวยวายทะเลาะกับท่านกรรมการจนโดนไล่ออกนี่แหละ" โฉมศรีพูดขึ้นเมื่อหันเก้าอี้หาศรีสมร
   "ใช่แหละเธอ อุ๊ย ฉันลืมบอกไปเรื่องนี้ดังไปถึงหูบอร์ดใหญ่เห็นเขาลงมติกันว่าจะส่งคนใหม่มาแทนท่านผู้จัดการสาขานี้นะ เห็นว่าหล่อด้วยละยะหล่อน" ศรีสมรทำท่าจีบปากจีบคอพูดเมื่อถึงปลายประโยค "เขาว่าเพิ่งเรียนจบมาหมาดๆด้วยล่ะเธอตั้งเมืองนอกเมืองนาโน้นแน่ะ"
   "แต่อย่าหวังสูงมากล่ะหล่อน เห็นว่าผู้ชายหล่อๆเดี๋ยวนี้แอ๊บกันทั้งนั้น" โฉมศรีว่าอย่างหมิ่นก่อนขยับเก้าอี้เข้ามาชิดเพื่อนสาวที่ร่วมทำงาน
   "นี่ๆหล่อนเห็นว่าเป็นลูกชายประธานใหญ่ที่ตั้งบริษัทขึ้นมาด้วยล่ะหล่อน เห็นว่าให้มาลองงานที่บริษัทสาขาใหญ่นี้น่ะ ชื่ออะไรนะ อืมมม์ คุณวานิตย์สินะ" โฉมศรีว่าก่อนจะขยับออก
   "อ๋อ...ถ้างั้น อีกสักหน่อยคงได้บริหารบริษัทใหญ่สินะหล่อน ทั้งหล่อทั้งรวยแล้วยังเก่งอีกหาไม่ได้แล้วนะเธอ" ศรีสมรขยิบตาให้นิดหนึ่งก่อนดันตัวลุกขึ้นไปชงกาแฟ
ชายร่างสูงสวมสูทกรมท่าดูภูมิฐาน ดวงหน้าขาวรับกับคิ้วหนาเข้มปากสีชมพูหยักได้รูป ดวงตาสีน้ำตาลสนิมกวาดตามองภายในออฟฟิตใหญ่ก่อนก้าวเดินมาที่หน้าโต๊ะเลขาสาว
   "สวัสดีครับคุณโฉมศรี" เขาหรี่ตามองป้ายชื่อพนักงานที่อกก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเลขาหน้าห้อง
   "ผมต้องการรายชื่อพนักงาน และโปรเจ็กงานตั้งแต่ต้นด้วยนะครับ ถ้าจะให้ดีขอภายในครึ่งชั่วโมงนี้และกาแฟไม่หวานหนึ่งถ้วยครับ" เขาพูดพร้อมผลักประตูห้องกรรมการสาขาใหญ่เข้าไป โฉมศรีอ้าปากหวอทำหน้ามึนงงชั่วขณะ
   "ทำไมทำหน้าอย่างงั้นล่ะยายโฉมเมื่อกี่ใครล่ะเห็นหลังแว๊บๆ" สมรศรีพูดพร้อมวางถ้วยกาแฟไว้บนโต๊ะเพื่อน
   "คุณวานิตย์ คุณวานิตย์มาแล้วยายหมอนไปชงกาแฟมาไม่ต้องหวานนะเดี๋ยวฉันไปเอาโปรเจ็กเก่ามาก่อน" โฉมศรีกุลีกุจอลุกอย่างทุลักทุเล พอตั้งสติได้เจ้าหล่อนก็วิ่งไปฝ่ายวิชาการทันที
   ๑๕ นาทีต่อมาของทั้งหมดที่ 'ท่านกรรมการ' สั่งก็มาอยู่ที่โต๊ะทำงาน เขากวาดสายตาดูตั้งแต่ต้น มีหลายโปรเจ็กที่น่าสนใจหลายชิ้นเลยทีเดียว เขายกหูโทรศัพท์ขึ้นต่อสายเลขาหน้าห้อง สักครู่เธอเดินเข้ามาพร้อมแฟ้มประวัติพนักงานคนหนึ่ง
   "เดี๋ยวคุณสายสมร" เขาเรียกเมื่อเธอจะเดินหันหลังออกไป
   "คะ?" เธอหยุดเดินพร้อมหันหลังกลับมา
   "คุณช่วยเรียกพนักงานคนนี้ให้ผมที" เสียงนุ่มเอ่ยขึ้น
   "คงจะไม่ได้หรอกค่ะ"
  "หืม?"
   "เพราะว่าวันนี้เธอจะมายื่นใบลาออกแล้วล่ะค่ะคุณวานิตย์"
   "ทำไม?"
   "ก็เพราะ..."
เสียงรองเท้าส้นสูงดังหน้าห้องพร้อมร่างบางดันประตูห้องเข้ามา เธอยืนสูดลมหายใจก่อนจะหอบเอกสารกองใหญ่เดินผ่านโฉมศรีเลยโดยไม่คิดจะสนใจสักนิด และไม่คิดปรายตามองเจ้าท่านกรรมการ ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหม่ เธอเดินมาหยุดหน้าโต๊ะทำงานพร้อมโปรเจ็กใหม่ที่เพิ่งทำเสร็จพร้อมแบบจำลองบ้านที่ดัดแปลงเป็นสถานที่ฝึกโยคะ ขนาดกองท่วมหัวคนร่างบาง
   "นี่ค่ะถึงดิฉันจะลาออกวันนี้แต่ก็ไม่ได้ค้างงานที่มอบหมายให้ดิฉันทำ ดิฉันมีความรับผิดชอบพอค่ะ" เธอพูดพร้อมวางงานลงต่อหน้าท่านกรรมการดัง 'ปึ้ง'
   "แล้วคนอย่างคุณ..." นิ้วเรียวยาวชี้ที่หน้ากรรมการก็ต้องงอลง
   "ดิฉันขอโทษค่ะ" เธอรีบหันหลังกลับ ด้วยความเสียหน้าโดยหารู้ไม่คนตรงหน้าไม่ใช่ 'เจ้านายคนเก่า' ที่ตะเพิดไล่เธอออกเมื่อวันวานนั้น
   "เดี๋ยวคุณหยุดก่อน" เสียงนุ่มเอ่ยดวงตาสีน้ำตาลสนิมมองแฝงความนัย
   "ผมรับคุณเข้าทำงาน"
   "หา? ให้ดิฉัน..."
   "ใช่ คุณฟังไม่ผิดหรอกคุณรินลดา" เขาพูดพร้อมฉีกใบลาออกที่มาพร้อมกับงานชิ้นสุดท้ายสำหรับเจ้านายเก่า และตอนนี้ในวินาทีนี้ กำลังจะเริ่มงานกับเจ้านายใหม่
   "ความคิดที่แตกต่างของคุณน่าสนใจดีอย่าง...โยคะในบ้านนี่ก็ดัดแปลงได้เหมาะสม ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย" เขาไล่มองตั้งแต่สวนไปจนถึงในตัวบ้านก่อนเงยหน้าขึ้นมาสบตากับรินลดา เขาไล่ตามองดูร่างระหง แพรผมสีน้ำตาลอ่อนระบ่า กับปากสีแดงสวย จมูกรั้นเชิดดวงหน้านวลสีผิวน้ำตาลอ่อนแบบฉบับหญิงไทย
   "วันนี้คุณไปพักผ่อนก่อนพรุ่งนี้คุณมาทำงานตามปกติเดี๋ยวผมจะมอบโปรเจ็กใหม่ให้คุณไปทำ" เขาพูดพร้อมลุกขึ้น "ผมสนใจในตัวคุณ"
หัวใจของรินลดากระตุกไหววูบหนึ่ง ก่อนที่จะเป็นปกติ ดวงหน้าของเธอฉงนฉงายกับคำลับลมคมในวูบหนึ่งก่อนเป็นปกติ
   "ขอบคุณค่ะท่านกรรมการ" เธอยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ ร่างระหงเดินออกไปจากห้อง
   "ขอบคุณมาก คุณสายสมร"
หล่อนพยักหน้าให้นิด ก่อนเดินตามรินลดาออกไป ความเงียบเข้าปกคลุมห้องอีกครั้งก่อนที่ชายร่างสูงจะนั่งลงบนเก้าอี้
   "คุณยังเหมือนเดิมเลยรุ่งอรุณของผม"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บ้านริมโขง, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความผกผันของเวลา  เฉือนเจตนาของอารมณ์
23 ตุลาคม 2012, 01:05:PM
พิมพ์วาส
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 422
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


Pretending is the beginning of changes.


profile.php?id=100002905344846
« ตอบ #1 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2012, 01:05:PM »
ชุมชนชุมชน

   ร่างบางไขกุญแจบ้านหลังเล็กน่ารักแต่ทว่าภายในกว้างกว่าที่เห็นภายนอก เธอยิ้มให้กับดอกกุหลาบที่ปักอยู่ในแจกันมาได้ ๓-๔ วันแล้ว มองกล่องจดหมายที่เก็บไว้อย่างดีถึงแม้จะอ่านหลายร้อยหลายพันครั้งก็ยังไม่มีรอยแม้แต่รอยเดียว เธอเอนตัวพิงเบาะนุ่มๆสีน้ำตาลในห้องที่ทาสีม่วงอ่อนน่าค้นหา พริ้มตาหลับลงไม่นานเธอก็ตกสู่ภวังค์
   "ก๊อก ก๊อก ก๊อก" เธอเอนหลังหลับตาได้สักครูก็มีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น เธอค่อยๆลืมตาแต่เสียงก็ยังดังอยู่เป็นระยะ ระยะ
   เธอเปิดประตูออก
   "สวัสดีครับนี่ใช่บ้านคุณรินลดาไหมครับ" เจ้าของเสียงนุ่มทุ้ม ดวงตาสีน้ำตาลสนิมพูดขึ้น เธอเงยหน้ามองเจ้าของเสียง ด้วยอาการงัวเงียจากอาการเพิ่งตื่นนอนเมื่อสักครู่นี้
   "ค่ะ ใช่ค่ะ คะ คะ คุณ" เธออ้าปากหวอ ชายหนุ่มร่างสูงจะเดินเข้ามาอย่างถือวิสาสะ เขาถอดรองเท้าไว้ที่ชั้นแล้วใส่รองเท้าฟองน้ำในบ้าน เขาเดินผ่านเธอไปนั่งที่เอนหลังเมื่อสักครู่นี้
   "คุณจำผมได้ไหมคุณริน" ก่อนที่เจ้าของบ้านจะเอ่ยปากว่าคนเข้ามาโดยพละก่อน แต่ก็ต้องชะงักเสียก่อน
   "อืม..." เธอพยายามนึก
   "จำผมได้มั้ย?" เสียงนุ่มถามอีกครั้ง
   "อ่อ...คูนวะ วะ วา วารินทร์ อืมมม์ วารักษ์ไม่ใช่แน่ อ่อ...วาโรจน์ งั้น วรุณ อืม..." เธอพยายามนึก " วะ วะ วาวานิตย์ วานิตย์ใช่มั้ย นิตย์ นิตย์ วานิตย์จอมหยิ่ง" เธอร้องด้วยความดีใจ
   "ใช่แล้วล่ะครับ" เขาหยุดพูดนิดหนึ่ง "ผมดีใจจังที่คุณจำผมได้ตั้งแต่วันนั้นที่ผมต้องไปพักรักษาตัวที่อเมริกา" เข้าก้มหน้าลงนิดหนึ่ง เธอเดินเข้ามาใกล้ตัวเขาเชยคางเขาขึ้นมา
   "ไม่ได้มองหน้านิตย์ใกล้ๆอย่างนี้นานแล้วนะ" เธอยิ้มก่อนจะจุมพิตเบาๆที่หน้าผาก     
   "คิดถึงรินบ้างไหม" เธอนั่งลงข้างๆเขา
   "ผมคิดถึงคุณเสมอรุ่งอรุณของผม" เขายิ้มให้นิดๆก่อนโอบร่างบางเข้ามาแนบชิดแผ่นอกกวาง เขาไล่นิ้วจากไหลลงไปที่นิ้วนางข้างกวา ในนามของ 'บอยเฟรนด์' ตอนที่คบหาดูใจกันเมื่อปีเศษก่อน
   "คุณหน้าตาเปลี่ยนไปมากเลยรู้มั้ย...แต่คุณ...ก็ยังเป็นนิตย์คนเดิมของริน" เขายิ้มให้เธอเมื่อเธอพูดประโยคนั้นจบ
   "รินเก็บจดหมายนิตย์ไว้ทุกฉบับเลยค่ะ" เขามองดวงหน้าภายใต้กรอบผมสีน้ำตาลน่ารัก เธอเป็นเหมือนรุ่งอรุณที่สาดส่องมาในหลืบใจของเขา ทุกๆที่ที่เธออยู่เคียงข้างเขาจะไม่มีความคลาดแคลงใจต่อสิ่งใด ในที่ๆเธอพาเขาก้าวเข้าไปมันสวยงามไปหมด
   "รินอ่านจดหมายของผมฉบับสุดท้ายหรือยังครับ"
   "จดหมายฉบับที่เจ็ดอ่านแล้วค่ะ" เธอยิ้มจนตาหยี เขาเล่าเรื่องเกี่ยวกับการจะกลับมาเมืองไทย แล้วทำงานในบริษัทสาขาใหญ่ที่ผู้เป็นบิดาให้ลองงาน
   "เปล่าครับฉบับนี้ต่างหาก" เขานั่งลงคุกเข่า ใช้ดวงตาสีน้ำตาลสนิมจ้องมองหาความนัยในนัยน์ตาสีน้ำตาลคู่สวย
   "แต่งงานกับผมนะครับ" เขาหยิบกล่องสีแดงกำมะหยี่ออกมา เปิดออก เธอมองหาความนัยในนัยน์ตาสีน้ำตาลสนิมคู่ที่เธอชอบมอง ไม่เหลือร่องรอยของความปวดร้าวอีกต่อไปแล้วเหลือแต่ความรัก ความห่วงใย นัยน์ตาคู่นั้นจับจ้องเธอเธอมองดวงตาของเขาสะท้อนในนัยน์ตาตัวเอง เธอยิ้มให้ก่อนที่ร่างบางจะโผเข้ากอดเขาเป็นคำตอบ
   "ค่ะ รินรักคุณค่ะ"



ความหลังไม่ได้เล่าต้องขออภัยเนื่องจากข้าพเจ้าเขียนเล่นสนุกๆเพียงเท่านั้น ต้องขออภัยด้วยค่ะ ข้าพเจ้าสนุกจังเลย ข้าพเจ้าขอให้คนที่อ่านงานของข้าพเจ้ามีความสุขเช่นข้าพเจ้านะคะ ^^
รักและเคยรักและยังรักด้วยหัวใจ
ความทรงจำและกาลครั้งหนึ่ง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บ้านริมโขง, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความผกผันของเวลา  เฉือนเจตนาของอารมณ์
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s