ปริญญา : อดทน : ทางขวนขวาย
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 พฤศจิกายน 2024, 01:15:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ปริญญา : อดทน : ทางขวนขวาย  (อ่าน 1796 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
11 ตุลาคม 2012, 09:54:AM
พิมพ์วาส
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 422
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


Pretending is the beginning of changes.


profile.php?id=100002905344846
« เมื่อ: 11 ตุลาคม 2012, 09:54:AM »
ชุมชนชุมชน



ขณะแดดแผดเผาผิวพองผุด     กรำงานหนักพักหยุดโทรมทรุดร่าง
เหงื่อไคลย้อยปล่อยผมกับลมจาง     อุตสาหกรรมนำสร้างไม่วางมือ
สองแขนแกร่งแบ่งปูนแบกพูนเพิ่ม     ดวงหน้าเริ่มเติมคล้ำออกดำถือ
เข็นรถเหล็กเล็กออกปากบอกคือ     งานที่ซื่อสุจริต...และคิดดี
หามรุ่งค่ำทำงานเพื่อบ้านแล้ว    ใจแน่แน่วแนวทางสร้างไม่หนี
แม้เหนื่อยหนักทนเอาเฝ้าแบบนี้     และก็ถือคือชีวิตลิขิตเอง
คล้อยบ่ายพักหนักผ่อนรอนอาทิตย์     กับชีวิตสิทธิ์เริ่มประเดิมเร่ง
โลกคงวุ่นหมุนวนตนบรรเลง   กับเสียงเพลงเครงครื้นดาษดื่นใจ
ขณะโหมโจมจู่เพลงพรูหนัก    วัฏจักรปักเป็นเดิมเช่นไหน?
คนเหมือนกันมันแปลกแตกต่างไป    โลกใบใหญ่แบบนี้... วิถีเรา
ผ้าขาวม้ามาแกะปม, และซับ    เหงื่อย้อยพับกลับซึมซาบผ้าเคล้า
เย็นลมบ่ายกรายพัดสะบัดเบา    โอนเอนเงาโงนร่างตามทางเดิน
ชายผิวเข้มหน้าคมโดนลมกร้าน    ทางกลับบ้านเห็นนกบินผกเหิน
สายตาหยามเหยียดจู่ทุกคู่เมิน    ก่อนผิวเผินเกินชมดุจลมพา
เผยหน้ายิ้มพริ้มพรายหมายต้อนรับ  มือคู่น้อยคอยรับจับดวงหน้า
พร้อมยิ้มสวยด้วยรักประจักษ์ตา   กับว่าจาพาชื่นรื่นกมล
“คุณพ่อจ๋าทำงานเหนื่อยไหมจ๊ะ   ลูกเอาน้ำให้นะ”กลับมาอีกหน
พร้อมน้ำเย็นจากโอ่งเอาวางบน   เจ้าของมือหยาบย่นหน้าล้นยิ้ม
“พ่อจ๊ะพ่อหนูอยากได้กระเป๋า”  น้องน้อยเข้านั่งตักพักตร์ยิ้มกริ่ม
มือกร้านวางข้างหัวบนตัวนิ่ม   ก่อนจะพริ้มอิ่มลาน้ำตาลง
“ไว้ให้พ่อมีเงินก่อนเถิดลูก   พ่อจะรับขายฟูก, ผัก, ฟัก, กระด้ง
พ่อทำไปอีกหน่อยเราก็คง   ใช้หนี้ส่งผ่อนหมดแล้วมีเงินทอง”
สองลูกสาวเข้ารวมแล้วสวมกอด    ตัวเล็กพลอดออดอ้อนผ่อนความหมอง
คนโตเย้าเข้านวดปวดบ่ารอง     พ่อตระกองสองลูกรักนั่งตักเอน
ลมยามดึกลึกร้าวเหน็บหนาวจิต เฝ้าสะกิดพิศขู่อณูเส้น
เริ่มสว่างสางคร้ามตามกฎเกณฑ์    ยากเบี่ยงเบนเว้นละ, ตะวันเยือน
เสียงประตูอู้อี้เสียดสีลั่น     มือหยาบดันหันมองสองลูกเหมือน-
มุ่งขยันอัดอดทนตนเตือน     ก่อนจะเคลื่อนเบือนหน้าพาก้าวนั้น!
“พ่อจ๋าพ่อ พ่อจ๋าจะไปไหน     พวกเราอยู่อย่างไรใครดู หวั่น
โจรขโมยขึ้นบ้านจะทำอย่างไรกัน     พ่อจ๋าพ่ออย่าหันหลังให้เลย”
ตะเบะเสียงเพียงหวังดังที่สุด     พ่อจะรุดหยุดหลังทั้งยิ้มเผย
พ่อไม่ทำจำออกข้างนอกเปรย     ไม่อย่างเคยขืนทำจำอดกิน
ทุกครั้งที่ลูกเร่งครวญไห้หวน       พ่อต้องทำทุกกระบวนทวนเรื่องผิน
แทบทุกครั้งพลั้งยอมพร้อมรักริน      ไร้หมดความชาชิน.. สิ้นแกล้งทำ
พี่ตะล่อมกล่อมน้องอย่าร้องไห้     ชอบทำพ่อหนักใจไยงามขำ
เป็นอย่างนี้เนิ่นทุกทุกประจำ     เจียนหน่ายย้ำซ้ำบอกปากบอกพอ
พ่อก็เดินเมินหน้าลิบลาบ้าน     ก่อนทำงานหาญสู้ลูกรู้หนอ
แต่ก็รัก “รักนัก” รักพะนอ     เฝ้าต่อรอพ่อกลับ... ลับตะวัน
เสียงประตูอู้อี้เสียสีอีก     ไม้ซุกซีกฉีกร้าวเข้าปิดหัน
พร้อมชายผิวหยาบกร้านกลับบ้านพลัน     เข้าโอบมั่นน้ำเย็นเฉียบในมือ
เกิดคำถามขึ้นผุดหยุดใบหน้า     ก่อนปากพาคำถามถามตามซื่อ
“พ่อจ๋าพ่อ‘ไอ้เงิน’น่ะมันคือ     อะไรหรือจ๊ะพ่อจ้ะพ่อจ๋า”
ลูกสาวเล็กเด็กน้อยค่อยพร่ำถาม      มองงดูชายผิวคร้ามยามถามหา
พ่อครุ่นคิดนิดหนึ่งพึงเอ่ยมา     “ก็คือค่าของ ของที่ลูกใช้
สิ่งที่ลูกอยากได้อย่างกระเป๋า     พลันก็เอาเงินซื้อไม่ว่าชิ้นไหน
หากลูกอยากไดของหรืออะไร      ต้องทำงานขยันไปจึงได้เงิน”
เด็กหญิงมองจ้องมาตาใสแจ๋ว     ยิ้มบางแผ่วแล้วเบิกพร้อมคำเขิน
“พ่อจ๋าพ่อทำงานแบบพ่อลำบากเหลือเกิน”     หยุดนิดหนึ่งร่างสะเทินก่อนเมินดู
“พ่อจ๋าแล้วทำอย่างไรให้งานน้อย     แล้วก็พลอยมีเงินใช้เงินอยู่?
ไม่ต้องให้ใครลำบากยากเพียงหนู     แล้วหนูจะเลี้ยงผู้เป็นพ่อเอง”
คำเด็กหญิงพริ้งพรายพ่อหายเหนื่อย     ละความเมื่อยเหนื่อยล้าว่าจาเปล่ง
“ขอเพียงลูกตั้งใจเรียนเพียงรีบเร่ง     ให้เก่งเก่งและต้องเป็นคนดี
พอเจ้าจบปริญญามีวุฒิแล้ว     สมัครงานคล่องแคล่วไม่ไสหนี
เจ้าก็ไม่ต้องทำงานหนักแบบนี้      นี่แหละคือผลดีของความพยามนะ”
เด็กหญิงน้อยปรอยตามองโลกกว้าง     พร้อมยิ้มย่างกว้างสุดรุดขณะ
คิดตั้งมั่นตามพ่อขอไม่ละ     สักวันนะจะเป็นเช่นรำพัน

ปริญญาใบแรก      มุมมองโลกที่แปลกแตกต่างผัน
แต่ดำรงคงค่าความสวยมัน     ไว้แบบนี้อย่างนั้นพร้อมฝันงาม
ขณะแดดแผดร้อนอยู่ตอนนอก     หัวใจบอกออกปากอยากโทรถาม
พอคิดปั๊บปุ๊บก็ต่อถึงพ่อยาม      คิดถึงแม้อยู่ข้ามโค้งห่างแดน
“พ่อจ๋าพ่อเงินที่ส่งไปนั้น     ถึงมือกันรึยังส่งไปแสน
มีอะไรให้บอกถ้าขาดแคลน     ลูกคนนี้ก็แม้นจะช่วยตลอด”
เสียงลูกรักทักทายตามสายก้อง     หัวใจพ่อก็พองส่งไปกอด
ดินแดนห่างต่างกันโค้งฟ้าทอด     เสมอสอดส่องพร้อมอ้อมแขนรัก
“พ่อภูมิใจในตัวลูกมากนะ      ขอลูกจงอย่าละผละทิ้งหนัก
ขอยืนหยัดสู้ไว้อย่าโหมนัก     สักวันจักสบายเองนะลูกเอ๊ย”
น้ำประดังหลั่งอาบฉาบหน้าพ่อ     รักจากฟ้าสานก่อต่อกันเผย
สองฝั่งฟ้าหล้าไกลหัวใจเปรย     อบอุ่นอยู่อย่างเคยไม่เลยไกล...

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สมนึก นพ, ก้าวแรกฯ..., อริญชย์, ไร้นวล^^, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความผกผันของเวลา  เฉือนเจตนาของอารมณ์
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s