สิ้นลายนักเปิบ
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 07:48:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สิ้นลายนักเปิบ  (อ่าน 2681 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
19 กันยายน 2012, 06:39:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« เมื่อ: 19 กันยายน 2012, 06:39:PM »
ชุมชนชุมชน

ขอบคุณภาพตะขาบยักษ์จากอินเตอร์เน็ต

                สิ้นลายนักเปิบ

เขาชอบเปิบ  พิสดาร   อาหารหลัก
ตะขาบยักษ์   แกล้มเหล้า  คลุกเคล้าดื่ม
ร่วมสังสรรค์  กับเพื่อน   เสมือนลืม
ว่าเคยยืม   เงินเขา   ซื้อเหล้ามา

วันหนึ่งเห็น   ตะขาบไต่   อยู่ใกล้เล้า
จึงจับเอา   มาได้    ด้วยหมายฆ่า
ถูกเขี้ยวกัด   ฝังพิษ   เปี่ยมฤทธา
เมาสุรา   จึงทำเฉย   เหมือนเคยชิน

แล้วก็จับ   ตะขาบงาม  ล้างน้ำขัน
เคี้ยวร่างมัน  ดั่งว่า   คนบ้าบิ่น
เพียงครู่ล้ม   ตรงหน้า   สุราริน
นอนชักดิ้น  ลนลาน  ไม่นานตาย

อุทาหรณ์   ในเรื่องนี้   ก็มีว่า
แกล้มเหล้ายา   เถื่อนดิบ   พาฉิบหาย
ถูกความหลง   โง่เขลา   มอมเมามาย
จึงสิ้นลาย   กำเริบ   นักเปิบซวย!ฯ*



จึงสิ้นหลาย  หงายเงิบ นักเปิบซวย ฯ*


หงายเงิบ=สะดุ้งหงายหลังล้ม

                              อริญชย์
                         ๑๙/๙/๒๕๕๕

ปล.แต่งเติมเสริมต่อเรื่อง จากข่าวทางอินเตอร์เน็ตสอง สามวันที่ผ่านมา ค้นหาดูทางเพิ่มเติมทาง
www.google.com ละกันทุกท่าน  สามวรรคแรก เป็นเพียงการเล่าเรื่องธรรมดาประกอบ 
สาระจริง ๆ น่าจะอยู่ที่วรรคสุดท้ายมากกว่านะ ทุกท่าน



 อายจัง สาวน้อยเซย์ ฮาโหล อายจัง

ขอขอบคุณ เค้าโครงเรื่องจากข่าว

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNME56ZzRNekF3Tnc9PQ==

หนุ่มขอนแก่นจับตะขาบกินแกล้มเหล้าขาว-เกิดอาเจียนนอนฟุบตายคาแคร่ไม้


 เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 17 ก.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ร.ต.อ.สุพัฒนชัย นภาสกุล พงส.สบ.3 สภ.ย่อยบ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งว่ามีคนกินตะขาบสดๆ นอนตายอยู่บนแคร่ไม้ของบ้านเลขที่ 595/ 3 ด้านหลังโรงเรียนบ้านคำไฮหัวทุ่งประชาบำรุง หมู่ 23 ถ.ศรีจันทร์ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น จึงได้รุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศ


 ไปถึงพบว่า สถานที่เกิดเหตุเป็นห้องอาหารแห่งหนึ่ง ด้านหลังเป็นสวนที่มีหญ้าขึ้นปกคลุมจำนวนมาก และมีแคร่ไม้อยู่ใต้ต้นไม้หนึ่งตัว พบนายวรรณเสด็จ กองกุล อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 / 2 หมู่ 6 บ้านคำไฮหัวทุ่ง ต.บ้านเป็ด นอนเสียชีวิตโดยสวมใส่กางเกงขาสั้นสีลาย เสื้อยืดสีครีม ตามร่างกายเขียวช้ำ มีรอยเลือดขึ้นเป็นจ้ำ ใบหน้าเขียวจนออกเป็นสีดำ


 จากการสอบถามนายสมาน ทะวิลา อายุ 57 ปี เจ้าของร้านอาหารดังกล่าว บอกว่า เมื่อช่วงเช้าเห็นนายวรรณเสด็จ กินเหล้าขาวกับเพื่อนชื่อนายชัย ที่มีกระต็อบสร้างติดกับร้านอาหาร ต่อมานายวรรณเสด็จ ผู้ตาย เหลือบไปเห็นตะขาบตัวขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือคลานอยู่ตรงหน้านายชัย จึงไล่จับและถูกตะขาบกัดเข้าที่นิ้วหัวแม่มือด้านซ้าย ผู้ตายจึงจับตะขาบเด็ดหัวและหางและให้นายชัยไปเอาน้ำมา 1 ขัน จับตะขาบล้างน้ำและใส่ปากเคี้ยวกินแบบสดๆ  เวลาห่างไปประมาณ 20 นาที นายวรรณเสด็จมีอาการเวียนศีรษะ แล้วอาเจียนออกมา มีแต่น้ำเหล้าขาวส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง แล้วนายวรรณเสด็จก็นอนฟุบอยู่บนพื้นหญ้า เพื่อนเห็นอาการไม่ดีจึงได้ช่วยนำร่างขึ้นมานอนบนแคร่ไม้ แล้วนายชัยก็ทำงานตัดหญ้าต่อ เวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง จึงพบว่านายวรรณเสด็จ เสียชีวิตแล้ว


 เจ้าหน้าที่ได้มอบศพนายวรรณเสด็จ ให้กับมูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศนำศพไปผ่าพิสูจน์การตายที่ รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงว่าเกิดขึ้นจากพิษตะขาบที่กินเข้าไปหรือไม่ หรือมีสาเหตุจากอย่างอื่นทำให้ถึงแก่ความตาย ต่อไป

 
 
   
   
 
   
 

                         

                   

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, panthong.kh, รพีกาญจน์, Music, บ้านริมโขง, รัตนาวดี, yaguza, พยัญเสมอ, พ่อค้าพเนจร, Prapacarn ❀

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
20 กันยายน 2012, 07:56:AM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #1 เมื่อ: 20 กันยายน 2012, 07:56:AM »
ชุมชนชุมชน

         
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

       เปิบพิสดารคางคก

ดื่มเหล้าแกล้ม   คางคก  กระดกซด
กลมกล่อมรส พิสดาร อาหารเปิบ
เพียงไม่นาน  หน้าดำ  พิษกำเริบ
เมื่อออเดิร์ฟ ออกฤทธิ์ ถึงปลิดปลง

เพราะอยากอวด   ว่าตน  เป็นคนกล้า
เคยเปิบมา    มากมาย   ที่ขายส่ง
เผื่อมีเพื่อน  เห็นด้วย  หลังงวยงง
จึงหลายก๊ง    แกล้มย่าง  เจ้าคางคก

เมื่อผลลัพธ์  แผลงฤทธิ์  หมดสิทธิ์คึก
หวนสำนึก  ก็สาย   ชีพตายตก
กลายเป็นข่าว  ขายหน้า  คนสาธก
ที่หยิบยก  เล่าขาน  เนิ่นนานปี ฯ

                            อริญชย์
                        ๒๐/๙/๒๕๕๕




 อายจัง สาวน้อยเซย์ ฮาโหล อายจัง


ขอบคุณเค้าโครงเรื่องจากข่าว




แม่ยายดับ-เขยรอด พิษกะเพราคางคก


พิษคางคก-ญาติรับศพนางเจียม แสงศร ชาวจ.ตราด ที่กินคางคกผัดกะเพราแล้วล้มป่วยก่อนจะเสียชีวิตลงที่ รพ. ตราด แพทย์ระบุว่าพิษของคางคกทำให้การเต้นของหัวใจอ่อนจนหยุดเต้นส่วนลูกเขยที่กินด้วยกันอาการปลอดภัยแล้ว

 
เปิบผัดกะเพราคางคกตายแล้ว เผยแม่ยายทนพิษร้ายไม่ไหว ส่วนลูกเขยทั้งสองคนอาการปลอดภัย ลูกสาวโผล่มารับศพที่ร.พ.ตราด ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ชาวบ้านเผยที่หมู่บ้านของตัวเองกินคางคกกันเป็นปกติ แต่เลือกกินตัวที่มีคางสีเหลือง ส่วนคางคกสีดำและมีคางแดงนั้นอันตราย หากกินต้องรู้จักชำแหละ รู้จักปรุง นายแพทย์สาธารณสุขตราดเตือนประชาชนห้ามกินเด็ดขาด ปรุงไม่ดีมีสิทธิ์ตายได้

จากกรณีเหตุ 2 ลูกเขยเอาใจแม่ยาย นางเจียม แสงศร อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 6 หมู่บ้านคลองขวาง ต.ห้วยแล้ง อ.เมือง จ.ตราด ปรุงเมนูชวนอ้วกคางคกผัดกะเพรา แล้วพากันเปิบพิสดาร ทำให้ต้องหามส่งร.พ.ตราดทั้ง 3 คน โดยแม่ยายมีอาการหนักสุด อาเจียน แน่นหน้าอก หัวใจเต้นอ่อน แพทย์ต้องพาเข้ารักษาในห้องไอซียู เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 มี.ค. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 เม.ย. นางเหรียญทอง เพ็งคั่ว อายุ 37 ปี ลูกสาวคนที่ 3 และ นางสายฝน อาจภักดี อายุ 35 ปี ลูกสาวคนที่ 4 ของนางเจียม ชาวบ้านที่เปิบพิสดารคางคกผัดกะเพรา เดินทางมาที่ร.พ.ตราด เพื่อรับศพมารดา หลังจากที่นางเจียมทนพิษคางคกไม่ไหวเสียชีวิตในคืนก่อน โดยมีร.ต.ท.อภิวัฒน์ พันธุ์ดี ร้อยเวรสอบสวนสภ.อ.เมืองตราด มาชันสูตรพลิกศพ พิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติ พร้อมกับน.พ.อธิคม วงศ์ไพศาล แพทย์ร.พ.ตราด ที่รักษาอาการของนางเจียม มาคอยชี้แจงรายละเอียดถึงอาการและสาเหตุที่คนไข้เสียชีวิต

น.พ.อธิคม เปิดเผยว่า สำหรับนางเจียมนั้นเสียชีวิตเนื่องจากการเต้นของหัวใจอ่อน และหยุดเต้นกะทันหัน แต่หมอไม่ยืนยัน 100 เปอร์เซ็นต์ว่าเสียชีวิตเนื่องจากพิษคางคก เพราะตนเองยอมรับว่าไม่มีความรู้เรื่องพิษคางคก จึงจะไปค้นหาเอกสารเพิ่มเติมเพื่อมาประกอบสำนวนการสอบสวนของตำรวจ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นหมอเชื่อว่าน่าจะเสียชีวิตจากพิษคางคก

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่หมู่บ้านคลองขวาง ต.ห้วยแล้ง อ.เมือง จ.ตราด ของนางเจียม พบกับชาวบ้านและญาติ ซึ่งทราบข่าวการเสียชีวิตของนางเจียมแล้ว กำลังรอรับศพที่จะมาถึงหมู่บ้าน

นายสำเนียง วงษ์ษา อายุ 52 ปี ชาวบ้านคลองขวาง ต.ห้วยแล้ง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ชาวบ้านคลองขวางกินคางคกกันเป็นประจำอยู่แล้ว โดยเลือกคางคกที่มีจุดสีแดงบนลำตัว ถ้าหงายจะมีคางสีเหลือง ภาษาท้องถิ่นแถวนี้จะเรียก "ไอ้ล็อก" มีพิษเหมือนกันแต่น้อย ส่วนคางคกอีกประเภทหนึ่ง เช่น คางคกสีดำทั้งตัวคางแดง จะมีพิษรุนแรง ถ้านำมารับประทานจะต้องมีวิธีการชำแหละ ตัดหัว ลอกหนัง ตัดนิ้วทุกนิ้ว เครื่องใน เส้นพิษ เอาออกทั้งหมด เมื่อได้เนื้อแล้วก็ต้องนำมาล้างในน้ำที่ไหล เช่นน้ำก๊อก หรือน้ำตก เพื่อให้เนื้อขาว โดยต้องใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที และห้ามให้ยางคางคกโดนเนื้อเด็ดขาด ก่อนที่จะนำมาปรุงรับประทาน ซึ่งจะทำให้พิษหมดไป


http://board.palungjit.com/f11/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%94-%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%81-33733.html

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Prapacarn ❀, พยัญเสมอ, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s